เรามักคุ้นเคยกับร้านอาหารขายเนื้อวัวล้วน ๆ เนื้อไก่ล้วน ๆ หรือร้านที่เสิร์ฟแค่เมนู Plant Based แบบ 100% แต่มีใครเคยเห็นร้านอาหารที่เสิร์ฟเมนูทำจากปลาเพียงชนิดเดียวเท่านั้นไหม

หลายคนอาจตอบในใจแบบเร็ว ๆ ว่า เคยสิ ก็ร้านที่ขายแค่ปลาแซลมอนไง หรือ ร้านที่ขายแค่เมนูปลาไหลญี่ปุ่นก็มีเยอะนะ แต่เชื่อไหมว่ายังมีร้านที่เสิร์ฟแค่เมนู ‘ปลาดุกเท่านั้น’ อยู่ด้วย

ดุกมั้ง (Duke Munk) ร้านอาหารในจังหวัดระยองที่เปลี่ยนปลาดุกย่างแบบเดิม ๆ ให้กลายเป็นเมนูโฮมเมดที่รับลูกค้าแค่วันละ 2 โต๊ะ ไอเดียการทำร้านอาหารสุดพิเศษเกิดจาก ดอกฝิ่น-ธเนศ ทรัพย์ศาสตร์ และ เนย-ณัชชา วารีรัตนโรจน์ สองคู่หูที่เป็นทั้งคู่รัก คู่คิด และคู่ครัว ของที่นี่

ดุกมั้ง ร้านของคนรักปลาดุกในระยองที่เสิร์ฟเฉพาะปลาดุก มี 8 เมนู รับลูกค้าวันละ 2 โต๊ะ

ก่อนที่ร้านดุกมั้งจะเกิดขึ้นในปี 2020 ดอกฝิ่นทำงานในวงการธุรกิจดนตรีและคอนเสิร์ต ส่วนเนยเดินทางมาจากอีกสายอาชีพอย่างกราฟิกดีไซเนอร์ แต่ท้ายที่สุดแล้ว ความรักที่มีต่อการทำอาหาร (แม้ว่าไม่ได้มีพื้นฐานการทำอาหารมาก่อน) ของทั้งคู่ ทำให้ร้านดุกมั้งที่เกิดมาเพื่อคนรักปลาดุกได้เริ่มต้นขึ้น

“ผมตั้งชื่อร้านว่า ดุกมั้ง เพราะผมอยากให้ลูกค้าเกิดความสงสัยว่าหน้าตาอาหารที่ผมเสิร์ฟดูไม่เหมือนปลาดุกที่เขาคุ้นชิน แต่จริง ๆ ที่มาของชื่อมีเรื่องเล่ามากกว่านั้นนะ” ดอกฝิ่นหัวเราะก่อนอธิบาย คำว่า ‘Munk’ ของชื่อร้านในภาษาอังกฤษ 

จริง ๆ แล้วเกิดจากคำว่า Monk แปลว่า พระ เพราะไอเดียการทำดุกมั้งเกิดจากความชื่นชอบกินปลาดุกในช่วงที่ดอกฝิ่นบวชที่ จ.ระยอง การบวชในครั้งนั้นทำให้เขาได้ลิ้มรสมันแทบทุกวัน และเขาก็ติดใจในรสชาติของเนื้อปลาดุกชนิดที่ไม่เบื่อเลย

“ตอนผมอยู่มหาลัย ผมกินปลาดุกทุกวันมาตลอด 4 – 5 ปี แต่ตอนบวชอยู่ ผมเห็นชัดขึ้นว่าเมนูจากปลาดุกมีไม่เยอะ ถ้าอยากกิน เราจะเจอแค่ปลาดุกย่าง ปลาดุกทอด ปลาดุกผัดพริกแกง หรือไม่ก็ปลาดุกฟู ผมเลยอยากลองกินที่เป็นเมนูอื่นบ้าง จึงเป็นที่มาของชื่อร้านด้วยว่า พอเราเสิร์ฟไปแล้ว คนกินก็จะสงสัยว่า เอ๊ะ นี่มันคือปลาดุกหรือเปล่านะ”

ดุกมั้ง ร้านของคนรักปลาดุกในระยองที่เสิร์ฟเฉพาะปลาดุก มี 8 เมนู รับลูกค้าวันละ 2 โต๊ะ

