อารัมภบท

ข้าพเจ้าได้บันทึกทุกสิ่งทุกอย่างขณะเดินทางไปประเทศเกาหลีใต้เกือบ 5 วัน ในช่วงต้นเดือนเมษายน พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา ข้าพเจ้าเห็นภูมิประเทศและทัศนียภาพต่าง ๆ ด้วยตาของตนเอง

และมีดวงตาอีกคู่หนึ่งที่ร่วมกันบันทึกความทรงจำในครั้งนี้

เรื่อง นิราศเกาหลี เป็นกวีนิพนธ์ที่ข้าพเจ้าบรรจงเรียบเรียงเขียนขึ้นเพื่อนำเสนอเนื้อหาการทอดน่องท่องเที่ยวในประเทศเกาหลีใต้ โดยใช้ฉันทลักษณ์โบราณนั่นคือ ‘กลอนนิราศ’ ซึ่งมีขนบการแต่งอย่างง่าย คือขึ้นต้นเรื่องด้วยวรรครับ แต่งเนื้อหาไม่จำกัดบท และหากกวีจะจบเรื่องต้องจบด้วยคำว่า ‘เอย’ เสมอ 

สิ่งสำคัญคือเรื่องราวต้องเป็นการเดินทางจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่ง …ทว่ามีสูตรลับอย่างหนึ่งที่มักปรากฏในวรรณคดีโบราณ นั่นคือ หากกวีท่านใดต้องการให้กลอนนิราศเข้มข้น ถึงใจ สะเทือนใจ และกระทบใจนั้น บรรดากวีผู้เป็นบูรพาจารย์ในอดีตมักจะนำเรื่องราว ‘ความรัก’ และ ‘นางผู้เป็นที่รัก’ มาประดับไว้ในกลอนนิราศ แม้ว่านางผู้เป็นที่รักนั้นจะมีจริงหรือไม่มีอยู่จริง หรือ ‘เคยมี’ ก็ตาม 

