ถ้าหากสมเด็จพระสันตะปาปา หรือ โป๊ป (Pope) เปรียบเสมือนพระสังฆราชแห่งคริสต์ศาสนานิกายโรมันคาทอลิก ตำแหน่ง ‘พระคาร์ดินัล (Cardinal)’ ก็คงเทียบได้กับพระราชาคณะซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากโป๊ปให้เป็นที่ปรึกษาในการปกครองพระศาสนจักร

อาจกล่าวได้ว่า คาร์ดินัลเป็นตำแหน่งของบาทหลวงที่มีสมณศักดิ์เป็นรองพระสันตะปาปาเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น หากวันใดที่โป๊ปสิ้นพระชนม์หรือทรงสละตำแหน่ง เหล่าบรรดาพระคาร์ดินัลมีหน้าที่ประชุมร่วมกันเพื่อเลือกสมาชิกสักคนในคณะของพวกท่านขึ้นเป็นพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่

ในคณะพระคาร์ดินัลซึ่งมีสมาชิกมากมายหลายร้อยชีวิตทั่วโลก พระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู วัย 94 ปี คือพระคาร์ดินัลที่มีอายุมากและดำรงตำแหน่งนี้มานานที่สุดท่านหนึ่ง

ชีวิต 94 ปีของพระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู คาร์ดินัลไทยคนแรกในประวัติศาสตร์

จากลูกเกษตรกรชาวไทย-จีน ที่นับถือศาสนาคริสต์ในจังหวัดนครปฐม ความเลื่อมใสที่ เด็กชายฮั่วเซี้ยง มีต่อบาทหลวงที่เคยพบสมัยเด็ก แปรเปลี่ยนเป็นความศรัทธาแรงกล้าต่อพระเป็นเจ้า สิ่งนี้เองที่เหนี่ยวนำจิตใจให้ท่านศึกษาคำสอนอย่างเต็มที่ ก่อนรับศีลบวชเป็นบาทหลวงที่กรุงโรม กลับมาปฏิบัติหน้าที่ในเมืองไทยนานปี จึงได้รับอภิเษกเป็นพระอัครสังฆราช ตามด้วยตำแหน่งพระคาร์ดินัลที่ทำให้ชาวไทยคาทอลิก พากัน ‘ช็อก’ ไปตาม ๆ กัน เนื่องจากหลายร้อยปีที่ผ่านมายังไม่เคยมีบาทหลวงชาวไทยได้รับเลือกให้ขึ้นครองตำแหน่งสูงถึงเพียงนี้มาก่อน

เนื่องในวาระที่พระคุณเจ้ามีชัยได้รับอภิเษกเป็นพระอัครสังฆราชมาครบ 50 ปี และได้รับแต่งตั้งเป็นพระคาร์ดินัลครบ 40 ปี ในปี 2023 นี้ ท่านได้มอบโอกาสสุดพิเศษให้ The Cloud ได้สนทนาถึงเหตุการณ์สำคัญของชีวิตที่ท่านผ่านพบมาตลอด 9 ทศวรรษในฐานะคริสตชน 6 ทศวรรษในฐานะนักบวช และ 4 ทศวรรษที่ตัวท่านกลายมาเป็นพระคาร์ดินัลเชื้อชาติไทยคนแรกในประวัติศาสตร์

ที่ทุกท่านจะได้อ่านต่อไปนี้ คือบทสัมภาษณ์ปูชนียบุคคลทางศาสนาผู้อาวุโสมากที่สุดคนหนึ่งในสยามประเทศของเรา

ชีวิต 94 ปีของพระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู คาร์ดินัลไทยคนแรกในประวัติศาสตร์

ผมเคยอ่านเจอว่าชื่อเกิดของพระคุณเจ้าคือ ‘ฮั่วเซี้ยง’ ครับ

อือ ตอนต้นเราไม่ได้ชื่อ มีชัย นะ เรามีชื่อจีน แล้วก็นามสกุลไทย กิจบุญชู

ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องตลกมาก ๆ ตอนที่เราไปทำหนังสือเดินทางไปต่างประเทศ ทางตำรวจเขาว่ามันแปลกจริงโว้ย ชื่อจีน นามสกุลไทย ก็ต้องเข้าขอหนังสือในแผนกต่าง ๆ ผ่านอุปสรรคหลาย ๆ อย่าง แล้วในที่สุดเมื่อทางการเขามองว่าเป็นปัญหา ทางผู้หลักผู้ใหญ่ของตำรวจก็เชิญชวนให้ไปพบ เราก็ไปพบ เขาบอก ทำไมวะ ทำไมเอ็งชื่อจีนแล้วมาใช้นามสกุลไทย

เราตอบ ผมไม่ได้ตั้งของผมเองนี่ เตี่ยผมตั้งให้ นามสกุลนี้ก็ตั้งแต่รัชกาลที่ 6 แล้ว (หัวเราะ)

แสดงว่าครอบครัวพระคุณเจ้าก็เป็นคนจีนทั้งหมดเลยสินะครับ

อากงหรือคุณปู่เดินทางมาจากเมืองจีนเมื่อ 100 กว่าปีมาแล้ว มาตั้งรกรากที่แม่น้ำท่าจีน อำเภอสามพราน บริเวณวัดนักบุญเปโตร กลุ่มคนจีนที่อพยพมาจากเมืองจีนนี่ก็มีหลายกลุ่ม ส่วนใหญ่มาจากภาคใต้ของจีน บ้านเราเป็นจีนแต้จิ๋ว เมื่ออากงมาปักหลักอาศัยอยู่ที่ดังกล่าวแล้ว ก็ได้แต่งงานกับคนไทย

ในครอบครัวของคุณปู่ก็มีสมาชิกเป็นชาย 3 เป็นหญิง 1 คน และในชาย 3 คนนั้นก็ได้แต่งงานกับคนไทยอีกเหมือนกัน นั่นแหละคือคุณพ่อ (ยอแซฟ ยู่ฮง กิจบุญชู) และคุณแม่ (มารีอา เคลือบ กิจบุญชู) ของเรา

พื้นเพครอบครัวพระคุณเจ้าทำอาชีพอะไรครับ

สมัยนั้นประชาชนในพื้นที่อำเภอสามพรานส่วนใหญ่ก็ทำนา เลี้ยงสุกร และเนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศอุดมสมบูรณ์ แม่น้ำลำคลองมีปลามีกุ้ง ก็ทำอาชีพประมง ครอบครัวของเราก็ทำอาชีพหลักคือทำนา เลี้ยงสุกร และทำประมง

คนต่างศาสนาหลายคนยังไม่เข้าใจว่าชื่อ ‘ไมเกิ้ล’ ของพระคุณเจ้าคืออะไร

เป็นวิถีชีวิตและประเพณีของคริสตชนคาทอลิกทั่วโลก เพื่อจะได้เป็นสมาชิกในพระศาสนาคาทอลิก เมื่อได้รับศีลล้างบาปก็ถือว่าเป็นประชากรคาทอลิก ต้องดำเนินชีวิตตามคำสอนของทางศาสนา เพื่อชีวิตอนาคตก็จะมีนามผู้ศักดิ์สิทธิ์ ผู้มีบุญ ผู้ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รับรองขององค์กรศาสนาคาทอลิกมอบให้เป็นชื่อทางศาสนา สำหรับผู้ที่เข้ามาเป็นสมาชิกขององค์กรนี้ 