นอกจากปลาดุกแล้ว ดอกฝิ่นยังหลงใหลรสชาติของปลาไหลญี่ปุ่นมาก แน่นอนว่าอาหารญี่ปุ่นมื้อหนึ่งราคาไม่ใช่น้อย ๆ ต่อให้หลงรักเมนูนี้มากแค่ไหนก็อาจทานทุกวันไม่ได้ นี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่ประกอบสร้างให้ดอกฝิ่นตัดสินใจลุกมาปลุกปั้นดุกมั้ง ในเวอร์ชันการขายเมนูปลาดุกเป็นข้าวกล่องก่อน

“ตอนแรกผมแค่นั่งคิดเล่น ๆ ว่าปลาไหลญี่ปุ่นกับปลาดุกมีความเชื่อมโยงกันหรือเปล่า จนกระทั่งผมลองค้นหาข้อมูลแบบจริงจัง และพบว่ามันเชื่อมโยงกัน เพราะปลา 2 ชนิดนี้เป็นปลาหนังหรือปลาไร้เกล็ด ก้างเยอะ มีเนื้อนิดเดียวเหมือนกัน ผมเลยลองเอามาทำเป็นเมนูบ้าง ซึ่งผมชื่นชมวิธีการทำอาหารของคนญี่ปุ่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยเอาวิธีการสไตล์นั้นมาลองทําดู”

ทั้งคู่ขายดุกขายดีกันอยู่พักหนึ่ง จนลองเปิดหน้าร้านเล็ก ๆ ที่รับลูกค้าเพียงวันละ 2 รอบ รอบละ 1 โต๊ะ และที่รับจำนวนลูกค้าน้อยขนาดนี้ เพราะดอกฝิ่นลงครัวคนเดียวตั้งแต่แล่ ล้าง และลงมือปรุงอย่างพิถีพิถัน ทำทุกขั้นตอนด้วยความใส่ใจ ซึ่งทุกความใส่ใจล้วนใช้เวลามากเลยทีเดียว 

“ช่วงแรกผมทำขายให้เพื่อนหรือคนรู้จักก่อน ทำอยู่เป็นปีกว่าจะเริ่มเปิดร้านอย่างจริงจังแบบที่ชวนคนนอกมากิน แต่ร้านเดิมตรงนั้นก็ไม่ใช่ร้านจริงจังขนาดนั้นครับ แค่อยากใช้ประโยชน์จากพื้นที่ตรงนั้นมากกว่า ดุกมั้งเปิดย่านเอกมัย กรุงเทพฯ ได้ 2 ปี ก็ย้ายไปเปิดร้านอีกครั้งที่จังหวัดระยองครับ”

ดุกมั้ง ร้านของคนรักปลาดุกในระยองที่เสิร์ฟเฉพาะปลาดุก มี 8 เมนู รับลูกค้าวันละ 2 โต๊ะ

ปลาน้ำจืดบุกถิ่นปลาทะเล 

ดอกฝิ่นบอกกับเราว่า จริงๆ ร้านดุกมั้งที่เอกมัยถือเป็นร้านที่บรรยากาศดีมาก ลูกค้าไหลเข้ามารู้จักกับร้านมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ปัญหาน้ำท่วมกลับเป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุด จนดอกฝิ่นและเนยต้องโยกย้ายมาตั้งร้านที่จังหวัดระยอง และเปิดตัวร้านอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้เอง

เราลองถามทั้งคู่ว่าชอบบรรยากาศร้านที่ไหนมากกว่ากัน ทั้งคู่ตอบคล้าย ๆ กันว่าพวกเขาชอบที่จังหวัดระยอง เพราะการมาถึงในครั้งนี้ถือเป็นภารกิจสุดท้าทาย

ภารกิจที่ว่า คือภารกิจพาปลาน้ำจืดพิชิตใจคนทะเล

“เรามีข้อกังวลกันอยู่นะ เพราะเราขายปลาน้ำจืดในดงคนทะเล ทำเลตอนนี้คือชุมชนชาวประมง อย่างบ้านเนยเองก็เคยทําแพปลามาก่อน ซึ่งจริง ๆ แล้วคนทะเลเขาไม่กินปลาน้ำจืดกันหรอกครับ”

