การมีบ้านบนต้นไม้เป็นความฝันของใครหลายคนมาตั้งแต่เด็ก ๆ เป็นพื้นที่ให้เราปีนป่ายได้ตามจินตนาการ ขึ้นไปนอนเล่น ฟังเสียงนกร้องท่ามกลางกิ่งก้านใบของต้นไม้ใหญ่ เอนหลังเงยหน้าชมมวลเมฆและหมู่ดาวบนท้องฟ้า สำหรับ คุณลุงหริ-บุลศิริ สุวรรณชิน เขาทำให้ความฝันที่จะมีบ้านต้นไม้ของตนเองเป็นจริงในวัย 61 ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ ออกแบบ และสร้างสรรค์เป็นเวลาถึง 15 ปีจนสำเร็จ

ระเบียงป่าสัก บ้านต้นไม้ 11 หลัง จ.เชียงใหม่ สร้าง 15 ปีจนเป็นหมู่บ้านสานฝันสถาปนิกวัย 76

ไม่ใช่สำเร็จเพียงแค่หลังเดียว แต่คุณลุงสร้างบ้านต้นไม้ทั้งหมด 11 หลัง! จนเป็นหมู่บ้านต้นไม้ และเปิดให้ผู้คนที่มีความฝันอยากนอนบนบ้านต้นไม้ได้มาสานฝันพักแรม ในที่พักนาม ‘ระเบียงป่าสัก’ 

อะไรที่ทำให้คุณลุงหริตัดสินใจมาทำที่พักบ้านต้นไม้ในป่าของเชียงใหม่ในวัย 61 ปี และไอเดียเบื้องหลังการออกแบบจะน่าสนใจแค่ไหน ปีนขึ้นบ้านต้นไม้แล้วมานั่งฟังเรื่องราวของบ้านแต่ละหลังกัน

ระเบียงป่าสัก บ้านต้นไม้ 11 หลัง จ.เชียงใหม่ สร้าง 15 ปีจนเป็นหมู่บ้านสานฝันสถาปนิกวัย 76
ระเบียงป่าสัก บ้านต้นไม้ 11 หลัง จ.เชียงใหม่ สร้าง 15 ปีจนเป็นหมู่บ้านสานฝันสถาปนิกวัย 76

ปัจจุบัน คุณลุงหริอายุ 76 ปี ยังคงแข็งแรงและคอยดูแลบ้านต้นไม้แต่ละหลังอย่างดีอยู่ตลอดเวลา คุณลุงเริ่มต้นเล่าให้ฟังว่า เขาก็เหมือนกับคนอื่น ๆ ที่มีความฝันอยากมีบ้านต้นไม้ของตนเองสักหลัง แม้ว่าตนเองเรียนจบด้านสถาปัตยกรรมที่ ม.ศิลปากร และเรียนต่อในสาขา Tropical Architecture ที่ Pratt Institute สหรัฐอเมริกา แต่เมื่อกลับมาไทย เขากลับไม่ได้ประกอบอาชีพเป็นสถาปนิกเลย

“หลังกลับจากสหรัฐฯ ผมตัดสินใจเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง คิดว่าการเป็นสถาปนิกคงทำให้ผมเป็นผู้รับเหมาที่ดี แต่กลายเป็นว่าคิดผิดถนัด สถาปนิกมีหน้าที่ควบคุมผู้รับเหมาอีกที พอกลายเป็นผู้รับเหมาเสียเอง มันไม่เวิร์ก หลังจากรับงานหนึ่งเสร็จ ผมรู้สึกว่าเลิกทำดีกว่า ทีนี้ผมมีญาติทำฟาร์มเลี้ยงไก่ เลยไปขอเรียนรู้จากเขาและหันมาทำฟาร์มของตัวเอง ตั้งแต่นั้นมาผมก็ไม่ได้ประกอบอาชีพสถาปนิกเลย”

