21 กุมภาพันธ์ 2023
5 K

หลายครั้งเมื่อพูดถึงธุรกิจครอบครัว เรามักนึกถึงความอยู่รอดยืนยาวของธุรกิจ ว่าทำอย่างไรให้สืบทอดกิจการจากรุ่นหนึ่งสู่รุ่นหนึ่งได้ยั่งยืน

ในขณะเดียวกัน เมื่อเราพูดถึงความยั่งยืนของเศรษฐกิจ เรื่องที่พูดถึงกันอย่างแพร่หลายมากในปัจจุบันคงหนีไม่พ้นประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance : ESG)

ทั้ง 2 เรื่องนี้แท้จริงแล้วเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันอย่างมาก เพราะธุรกิจครอบครัวไม่สามารถอยู่รอดอย่างยั่งยืนได้ในโลกที่มีปัญหาสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล รุมเร้า

Illycaffè ธุรกิจกาแฟคุณภาพพรีเมียมของตระกูล Illy เป็นตัวอย่างของธุรกิจครอบครัวที่คำนึงถึงหลัก ESG ในการประกอบธุรกิจมาอย่างยาวนาน และได้รับการยอมรับว่าเป็นบริษัทที่มีจริยธรรมสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

บริษัทนวัตกรรม

ผู้ก่อตั้งธุรกิจของตระกูล Illy คือ Francesco Illy ชาวฮังการี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เขาเดินทางไปเมือง Trieste ประเทศอิตาลี และตัดสินใจแต่งงาน ตั้งรกราก จนในที่สุดเริ่มต้นธุรกิจกาแฟที่นั่นในปี 1933 ภายใต้ชื่อ ‘Illycaffè’

Francesco เป็นนักประดิษฐ์ เพียงปีเดียวหลังเริ่มธุรกิจ เขาได้คิดค้นกระป๋อง Oxygen-free ที่เก็บรักษารสและกลิ่นของกาแฟได้นาน ต่อมาอีก 1 ปีเขาประดิษฐ์เครื่องชงเอสเพรสโซ่ที่เป็นต้นแบบของเครื่องเอสเพรสโซ่ที่เราใช้กันในปัจจุบัน

illy Coffee ธุรกิจครอบครัวผู้คิดค้นกาแฟแคปซูล สู่บริษัทกาแฟที่มี ESG ดีที่สุดในโลก

ทายาทรุ่นสองของธุรกิจครอบครัวคือ Ernesto Illy ลูกชายของ Francesco เขาต้องการเข้ามาทำธุรกิจครอบครัวกับพ่อตั้งแต่อายุยังน้อย แต่พ่อบอกว่าเขาต้องไปเรียนเคมีมาก่อน เพื่อจะได้ทราบว่าทำอย่างไรกาแฟจึงรสชาติดี

สุดท้าย Ernesto จบการศึกษาด้านเคมีถึงระดับปริญญาเอกและเข้ามารับช่วงธุรกิจในปี 1956 เขาจัดตั้งแล็บวิจัยในบริษัท คิดค้นผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่ง Illy ได้จดสิทธิบัตรไว้มากมาย

สิ่งประดิษฐ์สำคัญของ Ernesto คือเครื่องแยกคุณภาพเมล็ดด้วยแสงอินฟราเรดที่ทำให้กาแฟ illy มีคุณภาพดีกว่ากาแฟของผู้ผลิตรายอื่น ๆ ซึ่งแบรนด์ก็ยังใช้งานเครื่องนี้มาจนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ Illycaffè ยังเป็นธุรกิจแรกที่คิดค้น Coffee Pod หรือกาแฟคั่วบดที่บรรจุในห่อสำหรับชงทีละแก้ว ทำให้ผู้บริโภคชงเอสเพรสโซ่ที่มีรสชาติดีได้สะดวกมากกว่าเดิม ถึงแม้ว่าท้ายสุดแล้ว Nespresso ที่เป็นบริษัทคู่แข่งของ illy จะประสบผลสำเร็จในตลาดผลิตภัณฑ์นี้มากกว่าก็ตาม

Ernesto วางมือจากธุรกิจครอบครัวในปี 2004 ก่อนเสียชีวิตในอีก 4 ปีถัดมาด้วยอายุ 82 ปี

