22 มิถุนายน 2023
4 K

หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบมุกตลก เสียงหัวเราะ ความสนุกที่ถึงขั้นเรียกว่าเหนือจินตนาการ แต่ยังหาพื้นที่พักใจไม่เจอ เราขอแนะนำ ‘Buffalo Gags’ เพจขายขำอารมณ์ดีที่รังสรรค์ Meme คอนเทนต์จี้เส้นจนผู้อ่านอาจต้องวางสติลงก่อนรับชม

และหากได้รับชมคอนเทนต์ผ่านคลิปวิดีโอบน YouTube หรือ Instagram จะต้องคุ้นหน้าคุ้นตากับชายคนหนึ่งผู้เป็นพิธีกรหลักในรายการสัมภาษณ์ที่เรียกได้ว่า Parody มาจากรายการ ป๋าเต็ดทอล์ก เลยก็ว่าได้ แต่นี่ไม่ใช่การเลียนแบบ เพราะเขามาในชื่อของ ป๋าตึ้บทอล์ก

วันนี้เรามานั่งคุยกับ เบียร์-ศรัญญู เพียรทำดี แอดมินเพจ Buffalo Gags หรือพิธีกรหน้านิ่งจากรายการ BUFF TALK 

เบียร์ยังคงคาแรกเตอร์เช่นนั้น ในขณะที่เริ่มเล่าถึงจุดเริ่มต้นการเข้ามาเป็นแอดมินเพจให้เราฟัง

BUFF TALK | EP.0 | Buffalo Gags จากเพจมุกควายในตำนานสู่รายการชวนขำที่จริงจังมากที่สุด

Take 1
Buffalo Gags

“ย้อนกลับไป พ.ศ. 2553 เป็นช่วงที่เฟซบุ๊กเข้ามาใหม่ ๆ เป็นยุคของเพจแรก ๆ มีเพจคำคม เพจสมาคมมุกเสี่ยว”

เบียร์อธิบายให้เห็นถึงภาพรวมของเพจในช่วงนั้น ซึ่งมีเพียงเพจที่โพสต์มุกตลกเรียกเสียงฮาอย่าง Buffalo Gags เท่านั้นที่เข้าตากรรมการอย่างเขา แม้จะมียอดไลก์เพียงหลักพัน

จุดเริ่มต้นการเป็นแอดมินจึงไม่ใช่การสร้างเพจด้วยตนเองอย่างที่ใครหลายคนคิด

“จริง ๆ แล้ว เอม มือกลองวง SLUR เป็นคนเปิดเพจนี้ให้เป็นที่สำหรับเล่นมุกในค่าย Smallroom แต่ผมชอบเข้าไปเล่นมุกด้วยเพราะตรงจริตเรา เล่นขนาดที่มีคนถามว่าทำงานหรือเปล่า จนเอมชวนมาเป็นแอดมินด้วยกัน”

จากนั้นไม่นาน เดียร์ และ ต้อง ก็ถูกชักชวนเข้ามาเป็นแอดมินเพิ่มอีก ทำให้ Buffalo Gags มีแอดมินถึง 4 คนจนถึงปัจจุบัน ช่างเป็นที่มาแสนมึนงงสมกับที่เป็นเพจ Buffalo Gags จริง ๆ

ระหว่างนั้นเบียร์เองก็ทำงานประจำและช่วยกันคิดมุกตลกลงเพจไปด้วย แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็เริ่มมีกระแสการ Tie-in หรือโฆษณาเข้ามา โดยเฉพาะเพจที่มีไอเดียแปลกแหวกแนวและเป็นที่รู้จัก จะยิ่งมีลูกค้าเข้ามาจ้างงาน แม้จะยังไม่ใช่รายได้หลัก แต่ก็เป็นเหมือนการกรุยเส้นทางสู่อาชีพใหม่ที่มั่นคง

“งานคลิปวิดีโอที่เราทำก็เหมือนการรีวิวของ สร้างเรื่องราวมาคุยเล่นกับต้อง เล่นมุกรับมุกกัน ใส่เอฟเฟกต์เข้าไปให้คนดูสนุก”

คำว่า สนุก เป็นเหมือนคีย์เวิร์ดที่เบียร์พูดตลอดการให้สัมภาษณ์ ซึ่งเพจ Buffalo Gags ที่เขาทำอยู่นั้นตรงตามเงื่อนไขทุกข้อ แต่งานประจำอาจไม่ตอบโจทย์สักเท่าไร นั่นจึงเป็นเหตุผลให้เบียร์ตัดสินใจลาออกมาทำเพจอย่างเต็มตัวในที่สุด

BUFF TALK | EP.0 | Buffalo Gags จากเพจมุกควายในตำนานสู่รายการชวนขำที่จริงจังมากที่สุด

Take 2
ป๋าตึ้บทอล์ก แอ็กชัน!