ชื่อจากตอนศีลล้างบาปของเรา คือ ‘ไมเกิ้ล’ ตามพระคัมภีร์ก็เป็นอัครเทวดาท่านหนึ่งที่รับใช้ปรนนิบัติพระผู้เป็นเจ้าในการต่อสู้กับอธรรมทั้งหลาย

ชีวิต 94 ปีของพระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู คาร์ดินัลไทยคนแรกในประวัติศาสตร์

พระคุณเจ้าตัดสินใจว่าจะบวชตอนอายุเท่าไหร่ครับ

เราก็เป็นเด็กชาวบ้านคนหนึ่งเหมือนเด็กทั่วไป อายุ 7 ขวบก็ต้องเข้าโรงเรียนของที่วัด (ในที่นี้หมายถึง โบสถ์คาทอลิก) เป็นโรงเรียนชื่อว่า ‘ประชาบาลนักบุญเปโตร’ คุณครูท่านก็สอนวิชาหลักศาสนา สอนวิชาทางประเทศชาติ เรียนหลักสูตรต่าง ๆ เหมือนเด็กทุกคน คุณครูได้พูดถึงชีวิตอนาคตของเด็กที่เรียนว่ามันหลายอย่าง เป็นอาชีพฆราวาสก็ได้ เป็นอาชีพที่จำเป็นทางศาสนาก็ได้

คราวนี้ที่วัดนักบุญเปโตร ตั้งแต่เด็ก เมื่อเรามาร่วมในพิธีทางศาสนาแล้วก็ได้เห็นบาทหลวง หรือที่เราเรียกในภาษาไทยว่า ‘คุณพ่อ’ ท่านเป็นผู้ที่เรียบร้อยมาก ๆ เป็นผู้ใจดี ปฏิบัติหน้าที่ของท่าน และท่านยังคอยช่วยดูแลเอ็นดูเด็ก ๆ และอื่น ๆ เราก็ได้เห็นภาพท่าน ได้รู้จักกับท่าน ได้ใกล้ชิดกับท่าน ครูก็แนะนำว่าถ้าใครที่อยากจะเป็นบาทหลวงหรือคุณพ่อในอนาคต ก็ต้องเป็นสามเณรก่อน ท่านก็แนะนำต่าง ๆ

เมื่อเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 คุณครูก็ได้ถามว่ามีใครบ้างมั้ยที่อยากดำเนินชีวิตไปเป็นบาทหลวงในอนาคต มีเพื่อนอีกคนที่โรงเรียนเดียวกันสมัคร ทางคุณพ่อหรือเจ้าวัดเมื่อรับทราบก็ได้แจ้งไปยังสามเณรซึ่งขณะนั้นอยู่โรงเรียนสามเณราลัยพระหฤทัย อำเภอศรีราชา 

พอพิจารณาแล้ว เขาก็ยินดีที่จะรับจากวัดต่าง ๆ ด้วย ในปีนั้น ตอนจบประถมศึกษาปีที่ 4 จึงได้เดินทางไปรับการอบรมเป็นสามเณรที่ศรีราชาเมื่อปี 1940

ชีวิตในโรงเรียนสามเณร (สามเณราลัย) เป็นอย่างไรบ้างครับ

ก็เป็นเด็กเหมือนคนอื่น ๆ ได้เรียนตามหลักสูตรที่กระทรวงศึกษาธิการซึ่งสมัยก่อนเรียก ‘กระทรวงธรรมการ’ กำหนด ดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกันที่บ้านเณร ปฏิบัติชีวิตตามวิถีทางศาสนาที่วางไว้ ไม่ได้มีอะไรพิเศษไปมากกว่านี้ แค่มีระเบียบวินัยมากขึ้น มีกิจศาสนามากขึ้น มีการปฏิบัติชีวิตด้วยความขยันหมั่นเพียร สร้างระเบียบวินัย ความประพฤติที่ดีงาม ค่อย ๆ ฝึก

ชีวิต 94 ปีของพระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู คาร์ดินัลไทยคนแรกในประวัติศาสตร์

พระคุณเจ้าเคยคิดไหมครับว่าถ้าไม่ได้เป็นบาทหลวง ชีวิตของพระคุณเจ้าจะดำเนินไปทางใด

ในการที่เราจะเป็นบาทหลวงต้องเข้ารับการอบรมระยะเวลายาวนาน หลักสูตรที่ทางศาสนจักรวางไว้ คือศึกษาวิชาการของบ้านเมืองจนจบหลักสูตร อย่างเดี๋ยวนี้ก็กำหนดว่าต้องจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 ถึงจะผ่าน หลังจบแล้วก็ต้องรับการอบรมที่เพิ่มขึ้น นั่นคือวิชาที่จำเป็นสำหรับชีวิตของการที่จะมาเป็นบาทหลวง วิชาที่บังคับ จำเป็น และต้องได้ด้วย คือวิชาปรัชญาศาสตร์และวิชาเทวศาสตร์

ซึ่งรวมกันแล้ว ถ้าจะพูดถึงชีวิตของการฝึกอบรมที่จะเป็นพระสงฆ์ตามวิชาการ เรียนมัธยมก็ 6 ปีใช่ไหม ต่อไปก็ต้องเตรียมตัวในบ้านเณรใหญ่ต่อไปอย่างน้อยอีก 7 ปี เมื่อเรียนถึงขั้นสุดท้าย จบหลักสูตรปรัชญาศาสตร์และเทวศาสตร์แล้ว ก็เป็นความสมัครใจอย่างอิสระว่าจะดำเนินชีวิตนักบวชหรือเป็นฆราวาส สุดแล้วแต่ที่แต่ละคนจะพิจารณาตัวเองนะ

ซึ่งพระคุณเจ้าก็พิจารณาตัวเองเหมาะจะดำเนินชีวิตนักบวช

ความเลื่อมใสที่ตัวมี เราเรียกตามศาสนาว่า ‘กระแสเรียกที่พระเจ้าทรงเรียกเรา’ มอบหมายชีวิตให้เราดำเนินชีวิตไปวิธีไหน ต้องพิจารณาตนเองตลอดเวลานั้นว่ามีกระแสเรียกของพระเป็นเจ้าให้ดำเนินชีวิตเพื่อรับใช้พระศาสนจักร รับใช้ประชาชน จึงขอสมัครเข้าเป็นบาทหลวง เมื่อเป็นเช่นนั้น ผู้ใหญ่ก็พิจารณาว่าผู้ที่สมัครมามีคุณสมบัติเรียบร้อย เป็นอิสระที่จะเดินหน้าชีวิตนักบวช จึงกำหนดให้ทำพิธีบรรพชา เหมือนกับที่ทางศาสนาพุทธก็มีการบรรพชาพระสงฆ์

ชีวิต 94 ปีของพระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู คาร์ดินัลไทยคนแรกในประวัติศาสตร์