ตลอดชีวิตของ Ernesto นั้น เขาไม่เพียงแค่เป็นผู้นำธุรกิจกาแฟของครอบครัวเท่านั้น เขายังสร้างคุณูปการมากมายไว้ให้กับอุตสาหกรรมกาแฟ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกระดับคุณภาพของทั้งการผลิตและการบริโภคกาแฟทั่วโลก

จึงไม่เป็นที่แปลกใจที่เขาได้รับสมญาในวงการกาแฟว่า ‘Papa Bean’

illy Coffee ธุรกิจครอบครัวผู้คิดค้นกาแฟแคปซูล สู่บริษัทกาแฟที่มี ESG ดีที่สุดในโลก

ทายาทรุ่นสาม

สำหรับทายาทรุ่นสามของธุรกิจกาแฟ illy คือลูก ๆ 4 คนของ Ernesto ได้แก่ Francisco, Anna, Riccardo และ Andrea

Francisco Illy ลูกชายคนโตที่มีความสนใจด้านศิลปะ ได้เริ่มโครงการ The Illy Art Collection ในปี 1992 โดยร่วมมือกับศิลปินชื่อดังออกแบบศิลปะบนถ้วยและกระป๋องกาแฟ

Anna Illy ลูกสาวคนเดียวของครอบครัว เป็นตัวแทนครอบครัวในการทำงานร่วมกับชาวสวนกาแฟในบราซิล ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบที่ใหญ่ที่สุดของ Illycaffè ในการพัฒนาคุณภาพกาแฟและยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกร

ส่วน Riccardo Illy ลูกชายคนต่อมาได้เริ่มสร้างหนัง Illycaffè ในปี 1977 เป็น Business Director ของธุรกิจ ดูแลโครงสร้างองค์กร เป็นคนก่อตั้ง Marketing Department และต่อมาได้เป็น CEO ของบริษัท ก่อนที่จะเข้าสู่สนามการเมืองไปเป็นนายกเทศมนตรีของเมือง Trieste

ปัจจุบัน Riccardo กลับมาทำธุรกิจครอบครัวอีกครั้ง โดยเป็นผู้นำธุรกิจด้านช็อกโกแลต ชา และไวน์ ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ของตระกูล และดำรงตำแหน่งเป็น President ของ Gruppo Illy บริษัทโฮลดิ้งของธุรกิจครอบครัว

สำหรับลูกคนสุดท้องที่เป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นคือ Andrea Illy นั้น เริ่มทำงานในธุรกิจครอบครัวตั้งแต่อายุ 13 ปี และจบปริญญาเอกด้านเคมีเหมือนกับ Ernesto พ่อของเขา ต่อมาได้เป็น CEO ของ Illycaffè เมื่อ Riccardo ออกจากธุรกิจไปทำงานการเมืองในปี 1994

Andrea เป็น CEO อยู่ 22 ปีก่อนที่จะส่งต่อการบริหารให้มืออาชีพจากนอกครอบครัวมารับช่วงต่อในปี 2016 ปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่งเป็น Chairman ของบริษัท

illy Coffee ธุรกิจครอบครัวผู้คิดค้นกาแฟแคปซูล สู่บริษัทกาแฟที่มี ESG ดีที่สุดในโลก

ธรรมาภิบาลกับกิจการครอบครัว

ธุรกิจครอบครัวจำนวนมากมีปัญหาในเรื่องธรรมาภิบาลที่นำไปสู่ความขัดแย้ง แต่พี่น้องตระกูล Illy รุ่นสามกลับทำงานร่วมกันอย่างราบรื่น

สำหรับทายาทรุ่นสี่มีทั้งหมด 9 คน ซึ่งตระกูล Illy ได้มีกฎที่เคร่งครัดเพื่อรักษาให้ธุรกิจครอบครัวมีความยั่งยืน เช่น การเข้ามามีบทบาทในธุรกิจครอบครัวนั้นจะไม่ให้มีสมาชิกครอบครัวมากกว่า 1 คนจากแต่ละสายมาทำงานในบริษัทเดียวกันหรือสายงานที่ใกล้กัน

นอกจากนี้ ก่อนที่สมาชิกครอบครัวจะมีตำแหน่งบริหารได้นั้นจะต้องมีประสบการณ์ในบริษัทอื่นมาก่อน