๏ เหาะหาวเพลินเหินฟ้ามาเกาหลี

ชื่นอารมณ์สมจินต์แสนยินดี

ปรารถนามาเมืองนี้ปรีดาใจ

นั่งเครื่องบินบินขนาบคาบสมุทร

ตื่นเต้นสุดเสียงสนั่นแว่วหวั่นไหว

พอเครื่องบินลง ‘อินชอน’ สัญจรไกล

ถึงเมืองใหญ่ให้ว้าวุ่นอบอุ่นทรวง

ไอเย็นห่มลมหนาวราวสวรรค์

โอบกอดแสงสุริยันฉายฉันช่วง

โอ้อกเอ๋ยอนิจจาสุดาดวง

พี่แสนห่วงกลัวจะหนาวรานร้าวกาย

ออกเดินทางห่างอินชอนอาวรณ์จิต

เคียงขนิษฐ์นงรามเมื่อยามสาย

แล ‘พ็อดกด’ สดสะพรั่งยังเรียงราย

กะพริบพรายสยายดอกออกอวดตน

หวังร้อยรวงเป็นพวงดาวพร่างพราวฟ้า

แซมเกศายาใจให้สักหน

เพียงนุชแย้มแซมยิ้มอิ่มกมล

ยิ่งน่ายลกว่าพ็อตกดหมดทั้งเมือง

พอถึงไร่สตรอว์เบอร์รีที่ใฝ่ฝัน

สารพันปะปนผลแดงเหลือง

ชวนเก็บลูกปลูกรักพำนักเนือง

ปลื้มประเทืองเปลื้องทุกข์สุขอุรา

มองเห็นผลสีแดงดังแต้มชาด

แก้มนงนาฏแดงยิ่งเด่นเห็นจริงหนา

ยามเจ้าเอ่ยถ้อยคำจำนรรจา

ยิ่งหวานกว่าสตรอว์เบอร์รีที่พี่กิน

มุ่งสู่ ‘เกาะนามิ’ มิสิ้นนาม

คนตั้งตามชื่อนายพลคนท้องถิ่น

แม้สิ้นกายวายชีพลับดับชีวิน

นามมิสิ้นคู่ถิ่นเกาะเสนาะใจ

แล้วลงเรือมุ่งตรงลงที่ท่า

ประสานเสียงสกุณาอยู่อาศัย

เฝ้าประคองน้องเนื้อนวลชวนชมไพร

ต้นสนใหญ่แมกไม้กว้างเป็นทางทิว

เที่ยวถ่ายรูปเล่นลอดพ็อดกดแก้ว

เสียงเจื้อยแจ้วเคล้าเคลียลมลอยละลิ่ว

ดวงดอกหญ้าพาพัดสะบัดปลิว

ชวนชมชิวทิวทัศน์เพาะรักเรา

แล้วลงเรือล่องสำราญบนธารใส

แลตึกใหญ่ตั้งตระหง่านขนานเขา

จำจรร้างห่างสถานเนิ่นนานเนา

พี่ใฝ่เฝ้าพาเนื้อนวลหวนอีกครา

เดินขึ้นรถพักใจจนคลายจิต

ค่อยเลิกคิดกังวลใจให้ห่วงหา

พักกายก่อนผ่อนเพลาเจ้าแก้วตา

จงนิทราอุรารื่นชื่นชีวิน

มุ่งลัดเลาะล้อหมุนรอบขุนเขา

เคลื่อนผ่านเหล่าพงไพรในแถวถิ่น

จนถึง ‘ซอรัคซาน’ สำราญจินต์

ดังแดนดินอุทยานสำราญธรรม

เดินถึง ‘วัดชินฮึงซา’ มานบไหว้

องค์พระใหญ่ประดิษฐานนานฉนำ

อธิษฐานพระชินวรขอพรคำ

จงดื่มด่ำอำนวยยศหมดทุกคน

ขอโรคันตรายร้ายอย่ากรายล่วง

จงโชติช่วงประสบสุขทุกแห่งหน

ขอชนะมารหมดเหมือนทศพล

จงกร่อนก่นเกลสลามข้ามโอฆไกล

ขอให้เนื้อนวลของพี่อย่ามีโรค

จงหายโศกเภทสิ้นผินกษัย

ขอฝากคำอำนวยรักประจักษ์ใจ

ยามจากไปขอใจชิดสนิทกัน

ผ่านถนนหนทางระหว่างเที่ยว

ยุพาเหลียวมองไปยังไพรสัณฑ์

เห็น ‘ทิวลิป’ ‘แปะก๊วยป่า’ สารพัน

ชูรวงหลั่นระย้าเหลืองเรื่อเรืองตา

‘เอเวอร์แลนด์’ แดนสนุกแสนสุขสันต์

ราวชะลอสรวงสวรรค์แดนหรรษา

พี่ติดตามทรามสวาทไม่คลาดคลา

นั่งกระเช้าชิงช้าพาเที่ยวชม

พี่ชี้ชวนชมสัตว์ขนัดหน้า

เจ้ายิ้มมาพาใจให้สุขสม

สองเรานั้นบันเทิงรื่นเริงรมย์

สิ้นระทมทุกข์สลายกายสำราญ

พอถึง ‘โซล ทาวเวอร์’ เจอสายฝน

ประโปรยหล่นห่มตึกแซงแข่งขนาน

เห็นกุญแจสลักรักประจักษ์กาล

อธิษฐานให้คงรักสมัครใจ

อย่าห่างใจไกลน้องละอองนวล

ได้เชยชวนชื่นรักจนตักษัย

หอคอยโซลเสียดท้านภาลัย

รักคงได้ตระหง่านฟ้าท้ากัปกาล

มา ‘ฮงแด’ ‘มยองดง’ หลงแสงสี

อาหารดีดนตรีปลุกสนุกสนาน

ประโคมคึกหฤหรรษ์สนั่นลาน

จูงมือผ่านพินิจสมอารมณ์รส

นั่งกินไก่ต็อกบกกีมีกับแกล้ม

โซจูแซมโค้กผสมดื่มจนหมด

พร้อมกิมจิซุปต้มยำล้ำน่าซด

กระเป๋าสตางค์แทบหดหมดเงินวอน

งามปราสาทราชวังตั้งกลางเมือง

ล้วนรุ่งเรืองผงาดชื่อลือกระฉ่อน

‘คยองบกกุง’ ผดุงศักดิ์หลักนคร

คู่โชซอนราชวงศ์จงนิรันดร์

ฝนก็พรมพรายพร่ำกระหน่ำฟ้า

ประคองยอดนัยนามาปลอบขวัญ

ทัศนาปราสาทองค์พระทรงธรรม์

ครั้งก่อนนั้นถูกรุกรานเผาผลาญลง

บูรณะขึ้นใหม่ดูใหญ่โข

ตำหนักโตประตูเห็นเด่นระหง

พระที่นั่งมังกรผายลวดลายวง

ยิ่งยรรยงยืนหยัดชาติประกาศไกร

นิราศเรื่องเมืองเกาหลีที่ใฝ่ฝัน

อีกหลายวันหลายเวลาคืนมาใหม่

หวังว่ายอดขวัญพิมพ์ปลื้มปริ่มใจ

คงหวนได้มากับพี่อีกสักครา

ร่วมถักทอต่อรักตระหนักรู้

เคียงพธูผู้ยอดเสน่หา

ขอเจ้าแก้วแววจิตชิดชีวา

เป็นขวัญฟ้าคู่เกาหลีเคียงพี่เอย

Write on The Cloud

Travelogue

ถ้าคุณมีประสบการณ์เรียนรู้ใหม่ ๆ จากการไปใช้ชีวิตในทั่วทุกมุมโลก เชิญแบ่งปันเรื่องราวความรู้ของคุณพร้อมภาพถ่ายประกอบบทความ รูปถ่ายผู้เขียน ประวัติส่วนตัวผู้เขียน ที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อ และชื่อ Facebook มาที่อีเมล [email protected] ระบุหัวข้อว่า ‘ส่งต้นฉบับสำหรับคอลัมน์ Travelogue’ ถ้าผลงานของคุณได้ตีพิมพ์ลงในเว็บไซต์ เราจะส่งสมุดลิมิเต็ดอิดิชัน จาก ZEQUENZ แบรนด์สมุดสัญชาติไทย ทำมือ 100 % เปิดได้ 360 องศา ให้เป็นที่ระลึกด้วยนะ

Writer & Photographer

ณัฐนันท์ สาริโก

ณัฐนันท์ สาริโก

อาจารย์ประจำวิชาภาษาไทย โรงเรียนสาธิต มศว ปทุมวัน สนใจการเขียนร้อยกรองและถ่ายภาพมาตั้งแต่เด็ก ๆ