ก่อนที่จะมีไรเดอร์ของบริษัทดิลิเวอรีวิ่งกันขวักไขว่เต็มเมืองไทยเช่นวันนี้ ถ้าเราอาศัยอยู่ในระดับตำบลหรืออำเภอที่ห่างไกลย่านเมือง แทบไม่ต้องฝันเลยว่าจะมีบริการดังกล่าวให้เรียกใช้ แต่นั่นไม่ใช่กับอำเภอบ้านไผ่ ในจังหวัดขอนแก่น เพราะอำเภอแห่งนี้มีธุรกิจสตาร์ทอัพดิลิเวอรีซึ่งคนพื้นที่ริเริ่มทำกันเอง ตั้งใจให้บริการรับ-ส่งสินค้าทุกชนิด อำนวยความสะดวกให้คนบ้านเดียวกัน ช่วยให้คนระดับอำเภอมีบริการดิลิเวอรีใช้แบบไม่ต้องง้อใคร แถมยังอยู่ยงคงกระพันมาจนถึงปัจจุบัน 

จวบ 4 ปีผ่าน ต่อให้มีแอปฯ ดิลิเวอรีเจ้าดัง ๆ เข้ามาแชร์ส่วนทางธุรกิจในพื้นที่ และทำให้รู้สึกหวั่นไหวทางใจไปบ้าง แต่นั่นก็ล้มพวกเขาในนาม ‘บ้านไผ่เดลิเวอรี่’ ลงไม่ได้ เพราะงานบริการในนามคนบ้านไผ่นี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนทั้งอำเภอไปแล้ว นี่แหละคือบุคคลต้นเรื่องสุดคูล ทีมสตาร์ทอัพสุดเจ๋ง ที่อาจยังเรียกว่าเป็น ‘ยูนิคอร์น’ ไม่ได้ เพราะรายได้ทางธุรกิจยังไม่แตะพันล้านเหรียญฯ แต่ถ้านับเรื่องความกล้า เก๋าเกม ประโยชน์จากสิ่งที่เขาทำ ซึ่งมีต่อคนในชุมชนและความอยู่ดีมีสุขของผู้ร่วมทีมของพวกเขาแล้วล่ะก็ อาจนิยามว่า พวกเขาคือ ‘สตาร์ทอัพม้านิลมังกรสุดเจ๋ง’ ที่น่าชื่นชม และอีสาน Lifehacker ก็ภูมิใจพาคุณไปรู้จักกับพวกเขากัน

บ้านไผ่เดลิเวอรี่ สตาร์ทอัพระดับอำเภอให้บริการฝากซื้อ-จัดส่งทุกสิ่งให้คนบ้านเดียวกัน
เอ๋น้อย-อยุทธยา จันทรมนตรี พร้อมเหล่าไรเดอร์ในยูนิฟอร์มสีเขียว

ณ สถานีรถไฟบ้านไผ่ ยามเช้าตรู่ เอ๋น้อย-อยุทธยา จันทรมนตรี หนุ่มผมยาวร่างบางวัย 48 ปี พร้อมเหล่าไรเดอร์ในยูนิฟอร์มสีเขียว และรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจทั้ง 11 คัน ได้มาจอดเรียงรายรวมตัวให้เราเก็บภาพ เอ๋พูดกับเราว่า 

“นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ได้ถ่ายภาพรวมกันครบทีมขนาดนี้”

บ้านไผ่เดลิเวอรี่ สตาร์ทอัพระดับอำเภอให้บริการฝากซื้อ-จัดส่งทุกสิ่งให้คนบ้านเดียวกัน
เอ๋น้อย-อยุทธยา จันทรมนตรี 

ด้วยงานดิลิเวอรีนั้นขึ้นกับเวลา เรามีเวลาเก็บภาพพวกเขาไม่นานมาก เพราะไรเดอร์ทั้งหมดต้องรีบบึ่งไปรับผิดชอบซื้อหาสินค้าตามที่ลูกค้าในอำเภอออร์เดอร์ไว้ ส่วนเอ๋น้อยผู้เป็นเจ้าของก็กลับไปยังจุดพักของไรเดอร์ ซึ่งเป็นสำนักงานของเขาด้วย เราจึงขอติดตามเพื่อเข้าไปพูดคุยถึงที่มาที่ไปของสตาร์ทอัพภูธรสุดเจ๋งนี้ว่ามีจุดเริ่มต้นอย่างไร  