ตระกูลนี้ยังมีสภาครอบครัว (Family Council) ที่ประกอบด้วยสมาชิกทุกคน รวมถึงคนที่ไม่ได้มีตำแหน่งบริหารในธุรกิจด้วย ซึ่งสมาชิกกลุ่มนี้จะทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบการดำเนินธุรกิจ

สมาชิกครอบครัวจะพบเจอกันเดือนละครั้ง เพื่อพูดคุยหารือเกี่ยวกับธุรกิจว่าจะทำอะไรต่อไป ซึ่งการตัดสินใจสุดท้ายต้องเป็นฉันทานุมัติที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกัน

สำหรับการบริหารธุรกิจนั้น ตระกูล Illy ต้องการให้ธุรกิจของครอบครัวเป็นธุรกิจที่ครอบครัวเป็นเจ้าของ แต่มีมืออาชีพจากภายนอกมาบริหารธุรกิจ

CEO คนนอกคนแรกที่รับช่วงการบริหารต่อจาก Andrea Illy ในปี 2016 คือ Massimiliano Pogliani ผู้มีประสบการณ์ทำงานที่บริษัท Saeco ผู้ผลิตเครื่องชงกาแฟชั้นนำระดับโลกและยังเคยทำงานที่บริษัท Nespresso มาก่อนด้วย

illy Coffee ธุรกิจครอบครัวผู้คิดค้นกาแฟแคปซูล สู่บริษัทกาแฟที่มี ESG ดีที่สุดในโลก

สิ่งที่ดีที่สุดย่อมมีแค่หนึ่งเดียว

illy ให้ความสำคัญกับคุณภาพของกาแฟมากกว่าปริมาณมาตั้งแต่เมื่อแรกตั้งบริษัท โดย Francesco ต้องการผลิตกาแฟที่ดีที่สุดในโลก ประดิษฐกรรมต่าง ๆ ที่ Francesco และ Ernesto คิดค้นขึ้นก็เพื่อพัฒนาและรักษาคุณภาพนั่นเอง

แต่เดิมนั้น Illycaffè มีผลิตภัณฑ์กาแฟผสมหลากหลายรุ่น และโฆษณาว่าทุกรุ่นเป็นกาแฟที่ดีที่สุด

เมื่อ Riccado เข้ามาร่วมงานด้านการตลาด เขาคิดว่ากาแฟที่ ‘ดีที่สุด’ ย่อมมีได้แค่เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เขาจึงเสนอต่อ Ernesto ว่า Illycaffè ควรมีกาแฟแค่แบบเดียวและที่ดีที่สุดที่บริษัทผลิตได้ ซึ่ง Ernesto ก็เห็นชอบด้วย

‘Single illy blend’ กาแฟหนึ่งเดียวของ illy จึงถูกพัฒนาขึ้นจากการผสมเมล็ดอาราบิก้าชั้นดีจาก 9 ประเทศ เป็นจุดเด่นที่ทำให้พวกเขาต่างจากแบรนด์อื่น ๆ ที่มีเมล็ดหลากหลาย และทำให้ illy เป็นมาตรฐานกาแฟอิตาลีชั้นเยี่ยมที่ร้านอาหารชั้นนำและโรงแรมหรูทั่วโลกเลือกใช้

อย่างไรก็ตาม สำหรับตระกูล Illy แล้ว กลิ่นและรสที่ดีอย่างเดียวยังไม่เพียงพอที่จะทำให้มีคุณภาพดีที่สุด กาแฟ illy ต้องมีมากกว่านั้น

กาแฟที่ดีต้องมีมากกว่ากลิ่นและรส

Francesco Illy ผู้ก่อตั้ง Illycaffè ได้นิยามกาแฟที่ดีที่สุดของเขาว่า ไม่ใช่เป็นแค่มีรสชาติดีอย่างเดียว แต่ต้องผลิตด้วยกรรมวิธีที่ดีที่สุดด้วย ซึ่งทายาทรุ่นต่อ ๆ มาได้นำเป้าหมายของ Francesco มาเป็นหลักในการสร้างแผนธุรกิจโดยคำนึงถึง Stakeholders ทั้งห่วงโซ่การผลิต ลูกค้า และชุมชน

บริษัทจึงเน้นการพัฒนาการผลิตและการบริโภคที่มีคุณภาพ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ นั่นคือตั้งแต่คนปลูกไปจนถึงคนดื่ม หรือ From Crop to Cup