‘ฟาร์มไก่บุญสิริ’ กลายเป็นอาชีพที่หาเลี้ยงคุณลุงและครอบครัวเกือบ 30 ปี กระทั่งไม่สู้ราคาของบริษัทรายใหญ่ได้ ประกอบกับวัยที่มากขึ้น ไม่มีภาระมากเหมือนก่อน จึงตัดสินใจเลิกทำฟาร์ม

ในวันที่อยากจะพัก ลุงหริตัดสินใจขับรถขึ้นดอยไปดูที่ดินกลางป่าเหนือเขื่อนแม่งัด จังหวัดเชียงใหม่ ที่เขาเคยซื้อไว้เมื่อนานมาแล้ว และตัดสินใจว่าจะสร้างบ้านไม้เล็ก ๆ ไว้อาศัยยามชรา

“ฟาร์มไก่ของผมไม่ได้อยู่ไกลจากตรงนี้ พี่ชายภรรยาผมเขาเป็นคนชอบล่าสัตว์ พาผมไปประมูลรถจี๊ปจากธนาคาร ซื้อปืนให้ แล้วเราก็มักขับขึ้นดอยมาล่ายิงกระต่าย ในสมัยนั้นพื้นที่ตรงนี้ยังไม่เป็นเขื่อน และยังล่าสัตว์ได้ วันนั้นผมมาเห็นที่ดินตรงนี้ เห็นบรรยากาศแล้วก็เกิดตกหลุมรักขึ้นมา

“เพราะผมเป็นคนรักธรรมชาติอยู่แล้ว ก็เลยขอซื้อจากชาวบ้าน ซึ่งในสมัยนั้นถือว่าราคาถูกมาก เพราะอยู่ไกลจากเมือง เดินทางลำบาก ไม่มีถนนคอนกรีตเหมือนสมัยนี้ หลังจากที่เลิกทำฟาร์มไก่เมื่อ 15 ปีก่อน ผมก็ตัดสินใจขึ้นมาตรงนี้อีกครั้ง และคิดว่าจะทำบ้านไม้หลังเล็ก ๆ ไว้อยู่อาศัย”

ระเบียงป่าสัก บ้านต้นไม้ 11 หลัง จ.เชียงใหม่ สร้าง 15 ปีจนเป็นหมู่บ้านสานฝันสถาปนิกวัย 76

เขามีโอกาสกลับมาเดินเล่นในที่ที่ไม่ได้กลับมานาน แล้วก็พบเข้ากับมุมหนึ่งในพื้นที่ที่มีลำธารไหลผ่าน มีร่มไม้ใหญ่ปกคลุม เป็นความสวยงามที่ทำให้ความเป็นสถาปนิกในตัวกลับมาอีกครั้ง

“ผมประทับใจพื้นที่ตรงนั้น แล้วก็เกิดแรงบันดาลใจอยากสร้างบ้านให้อยู่ร่วมกับพื้นที่ตรงนั้นขึ้นมา เป็นสถาปัตยกรรมที่ไม่บาดหูบาดตา ใช้วัสดุธรรมชาติของที่นี่ ช่างของที่นี่ คือ DNA ของที่นี่ ผมต้องการทำบ้านหลังนี้ให้อยู่ร่วมกับธรรมชาติ และพยายามไม่ทำอะไรที่กระทบกับธรรมชาติเลย

“ผมมองว่าตัวเอง ‘ขโมยจากธรรมชาติ’ นะ ธรรมชาติมีความสวยงามอยู่แล้ว ผมแค่ขโมยจากมัน ไม่ใช่ทำลาย หยิบเอาความสวยงามของธรรมชาติที่มีอยู่เดิมมาช่วยส่งเสริมบ้านที่ผมสร้าง และให้บ้านที่สร้างช่วยส่งเสริมกันและกันกับธรรมชาติ นี่คือแนวคิดการสร้างบ้านทุกหลังของที่นี่”