เอ๋น้อยนั่งลงบนเก้าอี้ สายตาไม่ได้มองที่คู่สนทนาอย่างเรา แต่กำลังจับจ้องอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ พร้อมนิ้วมือที่กดพิมพ์ตอบรับออร์เดอร์ลูกค้าไปด้วย เพราะหน้าที่ของเขาคือศูนย์กลางรับงานจากคนทั้งอำเภอ ก่อนจะส่งออร์เดอร์ให้กับไรเดอร์แต่ละคนทางแอปพลิเคชัน LINE เพื่อดำเนินการต่อ 

แต่ถึงกระนั้น เอ๋น้อยก็ยังตอบคำถามทุกข้อที่เราส่งออกไปได้ จนกลายเป็นเรื่องราวเท่ ๆ เผยให้เราได้รู้จักกับพวกเขาอย่างลึกซึ้ง และชวนให้ตระหนักว่า ไม่สำคัญหรอกว่าเราจะเป็นคนบ้านนอกหรือคนในเมือง เพราะหากมีใจอยากให้สังคมที่เรายืนอยู่นั้นดีขึ้น และมองเห็นช่องทางว่าพอจะทำอะไรได้ ก็ให้เริ่มต้นทำได้เลย ไม่ต้องรอหรือร้องขอจากใคร เพียงตั้งใจและมีความจริงใจเป็นสารตั้งต้น ผลที่ได้ย่อมไม่มีวันสูญเปล่า

บ้านไผ่เดลิเวอรี่ สตาร์ทอัพระดับอำเภอให้บริการฝากซื้อ-จัดส่งทุกสิ่งให้คนบ้านเดียวกัน

จากคนขับรถส่งลูกชิ้น สู่ผู้ริเริ่มบริการรับฝากซื้อ-ส่งสินค้าทุกอย่าง ประจำอำเภอ 

เอ๋น้อยเริ่มเล่าเรื่องราวของเขาให้เราฟังว่า

“ผมเป็นคนบ้านไผ่แต่กำเนิด สมัยก่อนทำงานรับจ้างขับรถส่งลูกชิ้นแชมป์ตามต่างจังหวัด เพราะว่าศูนย์ใหญ่เขาอยู่ที่นี่ เราแค่ทยอยไปส่งตามแฟรนไชส์ที่เขาระบุให้ พอทำงานนานเข้า เริ่มอายุเยอะ งานที่ทำคือต้องขับรถส่งลูกชิ้น 1,200 กว่ากิโลเมตรคนเดียว ก็เลยคิดว่าคงทำต่อไปไม่ไหวแน่ ต้องหางานอะไรอย่างอื่นทำ นอกจากนี้ผมเองมีอีก 2 บทบาท คือทำงานเป็นอาสากู้ภัยของอำเภอบ้านไผ่ และเป็นแอดมินเพจข่าวประจำอำเภอด้วย คนจึงรู้จักเราเยอะ

“พอออกจากงานเลยคิดว่าอยากหาอะไรทำเพื่อเพิ่มรายได้ ครานี้ มีอยู่วันหนึ่งไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวผมเห็นสามล้อเขามาซื้อก๋วยเตี๋ยว คล้าย ๆ ว่ามีคนจ้างมาซื้อก๋วยเตี๋ยวให้ เราก็เลยคิดว่า เออ เฮ้ย! จังหวัดใหญ่ ๆ เขามี foodpanda มี GrabFood เราลองทำดิลิเวอรีให้คนบ้านไผ่ดูจะดีไหม จึงลองประกาศผ่านทางเพจข่าวประจำอำเภอดูว่า ถ้ามีคนบ้านไผ่จะทำดิลิเวอรีให้กับคนบ้านไผ่ แต่ละท่านมีความคิดเห็นอย่างไร ปรากฏว่ามีเสียงตอบรับเข้ามาว่า ‘มีก็ดี’ 

“ผมเลยเริ่มจากส่งของคนเดียว ลองสั่งซื้อกระเป๋ามาติดท้ายมอเตอร์ไซค์แล้ววิ่งรับ-ส่งของ วันแรกก็เขิน ๆ เพราะยังใหม่อยู่ไงครับ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะทำได้ไหม ช่วงแรกที่วิ่งรับ-ส่งงานคนในอำเภอก็งงว่าเรากำลังทำอะไร บางคนเห็นเรามีกระเป๋าติดท้ายรถก็คิดว่าขายไอศกรีม (หัวเราะ) เราเองก็ยังไม่รู้ว่าจะไปรอดไหม แต่ผลคือแค่วันแรกก็ได้รายได้เกินคาด คือได้เงิน 700 บาทเลย หลังจากนั้นงานก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แล้วด้วยการที่ผมโปรโมตผ่านเพจข่าวของอำเภอ ยิ่งทำให้คนรู้จักเราและดังเร็วขึ้น