หลังก้าวเดินออกจากงานประจำมาทำเพจเต็มตัว วงการเพจไทยก็เริ่มขยับขยาย มีคอนเทนต์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นทุกวัน สิ่งที่ทำให้เขาสะดุดคือความนิยมของ Buffalo Gags กลับมียอดคนดูน้อยลง ไม่ได้รับความนิยมเท่าแต่ก่อน ทำให้เหล่าแอดมินเพจต้องพักความตลกเอาไว้ชั่วครู่ นั่งประชุมกันอย่างจริงจังเรื่องการทำคอนเทนต์ใหม่

เหมือนดังยูเรก้าโมเมนต์ของ Buffalo Gags เมื่อเจ้าเพจมุกควายตัวนี้ได้ผลิตรายการลูกออกมา กลายเป็นรายการ ป๋าตึ้บทอล์ก ให้เราได้รับชม 

ซึ่งเนื้อหาและวิธีการนำเสนอก็ทำให้มึนตึ้บสมชื่อ โดยความตั้งใจตอนแรกคือการสัมภาษณ์เรื่องราวชวนขำ ในบรรยากาศซีเรียส ทั้งแขกรับเชิญกับพิธีกรเองต้องฝืนหน้านิ่งถ่ายจนจบ

“เราอยากได้รูปแบบรายการนั่งถาม-ตอบ แบบที่คำถามจะติ๊งต๊องหรือไม่มีสาระแค่ไหนก็ตาม แต่บรรยากาศรอบข้างต้องจริงจัง เป็นมืออาชีพ เราอยากให้มันขัดแย้งกันตรงนี้

“เราว่าการห้ามขำเป็นอะไรที่แม่งขำกว่าการขำอีก มันคือตลกที่มีความซับซ้อนขึ้นไป ยิ่งเราตั้งใจไม่ให้ขำ จะยิ่งขำง่าย”

พอรู้เช่นนั้น เบียร์และต้องก็เริ่มต้นจัดทำรายการทันที เรียกได้ว่าคุยเสร็จก็วิ่งไปหยิบกล้อง ตั้งไฟ ตั้งไมค์ เตรียมกันแบบง่าย ๆ จนเกิดเป็น ป๋าตึ้บทอล์ก EP.1 ต้อง Buffalo Gags (จักกิด วัยรุ่นเมกัน) ให้เราได้ดูกัน

ส่วนแรงบันดาลใจของ ‘ป๋าตึ้บ’ ต้องยกให้กับ ป๋าเต็ด หรือที่รู้จักในรายการ ป๋าเต็ดทอล์ก เพราะขนาดชื่อยังคล้ายกันขนาดนี้ ภาพบรรยากาศเองก็เป็นการนำภาพจำของรายการ ป๋าเต็ดทอล์ก มาอีกที หากเปิดพร้อมกันอาจเรียกได้ว่าเป็นฝาแฝดก็ไม่ผิดนัก กระทั่งโลโก้ของรายการ เบียร์ยังยอมรับว่าหยิบมาดัดแปลง

เหมือนจนเราคิดว่าคงมีการพูดคุยไถ่ถามกันมาก่อนแล้ว แต่ไม่ใช่เลย ป๋าเต็ดไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีอะไรกำลังรอเขาอยู่ใน YouTube 

BUFF TALK | EP.0 | Buffalo Gags จากเพจมุกควายในตำนานสู่รายการชวนขำที่จริงจังมากที่สุด

