The Cloud x การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

บ่ายวันพุธ เราต่อสายออนไลน์ถึง นัท-ณัฐพงษ์ เนียมนัด เจ้าบ้านแห่งภิรมย์ บูทีกโฮเทลแห่งใหม่ของอำเภอหางดง เราชวนนัทถ่ายทอดความเป็นมาและประสบการณ์ที่อยากมอบให้แขกผู้เข้าพัก

เขานั่งคุยกับเราในท่าทีสบาย ๆ ด้านหลังเป็นกรอบประตูทรงโค้ง ผนังฉาบด้วยสีเหลือง ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์-ของใช้ยุคโบราณ ดูแล้วกลมกลืนและร้อยเรียงไปด้วยกันกับโครงการบ้านธงชัย

บ้านธงชัยเป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากไอเดียของ ตุ้ม-หม่อมหลวงสุทธิชัย ชยางกูร ซึ่งอยากสร้างพื้นที่ให้ผู้คนมาปฏิสัมพันธ์กันเหมือนยุคเก่าก่อน และตั้งใจทำสถานที่แห่งนี้เพื่อระลึกถึง พันโท หม่อมราชวงศ์ธงชัย ชยางกูร ผู้ซึ่งเป็นบิดา ที่สำคัญ พี่ตุ้มออกแบบอาคารแห่งนี้เองทั้งหมด

ด้วยความชื่นชอบสถาปัตยกรรมและเติบโตมากับบ้านเรือนยุคเก่า พี่ตุ้มจึงเลือกสร้างที่นี่ด้วยลักษณะอาคารโคโลเนียล เชื่อมต่อกันด้วยเตี้ยมฉู่ (ตึกแถว) 2 หลัง เป็นสถาปัตยกรรมชิโนยูโรเปียนในสมัยรัชกาลที่ 5 ทั้งยังเป็นลักษณะอาคารแบบเดียวกับอาคารในย่านเมืองเก่าของภูเก็ตและปีนัง

บ้านธงชัยเป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากไอเดียของ ตุ้ม-หม่อมหลวงสุทธิชัย ชยางกูร ซึ่งอยากสร้างพื้นที่ให้ผู้คนมาปฏิสัมพันธ์กันเหมือนยุคเก่าก่อน และตั้งใจทำสถานที่แห่งนี้เพื่อระลึกถึง พันโท หม่อมราชวงศ์ธงชัย ชยางกูร ผู้ซึ่งเป็นบิดา ที่สำคัญ พี่ตุ้มออกแบบอาคารแห่งนี้เองทั้งหมด

ด้วยความชื่นชอบสถาปัตยกรรมและเติบโตมากับบ้านเรือนยุคเก่า พี่ตุ้มจึงเลือกสร้างที่นี่ด้วยลักษณะอาคารโคโลเนียล เชื่อมต่อกันด้วยเตี้ยมฉู่ (ตึกแถว) 2 หลัง เป็นสถาปัตยกรรมชิโนยูโรเปียนในสมัยรัชกาลที่ 5 ทั้งยังเป็นลักษณะอาคารแบบเดียวกับอาคารในย่านเมืองเก่าของภูเก็ตและปีนัง

“ผมเป็นตัวเชื่อมระหว่างแขกกับพื้นที่แห่งนี้” นัทเปรย

เขาชอบเล่าเรื่อง ชอบคุยกับผู้คน นัทเลยถ่ายทอดเรื่องราวของภิรมย์และบ้านธงชัยให้แขกฟังได้อย่างคนเข้าใจจริง ๆ เราเชื่ออย่างนั้น เพราะระหว่างพูดคุยกัน แววตาเขาระยิบระยิบเมื่อพูดถึงที่นี่

“พอผมสนใจ ผมจะมองเห็นความพิเศษและดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ ของพื้นที่ ผมไม่รู้สึกขัดเขินเมื่อต้องเล่าเรื่องที่นี่ เหมือนว่าผมกำลังนำเสนอบริการและประสบการณ์ในอีกรูปแบบหนึ่งให้แขก”

ภิรมย์เกิดขึ้นเพราะต้องการมอบประสบการณ์พิเศษให้ผู้มาเยือน ผ่านเรื่องราว บรรยากาศ และสถาปัตยกรรม นัทอธิบายให้ฟังว่า ไม่บ่อยนักที่เราจะมีโอกาสสัมผัสบรรยากาศอย่างเก่าก่อนเช่นนี้ หมายความว่า เราอาจเคยไปคาเฟ่ พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ฯลฯ ซึ่งอยู่ในสถาปัตยกรรมเก่าแก่ เดี๋ยวเดียวก็ต้องลากลับ แต่ที่ภิรมย์ แขกจะได้นอนพักอาศัย สัมผัสการใช้ชีวิตในบริบทและความงามของอดีต