ช่วงนั้นใช่ไหมครับที่พระคุณเจ้าเดินทางไปศึกษาต่อที่กรุงโรม

หลังจบจากหลักสูตรในประเทศไทย เราก็ได้ดำเนินชีวิตฝึกหัดตัว ทำงานในฐานะผู้รับผิดชอบอยู่ระยะหนึ่ง จึงได้รับกำหนดให้เดินทางสมัครต่อเพื่อที่จะดำเนินชีวิตเป็นบาทหลวง ตอนนั้นในปี 1953 เราถูกส่งไปศึกษาต่อที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี ได้ศึกษาเล่าเรียนดังที่กล่าวไว้ข้างต้นคือสาขาปรัชญาศาสตร์และเทวศาสตร์ รวมแล้ว 7 ปี เมื่อเรียนจบ ได้รับปริญญาโทสาขาปรัชญาศาสตร์และสาขาเทวศาสตร์ ก็สมัครใจโดยเสรีตามเงื่อนไขที่องค์กรศาสนาได้วางไว้ คือได้รับพิธีบวชเป็นบาทหลวง หรือ ‘พระสงฆ์’ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม

ก่อนคริสต์มาสไม่นานเลยนะครับ

ไม่กี่วัน บวชพร้อมกับเพื่อน ๆ ด้วยกัน เป็นเพื่อนนานาชาติหลายสิบท่านที่เรียนด้วยกันมา ในวันที่กล่าวไว้เมื่อกี้ คือวันที่ 20 ธันวาคม ปี 1959

ชีวิต 94 ปีของพระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู คาร์ดินัลไทยคนแรกในประวัติศาสตร์

ยุคที่พระคุณเจ้าบวช เป็นสมณสมัยของพระสันตะปาปาพระองค์ใดครับ

เป็นคำถามที่น่าสนใจ ในพระศาสนจักรเรามีประมุขสูงสุดสืบทอดตั้งแต่สมัยพระเยซูคริสตเจ้าทรงสถาปนาพระศาสนจักรในโลกนี้ ผู้แทนหรือตัวแทนของพระองค์เราเรียกว่า พระสันตะปาปา หรือ โป๊ป (Pope) มีต่อเนื่องมาตลอด จนถึงตอนนี้ก็ 266 พระองค์แล้ว

ตอนที่เราบวชนั้น พระสันตะปาปาคือ พระสันตะปาปาปิอุสที่ 12 ซึ่งมีชื่อเสียงมาก

ผมเคยทราบมาว่าสมัยที่พระคุณเจ้ารับศีลอนุกรมบวชเป็นบาทหลวง วิธีการบวชสมัยนั้นแตกต่างจากสมัยนี้ เลยอยากทราบต่อไปว่าต่างกันอย่างไรหรือครับ

เมื่อพูดถึงความสำคัญ พิธีหลักอันเดิมไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ทั้งสิ้น แต่องค์ประกอบทางการบวชหรือบรรพชานี่ มันแปลงไปตามเวลาและสถานที่ ที่บอกเช่นนี้ก็คือแต่ก่อนศาสนจักรคาทอลิกจะยึดภาษาละตินเป็นหลัก เพราะฉะนั้นในพิธีการบวชก็เป็นภาษาละติน จนกระทั่งหลังสังคายนาวาติกันครั้งที่ 2 ก็ให้ปรับตัวเองให้เข้ากับวัฒนธรรมของท้องถิ่น พิธีจารีตบางบทสวด และพิธีการบางอย่างก็ปรับตัวเองให้เข้ากับท้องถิ่นเพื่อเป็นที่เข้าใจความหมายของประชาชนได้ จึงเปลี่ยนจากภาษาเดิมที่ถูกบังคับใช้คือภาษาละติน มาเป็นภาษาท้องถิ่น

ปัจจุบันนี้ถ้าเป็นประเทศไทย ในพิธีบวชเราก็ใช้ภาษาท้องถิ่นของเราคือภาษาไทย และพิธีภายนอกบางอย่าง พิธีทางศาสนาบางอย่าง วัฒนธรรมที่เราเคยใช้แบบตะวันตกก็มาเปลี่ยนเป็นแบบของไทย เช่น แทนที่จะคำนับหรือคุกเข่า เราก็ใช้ไหว้แทน ดังนั้น หลักคือตัวพิธีการซึ่งเป็นศีลบรรพชาคงเดิมทุกประการ เว้นแต่องค์ประกอบของพิธีการ มีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม ตามวิถีทางหรือวัฒนธรรมของประเทศนั้น ๆ

ชีวิต 94 ปีของพระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู คาร์ดินัลไทยคนแรกในประวัติศาสตร์

แสดงว่าพระคุณเจ้าบวชก่อนสังคายนาหรือครับ

การสังคายนากำลังดำเนินอยู่ ใช้ภาษาละติน

หน้าที่ที่บาทหลวงหรือพระสงฆ์ในคริสต์ศาสนาต้องทำคืออะไรครับ

ถ้าจะพูดคำกว้างก่อน นั่นคือมีหน้าที่รับใช้พระเจ้าและรับใช้ประชาชนในองค์กรศาสนา นั่นคือเป็นผู้ประกอบพิธีการทางศาสนาสำหรับปวงชนได้ร่วมกัน แล้วก็เพื่อเป็นหลักสำคัญซึ่งมีหน้าที่จะนำประกาศและเผยแพร่คำสอนของพระศาสนจักรให้ปวงชนได้รับรู้ มีคำศัพท์เรียกกันว่า ประกาศข่าวดี ว่ามนุษย์เราทุกคนนี้ล้วนแต่มาจากต้นเดิมเดียวกัน เป็นพี่น้องกัน เป็นครอบครัวเดียวกัน จึงต้องถือตามบัญญัติว่าต้องรักซึ่งกันและกัน ต้องให้อภัยชึ่งกันและกัน และทำดีต่อกัน อภัยโทษต่อกัน

คุณพ่อหรือบาทหลวงที่มาทำหน้าที่ในส่วนต่าง ๆ ก็แล้วแต่ว่าตรงนั้นจะมีหน้าที่อะไร เช่นในการเรียนการสอน ในการอบรมเยาวชน ในการนำเยาวชน ในการดูแลผู้ป่วย หรือดูแลองค์กรต่าง ๆ

ชีวิต 94 ปีของพระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู คาร์ดินัลไทยคนแรกในประวัติศาสตร์

พอกลับมาเมืองไทยแล้ว พระคุณเจ้าได้ประจำอยู่วัดใดบ้างครับ

หลังจากกลับมาเมื่อปี 1960 ผู้ใหญ่ที่เป็นต้นสังกัดของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ได้ส่งเราไปช่วยดูแลสัตบุรุษและกิจการใน 2 จังหวัด คือสิงห์บุรีและลพบุรี ที่สิงห์บุรีมีวัดคาทอลิกแห่งหนึ่งที่บ้านแป้ง อำเภอพรหมบุรี ส่วนอีกวัดหนึ่งอยู่ที่บางขาม อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี และมีคริสตชนที่กระจัดกระจายทำมาหากินอยู่ใน 2 จังหวัดอีกประมาณ 20 แห่ง เป็นหมู่บ้าน 2 คน 3 คน 4 คน ซึ่งเราก็มีหน้าที่จะไปให้คำสอนแก่เขา เพื่อดูแลเขา ให้กำลังใจเขา เบื้องต้นก็ได้รับคำสั่งให้ไปทำหน้าที่ดังกล่าวใน 2 จังหวัดนี้ คืออยู่ที่วัดบ้านแป้งและวัดบางขาม