“คนทะเลไม่กินปลาน้ำจืดทุกชนิดเลย เป็นความเชื่อของรุ่นพ่อรุ่นแม่มากกว่า เขาเชื่อกันว่าปลาในทะเลดีที่สุดแล้ว อย่างคุณอาของเนยเขาก็ชอบพูดว่าจะกินปลาน้ำจืดไปทำไม ปลาทะเลบนเรือเยอะแยะ เพราะคนทะเลจับปลามาได้ เขาก็ได้กินปลากันแบบสด ๆ ในขณะที่ปลาน้ำจืดดูไม่สด แถมยังมีโคลนและสกปรกกว่าปลาทะเลด้วย” เนยเสริมความคิดเห็น

ดุกมั้ง ร้านของคนรักปลาดุกในระยองที่เสิร์ฟเฉพาะปลาดุก มี 8 เมนู รับลูกค้าวันละ 2 โต๊ะ

ท้ายที่สุดดอกฝิ่นและเนยก็พิชิตภารกิจนี้สำเร็จ เพราะการมาเปิดร้านขายเมนูปลาดุกล้วน ๆ ท่ามกลางร้านอาหารซีฟู้ดกลับเป็นจุดแข็งที่ทำให้คู่แข่งของดุกมั้งเป็นศูนย์ เพราะที่นี่ไม่มีร้านอาหารที่ขายเฉพาะปลาน้ำจืด คนระยองจึงให้ความสนใจและติดใจจนต้องกลับมาจองกันหลายหน

“คนรุ่นตาแซวตอนที่เขารู้ว่าผมเปิดร้านนี้ ‘น้องฝิ่นรู้ไหมว่าสมัยตาเด็ก ๆ บ่อปลาดุกแถวบ้าน ถ้าโยนหมาเน่าลงไป ซากหมาเกลี้ยงเลย’ ในเชิงวิทยาศาสตร์ก็จริงอย่างที่คุณตาพูดนะครับ”

ปลาดุกเป็นสัตว์ประเภท Scavenger หรือสัตว์ที่ย่อยโปรตีนจากพืชและสัตว์ได้ พฤติกรรมของมันจึงไม่ใช่ทั้งสัตว์นักล่าและไม่ใช่เหยื่อด้วย (เป็นสัตว์ที่ย่อยสลายได้หมดทุกอย่างจริง ๆ) 

“นั่นเป็นการส่งไม้ต่อให้คนเชื่อว่าปลาดุกมีกลิ่นเหม็นสาบ ก้างเยอะ กินยาก แถมยังสกปรก แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไป ตอนนี้มันกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจไปแล้ว มีระบบฟาร์มควบคุมการให้อาหารกันเป็นอย่างดี มีการขนส่งที่ดี ผมว่านี่คืออีกก้าวที่สู้กับมายาคติเก่า ๆ ได้บ้าง แต่บางทีข้อมูลชุดนี้อาจขยายออกไปไม่กว้างเท่าไหร่ ดุกมั้งเลยเป็นอีกแรงที่พยายามลบล้างสิ่งเหล่านั้นออกไป”

ดุกมั้ง ร้านของคนรักปลาดุกในระยองที่เสิร์ฟเฉพาะปลาดุก มี 8 เมนู รับลูกค้าวันละ 2 โต๊ะ

แล่ – ล้าง – ปรุง

ความเชื่อ 2 ข้อที่ดอกฝิ่นเล่าให้เราฟังก็ดูเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน เพราะเป็นความเข้าใจผิดที่ปลูกฝังในสังคมไทยมายาวนาน น่าสนใจว่าดอกฝิ่นและเนยเปลี่ยนความเชื่อนี้ในใจลูกค้าได้ยังไง

“ผมใช้ความพิถีพิถันของการทำอาหารครับ” หนุ่มผู้รักปลาดุกตอบยิ้ม ๆ

“ขนาดผมชอบกินมาก แต่มีอยู่ 2 อย่างของปลาดุกที่ผมไม่ชอบ หนึ่ง คือก้าง เพราะก้างเยอะ สอง คือกลิ่นไม่พึงประสงค์ เป็นกลิ่นจากน้ำและกลิ่นจากดินของแหล่งที่เลี้ยง”