“เราเอารูปแบบรายการ ป๋าเต็ดทอล์ก มาโดยที่ไม่ได้บอกป๋าเต็ดก่อนเลย” เบียร์สารภาพ

ซึ่งหากเบียร์ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวกับป๋า เราคงจะได้เห็นการฟ้องร้องกันระหว่างป๋าเต็ดและป๋าตึ้บเกิดขึ้นในโลกโซเชียล โชคดีที่ป๋าเต็ดเองก็เข้าใจและสนับสนุนการทำรายการตลกคู่แฝด แถมยังกดแชร์เป็นการส่งให้ป๋าตึ้บได้เติบโตเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น 

“เหมือนเราเอาเสื้อผ้า ป๋าเต็ดทอล์ก มาคลุมแกนตลกของเรา คนดูจะเข้าใจว่าเป็นการล้อเลียน ไม่ใช่การทำตาม คือรายการนี้มีความเป็นเรา”

หลังเผยแพร่ EP. แรก เบียร์และต้องก็เริ่มเห็นถึงจุดเปลี่ยน จากเดิมที่ยอดวิวแต่ละคลิปมีจำนวนอยู่ที่หลักพัน รายการ ป๋าตึ้บทอล์ก ที่โผล่ออกมาเพียงไม่กี่วันก็กระโดดไปเป็นหลักหมื่น ทำให้ทั้งยอดผู้ติดตามและยอดคนดูเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 

ลำพังแค่ความตลกคงไม่อาจนำพา ป๋าตึ้บทอล์ก ไปสู่ยอดวิวหลักแสนได้ เบียร์บอกกับเราในมุมมองของคนดูเองว่า คอนเทนต์ที่แตกต่างจากคนอื่นนั่นแหละคือสาเหตุ

แม้จะมีกระแสความนิยมที่ดีและได้รับการยอมรับจากป๋าเต็ดเอง แต่สำหรับเบียร์ เขาอยากหยุดตำนาน ป๋าตึ้บทอล์ก ไว้เพียง EP.10 เท่านั้น เรียกว่าเป็นการลงแบบสวย ๆ ให้ทุกคนจดจำ 

แต่ไม่ต้องร้องไห้ไป เพราะเขากลับมาในรายการรูปแบบใหม่ที่ตลกมึนตึ้บเหมือนเดิม แต่มีภาพจำเป็นของตนเองอย่างแท้จริง

BUFF TALK | EP.0 | Buffalo Gags จากเพจมุกควายในตำนานสู่รายการชวนขำที่จริงจังมากที่สุด

Take 3 
BUFF TALK เตรียมพร้อมกลั้นขำนะครับ

พูดถึงรายการ BUFF TALK ที่กำลังดังเป็นพลุแตกมากขนาดนี้ เราเองก็อยากทราบและเชื่อว่าผู้อ่านก็ต้องอยากทราบถึงขั้นตอน รายละเอียดในการทำรายการ แนวคิด และความวายป่วงที่เกิดขึ้นในกองอย่างแน่นอน

จากที่เป็นรายการเหมือนเพื่อนนั่งคุยเล่นกัน ก็ต้องพัฒนาให้มีความเป็นมืออาชีพมากกว่าเก่า 

ไม่ได้ทำเพียงจัดฉาก วางเก้าอี้ โต๊ะ ไมค์ วางแขกรับเชิญไว้บนเก้าอี้หน้ากล้อง บังคับให้ทุกคนทำหน้านิ่งก็ถ่ายได้แล้ว ความเป็นจริงคือต้องเตรียมความพร้อมพอสมควร เหมือนรายการสัมภาษณ์มืออาชีพ บวกความตลกเข้าไปในภายหลัง

การเลือกแขกรับเชิญคือขั้นตอนแรกและขั้นตอนที่สำคัญที่สุด เพราะทิศทางของวิดีโอจะเป็นยังไงนั้น แขกรับเชิญคือเงื่อนไขหลักนั่นเอง

เบื้องต้น แขกรับเชิญและรายการต้องมีความใกล้เคียงกัน ชอบในสิ่งที่รายการเป็น ส่วนอีกเงื่อนไขคือฐานแฟนคลับของแขกรับเชิญ ซึ่งเบียร์ก็ให้เหตุผลว่า ไม่ใช่เพื่อให้รายการดัง แต่เขาเองมีเป้าหมายบางอย่าง