ระเบียงป่าสัก บ้านต้นไม้ 11 หลัง จ.เชียงใหม่ สร้าง 15 ปีจนเป็นหมู่บ้านสานฝันสถาปนิกวัย 76

บ้านหลังแรกที่คุณลุงสร้างมีชื่อว่า ‘บ้านริมธาร’ เป็นบ้านไม้ขนาดกะทัดรัด อยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่อิงกับลำธาร ได้ยินเสียงน้ำไหล มีระเบียงเดินเลียบตามลำธาร และทุกหลังไม่มีการกระทำที่กระทบธรรมชาติโดยรอบ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้บ้านแทบทุกหลัง หากมีต้นไม้ในพื้นที่ คุณลุงเลือกเว้นช่องบนพื้นและหลังคาให้ต้นไม้ลอดผ่านขึ้นไปได้ นอกจากนั้น บ้านเกือบทุกหลังยังมีห้องน้ำที่ไร้หลังคา แต่เปิดโล่งให้ผู้ใช้ได้แหงนมองธรรมชาติด้านบนขณะอาบน้ำ คอนเซปต์นี้เองก็มาจากความฝันสมัยเด็กของคุณลุง

ระเบียงป่าสัก บ้านต้นไม้ 11 หลัง จ.เชียงใหม่ สร้าง 15 ปีจนเป็นหมู่บ้านสานฝันสถาปนิกวัย 76
ระเบียงป่าสัก บ้านต้นไม้ 11 หลัง จ.เชียงใหม่ สร้าง 15 ปีจนเป็นหมู่บ้านสานฝันสถาปนิกวัย 76

“ผมนึกถึงตอนสมัยเด็ก ๆ ตอนอยู่บ้านนอก ผมชอบอาบน้ำฝน คอนเซปต์คือ จะทำยังไงให้ห้องน้ำเปิดโล่ง พอแขกอาบน้ำแล้วแหงนหน้ามองเห็นธรรมชาติ เห็นท้องฟ้า บางทีอาบน้ำฝนไปเลยก็ได้ เป็นคอนเซปต์ที่ผมเอาไปใช้กับอีกหลาย ๆ หลัง แล้วก็เป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่สนใจมาพักด้วย”

บ้านริมธารนี้เองที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นทำให้ถ่านไฟเก่าความเป็นสถาปนิกในตัวคุณลุงปะทุขึ้นมาอีกครั้ง และหลังจากนั้น เมื่อลุงหริเจอพื้นที่ตรงไหนน่าสนใจ เขามักใช้แนวคิดการขโมยธรรมชาติมาออกแบบบ้านหลังต่าง ๆ จนกลายเป็นบ้านต้นไม้ 11 หลัง ได้แก่ บ้านริมธาร บ้านมะขาม บ้านขนุน บ้านกอไผ่ บ้านลำไย บ้านชมดาว บ้านชมเดือน บ้านมะพร้าว บ้านเถาวัลย์ บ้านระเบียง บ้านปาล์ม 

แต่ละหลังต่างมีเอกลักษณ์ มีความรู้สึกของตัวเอง

ระเบียงป่าสัก บ้านต้นไม้ 11 หลัง จ.เชียงใหม่ สร้าง 15 ปีจนเป็นหมู่บ้านสานฝันสถาปนิกวัย 76
'ระเบียงป่าสัก' ที่พักบ้านต้นไม้ 11 หลังท่ามกลางป่าใน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ของคุณลุงสถาปนิกวัย 76 ที่อยากให้แขกแนบชิดกับธรรมชาติ

คุณลุงพาเราเดินชมบ้านหลังต่าง ๆ ในพื้นที่พร้อมอธิบายแนวคิดการสร้างให้เราฟัง หนึ่งในหลังที่โดดเด่น คือ ‘บ้านมะขาม’ บ้านต้นไม้หลังแรกที่เขาลองสร้างขึ้นมา อยู่บนต้นมะขาม 2 ต้น