เราดื่มด่ำประสบการณ์ที่ภิรมย์มอบให้ผ่านคำบอกเล่าของนัท และรับรู้ถึงความสบายใจที่เขาตั้งใจมอบให้แขกทุกคน หลังรอยยิ้มหวาน ๆ เขาค่อย ๆ พาเราสำรวจโรงแรมบูธีกขนาด 4 ห้องแห่งนี้

ห้องพักตั้งอยู่บนชั้น 2 ของอาคารตึกแถว มีบันไดแยกสำหรับผู้เข้าพักโดยเฉพาะ โดยห้อง 1 – 4 เรียงต่อกัน แต่ละห้องมีมู้ดแอนด์โทนใกล้เคียงกัน มีทั้งห้องเตียงเดี่ยว เตียงคู่ และมีบริการเตียงเสริม

เตียงนอน 4 เสาของที่นี่คลาสสิกมาก แถมเสริมบรรยากาศราวกับย้อนเวลาไปอดีต

“แค่เดินเข้าห้องก็สนุกแล้ว” เขาเปรย นั่นทำให้เราอยากฟังเขาเล่า ‘ความสนุก’ ต่อ

“บรรยากาศของพื้นที่ค่อย ๆ บิวด์อารมณ์ตั้งแต่ซุ้มประตูบ้านธงชัย บันได ระเบียง เวลาผมเปิดประตูเข้าไปในห้องพัก บรรยากาศจะขมุกขมัว เพราะแสงผ่านเข้ามาทางหน้าต่างได้ไม่เยอะ

“พอเปิดไฟเท่านั้นแหละ ห้องมีชีวิตราวกับหนังพีเรียด เหมือนอีกโลกเลย ขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงความเป็นส่วนตัว อบอุ่นจนอยากกระโจนขึ้นนอน และสงบจนรู้สึกสบายใจ” เขาอธิบาย

ด้วยบรรยากาศแวดล้อมทำให้แขกสัมผัสได้ถึงความรู้สึกนั้น ซึ่งทำเลของภิรมย์ห่างจากตัวเมืองไม่ไกล รอบล้อมด้วยธรรมชาติ ใกล้ชิดกับตีนเขา เหมาะกับการพักผ่อนและชาร์จพลังเป็นที่สุด

นอกจากมานอนพักกาย-พักใจ ที่นี่ยังมีกิจกรรมหลากหลายให้แขกเลือกทำตามความสนใจ เช่น แต่งกายด้วยชุดไทยโบราณ แล้วไปถ่ายรูปตามมุมต่าง ๆ ของโครงการบ้านธงชัย มีเวิร์กชอปผ้ามัดย้อมกับ Cotton Farm ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านในโครงการแห่งนี้ อยู่ชั้นล่างของภิรมย์นี่เอง และไฮไลต์ที่นัทอยากให้คุณลอง คือ ไพรเวตดินเนอร์ที่บ้านธงชัย เกริ่นไปตอนต้นว่า บ้านธงชัยทำหน้าที่เป็นคาเฟ่ในเวลาปกติ พออาทิตย์ตกดินจะกลายเป็นห้องอาหารส่วนตัว เสิร์ฟทั้งอาหารไทย อาหารฝรั่ง และอาหารมุสลิม

ดินเนอร์ส่วนตัวนี้พิเศษที่แขกได้ครองพื้นที่ของบ้านธงชัย อาหารไม่ซ้ำกับคาเฟ่ และต้องจองมาก่อนเท่านั้น เราว่านี่เป็นมื้ออาหารที่ได้ใช้เวลากับคนรัก กลุ่มเพื่อน และครอบครัว ได้ดีทีเดียว

สารภาพว่าตกหลุมรักบันไดวนในบ้านธงชัย ถ้าได้ดินเนอร์ใต้แสงเทียนคงโรแมนติกสุด ๆ

อ้อ พี่ตุ้มกระซิบว่า เมนูกาแฟของบ้านธงชัยเป็นกาแฟตามสั่ง (เป็นยังไงกันนะ) เขาขยายความว่า อยากกินแบบไหนสั่งแบบนั้น บาริสต้าทำให้ได้ตามใจลูกค้าต้องการ ที่สำคัญ ไม่ต้องเคอะเขินว่าจะสั่งถูกสั่งผิด มาเยือนคาเฟ่ที่นี่ คุณไม่รู้สึกตัวเล็กจ้อยแน่ ๆ แต่กลับรู้สึกสบาย ๆ เหมือนจิบกาแฟในห้องนั่งเล่น

หลังจากทำกิจกรรมแสนเพลิดเพลิน อยากให้คุณลองพูดคุยกับนัทหรือพี่ตุ้ม เพื่อแลกเปลี่ยนความสนใจด้านประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม หรือสารพันเรื่องจิปาถะก็ยังได้ นัทบอกว่าที่นี่มีห้องสมุดด้วย เป็นคลังหนังสือสะสมของพี่ตุ้มที่เปิดให้ผู้สนใจเข้ามาค้นคว้าความรู้ประวัติศาสตร์ในหลายด้าน