เหตุผล 2 ข้อที่ดอกฝิ่นไม่ชอบในปลาดุก เป็นเหตุผล 2 ข้อสำคัญที่ทำให้ไม่ค่อยมีใครหยิบมาเป็นวัตถุดิบหลักในการทำอาหาร และเป็นเหตุผลที่ทำให้คนไม่ชอบกินด้วย 

 “กระบวนการสำคัญของดุกมั้ง คือเราพยายามเอากลิ่นและก้างออกให้หมด เพื่อลบล้างความเชื่อด้วยการล้างให้สะอาด ถ้าล้างสะอาด ยังไงกลิ่นก็หายไปเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว”

 ดอกฝิ่นอธิบายว่าจริง ๆ แล้วกลิ่นเหม็นคือกลิ่นที่มาจากเลือดของปลาดุก ซึ่งกลิ่นเหม็นที่หลายคนเคยได้กลิ่นจากการกินปลาดุกในร้านอื่น ๆ เป็นเพราะร้านอาหารเหล่านั้นไม่ได้ล้างทั้งตัวหรืออาจล้างแค่ผิว แล้วค่อยเอาสมุนไพรยัดเข้าไปในท้องปลาและย่างเสียแบบนั้นเลย

“ถ้าล้างแค่ผิว ยังไงก็ล้างเลือดจากเนื้อปลาไม่ได้ ผมเลยใช้กรรมวิธีล้างปลาแบบญี่ปุ่น คือแล่เนื้อออกมา แล้วล้างทําความสะอาดเนื้อปลาข้างใน ซึ่งกลิ่นหายเกือบทั้งหมดเลยนะ แต่วิธีการนี้ใช้เวลานานเกินกว่าจะทำเป็นอาชีพ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เรารับลูกค้าเยอะกว่านี้ไม่ได้ เพราะผมใช้เวลาไปกับการล้างปลาดุกประมาณครึ่งชั่วโมงเลยนะ วิธีนี้จึงไม่เหมาะกับร้านที่ต้องการความรวดเร็ว”

ดุกมั้ง ร้านของคนรักปลาดุกในระยองที่เสิร์ฟเฉพาะปลาดุก มี 8 เมนู รับลูกค้าวันละ 2 โต๊ะ
ดุกมั้ง ร้านของคนรักปลาดุกในระยองที่เสิร์ฟเฉพาะปลาดุก มี 8 เมนู รับลูกค้าวันละ 2 โต๊ะ

นอกจากพิถีพิถันในการล้างแล้ว ดอกฝิ่นยังต้องคัดปลาดุกที่เหมาะกับการทำเมนูอาหารด้วย ซึ่งไม่ใช่การคัดสายพันธุ์ แต่เป็นการคัดขนาดที่เหมาะสมต่างหาก

“ผมกำหนดให้ปลาดุกมีขนาดตัวละ 6 – 7 ขีด สำหรับการแล่ฟิลเลต์ให้ได้เนื้อที่มีน้ำหนัก 110 – 120 กรัม คือขนาดกําลังสวย และถ้าทาซอสลงไป รสชาติพอดีเสมอกัน หากใช้ตัวใหญ่กว่านี้ ซอสอาจซึมไม่ทั่วถึง ทำให้มีรสจืด ถ้าตัวเล็กไป ซอสก็อาจไม่ค่อยชุ่มฉ่ำ มีความแห้งไหม้หรือกรอบตรงปลายหนัง ดังนั้นการเลือกขนาดปลาดุกสำคัญพอ ๆ กับกระบวนการเตรียมเนื้อครับ”

แม้ดอกฝิ่นจะย้ำซ้ำ ๆ ว่าวิธีการนี้ของพวกเขาดูท่าจะไม่คุ้มสำหรับการทำธุรกิจเสียเท่าไร แต่เขายังยืนยันว่า แม้ฟังดูไม่คุ้มค่า แต่ผลลัพธ์ที่ออกมากลับน่าพึงพอใจ เพราะลูกค้าที่เข้ามาลิ้มลองก็มักได้ประสบการณ์ดี ๆ กลับไป ทั้งยังช่วยลบภาพจำเดิม ๆ ของเจ้าปลาดุกไปได้ทีละน้อยด้วย