“พอออร์เดอร์เริ่มเยอะ ทำคนเดียวไม่ไหว เลยคิดว่าต้องหาทีมเสริมแล้ว จึงเริ่มรับสมัครไรเดอร์จากคนในพื้นที่ก่อน จากมีไรเดอร์ 2 คัน 3 คัน ก็เป็น 4 คัน 5 คัน จนตอนนี้มีทั้งหมด 12 คัน ทั้งที่ตอนแรกคือไม่ได้มีความหวังว่าจะมาถึงขนาดนี้ แค่อยากหาอะไรทำให้พอมีตังค์ใช้ไปวัน ๆ สักวันละ 300 – 400 เหมือนเป็นค่าแรงของเรา เพราะคิดว่าถ้าจะไปหางานอื่นทำ เราก็ต้องเป็นลูกน้องเขาเหมือนเดิม แล้วชีวิตก็ขับรถมาทั้งชีวิต ถ้าไปสมัครงานก็คงไม่พ้นวังวนเดิม ๆ คือขับรถรับจ้างเหมือนเก่า ก็เลยคิดว่า เอาวะ! ทำอะไรก็ได้ ขอแค่เป็นงานที่เป็นนายตัวเอง เหนื่อยก็หยุดพัก 

 “มาถึงวันนี้กลายเป็นว่าพอทำแล้วไม่ได้พัก ไม่ได้หยุด (หัวเราะ) ยาวเลย เพราะคิวงานต่อวันอย่างน้อยที่สุดอยู่ที่วันละ 300 กว่างาน ถ้าเป็นเทศกาลต่าง ๆ ก็มากกว่านั้น แถมยังทำให้เรารู้แล้วว่าสิ่งทำอยู่นี้เป็นอะไรที่มากกว่าที่คิดไว้แต่แรก”  

บ้านไผ่เดลิเวอรี่ สตาร์ทอัพระดับอำเภอให้บริการฝากซื้อ-จัดส่งทุกสิ่งให้คนบ้านเดียวกัน

เปิดตัวบ้านไผ่เดลิเวอรี่ 3 เดือน แอปพลิเคชันดิลิเวอรีเจ้าใหญ่ก็ทยอยเปิด เล่นเอาเหวอ แต่ยังไหว

ทำธุรกิจย่อมมีคู่แข่ง ไม่นานแอปฯ ดิลิเวอรีส่งอาหารหลายเจ้าก็ทยอยมาเปิดในอำเภอบ้านไผ่ ซึ่งวัดใจเอ๋น้อยมาก

“พอทำได้สักพัก ราว 3 เดือน เราเริ่มมีไรเดอร์ 6 คน งานกำลังบูม foodpanda ก็มาเปิดที่บ้านไผ่ พอเขามาลง ก็มีเจ้าอื่นตามมาเรื่อย ๆ ตอนนั้นก็คิดนะว่าเราจะไปต่อได้ไหม เพราะเขาเป็นแอปฯ ระดับประเทศ ส่วนเราแค่ระดับอำเภอ 

“แต่เราก็ยังไม่ถอดใจครับ ยังทำต่อ และเริ่มเก็บข้อมูลว่าการที่ดิลิเวอรีแต่ละเจ้ามาเปิดนั้น ส่งผลกระทบกับธุรกิจของเรายังไง แต่ผลที่ได้คืองานเราไม่ลดลงเลย ลูกค้าเก่ายังอยู่ ลูกค้าใหม่ก็มีเรื่อย ๆ ทั้งที่มีแอปฯ ดิลิเวอรีมากมายวิ่งรับ-ส่งของ แต่เราก็อยู่ได้กับเขาเหมือนกัน 

“ตอนที่จับจุดนี้ได้รู้สึกโล่งใจ เพราะตอนแรกเราก็คิดนะว่างานน่าจะลดลง คงได้รับผลกระทบแน่ ๆ แต่ไม่ใช่เลย งานของบ้านไผ่เดลิเวอรี่กลับไม่เคยลดลง ทุกอย่างยังปกติ ยิ่งบางช่วงงานของเราเยอะกว่าเขาด้วยซ้ำไป เพราะเราสังเกตเห็นไรเดอร์เขาจอดพักกัน ขณะที่ไรเดอร์ของเราวิ่งรับ-ส่งของทั้งวันจนแทบไม่ได้พัก”

ใกล้-ไกล อะไรก็ได้ที่ไม่ผิดกฎหมาย บ้านไผ่เดลิเวอรี่รับ-ส่งหมด และการเป็นคนพื้นที่คือข้อได้เปรียบ