แล้วหลังจากนั้นล่ะครับ

ทำหน้าที่นั้นอยู่ได้สักประมาณ 5 ปีนะ ก็จะมีการหมุนเวียนสับเปลี่ยนหน้าที่กันเสมอในวงการศาสนจักร ไม่ได้กำหนดว่าคนใดจะอยู่ที่นั่นตลอดไป หมุนเวียนหน้าที่ เปลี่ยนกันไปตามความจำเป็นและตามความเหมาะสม จึงได้รับแต่งตั้งให้มาเป็นท่านเจ้าอาวาส วัดแม่พระลูกประคำ (กาลหว่าร์) ตลาดน้อย ซึ่งเป็นวัดของคริสตชนคนจีน

ที่วัดนั้นมีทำพิธีบูชาขอบพระคุณ (มิสซา) เป็นภาษาจีน อย่างนี้พระคุณเจ้าก็ต้องทำมิสซาจีนด้วยสิครับ (หัวเราะ)

ก็ต้องฝึกทำ ฝึกหัดภาษาจีน ไปใหม่ ๆ เราก็รู้สึกสนุกดี ภาษาจีนมันดีนะ มีแค่ อั้ว กับ ลื่อ

ที่นี่เจ้าวัดเขาเรียก ‘ปึ่งตึ๊ง’ บรรดาสัตบุรุษเขาก็อยากจะมารู้จัก เขาดีใจกันว่าบัดนี้มีคุณพ่อที่ชื่อจีนมาเป็นเจ้าวัด พวกเขาก็ตื่นเต้น ชอบมาถามว่านามสกุลอะไร แซ่อะไร ถามเป็นภาษาจีนว่า ลื่อเสี่ยมิไก๊

เราก็นึกไป เอ๊ะ ไม่แน่ใจ เพราะพ่อแม่ก็ไม่เคยบอกว่าเราแซ่อะไร เราก็ถามกลับไปว่า แล้วลื่อล่ะ เขาบอกว่าตัวเขาแซ่ตั๊ง เราก็บอกเขาไปว่าเราก็แซ่ตั๊ง เขาก็ดีอกดีใจ ไปพูดกันต่อว่า นี่ลื่อรู้มั้ยว่าปึ่งตึ๊งของพวกเราตอนนี้แซ่เดียวกับอั้วนา เสร็จแล้วมีอีกครอบครัวหนึ่ง เมื่อพบเราก็ถามคำถามเดียวกัน เขาบอกว่าเขาแซ่เล้า รอบนี้เราก็ตอบว่าเราแซ่เล้าไปด้วย

ทีนี้คนเขาก็เริ่มสับสนว่านี่อะไร ทำไมเจ้าวัดมันหลายแซ่จริงโว้ย คราวนี้เขาก็เลยรวมตัวกันมาถามว่า ลื่อแซ่อะไรกันแน่ เราก็เลยตอบไปว่าเราเป็นคุณพ่อ เป็นเตี่ยของพวกลื่อ เหมือนเป็นสมาชิกครอบครัวเดียวกัน เตี่ยกับลูกก็ต้องแซ่เดียวกัน ก็แก้ตัวไปได้ (หัวเราะ)

ชีวิต 94 ปีของพระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู คาร์ดินัลไทยคนแรกในประวัติศาสตร์

พูดไทยก็ได้ ละตินก็ได้ จีนก็ได้อีก พระคุณเจ้าพูดได้กี่ภาษาครับ

เรื่องภาษานี่จะว่าพอรู้จะศึกษาเล่าเรียนเท่าที่จำเป็น แน่นอนว่าภาษาไทยของเราก็เป็นภาษาเกิด เมื่อต้องไปเรียนที่จะเป็นพระสงฆ์ในสมัยนู้น ภาษาละตินเป็นภาษาที่ใช้ในการเรียนในมหาวิทยาลัยด้วย วิชาปรัชญา เทวศาสตร์พวกนี้เป็นภาษาละติน 

แล้วก็ภาษาอื่น ๆ ที่ควรจะต้องรู้ไม่มากก็น้อย ก็แน่ล่ะ เมื่อไปอยู่อิตาลี เราก็ต้องรู้จักภาษาอิตาเลียนบ้าง พอจะกินมะกะโรนีเป็น ภาษาอิตาเลียนก็รู้พอเอาตัวรอดไป ต่อมาภาษาอังกฤษก็ได้เรียนจากเมืองไทย แล้วก็อยู่ที่มหาวิทยาลัยด้วยกัน เป็นชาติต่าง ๆ ก็ใช้ภาษาอังกฤษกันเยอะ เป็นชาติออสเตรเลียก็มี อังกฤษก็มี ไอริชก็มี และอื่น ๆ พวกอินเดีย พวกเขาก็พูดภาษาอังกฤษ ก็เรียนรู้พอที่จะสนทนาปราศรัยกับเขาได้พอสมควร ภาษาจีนอีก นับดูสิว่าได้เท่าไหร่

รวม ๆ แล้วก็ประมาณ 5 ภาษานะครับ

แต่ภาษาวัยรุ่นอย่างที่พวกเธอพูดนี่ไม่เป็นนะ (หัวเราะ)

บทสัมภาษณ์ครั้งประวัติศาสตร์ของ ‘พระคุณเจ้ามีชัย’ บาทหลวงชาวไทยคนแรกที่มีสิทธิ์เข้าร่วมการเลือกตั้งพระสันตะปาปา
ภาพ : บาทหลวงยอแซฟ อนุชา ไชยเดช

ตำแหน่ง ‘พระอัครสังฆราช’ คืออะไร รบกวนพระคุณเจ้าอธิบายให้คนที่นับถือศาสนาอื่นได้เข้าใจสักนิดได้ไหมครับ

คือในสังคมหรือโครงสร้างของพระศาสนาคาทอลิกในโลก จะแบ่งองค์กรในการปกครองเป็น ‘เขตมิสซัง’ หรือ ‘สังฆมณฑล’ ในแต่ละสังฆมณฑลเนี่ยก็ประกอบด้วยบรรดานักบวชชายหญิงที่ทำงานเพื่อพระศาสนจักร แล้วก็จำเป็นจะต้องมีผู้ดูแลรับผิดชอบสังฆมณฑลหรือมิสซังนั้น เหมือนกับการปกครองแบบในจังหวัดที่ต้องมีผู้ว่าราชการจังหวัด

หัวหน้าและผู้รับผิดชอบในแต่ละเขตจะต้องมีหัวหน้าซึ่งมีตำแหน่งในทางศาสนาเป็นสังฆราช ได้รับมอบหมายอำนาจหน้าที่ในการดูแลจัดการพระศาสนาจักรในเขตของตน หัวหน้าสังฆราชเนี่ยมาจากไหน ก็มาจากบรรดาสมาชิกของกิจการศาสนา

เมื่อต้องการสังฆราช บรรดาสมาชิกโดยเฉพาะสงฆ์ของเขตนั้น ๆ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ก็จะทำการปรึกษาหารือและเสนอชื่อ ที่สุดคณะกรรมการก็จะเลือกมา 3 ท่าน แล้วก็ส่งรายชื่อไปยังศูนย์กลางให้เขาได้ทราบว่าบัดนี้ในเขตนี้มีการแต่งตั้งสังฆราชเป็น 3 ท่านนี้ เขาก็จะช่วยพิจารณาอะไรต่าง ๆ ถ้าเห็นว่าเป็นอันเห็นชอบด้วยกันแล้ว เขาก็แจ้งกลับมาว่า บัดนี้ นาย ก. นาย ข. นาย ค. ได้รับคะแนนสูงสุด เพราะฉะนั้นผู้ที่สมควรน่าจะรับตำแหน่งนี้ ท่านสมณทูตวาติกันประจำประเทศไทยก็จะเรียกเขามาสอบถามว่าจะรับตำแหน่งนี้ไหม จะรับหน้าที่นี้ไหม แต่ส่วนมากก็จะไม่รับ เพราะรู้ว่าตำแหน่งทางศาสนาเป็นตำแหน่งที่ต้องรับผิดชอบ ภาระมันเยอะ