ขั้นตอนมากมายที่ดอกฝิ่นและเนยเล่าให้ฟัง ทำเอาผู้เขียนอดสงสัยไม่ได้ว่า

‘อะไรคือความสนุกของการทําร้านอาหารที่ใช้วัตถุดิบหลักเพียงแค่อย่างเดียว’

“ปลาดุกสร้างเมนูที่ไม่มีวันตันได้ครับ เพราะทุกวันนี้ผมกับเนยก็มีลิสต์เมนูที่อยากทำยาวเหยียดเลย พอเราจํากัดตัวเองที่ปลาชนิดเดียวเดียว ผมกลับมองเห็นความเป็นไปได้แบบไม่จํากัด เพราะเมื่อเรามีวัตถุดิบหลักอยู่แล้ว การต่อยอดในวัตถุดิบที่มีอยู่มันจึงง่ายและคิดต่อยอดได้เยอะครับ”

ดุกมั้ง ร้านของคนรักปลาดุกในระยองที่เสิร์ฟเฉพาะปลาดุก มี 8 เมนู รับลูกค้าวันละ 2 โต๊ะ

กินดุกอะไรดี ที่ ดุกมั้ง

ดอกฝิ่นชื่นชมในกรรมวิธีการทำอาหารของคนญี่ปุ่นมาก เพราะเป็นกรรมวิธีที่สะอาดอย่างใส่ใจ เธอจึงมักทำอาหารด้วยแนวคิดแบบฝั่งญี่ปุ่นเสียส่วนใหญ่ แต่ช่วงหลังมานี้ก็แอบเพิ่มรสชาติไทย ๆ และกรรมวิธีแบบไทย ๆ เข้าไปในเมนูอาหารด้วย เราเลยขอให้ดอกฝิ่นและเนยพูดคุยถึงเมนูแนะนำของร้านให้ฟังหน่อย ดอกฝิ่นหัวเราะแล้วรีบบอกว่าจริง ๆ ที่ร้านไม่ได้มีเมนูไหนที่ยอดนิยมมากที่สุดหรอก เพราะร้านดุกมั้งมีเพียง 8 เมนู ซึ่งลูกค้าก็ชื่นชอบทั้ง 8 เมนูนี้เลยด้วย

ปลาดุกย่างซอสโชยุตะไคร้ 

เมนูซิกเนเจอร์สไตล์ญี่ปุ่น อร่อยแบบพอดีคำ ไม่ว่าใครมาก็ต้องสั่งเมนูนี้

กรรมวิธีการปรุงของเมนูนี้อิงจากวิธีการทำเมนูปลาไหลญี่ปุ่น ทางร้านเอาตัวซอสมาดัดแปลงนิดหน่อย เปลี่ยนจากซอสอูนางิที่มีความเค็มนัว ให้เป็นซอสเทริยากิที่มีความหวานกลมกล่อมมากขึ้น และใส่ตะไคร้ลงไปในซอส ดอกฝิ่นบอกเราว่า “ผมเชื่อว่าปลาดุกกับตะไคร้ ยังไงก็เป็นของคู่กันครับ”

‘ดุกมั้ง’ ร้านอาหารของคนรักปลาดุกเพื่อคนรักปลาดุก จ.ระยอง ที่ตั้งใจยกระดับปลาดุกไทยเทียบเท่าปลาไหลญี่ปุ่น
‘ดุกมั้ง’ ร้านอาหารของคนรักปลาดุกเพื่อคนรักปลาดุก จ.ระยอง ที่ตั้งใจยกระดับปลาดุกไทยเทียบเท่าปลาไหลญี่ปุ่น

ปลาดุกย่างซอสแจ่ว

เมนูย่างที่ทางร้านทำซอสแจ่วเอง เมนูนี้ใช้กรรมวิธีแบบปลาไหลญี่ปุ่น แต่รสชาติถูกปากคนไทยมากขึ้น แซ่บนัวตามประสาซอสแจ่ว และได้กลิ่นหอม ๆ ของควันจากปลาดุกที่ย่างบนเตาถ่าน

ดุกทอดกระเทียม

เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรขาดในเซตเมนูของดุกมั้ง เพราะใคร ๆ ได้ลองก็ต้องตาโตร้องโอ้โหให้กับความถึงเครื่องในการปรุงกระเทียมที่เข้ากันจนกินอร่อยแบบเพลิน ๆ