“หลังจากสร้างบ้านริมธารเสร็จ ผมเดินมาเห็นต้นมะขาม 2 ต้นตรงนี้ แล้วอยากลองทำบ้านบนต้นไม้สักหลังขึ้นมา โดยที่ยังไม่รู้หรอกว่าหน้าตาจะออกมาเป็นยังไง ผมรู้เพียงอย่างเดียวว่าอยากทำให้ช่องระหว่างต้นมะขาม 2 ต้นนี้เป็นประตูของบ้านหลังนี้ ถ้าลอดช่องนี้ไปไม่ได้ก็ห้ามเข้า เดี๋ยวบ้านต้นไม้รับน้ำหนักไม่ไหว อันหลังนี้ผมล้อเล่นนะครับ” คุณลุงหริเล่าพลางหัวเราะ

'ระเบียงป่าสัก' ที่พักบ้านต้นไม้ 11 หลังท่ามกลางป่าใน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ของคุณลุงสถาปนิกวัย 76 ที่อยากให้แขกแนบชิดกับธรรมชาติ
'ระเบียงป่าสัก' ที่พักบ้านต้นไม้ 11 หลังท่ามกลางป่าใน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ของคุณลุงสถาปนิกวัย 76 ที่อยากให้แขกแนบชิดกับธรรมชาติ

บ้านบางหลังเขียนแบบไม่ได้ ต้องอาศัยมาดูหน้างาน ค่อย ๆ ปรับ ค่อย ๆ แก้ทีละขั้น อย่างบ้านมะขาม คุณลุงเริ่มต้นสร้างระเบียงที่ชั้นล่างก่อนแล้วค่อย ๆ เติมบันไดขึ้นไปทีละชั้น เมื่อเสร็จ 1 ชั้นก็มาสังเกตต่อว่าควรออกแบบให้ขึ้นไปแบบไหน รวมถึงดูการแตกของกิ่งไม้เพื่อจะนำมาใช้ในการคำนวณหาตำแหน่งการวางบ้านให้แข็งแรง อีกหนึ่งลักษณะเด่นของบ้านแต่ละหลังที่นี่ คือไม่ใช้เสา

“ถ้าสังเกต บ้านแทบทุกหลังของที่นี่ไม่มีการใช้เสา ผมเลือกใช้เฟรม (Frame) หรือ Bearing Wall คือใช้กำแพงเป็นตัวรับน้ำหนัก เวลาทำบ้านบนต้นไม้ บ้านจะดูสวย และช่วยให้ตัวบ้านปรับปรุงให้ยืดหยุ่นไปกับการเติบโตของต้นไม้ได้ บ้านแต่ละหลังจึงต้องอาศัยการอิงกับต้นไม้ อิงกับธรรมชาติ

“มีอีกอย่างที่ผมใฝ่ฝันไว้ถ้ามีบ้านบนต้นไม้ก็คือ ผมอยากนอนดูดาวบนท้องฟ้า สังเกตยอดแหลม ๆ บนหลังคาบ้านมะขามนั่นนะครับ ผมเลือกเอากระจกไปใส่เพื่อจะนอนดูดาวอย่างที่ฝัน แต่ก็ต้องพูดตามตรงว่าพอฝนตก น้ำมันก็ไหลเข้ามา เลยต้องหาวัสดุมาช่วยคลุมไว้ไม่ให้น้ำซึมเข้ามาในห้อง ซึ่งต้องคอยปรับปรุงอยู่ตลอด กลายเป็นภาระ (หัวเราะ) แต่ก็คุ้มค่าเมื่อเทียบกับวิวที่ได้เห็นนะครับ”

