✕ Disneyland Paris / ✓ Street Art Paris

หากพูดถึงดิสนีย์แลนด์บนโลกใบนี้ มีทั้งหมด 6 แห่งทั่วโลก ได้แก่ Shanghai Disney Resort (จีน), Hong Kong Disneyland (ฮ่องกง), Tokyo Disney Resort (ญี่ปุ่น), Walt Disney World Resort (ฟลอริดา, สหรัฐอเมริกา), Disneyland Resort (แคลิฟอร์เนีย, สหรัฐอเมริกา) และ Disneyland Paris (ฝรั่งเศส) 

ดิสนีย์แลนด์ ปารีส ถือเป็นหนึ่งในความฝันของนักล่าดิสนีย์แลนด์จากทั่วโลกที่อยากจะมาเยือนให้ได้สักครั้ง เพราะมีจุดเด่นอย่างปราสาทที่ถอดแบบจากการ์ตูน เจ้าหญิงนิทรา (Sleeping Beauty) เพียงนั่งรถไฟประมาณ 1 ชั่วโมงจากใจกลางเมืองปารีส คุณก็จะได้สัมผัสโลกแห่งจินตนาการในวัยเด็ก

แต่!! นั่นไม่ใช่สำหรับผม ผมจะพาคุณลงที่สถานีก่อนหน้าดิสนีย์แลนด์ ปารีส 1 สถานี แล้วบุกไปยังโครงการศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ซึ่งห่อหุ้มด้วยสตรีตอาร์ตจากบรรดาศิลปินแถวหน้าทั่วยุโรป

วันว่างเป็นเหตุ

เนื่องจากเป็นช่วงที่มหาวิทยาลัยปิดเทอมพอดี ผมเลยมีเวลาว่างค้นหางานสตรีตอาร์ตของศิลปินที่ชอบจากในเว็บไซต์ ซึ่งเป็นงานที่สร้างขึ้นในปารีสและพื้นที่ใกล้เคียง เพราะอยากไปสัมผัสด้วยตาเนื้อสักครั้งก่อนที่มันจะหายไป และเก็บเอามาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างงานของตัวเอง ซึ่งสตรีตอาร์ตเหล่านั้นอยู่ในสถานที่ที่เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ห่างจากใจกลางเมืองปารีสราว ๆ 1 ชั่วโมง แถมยังต้องต่อรถบัสไปอีก 5 สถานี เอาวะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ลุย! เจอกันที่ ‘คลุ ดู แชน’ (Clos du Chêne)

หลังจากลงรถบัสต้องเดินเท้าอีกประมาณ 600 เมตรกว่าจะถึงโครงการ ซึ่งผมเลือกทางที่ใกล้ที่สุดเพื่อไปเจองานของศิลปินคนโปรด นั่นคือ Hopare และเป็นอย่างที่คาดหวัง ผลงานของเขายังคงสมบูรณ์แบบ แม้รังสรรค์ขึ้นตั้งแต่ปี 2021 ทุกเส้นสายจากฝีแปรง ทุกเม็ดสีที่พ่นออกจากแรงดันในกระป๋องสเปรย์ ยังสวยงามเหมือนภาพในโซเชียลที่เคยดู 

ผมใช้เวลาถ่ายรูปและยืนจ้องรายละเอียดของงานสีแดง-ดำบนผนังอยู่พักหนึ่ง จนกระทั่งได้อ่านป้ายข้าง ๆ ผลงาน มีประโยคหนึ่งระบุเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า Parcours street art Clos du Chêne แปลว่า เส้นทางชมสตรีตอาร์ตของศูนย์การค้าแห่งนี้ นั่นเอง

คุณพระ! ไม่ได้มีแค่หนึ่ง มันมีอีกว่ะ ผมกวาดสายตาดูรอบ ๆ ปรากฏว่าแทบทุกพื้นที่ว่างภายนอกอาคารปกคลุมด้วยผลงานศิลปะหลายสิบชิ้น จาก Street Artist ตัวท็อปของปารีสและยุโรป