บทสัมภาษณ์ครั้งประวัติศาสตร์ของ ‘พระคุณเจ้ามีชัย’ บาทหลวงชาวไทยคนแรกที่มีสิทธิ์เข้าร่วมการเลือกตั้งพระสันตะปาปา
ภาพ : บาทหลวงยอแซฟ อนุชา ไชยเดช

แล้วเหตุใดพระคุณเจ้าจึงยอมรับตำแหน่งพระอัครสังฆราชแห่งอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ล่ะครับ

มันมีความจำเป็นจะต้องมีบุคคลรับตำแหน่งนี้เพื่อรับใช้พระเจ้าและพระศาสนจักร นี่เป็นเสียงร้องของศาสนจักรและเสียงร้องขององค์พระเป็นเจ้าที่เราเชื่อถือ เราศรัทธา มีพระประสงค์ให้เธอรับหน้าที่นี้ ก็ต้องปรึกษาหารือกันระยะหนึ่งจนกว่าจะน้อมรับตำแหน่ง แล้วต้องดูกำหนดในระยะเวลาอันเหมาะสม จึงจะทำพิธีอภิเษกเป็นพระอัครสังฆราชอีกที

ในกรณีส่วนตัวเรานี่ พระคุณเจ้ายอแซฟ ยวง นิตโย ท่านสุขภาพไม่สู้ดี ท่านก็ได้ทำหนังสือยื่นขอลาพ้นจากหน้าที่ แล้วก็ทางผู้หลักผู้ใหญ่ในองค์กรศาสนานี้พิจารณาเห็นแล้วว่าท่านไม่สบายจริง แล้วก็สมควรที่จะอนุญาตให้พ้นจากหน้าที่นี้ไปพักผ่อนรักษาสุขภาพ จึงต้องมีการเลือกคนใหม่ ก็ได้เสนอชื่อตามที่กล่าวไปข้างต้น 2 – 3 ชื่อ รวมถึงเราด้วย เราจึงน้อมรับและทำพิธีอภิเษกเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ปี 1973

ตอนนั้นพระคุณเจ้ามีความรู้สึกอย่างไรครับ

(หัวเราะ) ถ้าความรู้สึกก็แน่ล่ะ เราทราบดีว่าภาระหน้าที่ที่จะต้องดูแลศาสนาในเขตที่เราดูแลอยู่รวมทั้งประเทศ ในเขตพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทยนี่ร่วมกัน โดยที่กรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวง และกรุงเทพฯ เป็นสังฆมณฑลตามพระราชบัญญัติว่าด้วยฐานะวัดบาทหลวงที่พระราชทานโดยรัชกาลที่ 5 เพราะฉะนั้นความรับผิดชอบก็ใหญ่ กิจการของศาสนจักรก็มีเยอะ เราก็รู้สึกไม่สบายใจ กังวลที่จะรับหน้าที่นี้ แต่ด้วยบรรดาสมาชิกขององค์กรศาสนจักรก็พยายามที่จะเป็นกำลังใจ และก็บอกเป็นวิถีทางอันหนึ่งที่พระเจ้าทรงกำหนดแล้ว จึงน้อมรับตรงนี้

บทสัมภาษณ์ครั้งประวัติศาสตร์ของ ‘พระคุณเจ้ามีชัย’ บาทหลวงชาวไทยคนแรกที่มีสิทธิ์เข้าร่วมการเลือกตั้งพระสันตะปาปา
ภาพ : บาทหลวงยอแซฟ อนุชา ไชยเดช

แล้วตำแหน่ง ‘พระคาร์ดินัล’ ล่ะครับ

ในพระศาสนจักรคาทอลิกแห่งโลก สมเด็จพระสันตะปาปาจะเป็นประมุขปกครองดูแล พระองค์จำเป็นที่จะต้องมีผู้ช่วยเป็นคนคอยให้คำปรึกษา เป็นผู้ช่วยเหลือในกิจการต่าง ๆ และพระศาสนจักรซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่นครรัฐวาติกันในกรุงโรมก็เปรียบเสมือนประเทศหนึ่ง มีกระทรวง ทบวง กรมต่าง ๆ วางตำแหน่งเป็นประเทศหนึ่ง โป๊ปหรือพระสันตะปาปาสมัยก่อนนอกจากจะเป็นประมุขของศาสนจักรแล้ว ยังทรงเป็นหัวหน้าฝ่ายบ้านเมืองในยุโรปด้วย เวลาที่เขาจะสถาปนากษัตริย์ จักรพรรดิ ก็ต้องขึ้นต่อโป๊ป

โป๊ปจำเป็นจะต้องแต่งตั้งบุคคลที่ท่านเห็นว่าสมควรมาช่วยท่าน ตำแหน่งนั้นก็คือ คาร์ดินัล เป็นตำแหน่งที่ปรึกษาท่าน และมอบตำแหน่งต่าง ๆ เหมือนรัฐบาลมีคณะรัฐมนตรี กิจการก็แตกกระจายไปทั่วโลก โป๊ปก็ต้องการให้มีคาร์ดินัลในประเทศต่าง ๆ เป็นองค์คณะ เขาเรียกว่า Cardinal College หรือคณะคาร์ดินัลซึ่งมีสมาชิกคณะอยู่ทั่วโลก เนื่องจากคาทอลิกเป็นศาสนาสากล มีผู้นับถืออยู่ทั่วโลกใบนี้ ท่านจึงได้แต่งตั้งคาร์ดินัลในหลาย ๆ ประเทศเพื่อประกาศว่าคาทอลิกไม่ใช่ศาสนาของวาติกันหรือแค่ยุโรปที่เดียว

บทสัมภาษณ์ครั้งประวัติศาสตร์ของ ‘พระคุณเจ้ามีชัย’ บาทหลวงชาวไทยคนแรกที่มีสิทธิ์เข้าร่วมการเลือกตั้งพระสันตะปาปา
ภาพ : บาทหลวงยอแซฟ อนุชา ไชยเดช

หน้าที่ของพระคาร์ดินัลคือการเลือกโป๊ปพระองค์ใหม่ถูกต้องไหมครับ

ก็ทำนองนั้น เมื่อโป๊ปพระองค์หนึ่งหมดวาระ ส่วนมากจะสิ้นพระชนม์ เหล่าคาร์ดินัลก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกและได้รับเลือกเป็นโป๊ปพระองค์ใหม่ เรื่องประวัติศาสตร์มันมีความซับซ้อนเยอะ เราขอสรุปให้ฟังเท่านี้