เพราะเขาอยากสร้างรากฐานของตนเองให้แข็งแรงพอจะรองรับและสนับสนุนให้วงการเพลงอินดี้ในประเทศไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้น ด้วยความที่เขาก็เป็นหนึ่งในคนที่เสพดนตรีและอยากเห็นกระแสอินดี้เติบโต แม้จะยังไม่ใช่ในตอนนี้ก็ตาม

คงไม่มีใครคาดคิดว่าจะได้เห็นเหล่าศิลปินที่ตนเองชอบในมุมที่ ‘รั่ว’ จนต้องตั้งคำถามว่านี่คือใครกัน ใช่วงที่เรารักหรือเปล่า วงดนตรีที่แต่งเพลงรักได้อย่างเข้าถึงอารมณ์พร้อมเรียกน้ำตาจากผู้ฟัง ในเวลานี้กำลังเล่นมุกควายโบ๊ะบ๊ะ ทำเอาแฟนเพลงเลือกไม่ถูกว่าจะขำหรือช็อกดี

ในฐานะพิธีกรของรายการ เบียร์บอกกับเราว่าเขาต้องการจะ ‘ตามเก็บ’ ศิลปิน นักแสดง หรือ YouTuber ที่ยังหลงเหลืออยู่ เพื่อมาทำลายภาพลักษณ์ของพวกเขาลงให้สิ้นซาก

“จะเห็นคอมเมนต์บ่อย ๆ ที่บอกว่า พี่เหลือวงให้ผมนับถือบ้างเหอะ หมดละภาพลักษณ์” เขายิ้มอย่างสะใจ

“เมื่อเราได้คอนเฟิร์มแขกรับเชิญแล้วว่าจะเป็นใคร แอดมินทุกคนก็จะคุยกัน หาข้อมูลกันว่าคนนี้มีผลงานอะไร รวมไปถึงเรื่องส่วนตัว โปรเจกต์ใหม่ ๆ ของเขา หลังจากนั้นจึงลองโยนคำถาม-คำตอบใส่กัน อันไหนที่ดีก็จดไว้ใช้”

เขาวางสคริปต์ให้อยู่ในการควบคุมได้ ยังคงตลก แต่ก็ไม่ออกทะเลมากเกินไป มีการปะปนกันอย่างลงตัวของความตึ้บ กำหนดคำถามที่ทั้งคาดเดาคำตอบได้บ้างหรือไม่ได้ เพราะท้ายสุดแล้วบทพูดก็เป็นเหมือนตัวนำทางเสียมากกว่า ไม่ได้หมายความว่าต้องตอบตามนั้นทุกอักษร เพื่อให้ออกมาเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่การท่องจำ 

ขั้นตอนสุดท้ายคือการนำคำถามเหล่านั้นลงสนามจริง เบียร์ยังคงเน้นย้ำถึงการสัมภาษณ์ที่ไม่ควรเกร็งจนเกินไป ส่วนมากเป็นการคุยกันหน้างานเพื่อให้เกิดความลื่นไหล ส่วนไหนด้นสดแล้วตลกก็หยิบมาใช้ได้ทันที ไม่ต้องยึดติดกับแบบแผนเดิม ไม่เช่นนั้นเราอาจจะได้เห็นวิดีโอ Unseen ที่ยาวกว่าคลิปหลักก็เป็นได้

BUFF TALK | EP.0 | Buffalo Gags จากเพจมุกควายในตำนานสู่รายการชวนขำที่จริงจังมากที่สุด

BUFFALO GAGS UNSEEN 

เขาใช้เวลาเกือบ 5 ปีหลังจากเป็นแอดมินเพจกว่าจะมาทำวิดีโอลง YouTube ซึ่งเขาบอกว่าไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงเว้นไปนานขนาดนั้น แต่ Buffalo Gags ก็ทำออกมาได้ดีเฉกเช่นมืออาชีพเลยทีเดียว หลักฐานคือการเป็นที่พูดถึงบนโซเชียลและคนดูจำนวนมาก เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

แล้วช่วงไหนกันที่เพจ Buffalo Gags ขึ้นไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของความตลก ขึ้นไปยืนหัวเราะอยู่ด้านบนเหมือนทีมฟุตบอลหัวตารางในฤดูกาล (แค่ก แมน แค่ก ซิตี้) เบียร์ใช้เวลาคิดอยู่ครู่หนึ่ง

