17 กุมภาพันธ์ 2024
707

วันหยุดนี้ ถ้านึกครึ้มอยากเติมความหอมให้บ้านคุณด้วยวิธี DIY ง่าย ๆ ทำได้ไม่ถึง 10 นาที (แต่ระหว่างทางที่เตรียมวัตถุดิบอาจจะนานกว่านั้นนะ) ลองมาปรุงเครื่องหอม DIY Potpourri Bag หนึ่งในเวิร์กช็อปคลาสมินิสุดฮิตของ Sugar & Spice Club เวิร์กช็อปเอเจนซี่ดีไอวายที่หลงใหลในความคราฟต์ 

Potpourri คืออะไร

เมื่อพูดถึง Potpourri (พอต พัว รี) หรือที่บางคนอาจเคยได้ยินชื่อแบบไทย ๆ ที่เรียกว่า ‘บุหงารำไป’ ลองนึกภาพเครื่องหอมในรูปแบบดอกไม้แห้งบรรจุในถุงผ้าแก้วแบบไทย ๆ ผูกไว้ในรถและในตู้เสื้อผ้า นั่นแหละคือ Potpourri เครื่องหอมที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน หรือถ้าใครสายแต่งบ้านหน่อย เดิน IKEA เข้า Zara Home จะต้องเหลือบไปเห็นชุดเครื่องหอม Potpourri ถุงใหญ่ ๆ วางหอมเตะจมูกแต่ไกล นั่นก็คือหนึ่งในไอเทมความหอมที่เติมเสน่ห์ให้กับบ้านได้ด้วย 

Potpourri คือการผสมผสานระหว่างกลีบดอกไม้กับเครื่องเทศหรือน้ำปรุงหอม ๆ เป็นศาสตร์ความหอมที่มีมาตั้งแต่โบราณ โดยนำกลีบดอกไม้มาตากให้แห้ง ก่อนจะนำไปผสมคลุกเคล้ากับน้ำหอม น้ำมันหอม หรือปัจจุบันนิยมใช้ Essential Oil ก่อนบรรจุลงในถุงผ้าโปร่งเพื่อให้กระจายกลิ่นได้ดี หรือบางบ้านแถบยุโรป เราจะเห็นการอบโดยใส่โถแก้วปิดฝาเอาไว้จนหอมได้ที่ จากนั้นก็เปิดไว้เพื่อให้กลิ่นหอมกระจายตามมุมบ้าน

โดยพื้นฐานแล้ว Potpourri สไตล์ยุโรปมักเลือกใช้กลีบดอกไม้แห้งที่มีกลิ่นบาง ๆ ของตัวเองเป็นพื้นฐาน เช่น กลีบกุหลาบและลาเวนเดอร์แห้ง รวมถึงใช้ลูกสนจิ๋วหรืออบเชย (แต่ส่วนตัวเราว่าอบเชยมีกลิ่นเฉพาะตัวมากเกินไป อาจไม่ใช่สไตล์) แต่ครั้งนี้เราอยากชวนคุณผู้อ่านมารู้จักกับ Potpourri แบบไทย ๆ จากดอกไม้ป่าแห้งกัน 