ไม่ว่าจะเป็นบนผนัง ฝ้าเพดาน ตู้งานระบบ แม้กระทั่งป้ายจำกัดความสูงของรถยนต์

Clos du Chêne 

Clos du Chêne เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ มีพื้นที่กว่า 54,000 ตร.ม. ประกอบด้วยอาคารทรงกล่องหลายอาคารกระจายตัวในพื้นที่ มีแบรนด์สินค้าชั้นนำกว่า 61 แบรนด์ นอกจากตัวอาคารแล้ว ยังมีสวนสาธารณะและสนามเด็กเล่น เพื่อเป็นที่รองรับกิจกรรมที่หลากหลายกว่าการจับจ่ายใช้สอย

ย้อนกลับไปในปี 2019 ผู้บริหารโครงการ (FREY Group) และเทศบาลเมืองท้องถิ่น มีความคิดริเริ่มที่จะเปลี่ยนพื้นผิวเปลือกอาคารอันว่างเปล่าให้กลายเป็นผืนผ้าใบสำหรับศิลปินแนวสตรีตอาร์ต โดยมีเป้าหมายว่า ‘ศูนย์การค้าแห่งนี้จะกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะแนวสตรีตอาร์ตที่ใหญ่ที่สุด’ 

คำว่า ‘สตรีตอาร์ต’ จากดุลพินิจของหลาย ๆ คน อาจหมายถึงรอยพ่นสีสเปรย์เปรอะเปื้อนบนกำแพงสาธารณะ บางทีก็มีถ้อยคำ-ความหมายค่อนข้างหยาบคาย บางทีก็จารึกด้วยรอยปากกา เขียนว่า ….พ่อทุกสถาบัน ตามประตูห้องน้ำสถานีเติมน้ำมัน 

หากลองจินตนาการภาพว่ามีงานศิลปะชิ้นสวยงามสร้างขึ้นบนกำแพงสาธารณะ จากพื้นที่ที่ไร้คนสนใจ กลับมีคนมาเดินชม ถ่ายรูป และสร้างรายได้เล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับคนในพื้นที่ งานชิ้นนั้นจะถูกมองว่าเป็นงานที่ควรเก็บรักษาไว้ เพราะดึงดูดคนเข้ามาในพื้นที่หรือไม่ 

หากมองความเป็นจริงแล้ว ผนังเปรียบดังผืนผ้าใบหรือพื้นที่แสดงออกทางความคิดของศิลปิน ผ่านเม็ดสีที่พ่นออกจากสเปรย์ ผ่านเส้นสายที่ลากผ่านปลายพู่กัน เพียงแต่ศิลปินเหล่านั้นไม่มีพื้นที่แสดงออกทางความคิดอย่างเสรี ‘กำแพง’ จึงเป็นสิ่งเดียวที่พวกเขาตะโกนความคิดออกมาได้

Allez Cuisine!

ปฐมบทของเรื่องราวเริ่มต้นจากศิลปินสตรีตอาร์ต นําทัพโดย Speedy Graphito และศิลปินระดับนานาชาติ 12 คน เช่น RNST, AKHINE, PRO176, LADY M มาร่วมกันรังสรรค์งานลงบนผนัง ทั้งหมด 21 ผลงาน โดยไม่มีข้อจํากัดด้านเทคนิคและวิธี โครงการนี้เปิดตัวและเผยแพร่สู่สายตาผู้ชมเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ปี 2019 ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ผู้คนต่างให้ความสนใจและให้ความสำคัญกับ ‘ศิลปินท้องถิ่น’ มากขึ้น จนกลายเป็นโครงการที่จัดต่อเนื่องในปีต่อ ๆ มา

จาก 1 – 94

หลังจากเดบิวต์อย่างเฉิดฉายในปีแรก กลุ่ม FREY ได้สานต่อโครงการอย่างต่อเนื่อง ในปีถัดมา พวกเขาได้กําลังเสริมจากศิลปินอีก 11 คน ผลิตผลงานทั้งหมด 18 ชิ้น, ในปี 2021 มีศิลปิน 12 คน ผลิตผลงานทั้งหมด 18 ชิ้น, ในปี 2022 มีศิลปิน 11 คน ผลิตผลงานทั้งหมด 20 ชิ้น และปี 2023 ที่ผ่านมา มีผลงานเพิ่มขึ้นอีก 17 ชิ้น จากศิลปิน 9 คน รวมทั้งหมด 94 ผลงาน จาก 43 ศิลปิน ซึ่งในแต่ละครึ่งมีทั้งศิลปินหน้าเก่าและหน้าใหม่ มาร่วมแต่งเติม สวมอาภรณ์ ให้อาคารมีชีวิตชีวาขึ้นตามแนวทางของพวกเขา