พอจะทราบไหมครับว่าทั้งโลกนี้มีพระคาร์ดินัลทั้งหมดเท่าไหร่

เราบอกจำนวนเป๊ะ ๆ ตอนนี้ไม่ได้นะ แต่เกินกว่า 200 และในคณะพระคาร์ดินัลทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน แล้วแต่หน้าที่ที่ได้รับมอบ เมื่อถึงวาระของการเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ เขาจะแยกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือผู้มีอายุเกิน 80 ปี เป็นผู้ไม่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกโป๊ป แต่มีสิทธิ์ได้รับลงคะแนนเสียงให้ ส่วนคนที่อายุน้อยกว่า 80 ปี จะต้องลงคะแนนเสียงและมีสิทธิ์ได้รับเลือกมาเป็นโป๊ปด้วย คาร์ดินัลทุกคนจึงมีสิทธิ์ได้รับเลือกเป็นโป๊ปเหมือนกัน

เมื่อเทียบกับตอนที่ได้เป็นพระอัครสังฆราช การได้รับแต่งตั้งให้เป็นหนึ่งในคณะพระคาร์ดินัลทำให้พระคุณเจ้าตื่นเต้นกว่ามากไหมครับ

 ช็อก! (เน้นเสียง) ช็อกเลย แม้แต่ตัวเองก็ไม่เคยคิด ในประเทศไทยก็ไม่มีใครคาดคิดเลย เพราะมีแต่ประเทศใหญ่ ๆ ที่มั่นคงแข็งแรงจึงได้รับเลือกเป็นพระคาร์ดินัล ประเทศไทยยังไม่เป็นที่รู้จักเลย จึงต้องใช้คำว่า ‘ช็อก’ เพราะไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนี้ จึงขออนุญาตท่านสมณทูต ขอใช้เวลาคิดยาว ๆ ขอปรึกษาคนหน่อย ท่านสมณทูตวาติกันบอกว่าเป็นพระบรมราชโองการจากโป๊ปโดยตรง ต้องเป็นไปตามนี้ 

เราเลยคิดว่าเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องเอาล่ะ มีคำสั่งแจ้งมาว่าต้องไปเข้าพิธีรับหมวกตำแหน่งคาร์ดินัลที่โรมเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ปี 1983 คนไทยเข้าไปร่วมเยอะเหมือนกัน คาร์ดินัลคนอื่นในรุ่นเดียวกับเรามี 13 ท่าน ตอนนี้หลายท่านก็ลาโลกไปแล้ว เราก็ตื่นเต้นและหนักใจ สื่อต่างประเทศก็อยากรู้จึงมาถามเรา แบบเดียวกับที่เธอถามเราอยู่ตอนนี้แหละ

ก่อนพระคุณเจ้าได้รับแต่งตั้ง เคยมีชาวเอเชียได้เป็นพระคาร์ดินัลหรือยังครับ

ในทวีปเอเชียมีจำนวนไม่มาก เท่าที่จำได้ เท่าที่รู้ มีพระคาร์ดินัลแห่งประเทศจีน ประเทศญี่ปุ่น ประเทศเวียดนาม ประเทศอินเดีย ประเทศฟิลิปปินส์ มีไม่กี่ประเทศหรอก

พอได้เป็นพระคาร์ดินัลแล้ว ชีวิตพระคุณเจ้าเปลี่ยนไปจากเดิมมากน้อยแค่ไหนครับ

เราเคยบอกว่าไอ้ตำแหน่งนี้ทำให้เราเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไม่ได้ มีชัยแต่ก่อนเป็นยังไง ตำแหน่งคาร์ดินัลที่ให้กับมีชัย มีชัยก็เป็นคนนั่นแหละ แต่ว่าโดยหน้าที่ ให้เราทำอะไร โดยหน้าที่คาร์ดินัล เราก็พยายามปฏิบัติตามหน้าที่นั้น ๆ และตำแหน่งสังฆราชที่เรารับผิดชอบต่อพระศาสนจักรแห่งประเทศไทยโดยกรุงเทพฯ เราก็รับหน้าที่อันนี้สุดความสามารถ ดำรงตำแหน่งมาจนถึงเมื่ออายุ 80 แล้วจึงพ้นตำแหน่งนี้ ส่วนตำแหน่งคาร์ดินัลยังคงอยู่

คือตำแหน่งคาร์ดินัลเราก็จะทราบว่าเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ แต่ว่าเวลาที่รับตำแหน่ง ในพิธีรับตำแหน่งก็มีบอกให้ทราบว่าเกียรติยศชื่อเสียงเนี่ย มันเป็นเสมือนไอน้ำที่มันล่องลอยขึ้นแล้วก็หายไป อย่าไปยึดกับมัน 

บทสัมภาษณ์ครั้งประวัติศาสตร์ของ ‘พระคุณเจ้ามีชัย’ บาทหลวงชาวไทยคนแรกที่มีสิทธิ์เข้าร่วมการเลือกตั้งพระสันตะปาปา

พระคุณเจ้าคิดว่าประเทศไทยได้อะไรจากการที่โป๊ปทรงแต่งตั้งให้พระคุณเจ้าดำรงตำแหน่งนี้

(หัวเราะ) ก็ขอบคุณพระเจ้าเถิด ที่พระศาสนจักรได้ให้ความสำคัญกับประเทศไทย แม้ราษฎรพลเมืองนับถือพุทธเป็นส่วนใหญ่ก็ตาม แต่ประเทศไทยก็เปิดประเทศอย่างเสรี มีความสัมพันธ์กับพระสหายจากคาทอลิกแห่งโลกตั้งแต่อดีตอย่างดี มีความสัมพันธ์กันมากตั้งแต่รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเป็นต้นมา ประเทศเราได้รับรู้ตามกฎหมายว่าองค์กรคาทอลิกนี่เป็นองค์กรศาสนาหนึ่งซึ่งประเทศไทยและรัฐบาลไทยตั้งแต่ดั้งเดิม รับรู้และรับรองตามกฎหมาย นี่ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ศาสนจักรจากทั่วโลกชื่นชมยินดีเป็นอย่างมาก

ด้วยเหตุนี้ก็เชื่อว่า สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 ชาวโปแลนด์ เป็นโป๊ปที่เปิดกว้าง เป็นที่ยอมรับ ท่านมีความสามารถหลายสิ่งหลายอย่าง เป็นชาวโปแลนด์ที่ไม่มีใครนึกว่าท่านจะได้เป็นโป๊ปด้วย เรารู้จักท่านมาก่อนเหมือนกัน เมื่อท่านเป็นโป๊ป เราก็มีหน้าที่ในฐานะสังฆราชที่ต้องไปพบท่านทุก 4 ปีเพื่อรายงานท่านว่าประเทศของเรามีอะไร ทำอะไร และอยากจะทำอะไรบ้าง

เราก็มีโอกาสได้ใกล้ชิดโป๊ปพระองค์นี้ ทุกครั้งที่ไป ท่านก็เปิดโอกาสให้ทานข้าวกับท่าน เล่าเรื่องเมืองไทยให้ฟัง แล้วเราก็กล่าวกับท่านเป็นการส่วนตัวว่า ทำไมไม่เสด็จมาเยี่ยมบ้านผมบ้างล่ะ

บทสัมภาษณ์ครั้งประวัติศาสตร์ของ ‘พระคุณเจ้ามีชัย’ บาทหลวงชาวไทยคนแรกที่มีสิทธิ์เข้าร่วมการเลือกตั้งพระสันตะปาปา