“เราว่าเราไม่ได้ดังนะ แต่อาศัยอยู่นานมากกว่า คนเลยจำได้” เขาหัวเราะ

จากการวิเคราะห์รายการตนเอง เบียร์บอกกับเราว่าเพจ Buffalo Gags นั้นไม่ได้มีจุดที่พีกจนถึงขีดสุด เพียงแต่เป็นเพจที่ปรากฏให้เห็นบ่อยครั้งเสียมากกว่า นับว่าได้เปรียบกว่าช่องอื่น

เบียร์ได้เปิดเผยเคล็ดลับที่ไม่เคยบอกที่ไหนในการทำให้เพจคงอยู่ได้เป็นเวลานาน ซึ่งจะได้รู้กันตรงนี้เป็นที่แรก

“ไม่ต้องกดปิดเพจไง มันก็อยู่นานแล้ว (หัวเราะ) แต่หลัก ๆ คือต้องอยู่ด้วยความสนุก ทุกครั้งที่ไปถ่าย มันสนุก ทั้งเรา ทีมงาน แขกรับเชิญ”

เบียร์เล่าความรู้สึกของเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ประหนึ่งได้สลัดโซ่ตรวนออกไปเมื่อออกมาทำเพจ เพราะสิ่งแรกที่ได้รับคือชีวิตที่มีอิสระ ทดแทนเวลาที่เสียไปด้วยการทำในสิ่งที่ชอบอย่างเต็มกำลัง

“บางคนสงสัยว่าเราทำงานหรือเปล่า ทุกวันนี้คนที่บ้านก็ยังมองแบบนั้น เราตื่นเช้ามาดูกระแสความนิยมที่จะนำมาปรับเล่นเป็นมุกในเพจได้ ในตอนนี้เรารู้สึกเหมือนชีวิตเป็นของเราจริง ๆ”

นอกจากภาพลักษณ์ในการทำงาน ในตอนนี้เบียร์ยังเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของ Buffalo Gags ในสายตาคนดูไปโดยปริยาย จากการที่ตนเองเป็นพิธีกรของรายการในเพจที่ดังที่สุด

ในตอนต้นเบียร์ยอมรับว่าเขาไม่ได้วางแผนเลยว่ารายการจะมาได้ไกลขนาดนี้ เป็นเพียงการจับพลัดจับผลูมาลองเป็นพิธีกรเล่น ๆ แต่รายการดันดังเป็นพลุแตกเสียนี่

เราโยนคำถามอย่างตรงไปตรงมาให้กับเบียร์ในเรื่องเส้นทางการทำคอนเทนต์ ในความคิดของเบียร์ เขาเองก็ดีใจที่ BUFF TALK ได้รับกระแสตอบรับที่ดี แม้รายการอื่นใน Buffalo Gags จะยังไม่ดังเท่าก็ไม่เป็นไร เพราะทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งที่เขาชอบและสนุกที่ได้ทำ

จากตำนานความฮา 13 ปีของเพจ Buffalo Gags สู่รายการ BUFF TALK ที่สัมภาษณ์แบบเบาสมอง แต่แขกรับเชิญต้องห้ามขำ

ตลกมาเป็นเวลาเกือบ 15 ปีแล้ว ความตลกคงเป็นเหมือนเพื่อนคู่กาย เมื่อถามว่าความตลกนั้นจำเป็นกับชีวิตของเบียร์แค่ไหนนั้น เขาตอบมาเพียงคำว่า “ไม่รู้” แล้วจึงเริ่มอธิบายว่าความตลกทำให้เขาสมองโล่ง 

คอนเทนต์เฮฮา แม้จะนำไปทำประโยชน์แบบรูปธรรมไม่ได้ แต่ก็ทำให้จิตใจผ่อนคลาย พร้อมที่จะใช้ความคิดสร้างสรรค์ทำมุกตลกหรือสิ่งที่นอกเหนือไปจากนั้น เหมาะสมกับการเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์

เราถามต่อว่า หากเบียร์ต้องให้คะแนนความตลกของตัวเอง จะได้คะแนนเท่าไหร่ คำตอบที่ได้นั้นช่างเหมาะสมกับตำแหน่งแอดมินเพจมุกควายที่ยืนหยัดมาอย่างยาวนาน 