‘ดุกมั้ง’ ร้านอาหารของคนรักปลาดุกเพื่อคนรักปลาดุก จ.ระยอง ที่ตั้งใจยกระดับปลาดุกไทยเทียบเท่าปลาไหลญี่ปุ่น
‘ดุกมั้ง’ ร้านอาหารของคนรักปลาดุกเพื่อคนรักปลาดุก จ.ระยอง ที่ตั้งใจยกระดับปลาดุกไทยเทียบเท่าปลาไหลญี่ปุ่น

ยำมะม่วงดุกกรอบ

แม้เป็นเมนูใหม่ แต่ยำมะม่วงดุกกรอบก็ติด Top 3 ของเมนูที่ลูกค้าชอบสั่ง เพราะเมนูยำให้ความสดชื่น เนื้อปลากรอบกำลังดี เคี้ยวเพลิน (เมนูนี้เหมาะกับการทำเป็นกับแกล้มเหมือนกันนะ)

ดุกทอดน้ำปลา

ใครเคยกินเมนูปลากะพงทอดน้ำปลาควรลองชิมเมนูนี้ เป็นเมนูใหม่ล่าสุดของร้านที่มีต้นแบบมาจากเมนูยอดฮิต การันตีความถึงเครื่อง รับรองว่าน้องดุกอร่อยไม่แพ้พี่กะพงแน่นอน

‘ดุกมั้ง’ ร้านอาหารของคนรักปลาดุกเพื่อคนรักปลาดุก จ.ระยอง ที่ตั้งใจยกระดับปลาดุกไทยเทียบเท่าปลาไหลญี่ปุ่น
‘ดุกมั้ง’ ร้านอาหารของคนรักปลาดุกเพื่อคนรักปลาดุก จ.ระยอง ที่ตั้งใจยกระดับปลาดุกไทยเทียบเท่าปลาไหลญี่ปุ่น

มั้ง Belly (พุงปลาดุกย่าง) 

เมนูนี้ได้เนื้อมาจากส่วนท้องของปลาดุก ดอกฝิ่นใช้เวลาทดลองและคิดค้นวิธีการจัดการกับส่วนท้องของปลาอย่างจริงจัง เพราะส่วนนี้คือส่วนที่กินยากและกลิ่นคาวแรงที่สุด แต่รับรองว่าผลการทดลองของดอกฝิ่นครั้งนี้จะทำให้ทุกคนที่ได้ลิ้มรสพุงปลาดุกจนติดใจและอยากกลับมากินอีกครั้งแน่นอน

ลาบดุก

ลาบดุกไม่ใช่การเอาเนื้อนิ่ม ๆ มาคลุกเคล้าและปรุงรส แต่เป็นการนำเนื้อไปซอยบาง ๆ แล้วเอาไปทอดจนเนื้อกรอบแบบพอดีคำ แล้วจึงเอาปลาดุกกรอบ ๆ มาปรุงรสลาบอีกที

‘ดุกมั้ง’ ร้านอาหารของคนรักปลาดุกเพื่อคนรักปลาดุก จ.ระยอง ที่ตั้งใจยกระดับปลาดุกไทยเทียบเท่าปลาไหลญี่ปุ่น
‘ดุกมั้ง’ ร้านอาหารของคนรักปลาดุกเพื่อคนรักปลาดุก จ.ระยอง ที่ตั้งใจยกระดับปลาดุกไทยเทียบเท่าปลาไหลญี่ปุ่น

ดุกปิ้ง

ดุกปิ้งเป็นเมนูเบสิกที่นำปลาดุกมาเสียบไม้เล็ก ๆ คล้ายการทำหมูปิ้ง ดอกฝิ่นบอกเราว่าเมนูนี้มีความสนุกซ่อนอยู่ในตัว เพราะ 7 เมนูแรกที่ดอกฝิ่นเล่าให้ฟัง เนื้อปลาดุกมีความแตกต่างกันมาก 

“ดุกย่างเป็นเมนูที่เรานำเนื้อปลาชิ้นหนาไปย่างแบบนุ่มชุ่มฉ่ำ ส่วนดุกทอดมีความกรอบ ผมตั้งใจให้ดุกปิ้งมีความพอดีระหว่างดุกย่างกับดุกปิ้ง นำปลาดุกเป็นชิ้นเล็ก ๆ เอาไปย่างบนไฟอ่อน เพื่อให้ปลากึ่งกรอบกึ่งนิ่ม ได้ลิ้มสัมผัสอีกแบบ”