อ๋อ! ที่โป๊ปยอห์น ปอลที่ 2 เสด็จเยือนไทยปี 1984 ก็เพราะพระคุณเจ้าชวนเองหรือครับ

อ้อ ไม่ เดี๋ยวก่อน (หัวเราะ) ส่วนหนึ่งพวกเราก็ปรารถนาจะให้โป๊ปเสด็จไปยังประเทศต่าง ๆ แต่ก่อนโป๊ปอยู่แต่ในวาติกัน คราวนี้เมื่อพระองค์เสด็จฯ ไปประเทศนั้นประเทศนี้ก็เป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก เป็นที่ชื่นชมยินดี เราคุยเล่นกันในวงสนทนา โป๊ปก็ไม่ได้ตอบแต่ก็ไม่ปฏิเสธนะ คราวนี้ก็เลยไปถามไถ่ในวงการภายในว่าจะให้โป๊ปเสด็จไปเยี่ยมประเทศหนึ่งนี่เขาทำกันยังไง ก็ได้คำตอบว่าให้ทำหนังสือในนามสภา ขอเชิญพระองค์ท่านเสด็จไปตามพระราชอัธยาศัยในกรณีนั้นนี้

ทางวาติกัน ทางโป๊ป ก็ดูมีแนวโน้มจะมาเยือนเมืองไทย ตอนนั้นเราทำงานเกี่ยวกับต่างประเทศ ดูผู้ลี้ภัย มีความใกล้ชิดกับสำนักพระราชวัง วันหนึ่งได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 จึงกราบบังคมทูลให้พระองค์ท่านทราบว่าโป๊ปได้แสดงออกว่าอยากจะมาไทย พระองค์ท่านรับสั่งตอบว่าดี ถ้าโป๊ปอยากจะมาก็ต้องต้อนรับ ฝ่ายพระองค์ท่านไม่ขัดข้อง เราได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และกราบทูลท่านที่เชียงใหม่ ท่านก็ดีพระทัย ตรัสว่ามาแล้วต้องต้อนรับให้เต็มที่

ก็เป็นอันว่าตกลงกัน โป๊ปยอห์น ปอลที่ 2 เสด็จเยือนไทยวันที่ 10 – 11 พฤษภาคม ปี 1984

ตลอดชีวิตพระคุณเจ้า ได้พบโป๊ปมาแล้วทั้งหมดกี่พระองค์ครับ

โอ้โห ถ้าจะนับ เดี๋ยวนะ…เราทันปลายสมณสมัยของ สมเด็จพระสันตะปาปาปิโอที่ 11 อยู่ในโอกาสที่พ้นปิโอที่ 12 เมื่อสิ้นพระชนม์แล้วเรายังอยู่ที่กรุงโรม มีโอกาสติดตามงานพระบรมศพ จากนั้นมาในสมัย สมเด็จพระสันตะปาปายอห์นที่ 23 ซึ่งใจดี๊ใจดี มันมีวงการพนันเล็กน้อยในหมู่เพื่อน ๆ ว่าใครจะได้เป็นโป๊ปต่อ เราทายไว้ว่ายอห์นที่ 23 ที่เคยเป็นพระคาร์ดินัลของเวนิส เพื่อนก็ตกลงกันเป็นเงินคนละ 1,000 ลีร์ ไปซื้อพิซซามากิน โป๊ปองค์นี้ท่านใจดีมาก ๆ นะ

ก็มาถึง สมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 6 ยุคนั้นเราได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอัครสังฆราชแห่งกรุงเทพฯ จากนั้นก็ถึง สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 1 ซึ่งท่านเป็นโป๊ปแค่เดือนเดียวแล้วก็สิ้นบุญไป ก็มาได้ยอห์น ปอลที่ 2 ซึ่งชื่อเสียงโด่งดังมากตอนที่เสด็จเยือนไทย และเราก็อยู่ด้วย 

ต่อมาก็เป็น สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ชาวเยอรมันจากมิวนิก ก็รู้จักกัน ท่านเป็นคนเก่งมาก ๆ ก็ไม่นึกว่าท่านจะประสบปัญหาสุขภาพในวัย 80 กว่าจนเป็นสาเหตุให้ท่านลาออกไป เราจึงมาได้โป๊ปพระองค์ปัจจุบันคือ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส รวมแล้วก็เป็น 8 พระองค์

ใน 8 พระองค์นี้ โป๊ปพระองค์ใดที่พระคุณเจ้าชื่นชมมากที่สุด

เราชื่นชมทุกพระองค์ แต่ชื่นชมโป๊ปยอห์น ปอลที่ 2 ไม่ใช่เพราะท่านตั้งเราเป็นคาร์ดินัล แต่เพราะเหตุว่าท่านเอ็นดูประเทศไทย คิดส่งเสริมประเทศไทย ก่อตั้งทูตให้ความช่วยเหลือเมืองไทย ให้ทุกคนได้รับรู้ว่าประเทศไทยเป็นยังไง ฯลฯ ท่านช่วยให้ประเทศไทยมีชื่อเสียงขึ้นเยอะ และเป็นกันเอง

บทสัมภาษณ์ครั้งประวัติศาสตร์ของ ‘พระคุณเจ้ามีชัย’ บาทหลวงชาวไทยคนแรกที่มีสิทธิ์เข้าร่วมการเลือกตั้งพระสันตะปาปา

พระคุณเจ้าอยู่ในบรรยากาศเลือกโป๊ปพระองค์ใหม่มากี่ครั้งแล้วครับ

เมื่อโป๊ปยอห์น ปอลที่ 2 สิ้นพระชนม์ เป็นข่าวใหญ่มาก ๆ เราทำธุระอยู่ที่กรุงเทพฯ ก็ต้องรีบไปที่นครรัฐวาติกัน โอ้โห คนมหาศาล หลังปลงพระศพเรียบร้อยก็ถึงวาระ Conclave พระคาร์ดินัลทั้งหลายก็จะประชุมกัน แล้วไปลงคะแนนเสียง เราก็ไปร่วมประชุมตามที่ถูกกำหนดไว้ รายละเอียดไม่เยอะ เราได้รับเลือกให้เป็นกรรมการ 3 ท่านที่เป็นผู้คอยนับคะแนนตามบัตร รับรองคะแนน จนได้เบเนดิกต์ที่ 16

ต่อมาเมื่อโป๊ปเบเนดิกต์ท่านลาออก บรรดาพระคาร์ดินัลทั้งหลายก็ต้องไปทำแบบเดิม แต่รอบนี้เราอายุเกิน 80 ปีแล้วนะ จึงไม่ได้เข้าไปลงคะแนนเสียง แต่เราต้องอยู่ภายนอกรอจนกว่าเขาจะเลือกเสร็จ

โป๊ปฟรังซิสนี่ เราพอจะรู้จักท่านมาก่อนบ้าง ท่านเป็นชาวอาร์เจนตินา มีพ่อเป็นชาวอิตาเลียนจากโบโลญญาแล้วอพยพไปอยู่อาร์เจนตินา เรามีส่วนจนถึงการสถาปนาโป๊ปฟรังซิสตลอดจนเสร็จภารกิจแล้วจึงกลับ บรรดาพระคาร์ดินัลทั้งหลายทั้งปวงก็ไปร่วมแสดงความยินดีกับท่าน ท่านยืนอยู่บนพื้นกลางโถงใหญ่ เราก็ไป ไม่นึกเลยว่าก่อนที่เราจะแนะนำตัวว่า ข้าพเจ้ามีชัย มาจากประเทศไทยนะ ท่านจะพูดขึ้นมาก่อนว่า นี่ เราขอฝากใจเยี่ยมลูกพี่ลูกน้องเรา (ซิสเตอร์อานา โรซ่า ซีโวรี) ที่อยู่ประเทศไทย