Personally Top 5

ผมอยากแนะนำ 5 ผลงานที่ประทับใจที่สุดใน Clos du Chêne ให้ทุกคนได้รู้จัก

อันดับที่ 5

Le Bernard โดย Kalouf

‘Le Bernard’ ย่อมาจากคำว่า Bernard-l’hermite แปลว่า ปูเสฉวน ผลงานนี้เป็นรูปปูเสฉวนสีเขียวมินต์สุดน่ารัก กำลังแบกกระดองที่ทำจากกระป๋องใช้แล้ว รายล้อมด้วยกราฟิกคล้ายกลุ่มควันด้านหลัง งานชิ้นนี้ตั้งอยู่ในตำแหน่งหมายเลข 21 เหนือ Pomme de Pain ร้านขนมแบรนด์ดังของฝรั่งเศส 

Kalouf หรือ Pascal Lambert เป็นศิลปินกราฟฟิตี้ชื่อดังชาวกาบอง (Gabon) ผลงานหลัก ๆ ของ เขาเป็นการสร้างงานในรูปแบบสัตว์ชนิดต่าง ๆ มีสีสันสดใส พร้อมเทคนิคเพนต์ด้วยสีอะคริลิกและการพ่นสีสเปรย์ งานของ Kalouf ส่วนใหญ่เป็นงาน Mural Art หรือการสร้างงานศิลปะบนกำแพงขนาดใหญ่ 

ติดตามดูผลงานของเขาได้ที่ Instagram : kaloufart

อันดับที่ 4

Festival โดย Vinie

ผลงานชิ้นนี้เป็นรูปตัวการ์ตูนผู้หญิง มีรูปลักษณ์เฉพาะตัวในสไตล์ของ Vinie

เป็นผู้หญิงดวงตากลมโต นั่งอยู่บนหน้าต่างของ Fitness Park มีทรงผมฟูฟ่องราวฟองสบู่ แถมสีสันสดใสสมกับคำว่า ‘Festival’ จริง ๆ งานชิ้นนี้ตั้งอยู่ในตำแหน่งหมายเลข 27 ของโครงการนี้

Vinie เป็นศิลปินกราฟฟิตี้ชาวตูลูส หลังย้ายเข้ามาปารีสในปี 2007 เธอก็สร้างสรรค์ผลงานบนกำแพงและผืนผ้าใบมากมาย ด้วยตัวการ์ตูนผู้หญิงที่มีเอกลักษณ์คล้ายตุ๊กตาในสไตล์ของเธอ ซึ่งทรงผมและท่าทางของตุ๊กตาสาวจะเปลี่ยนไปตามบริบทของความหมายที่ต้องการสื่อออกมา 

ติดตามดูผลงานของเธอ ได้ที่ Instagram : viniegraffiti

อันดับที่ 3

Faucon โดย Daco

งานชิ้นนี้ตั้งอยู่ในตำแหน่งหมายเลข 42 ผลงานเป็นรูปเหยี่ยวครึ่งตัว สร้างผ่านการเพนต์และพ่นเส้นสายรูปทรงให้ซ้อนทับกัน รวมประกอบร่างกันเป็นเหยี่ยวบนผนังสีเทาอ่อนของ Clos du Chêne

Daco เป็นศิลปินกราฟฟิตี้ชาวปาเลโซ ทางตอนใต้ของปารีส เขาเรียนรู้ทักษะการสร้างงานในโรงเรียนศิลปะและทำงานกราฟฟิตี้ไปในเวลาเดียวกัน นั่นทำให้เขาค้นพบแนวทางของตนเองอย่างรวดเร็ว 

เขาเริ่มสร้างงานด้วยสไตล์อักษรคลาสสิก หลังจากมีประสบการณ์มากขึ้นก็พัฒนาไปยัง Wild Style (มีรูปแบบตัวอักษรซับซ้อน แทบอ่านไม่ออก) Daco ก้าวข้ามไปสู่เส้นทางที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง โดยมี Graffaune เป็นดั่งลายเซ็นเฉพาะตัว ซึ่งผสมผสานระหว่างเทคนิคกราฟฟิตี้ที่มีเส้นเรขาคณิตประกอบกัน เพื่อสร้างความเคลื่อนไหวของเส้นสาย และรวมกันจนเป็นชิ้นงานรูปสัตว์ต่าง ๆ 