ปลาดุกที่ดี ควรมีทุกมื้อ

ถ้าลองกดดูรีวิวหรือคอมเมนต์บน Google Maps ของร้านดุกมั้ง เราเห็นลูกค้ารีวิวเป็นในทางเดียวกันว่า ปลาดุกทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ จนถึงลูกค้าที่อยากบอกเล่าเรื่องราวความประทับใจในรสชาติที่แปลกใหม่ของดุกมั้ง บ้างก็แวะเวียนมาเล่าให้ฟังว่าพวกเขาเคยกินแค่ปลาดุกฟูหรือไม่ก็ปลาดุกทอดผัดพริกแบบที่ใคร ๆ ก็ทำกัน แต่ก็ยังมีลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่ทำให้ดอกฝิ่นและเนยอิ่มเอมหัวใจที่สุด

“ฟีดแบ็กจากคนที่ไม่กินปลาดุกเติมเต็มเรา 2 คนที่สุดนะ ผมชอบมากเวลาที่ลูกค้าบอกว่าปกติเขาไม่กินนะ เพราะเคยกินแล้วไม่อร่อย แต่พอมาร้านเราเขากินได้ ยิ่งกว่านั้น บางทีลูกค้าพาเพื่อนที่ไม่เคยกินและไม่สนใจมาลองชิมที่ร้าน ซึ่งเพื่อนเขากลับชอบ เราดีใจที่ได้เป็นความประทับใจแรกที่ดีให้เขา ผมชอบมากที่เปลี่ยนใจคนไม่กินให้มาชอบกินปลาดุกได้”

“ลูกค้าบางคนว่า หลังจากนี้จะลองกินปลาดุกร้านอื่นบ้าง กลายเป็นว่าเราทําให้เขาชอบปลาชนิดนี้กว่าที่เคยเป็น อย่างที่พี่ฝิ่นบอก เขาอยากสร้างลัทธิให้คนมาชอบปลาดุกด้วยกัน” เนยหัวเราะ

การสร้างลัทธิปลาดุกอย่างที่ทั้งคู่คาดหวัง นอกจากเริ่มต้นด้วยความพิถีพิถันในทุกกรรมวิธีแล้ว ดอกฝิ่นและเนยยังเริ่มขยับขยายและวาดภาพปลาดุกในรูปแบบใหม่ ๆ ที่สนุกยิ่งขึ้นเอาไว้ด้วย

‘ดุกมั้ง’ ร้านอาหารของคนรักปลาดุกเพื่อคนรักปลาดุก จ.ระยอง ที่ตั้งใจยกระดับปลาดุกไทยเทียบเท่าปลาไหลญี่ปุ่น

“เรามีเพจดุกมั้ง Café ด้วยนะครับ เป็นอีกโปรเจกต์ที่อยากทําตั้งแต่อยู่กรุงเทพฯ ดุกมั้งมีความเป็นมื้อเย็น เหมือนได้มากินข้าวบ้านเพื่อน แต่เราอยากแตกรูปแบบอาหารให้เป็นมื้อสาย (Brunch) เพราะอาหารแต่ละมื้อใน 1 วันแตกต่างกัน ซึ่งดุกมั้งเราทำมื้อเย็นมาตลอด เลยอยากมีมื้ออื่นบ้าง”

เราขอให้ดอกฝิ่นแอบเล่าให้ฟังหน่อยว่าดุกมั้งมื้อสายจะมีอาหารแบบไหนบ้าง

“อาจมีเมนูสไตล์ข้าวเกรียบ ปลาแครกเกอร์ที่ออกแบบไว้ให้กินคู่กับชาหรือทานคู่กับกาแฟ มีเมนูแซนด์วิชปลาดุก สไตล์การเข้าครัวคิดว่าน่าจะออกไปทางครัวฝรั่ง เน้นกินไว มาไว แล้วก็เน้นแนวคาเฟ่หน่อย ๆ เป็นเมนูที่ไม่ใช่อาหารหนัก สะอาด กินง่าย เป็นเมนูที่ทําแล้วหน้าไม่มันนั่นแหละครับ”