บ้านต้นไม้ 11 หลังท่ามกลางป่าใน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ของคุณลุงสถาปนิกวัย 76 ที่อยากให้แขกแนบชิดกับธรรมชาติ
บ้านต้นไม้ 11 หลังท่ามกลางป่าใน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ของคุณลุงสถาปนิกวัย 76 ที่อยากให้แขกแนบชิดกับธรรมชาติ
บ้านต้นไม้ 11 หลังท่ามกลางป่าใน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ของคุณลุงสถาปนิกวัย 76 ที่อยากให้แขกแนบชิดกับธรรมชาติ
บ้านต้นไม้ 11 หลังท่ามกลางป่าใน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ของคุณลุงสถาปนิกวัย 76 ที่อยากให้แขกแนบชิดกับธรรมชาติ

เมื่อไฟสถาปนิกจุดติด เมื่อบ้านมะขามเสร็จ คุณลุงก็เริ่มสร้างหลังถัดไป ด้วยฉุกคิดขึ้นมาว่า…

“ตอนนั้นผมคิดขึ้นมาได้ว่า เราลงทุนกับบ้านไปเยอะแล้ว มันมือไปหน่อย ต้องหารายได้จากมันบ้าง” คุณลุงหัวเราะ “ตอนนั้นผมเริ่มคิดทำเป็นรีสอร์ต และเริ่มสร้างหลังอื่น ๆ ต่อมา”

บ้านแต่ละหลังที่สร้าง คุณลุงใช้หลักการออกแบบเดียวกับบ้านมะขาม นั่นคือการไปออกแบบหน้างาน ค่อย ๆ ทำไปทีละขั้น ค่อย ๆ ออกแบบให้สอดคล้องกับต้นไม้แต่ละต้นและพื้นที่บริเวณนั้น ทำให้บ้านแต่ละหลังมีเอกลักษณ์ของตัวเอง ไม่มีการหยิบแบบจากหลังก่อนหน้ามาสร้างใหม่

“ส่วนตัวผมไม่ได้มองว่าบ้านเหล่านี้คืองานสถาปัตยกรรม ผมถือว่าเป็นงานศิลปะ ในฐานะที่ผมเรียนศิลปากร ผมอยู่ในแวดวงของศิลปิน ผมมีเพื่อนคณะจิตรกรรม ประติมากรรม เราคุยกันถึงเรื่องงานศิลปะ มองให้เป็นศิลปะ ผมก็ถือว่างานพวกนี้เหมือนผมทำงานประติมากรรมขึ้นมา เวลามองพื้นที่ผมก็จะคิดว่าต้องทำยังไงให้ดูลงตัว จัดวางแบบไหนให้ดูสวยงาม เชื่อมต่อ และไหลลื่น 

“ผมนั่งอยู่ตรงนี้ได้ทั้งวัน นั่งมองบ้านตัวเอง เราก็ช่างคิดนี่หว่า ทำไปได้ยังไงวะ” 

'ระเบียงป่าสัก' ที่พักบ้านต้นไม้ 11 หลังท่ามกลางป่าใน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ของคุณลุงสถาปนิกวัย 76 ที่อยากให้แขกแนบชิดกับธรรมชาติ

มุมมองที่เห็นบ้านเป็นศิลปะนี่เองเป็นเหตุผลที่ทำให้บ้านแต่ละหลังมีการออกแบบรายละเอียดกระจุกกระจิก ไม่ว่าจะเป็นของตกแต่ง การวางหน้าต่าง ผังของบ้าน ห้องพัก หรือแม้แต่เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ที่ส่วนใหญ่เป็นงานบิวต์อินที่ออกแบบมาพร้อมกับการสร้างบ้าน การใช้ศิลปะมาเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบ ย่อมทำให้บ้านแต่ละหลังมีความรู้สึก และเป็นเหตุผลให้บางหลังว่าทำไมถึงมีชั้นลอย ทำไมถึงมีระเบียง มีทางเดินเชื่อมไปห้องน้ำตรงนั้นตรงนี้ มีห้องใต้หลังคาที่ต้องใช้บันไดวนขึ้นไป เพราะแต่ละสิ่งสร้างความรู้สึกให้กับผู้มาเห็นหรืออาศัยได้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คุณลุงจะนั่งชมบ้านที่ตนเองออกแบบได้ทั้งวั้น เพราะแม้แต่เราเอง เมื่อได้เห็นมุมต่าง ๆ ของบ้านแต่ละหลัง ก็ยังอยากมาพักที่บ้านหลังต่าง ๆ ของคุณลุง เพราะแต่ละที่ต่างมีรายละเอียดน่าสนใจให้ดู ไม่เบื่อ แถมยังน่าพักผ่อนสุด ๆ