ในส่วนของผู้ปลูกกาแฟนั้น illy ได้ซื้อเมล็ดโดยตรงจากประเทศผู้ผลิต 9 ประเทศโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางมาตั้งแต่ทศวรรษ 1980 ทำให้เกษตรกรได้ผลตอบแทนเต็มเม็ดเต็มหน่วย

illy ยังมองเรื่องความเป็นธรรมต่างจากบริษัทอื่นหลายบริษัท โดยมองว่า Fair Trade หรือการซื้อกาแฟจากชาวสวนด้วยราคาที่เป็นธรรมนั้นเป็นสิ่งจำเป็นแต่ไม่เพียงพอ เนื่องจากไม่ได้มีมิติเรื่องการเพิ่มคุณภาพด้วย

ยกระดับ Supply Chain

illy เห็นว่าเราต้องส่งเสริมการผลิตให้มีคุณภาพสูงขึ้น จนทำให้ผู้ดื่มอยากบริโภคมากขึ้นและยินดีที่จะซื้อกาแฟในราคาสูงขึ้น ส่วนชาวสวนก็จะขายได้ในราคาดีขึ้น

ซึ่งสุดท้ายแล้วเป็นการยกระดับคุณภาพและราคาทั้ง Supply Chain ที่ทุกคนตั้งแต่ชาวสวนจนถึงผู้บริโภคได้ประโยชน์ร่วมกัน

illy จึงซื้อกาแฟด้วยราคาที่สูงกว่าราคาตลาดถึง 30% เพื่อให้ได้กาแฟคุณภาพระดับพรีเมียม และมีการให้รางวัล Ernesto Illy Prize ทุกปี ให้กับผู้ปลูกกาแฟที่มีคุณภาพดีที่สุดด้วย

illy Coffee ธุรกิจครอบครัวผู้คิดค้นกาแฟแคปซูล สู่บริษัทกาแฟที่มี ESG ดีที่สุดในโลก

นอกจากนี้ ในปี 1999 illy ยังก่อตั้งมหาวิทยาลัยกาแฟ Unicaffe หรือ University of Coffee ที่ขยายจนในปัจจุบันมี 27 สาขาทั่วโลก เพื่ออบรมชาวสวนกาแฟฟรีและรับซื้อจากชาวสวนที่รับการอบรมนี้ในราคาพรีเมียม โดยไม่ได้ผูกมัดว่าเกษตรกรต้องขายให้ illy เท่านั้น

ซึ่งต่อมา illy ยังขยายการอบรมไปสู่ผู้ประกอบการอื่น ๆ ใน Supply Chain เช่น คนชงกาแฟ ตลอดจนผู้ดื่ม เป็นการสร้างวัฒนธรรมการดื่มกาแฟคุณภาพสูงให้ขยายวงกว้างขึ้น

ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

หลังจากที่ Andrea ก้าวลงจากตำแหน่ง CEO ของ Illycaffè แล้ว เขามุ่งให้ความสำคัญต่อความท้าทายที่เขาคิดว่ายิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่อุตสาหกรรมกาแฟเคยเผชิญมา นั่นคือปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change

นอกเหนือจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปจะส่งผลให้คุณภาพกาแฟลดลงแล้ว สถานการณ์ Climate Change ยังอาจนำไปสู่วิกฤตการขาดแคลนกาแฟอีกด้วย

มีการคาดการณ์ว่ากว่า 50% ของพื้นที่ปลูกกาแฟทั่วโลกในปัจจุบันอาจจะปลูกกาแฟไม่ได้อีกต่อไปในปี 2050 ในขณะที่ความต้องการบริโภคของโลกยังสูงขึ้นในอนาคต

Illycaffè จึงตั้งใจที่จะร่วมแก้ปัญหา Climate Change อย่างจริงจัง ประกาศว่าบริษัทจะเป็น Carbon Neutral ภายในปี 2033 และ Carbon Negative ในที่สุด

แต่ Andrea Illy กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือความร่วมมือกันของทั้งอุตสาหกรรมในการช่วยเหลือกัน ทั้งด้านองค์ความรู้ เงินทุน และทรัพยากรอื่น ๆ ซึ่งเราไม่มีเวลาเหลือมากนัก

illy Coffee ธุรกิจครอบครัวผู้คิดค้นกาแฟแคปซูล สู่บริษัทกาแฟที่มี ESG ดีที่สุดในโลก