ติดตามดูผลงานของเขา ได้ที่ Instagram : dacopaint

อันดับที่ 2

Fragile โดย RNST

ผลงานหมายเลข 23 ชื่อ Fragile หรือ ความเปราะบาง งานชิ้นนี้อยู่ข้างทางเข้าร้านเครื่องครัว ECOCUISINE เป็นรูปหญิงสาวในท่าทางสงวนตัว เปรยสายตาทรงเสน่ห์ ถูกคาดตาด้วยคำว่า Fragile 

RNST เป็นศิลปินกราฟฟิตี้รุ่นใหญ่ชาวฝรั่งเศส เขาเกิดในปี 1972 และยุค 90 ถือเป็นยุครุ่งเรืองของกราฟฟิตี้ในฝรั่งเศส ศิลปินออกมาสร้างผลงานตามท้องถนนอย่างแพร่หลาย และเขาเป็นหนึ่งในนั้น 

เขามีความสามารถทุกประเภท พ่นสี โปสเตอร์ คอลลาจ ภาพพิมพ์ฉลุ (Stencil) ซึ่งถือว่าเป็นลายเซ็นของเขาเลยทีเดียว สไตล์งานทั้งหมดเป็นการผสมผสานกันระหว่างความตื่นเต้นเร้าใจและความโรแมนติก RNST มักแสดงออกผ่านชิ้นงานที่เป็นผู้หญิงในท่าทางต่าง ๆ ที่มีแววตาน่าหลงใหล 

ติดตามดูผลงานของเขา ได้ที่ Instagram : rnst_art

อันดับที่ 1

Werushka โดย Hopare 

เป็นใครไม่ได้นอกจากศิลปินโปรดของผม นั่นคือ Hopare ศิลปินกราฟฟิตี้และจิตรกรที่มีชื่อเสียงในยุคปัจจุบัน เขาประกอบเส้นสายสีแดง-ดำหลายพันเส้น ก่อร่างเป็นหญิงสาวเปลือยครึ่งท่อน เหม่อมองด้วยแววตาครุ่นคิด เส้นสายนับพันถักทอด้วยสีสเปรย์ ไล่เฉดจากแดงไปดำ เป็นเส้นสัญญะจากเทคนิคเฉพาะตัวของเขา ซึ่ง Werushka สร้างขึ้นในปี 2021 และอยู่ในตำแหน่งหมายเลข 49 ของโครงการ

Hopare หรือ Alexandre Monteiro จิตรกรและศิลปินกราฟฟิตี้ชื่อดังชาวฝรั่งเศส-โปรตุเกส เขาเติบโตในชุมชนทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงปารีส เริ่มกรุยเส้นทางแห่งศิลปะแนวกราฟฟิตี้ตั้งแต่อายุ 12 ปี Alexandre Monteiro ฝึกฝนด้วยตัวเอง และเขายังเป็นลูกศิษย์ของตัวตึงรุ่นใหญ่อย่าง Shaka 

วันเวลาผ่านไป เขากลายเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งในยุคนี้ของยุโรป และ Hopare มักแสดงความรู้สึกทางอารมณ์ผ่านงานประเภทบุคคล (Portrait) เข้าใช้เทคนิคการเพนต์สีด้วยฝีแปรงและเส้นสายจากกระป๋องสเปรย์ ถักทอเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านสีหน้าและแววตาของบุคคลที่เขาวาดขึ้น 

ติดตามดูผลงานของเขา ได้ที่ Instagram : hopare1

ทั้งหมดนี้คือ 5 ผลงานในโครงการ Clos du Chêne ที่ผมชอบมากที่สุด

ถ้าคุณเป็นคนที่รักงานศิลปะและชอบออกไปค้นหาอะไรใหม่ ๆ ผมแนะนำว่าการมาชมงานศิลปะที่ Clos du Chêne อาจทำให้มุมมองทางศิลปะและมุมมองที่มีต่อ Street Art ของคุณเปลี่ยนไป

— ใช้ชีวิตให้สนุกนะครับ —