อุปกรณ์

  1. ถุงผ้าดิบหรือถุงผ้าสาลูเนื้อโปร่งบางเพื่อให้กระจายกลิ่นได้ 
  2. ดอกสะแกอบแห้ง (คนขายวัตถุดิบบางเจ้าจะย้อมสีเพื่อความสวยงาม) หาซื้อได้ในแอปฯ ส้มและแอปฯ น้ำเงินที่เราคุ้นเคย คุณสมบัติของดอกสะแกคือมีรูปทรงสวยงาม ย้อมสีติดทน และเนื้อดอกไม้แห้งกระจายกลิ่นได้ดี 
  3. แผ่นโสน (ในวงการเครื่องหอม ดอกโสนจะมีเยื่อสีขาวบาง ๆ ช่างฝีมือนิยมนำเยื่อโสนมาขึ้นรูปเป็นกลีบดอกไม้ และเป็นหนึ่งในก้านไม้หอม Reed Diffuser ได้ ด้วยคุณสมบัติของเยื่อที่บาง ซึมซับและกระจายกลิ่นได้ดี) เราเลือกแบบเป็นก้านกลม ๆ ตัดมาสำเร็จแล้ว 
  4. ขี้หนอน ลักษณะคล้ายดอกสะแก แต่มีเนื้อใบที่บางกว่า สีขาวละมุน ช่วยเก็บกักกลิ่นและกระจายกลิ่น 
  5. ลูกหวาย กิ่งก้านเล็ก ๆ เติมความสวยงาม
  6. บัวตอง บัวตองแห้งจิ๋วตากแห้ง เป็นดอกไม้จากธรรมชาติ ผลผลิตมักออกช่วงกลางปี 
  7. น้ำหอม : เลือกเติมความหอมได้ตามสไตล์ของคุณเลย บางท่านเลือกใช้ Essential Oil หรือ Fragrance Oil

วิธีปรุงกลิ่นหอม

1. นำดอกไม้แห้งทุกชนิดรวมถึงลูกหวายมาผสมกันในถ้วยเล็ก ๆ 

2. หยด Essential Oil จำนวน 20 หยดลงไป (จำนวนขึ้นอยู่กับขนาดของถุงหอมและความหอมที่ผู้ปรุงพึงพอใจ) โดยในการสาธิต เราเลือกใช้ Essential Oil แบบไม่ผสมแอลกอฮอล์เพื่อไม่ให้มีกลิ่นฉุน) 

3. คลุกเคล้าให้ทั่ว และเลือกบรรจุในภาชนะปิดไว้ 2 – 3 ชั่วโมง (หรือหากเป็นการทำถุงหอม บางชนิดที่เลือกใช้วัตถุดิบอย่างหินมวลเบา เราจะอบหินให้หอมไว้นานข้ามวันเลยล่ะ ยิ่งอบความหอมนาน ๆ กลิ่นก็จะยิ่งชัดมากขึ้น)

4. ถ้ายังหอมไม่จุใจ เติมความหอมเพิ่มได้ตามใจผู้ปรุง 

5. หา Tag เล็ก ๆ น่ารัก เขียนเป็นของขวัญส่งมอบให้เพื่อนก็ได้เช่นกัน 

และนี่คือไอเดียง่าย ๆ ในการปรุงกลิ่นหอมด้วยตัวเอง ใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วคิดว่า แล้วฉันจะไปหาดอกไม้ป่าแห้ง ๆ เหล่านี้จากไหน เราขอแนะนำร้าน Pattra Natural ร้านขายสินค้าธรรมชาติและดอกไม้แห้ง ที่ตลาดนัดจตุจักร ซึ่งเราเป็นลูกค้าประจำร้านนี้มากว่า 10 ปี เคยถามเจ้าของร้านว่าสินค้าธรรมชาติเหล่านี้มาจากไหน เขาตอบว่ามาจากทั่วประเทศกันเลย รับรองว่าใครชอบงานคราฟต์ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน 

ส่วนน้ำหอมหรือ Essential Oil นั้นหาซื้อได้จากหลายร้าน ก่อนซื้อลองบอกเจ้าของก่อนว่าอยากได้กลิ่นสำหรับนำไปอบเป็น Potporrui โดยถ้าเลือกกลิ่นที่เบลนด์สำเร็จแล้วจะได้มิติที่หลากหลาย

Writer

Sugar & Spice Club

Sugar & Spice Club

คลับสำหรับคนรักงานคราฟต์ของเพื่อนสนิทสองคนที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2016 ปัจจุบันผันตัวมาเป็นเวิร์กช็อป Agency รับบริการจัดงานคราฟท์ทุกรูปแบบ และทำแบรนด์เล็ก ๆ sugarandspicegoodlife สรรหาของดีต่อใจมาขายแบบเล่น ๆ แต่จริงจัง