บ้านต้นไม้ 11 หลังท่ามกลางป่าใน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ของคุณลุงสถาปนิกวัย 76 ที่อยากให้แขกแนบชิดกับธรรมชาติ
บ้านต้นไม้ 11 หลังท่ามกลางป่าใน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ของคุณลุงสถาปนิกวัย 76 ที่อยากให้แขกแนบชิดกับธรรมชาติ

“การออกแบบอะไรสักอย่าง ความรู้พื้นฐานที่ผมเรียนมาคือเรื่องโครงสร้าง ทำยังไงให้อาคารแข็งแรง อยู่แล้วสบาย นี่คือสิ่งที่เราให้ความสำคัญ แต่ผมอยากแนะนำอีกอย่าง ตอนผมเรียนสถาปัตยกรรมในชั้นปีที่ 2 ผมมีโอกาสเรียนวิชาออกแบบ 6 ชั่วโมง หมายความว่าออกแบบและส่งอาจารย์ภายใน 6 ชั่วโมง มีอยู่วันหนึ่งที่ผมจำได้ขึ้นใจ วันนั้นอาจารย์ให้โจทย์ออกแบบอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสิน

“แต่ละคนทำออกมาเป็นแนวโมเดิร์นบ้าง แนวต่าง ๆ บ้าง ผมออกแบบเป็นเสาสักอย่าง แต่มีเพื่อนคนหนึ่ง ตอนดูครั้งแรกมันลิเกมาก มีกระดิ่งห้อยระโยงระยาง ดูรกรุงรัง มองไม่เห็นเลยว่าจะเจ๋งตรงไหน แต่พออาจารย์มาตรวจงานเพื่อนผมคนนี้ อาจารย์ให้ A เป็นคะแนนเยอะที่สุดของวันนั้น

 “อาจารย์อธิบายให้ฟังว่า งานที่เพื่อนผมออกแบบ มีกระดิ่งให้กระทบเสียงดังกรุ๊งกริ๊ง มันคือการจำลองเสียงที่สมัยก่อนเวลาเขารบกัน จะมีเสียงดาบกระทบกันดังกรุ๊งกริ๊ง หมายความว่า การออกแบบอะไรสักอย่าง เราต้องนึกถึงอีกมิติหนึ่งด้วย ไม่ใช่แค่ออกแบบแล้วดูสวยงาม ยังมีเรื่องเสียงและมิติอื่น ๆ อีกมาก ไม่ใช่แค่ดูแล้วสวยเพียงอย่างเดียว แต่ต้องได้ความรู้สึก ได้อารมณ์ ทำให้พื้นที่นั้นมีความรู้สึก” 

เช่นเดียวกับระเบียงป่าสัก พื้นที่ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ความรู้สึก และไฟฝันของชายวัย 76

'ระเบียงป่าสัก' ที่พักบ้านต้นไม้ 11 หลังท่ามกลางป่าใน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ของคุณลุงสถาปนิกวัย 76 ที่อยากให้แขกแนบชิดกับธรรมชาติ
ระเบียงป่าสัก

Writer

Avatar

อนิรุทร์ เอื้อวิทยา

นักเขียน และ ช่างภาพอิสระ ปัจจุบันชนแก้วอยู่ท่ามกลางเพื่อนฝูงที่เชียงใหม่

Photographer

Avatar

ภูพิงค์ ตันเกษม

ชีวิตผม ชอบการเดินทาง ชอบทำอาหาร และรักการบันทึกความทรงจำด้วยภาพถ่าย