ดอกฝิ่นตอบเคล้าเสียงหัวเราะ คุยกันมาจนถึงตรงนี้ เราได้ย้อนดูตั้งแต่วันแรกที่ดุกมั้งยังส่งปลาดุกแพ็กลงกล่องขายแบบดิลิเวอรี จนมาถึงวันนี้… วันที่ปลาน้ำจืดได้มีหน้าร้านท่ามกลางจังหวัดแห่งปลาทะเลโดยไม่ถูกกีดกัน เรามั่นใจว่าทั้งคู่คงได้รับสิ่งสำคัญจากการเดินทางไปพร้อมกับปลาดุก

‘ดุกมั้ง’ ร้านอาหารของคนรักปลาดุกเพื่อคนรักปลาดุก จ.ระยอง ที่ตั้งใจยกระดับปลาดุกไทยเทียบเท่าปลาไหลญี่ปุ่น

“ทุกวันนี้ผมกินข้าวอร่อยขึ้นนะ เราไม่ใช่มืออาชีพ เราไม่ได้เป็นเชฟมาก่อน แต่เราอาศัยความชอบแล้วทำซ้ำ ๆ เราหาความรู้เพิ่มเติมตลอด จนทุกวันนี้พวกเรายังเจออะไรใหม่ ๆ ในครัวเสมอ ยิ่งไปกว่านั้น เรามีมุมมองของทั้งคนกินและคนทำอาหาร เวลากินอาหารร้านอื่น เราสนุกกับการกินมากขึ้น เหมือนเรากินไอเดียเข้าไปด้วย และไอเดียนั้นก็กลั่นออกมาเป็นไอเดียใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าเราด้วยครับ”

เราเชื่อว่าเมื่อมีแพสชัน แพสชันเหล่านั้นย่อมพ่วงมากับความสุข ซึ่งความสุขของดอกฝิ่นและเนยคงเป็นการรู้จักปลาดุกมากขึ้น และส่งต่อมันในแง่มุมใหม่ให้คนอื่น ๆ ได้ตกหลุมรักไปด้วยกัน

“การมอบความสุขให้คนอื่น คือความสุขของพวกเราครับ พวกเราใส่ใจในทุกจานที่ทำ เมื่อลูกค้าได้กินของอร่อยจากฝีมือของเรา นั่นกลายเป็นความสุขในทุก ๆ วันของชีวิต และถ้าปลาดุกไปได้ไกลกว่านี้ ผมคงมีความสุขมาก เพราะจะดีกับห่วงโซ่ ทั้งคนเลี้ยง ร้านอาหาร และคนก็น่าจะกินปลาดุกกันเยอะขึ้น ผมอยากให้ปลาดุกเป็นเหมือนปลาไหลญี่ปุ่น ผมอยากเห็นปลาดุกแมสขึ้นให้ได้ในสักวันหนึ่งครับ”

‘ดุกมั้ง’ ร้านอาหารของคนรักปลาดุกเพื่อคนรักปลาดุก จ.ระยอง ที่ตั้งใจยกระดับปลาดุกไทยเทียบเท่าปลาไหลญี่ปุ่น
ดุกมั้ง (Duke Munk)
  • 231/1 ถนนตากสินมหาราช ตำบลท่าประดู่ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง (แผนที่)
  • เปิดบริการวันพุธ-อาทิตย์ รอบกลางวัน เวลา 11.00 – 13.00 น. รอบเย็น เวลา 18.00 – 21.00 น.
    เปิดรอบละ 1 โต๊ะ สูงสุดไม่เกิน 8 ท่าน (ไม่จำกัดขั้นต่ำต่อรอบ)
  • 09 3139 8586
  • Duke Munk

Writer

Avatar

กชกร ด่านกระโทก

มนุษย์แมนนวล ผู้หลงใหลในกลิ่นและสัมผัสของหนังสือ ใช้เวลาว่างไปกับการอ่านนิยาย/มังงะ สนุกไปกับการเดินทาง และชื่นชอบในการเรียนรู้โลกทัศน์ของกลุ่มชาติพันธุ์

Photographer

Avatar

ชาคริสต์ เจือจ้อย

ช่างภาพอิสระและนักปั่นจักรยานฟิกเกียร์ ชอบสั่งกระเพราหมูสับเผ็ดน้อยหวานๆ