ไม่ทราบว่าถามได้ไหมครับ ว่าในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่าน ๆ มาเคยมีคนเสนอชื่อพระคุณเจ้าเป็นโป๊ปบ้างหรือเปล่า

การลงคะแนนเสียงมันเป็นความลับสุดยอด แล้วก็มีกฎเข้มแข็งที่สุดว่าใครจะละเมิดมิได้ว่าเลือกใคร เพราะฉะนั้นคำถามของเธอ เราจึงตอบไม่ได้ (ยิ้ม)

ปีนี้พระคุณเจ้าอายุ 94 แล้ว ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยอย่างไรบ้าง

เราเห็นความเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยเยอะ เยอะมาก ๆ นะ เหมือนกับทุกคนประสบ ประเทศไทยซึ่งแต่ก่อนไม่เคยมีโทรทัศน์ ไม่เคยมีโทรศัพท์ ไม่เคยมีรถยนต์ ไม่เคยมีถนน มันเปลี่ยนแปลงไปหมด มีหมดทุกอย่าง เราจะมุ่งเน้นในเรื่องทางกายภาพมากกว่าทางด้านจิตใจ กายภาพ เช่น มีถนนที่ดี มีรถที่ดี มีไฟฟ้า ฯลฯ แต่ดูเหมือนว่าเราไม่ได้ก้าวหน้าในทางคุณธรรมและศีลธรรมอย่างที่ควรต้องเป็น

ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ผลงานใดคือสิ่งที่พระคุณเจ้าภาคภูมิใจที่ได้ทำให้พระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทยครับ

สำหรับทัศนคติและความเชื่อของเรา เราเป็นแต่เพียงเครื่องมือที่พระเจ้ามอบหมายให้เราทำเพื่อพระนามของพระองค์ ภารกิจของพระศาสนจักร ซึ่งทุกคนก็ต้องทำ นั่นคือ เป็นหน้าที่ที่จะต้องประกาศข่าวดีให้มนุษย์ตามที่พระเจ้าได้มีบัญชา จงไปสั่งสอนนานาชาติ ให้เขาได้รู้จักชีวิต รู้จักความจริง และความรอด คือให้ประกาศที่เราเรียกบ่อย ๆ คือ ‘ประกาศพระวรสาร’ ประกาศข่าวดีแก่มนุษย์ นั่นคือมนุษย์เป็นสิ่งสร้างพระเจ้ารักมากที่สุด ให้สิทธิมากที่สุด แล้วก็ได้วางกำหนดวิถีชีวิตในโลกนี้จะต้องเดินไป แล้วก็ไปสู่ความรอดนิรันดร อันนี้เป็นหลัก เพราะจะทำให้มนุษย์พัฒนาเจริญเติบโต  

นอกจากจะมอบ แนะนำ ชี้นำชีวิตในทางคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม ปกป้องศีลธรรม พัฒนาศีลธรรม และส่งเสริมกิจกรรมศีลธรรมอันดีงามสู่ปวงชน เพื่อจะให้เจริญเติบโตมีคุณภาพตามท้องถิ่นแล้ว เรามีหน้าที่ที่จะต้องให้การอบรมศึกษา เพราะฉะนั้นเราจึงเห็นว่าพันธกิจจะมุ่งหมายทุ่มเทเต็มที่เรื่องการศึกษา สร้างโรงเรียนต่าง ๆ เรามีเป็นร้อย ๆ เรามีนักศึกษา มีนักเรียนตั้งแต่อนุบาลถึงขั้นมหาวิทยาลัยเนี่ย เรามีหลายแสนคน เพื่อให้การศึกษาเพื่อพัฒนาประชาชน โดยไม่เลือกศาสนาใด ๆ

เราต้องช่วยให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี ทางสาธารณสุขเราก็ทำทั่วไป ๆ และผู้เจ็บป่วยก็เป็นพันธกิจของเราที่เราจะต้องให้การเอาใจใส่ เราจึงพยายามที่จะให้มีโรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ โรงพยาบาลเซนต์แมรี่ โรงพยาบาลบ้านโป่ง และกิจการด้านการแพทย์ เราเอาใจใส่ว่าหลักการของสังคมในเรื่องเยาวชน ในเรื่องคนงาน และชาวบ้านในเรื่องอาชีพ อันนี้ก็เป็นพันธกิจที่เราต้องทำ ตามกรณี ตามสถานภาพ เพราะฉะนั้นตลอดเวลาที่เรารับหน้าที่ เราพยายามอย่างเต็มกำลังความสามารถ

สุดท้ายนี้ พระคาร์ดินัลคนแรกของไทยอยากจะส่งสารใดถึงผู้อ่านบทสัมภาษณ์นี้บ้างครับ

เรามีความหวังว่า การที่ประชาชนจะนับถือศาสนาใด ๆ นั้นย่อมเป็นเสรีภาพส่วนบุคคลที่ดีงาม ที่ต้องยึดถือ อันที่สอง เราอยากจะบอกว่า แม้ว่าเราจะมีศรัทธาหรือนับถือศาสนาต่าง ๆ กัน แต่เราก็เป็นพี่น้องร่วมสังคมเดียวกัน เพราะฉะนั้นความสามัคคี ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ย่อมเป็นพื้นฐานที่ให้เราอยู่ด้วยกันอย่างสันติ โดยที่เรายึดถือหลักฐานที่ว่า ‘เมตตาธรรมค้ำจุนโลก’ ทางศาสนาคริสต์ก็บอกว่า ‘ความรักอยู่ที่ใด พระเจ้าสถิตอยู่ที่นั้น’ นี่คือสิ่งที่เราอยากจะส่งสาร ความรู้สึก ความประสงค์ของเราให้ทุกคนได้รับรู้ได้รับทราบว่าจงภูมิใจในศาสนาที่เราถือ จงปฏิบัติตามศาสนาที่ตัวเองคิด ที่ตนยึดถือ และจงแสวงหาความจริงแห่งชีวิตตลอด

บทสัมภาษณ์ครั้งประวัติศาสตร์ของ ‘พระคุณเจ้ามีชัย’ บาทหลวงชาวไทยคนแรกที่มีสิทธิ์เข้าร่วมการเลือกตั้งพระสันตะปาปา

Writer

พัทธดนย์ กิจชัยนุกูล

พัทธดนย์ กิจชัยนุกูล

ชอบอ่านเขียนตั้งแต่จำความได้ สนใจวิชาสังคมศึกษาตั้งแต่จบอนุบาล ใฝ่รู้ประวัติศาสตร์ตั้งแต่อยู่ประถม หัดแต่งนวนิยายตั้งแต่เรียนมัธยม เขียนงานสารพัดด้วยนามปากกา “แพทริก เหล่า” ตั้งแต่เข้ามหา’ลัย

Photographer

มณีนุช บุญเรือง

มณีนุช บุญเรือง

ช่างภาพสาวประจำ The Cloud เป็นคนเชียงใหม่ ชอบแดดยามเช้า การเดินทาง และอเมริกาโน่ร้อนไม่น้ำตาล