ปรับตัว แต่ยึดมั่นจิตวิญญาณ

สำหรับอนาคตนั้น illy ตระหนักว่าธุรกิจกาแฟในตลาดพรีเมียมย่อมถึงจุดอิ่มตัวในที่สุด สมาชิกครอบครัวจึงหารือกันถึงก้าวต่อไปของธุรกิจครอบครัว

ทางเลือกมีอยู่ 2 ทาง ได้แก่ การขยายตลาดโดยผลิตกาแฟคุณภาพต่ำลง หรือการขยายธุรกิจไปสู่ผลิตภัณฑ์คุณภาพพรีเมียมอื่น ๆ

แน่นอนว่าฉันทมติของตระกูล illy ที่ยึดถือหลักว่าคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญที่สุดย่อมเป็นทางเลือกที่ 2 โดย illy ได้ซื้อกิจการช็อกโกแลต ชา และไวน์พรีเมียมหลายกิจการในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา

จริยธรรม ESG ที่มีอยู่ในสายเลือด

ธุรกิจครอบครัวของตระกูล Illy สะท้อนให้เห็นถึงการคำนึงถึงประเด็นด้าน ESG ที่ปลูกฝังและส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น

เริ่มต้นจาก Francesco ผู้ก่อตั้งที่ให้วางรากฐานการผลิตที่มีคุณภาพตลอดกระบวนการ และส่งต่อมายัง Ernesto ที่ให้ความสำคัญกับจริยธรรมในการทำธุรกิจ

ก่อนที่ Ernesto จะเสียชีวิต เขาได้บอก Andrea ว่า สิ่งสำคัญสิ่งเดียวในการทำธุรกิจคือจริยธรรม การทำธุรกิจคือการทำเพื่อลูกค้า ครอบครัวหรือผู้ถือหุ้นนั้นทำงานให้บริษัท แต่สุดท้ายแล้วบริษัทเป็นของลูกค้า

Andrea ทายาทรุ่นสามก็ยึดมั่นในหลักการนี้ เขากล่าวว่า กำไรที่เกิดจากการไม่มีจริยธรรม ทั้งจากการลดคุณภาพสินค้า กดราคาวัตถุดิบ หรือจ่ายค่าจ้างที่ไม่เป็นธรรมนั้นเป็นการทำร้าย Stakeholders ซึ่งท้ายที่สุดแล้วก็ทำให้ธุรกิจไม่ยั่งยืน

คำพูดตอนหนึ่งในบทสัมภาษณ์ของ Andrea ได้สรุปการสืบทอดจิตวิญญาณของตระกูล Illy ไว้อย่างดีว่า

“เมื่อปู่ของผมตั้งบริษัทขึ้นมา เขาต้องการขายกาแฟที่ดีที่สุดในโลก ปัจจุบันเราก็ยังยึดมั่นในเป้าหมายนั้นอยู่”

และแน่นอนว่าสำหรับ illy แล้ว กาแฟที่ดีนั้น ต้องดีต่อ Stakeholders ทุกคนด้วย

สูตรการทำธุรกิจครอบครัวของ illy Coffee บริษัทที่เชื่อเรื่อง ESG จนเป็นบริษัทที่มีจริยธรรมสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ข้อมูลอ้างอิง
  • “illy’s Winning Blend: The Family Behind Italy’s Famous Office Is on the Move” by Robert Camuto
  • www.cnbc.com/amp/2016/08/05
  • www.lavocedinewyork.com/en/food
  • www.ft.com/content
  • www.pwc.com/gx/en/services
  • www.hbr.org/2022/09
  • www.twitter.com/andrea_illy
  • www.thegrocer.co.uk/big-interview
  • www.teaandcoffee.net/news/20379
  • www.ivancarvalho.com/adv/full-of-beans

Writer

Avatar

ดร.กฤษฎ์เลิศ สัมพันธารักษ์

ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ University of California, San Diego นักวิชาการผู้หลงใหลเรื่องราวจากโลกอดีต รักการเดินทางสำรวจโลกปัจจุบัน และสนใจวิถีชีวิตของผู้คนในโลกอนาคต