“ให้ 5 เลย เพราะมันเป็นเสียงขำ 5 5 5 นี่ เป็นไงล่ะ” ทุกคนเงียบไปสักพักแล้วหลุดหัวเราะออกมา

ก่อนจบการสัมภาษณ์ เป็นช่วงเวลาที่เบียร์ถอดหน้ากากความตลกออกเพื่อจะฝากความคิดสู่คอนเทนต์ครีเอเตอร์รุ่นใหม่ ในฐานะคนที่มองเห็นทุกความเปลี่ยนแปลงของกระแสการทำคอนเทนต์ในสังคม

“ตั้ง 13 ปีกว่าจะมาตรงนี้ได้ ใช้เวลานานมากถึงจะมีคอนเทนต์นี้ ที่ยากคือการหาว่าตัวเองชอบอะไร ถ้ารู้แล้วก็ลงมือทำเลย“ 

เราหวนนึกถึงการทำ ป๋าตึ้บทอล์ก ของเขาที่ลงมือทำทันทีอย่างไม่ลังเลในวันที่คิดไอเดียออก ต่อยอดมาจนถึง BUFF TALK ในตอนนี้

“หาตัวเองให้เจอ” คือคำพูดทิ้งท้ายจากเบียร์ ผู้ที่หาตัวเองเจอแล้วและกำลังค้นหาแขกรับเชิญมาขยี้ภาพลักษณ์ในรายการต่อไป

จากตำนานความฮา 13 ปีของเพจ Buffalo Gags สู่รายการ BUFF TALK ที่สัมภาษณ์แบบเบาสมอง แต่แขกรับเชิญต้องห้ามขำ

ก่อนสั่งคัต นี่คือ 3 EP. ที่ต้องดูของ BUFF TALK

วง ZEAL 

สำหรับแฟนดนตรีที่ติดตามวงคงพอรู้ถึงกิตติศัพท์อยู่พอสมควร ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของการแต่งเพลง แต่ยังรวมไปถึงความรั่ว เรียกได้ว่า ZEAL ไปที่ไหน ความจรรโลงใจตามไปเสมอ

“พี่ต้องไล่ พี่เคน กลับหลังถ่ายเสร็จ ถ้าจำไม่ผิด เขามีเล่นดนตรีที่ราชบุรีต่อนะ แล้ววงไปหมดแล้ว เหลือพี่เคนคนเดียว เราถามพี่เคนไม่ไปตีกลองเหรอ พี่เคนหันมาบอก ไม่เป็นไร เดี๋ยวให้คนอื่นตี”

วง COCKTAIL 

เป็นวงดนตรีที่เรียกได้ว่ามีความขรึม จริงจัง ภาพที่เกิดขึ้นในรายการเป็นเหมือนหน้ามือกับหลังมือ นักร้องนำอย่าง โอม ที่สุขุมกลับกลายเป็นคนเส้นตื้นและหลุดขำมากที่สุด

“อันนี้ก็ต้องดู Unseen เหมือนกัน ไปดูคอมเมนต์ได้เลยว่า โห ไม่คิดว่าพี่โอมจะเป็นขนาดนี้”

Pigkaploy 

YouTuber สายท่องเที่ยวที่เดินทางตั้งแต่ประเทศไทยยันเทือกเขาหิมาลัย แขกรับเชิญหญิงคนแรกของรายการ BUFF TALK ความน่ารักสดใสของ พลอย ที่สวนทางกับความตลกหน้านิ่งช่วยทำให้ EP. นั้นต้องกลั้นขำหนักกว่าเดิม

Writer

ธนพงศ์ วสุวัต

ธนพงศ์ วสุวัต

นักเดินทางเพื่อหาอะไรสักอย่างในชีวิต อยากเป็นความสุขให้กับคนรอบตัว เลยชอบส่งรูปข้าวตอนตี 2

Photographer

มณีนุช บุญเรือง

มณีนุช บุญเรือง

ช่างภาพสาวประจำ The Cloud เป็นคนเชียงใหม่ ชอบแดดยามเช้า การเดินทาง และอเมริกาโน่ร้อนไม่น้ำตาล