จริง ๆ แค่เดินดูของสะสมของพี่ตุ้มที่ตกแต่งอยู่ภายในบ้านธงชัยและภิรมย์ก็สนุกแล้ว 

เพื่อให้การมาเยือนดินแดนล้านนาของคุณพิเศษและอะเมซิ่งไปอีกขั้น แนะนำให้สำรวจร้านรวงหรือสถานที่รอบ ๆ ภิรมย์ เพื่อทำความรู้จักย่านนี้อย่างลึกซึ้ง ให้สมกับเป็น Amazing Northern Lifestyle

อย่างที่เล่าให้ฟัง ทำเลของที่นี่ใกล้เมืองไม่ไกลจากสถานที่สำคัญของเชียงใหม่ ถ้ามีเวลาว่างจากการพักผ่อน ลองแวะไปเที่ยววัดต้นเกว๋น เดินชมสถาปัตยกรรมล้านนาซึ่งถือว่าสมบูรณ์ที่สุด แวะไปสักการะ-ขอพรหลวงพ่อทันใจที่วัดพระธาตุดอยคำ หรือขับรถเข้าเมืองก็เดินทางราว 20 นาทีเท่านั้น

ก่อนบทสนทนาทางไกลจะจบ เราถามนัทถึงประสบการณ์ที่อยากให้ผู้มาเยือนได้รับ

เจ้าบ้านนึกอยู่ครู่ ก่อนตอบเราว่า “ผมอยากให้เขารู้สึกสบายใจ”

“ผมมีความเชื่อว่า ความสบายใจเป็นประตูที่ทำให้แขกรับรู้ถึงความรู้สึกและความประทับใจ เมื่อเขารู้สึกสบายใจ เขาจะมองเห็นพื้นที่และสิ่งต่าง ๆ ชัดเจนขึ้น อาจเห็นม่านพลิ้วไหว อาจรู้สึกถึงลมพัดอ่อน ๆ ห้วงเวลานั้นทำให้เขาได้อยู่กับตัวเอง อยู่กับวินาทีปัจจุบัน และอยู่กับโมเมนต์ตรงหน้าจริง ๆ

“และผมชอบเห็นคนมีปฏิสัมพันธ์กัน มันคงสนุกดีถ้าผมได้เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์หรือความทรงจำนั้นของเขา ผมมองว่าภิรมย์มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะทำให้ความสัมพันธ์ดี ๆ ของคู่รัก กลุ่มเพื่อน ครอบครัว หรือกับตัวเอง เกิดขึ้นได้” นัทเล่าถึงบรรยากาศที่เขาอยากให้เกิดขึ้นที่นี่

ราวชั่วโมงเศษที่พูดคุยกับนัท เรารับสัมผัสถึงความรื่นรมย์ที่ภิรมย์ตั้งใจมอบให้จริง ๆ

3 Things you should do

at Baan Thongjaya

01

ลองจองไพรเวตดินเนอร์และดื่มด่ำมื้อพิเศษที่ บ้านธงชัย

02

ลองไปชมสถาปัตยกรรมล้านนาและใช้เวลาส่วนตัวที่ วัดต้นเกว๋น

03

ลองอ่านหนังสือในมุมต่าง ๆ ที่ โครงการบ้านธงชัย

ภิรมย์ : Bhirom at Baan Thongjaya

‘Amazing Northern Lifestyle’ เป็นโปรเจกต์สนุก ๆ ที่ Thailand Coffee Fest ร่วมมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สนับสนุนให้ทุกคนออกเดินทางในภาคเหนือ โดยใช้กาแฟและเพื่อน ๆ กาแฟ ทั้งเบเกอรี ชา ช็อกโกแลต เป็นสื่อกลางในการเล่าเรื่อง เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและสนับสนุนผู้ประกอบการ

พวกเราอยากชวนไป Coff & Hopp ผจญภัยสำรวจคาเฟ่และร้านกาแฟพิเศษ 69 ร้าน ในภาคเหนือ เพื่อรับสติกเกอร์ที่ออกแบบโดยศิลปินชาวเหนืออย่าง mig.mig, Nutkai และ Nuea Jackkrit

*รับสติกเกอร์สุดน่ารักจาก 3 ศิลปินรุ่นใหม่ ได้ตั้งแต่วันพุธที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป

Writer

สุทธิดา อุ่นจิต

สุทธิดา อุ่นจิต

กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ สู่ ลาดพร้าว - สุขุมวิท , พูดภาษาพม่าได้นิดหน่อย เป็นนักสะสมกระเป๋าผ้า ชอบหวานน้อยแต่มักได้หวานมาก

Photographer

Avatar

ศรีภูมิ สาส่งเสริม

ช่างภาพเชียงใหม่ ชอบอยู่ในป่า มีเพื่อนเป็นช้าง และชาวเขาชาวดอย