เล่าถึงตรงนี้ เอ๋น้อยวางโทรศัพท์ในมือลง เพราะแจกจ่ายออร์เดอร์ให้กับไรเดอร์เรียบร้อยแล้ว และยิ้มกับเราด้วยสายตาแห่งความภูมิใจ ก่อนจะเล่าถึงสิ่งที่เขาวิเคราะห์ว่า อะไรคือหัวใจสำคัญที่ทำให้บ้านไผ่เดลิเวอรี่อยู่รอดได้อย่างดีเยี่ยมท่ามกลางทะเลแห่งการแข่งขันของธุรกิจดิลิเวอรี

“ผมคิดว่าที่เราอยู่ได้ ด้วยเหตุผลแรกคือบริการเราหลากหลาย เรารับซื้อและบริการทุกอย่าง เช่น ฝากจ่ายเงิน จ่ายบิลค่าน้ำ ค่าไฟ ซื้อของ 7-Eleven ซื้อผัก เนื้อหมู ซื้อไก่ ของสดในตลาดสด ซื้อของกระจุกกระจิก ซื้อยารักษาโรคอะไรก็ได้ เราทำได้หมด เพราะเราไม่ได้จำเพาะว่าต้องส่งเฉพาะอาหารเพียงอย่างเดียวเหมือนเจ้าอื่น ๆ ซึ่งจะรับซื้อเฉพาะอาหารสำเร็จรูปอย่างเดียว หรือส่งเฉพาะอาหาร ของเรานี่คือเอาทุกอย่าง 

“อีกเรื่องคือเรื่องของระยะทาง ในแอปพลิเคชันดิลิเวอรีอื่น ๆ เขาจำกัดรัศมี 10 กิโลเมตร ส่วนของบ้านไผ่เดลิเวอรี่ไม่จำกัด จะใกล้จะไกลเราไปได้หมด บางครั้งมีคนจ้างไปส่งต่างอำเภอก็มี เช่น อำเภอชนบท อำเภอมัญจาคีรี หรืออำเภอเมืองขอนแก่น เราก็ไป เผลอ ๆ บางครั้งไปแบบข้ามจังหวัดที่อยู่ติดกับขอนแก่นก็เคย ซึ่งในระยะทางที่ไกลมาก ๆ เราจะต้องพิจารณาก่อนว่าไรเดอร์ขับไหวไหม และราคาก็จะปรับเป็นราคาเหมาแทน ไม่ได้เป็นไปตามเกณฑ์ที่เราจัดส่งอยู่ในพื้นที่

บ้านไผ่เดลิเวอรี่ สตาร์ทอัพระดับอำเภอให้บริการฝากซื้อ-จัดส่งทุกสิ่งให้คนบ้านเดียวกัน

“นอกจากนี้เคยมีลูกค้าจ้างให้ช่วยทำเซอร์ไพรส์สนุก ๆ เราก็รับทำครับ เช่น มีคนบอกให้ช่วยส่งเค้กวันเกิดให้กับคนรู้จัก แต่ย้ำว่าตอนส่งให้ไรเดอร์ช่วยร้องเพลง Happy Birthday และเต้นด้วย เราก็คุยกันกับไรเดอร์ว่าโอเคไหม ซึ่งไรเดอร์เราเขายินดีทำให้โดยไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่ม แต่ทางเจ้าของงานเขาก็ทิปเพิ่มให้เองเพื่อเป็นสินน้ำใจ 

“สิ่งสำคัญอีกข้อคือผมได้ลูกค้าจากเพื่อนในเฟซบุ๊กและในไลน์ของผม ซึ่งมีเยอะมาก บางคนอยู่ต่างประเทศ อยู่ต่างจังหวัด เขาสั่งอาหารผ่านแอปฯ อื่น ๆ ในพื้นที่บ้านไผ่ไม่ได้ เขาก็เน้นโทรหาเรา เพราะอย่างบ้านเขาอยู่ไกลเกินกว่าระยะของแอปฯ ส่งอาหารที่มีทั่วไปจะไปถึง แต่เราไปได้ ลูกค้าของผม 30 เปอร์เซ็นต์อยู่ต่างประเทศ อยู่ต่างจังหวัดก็มี ถึงเวลาวันเกิด ถึงโอกาสพิเศษ อย่างวันเกิดคนในครอบครัว เขาก็อยากสั่งของอร่อย ๆ ให้กับทางบ้านกิน เราก็จัดการส่งให้ หรือแม้แต่บางคนไปเที่ยวต่างจังหวัด แล้วไม่มีใครให้อาหารน้องหมาน้องแมวที่บ้าน ไรเดอร์เราก็รับจัดการให้ครับ

“นี่แหละคือข้อได้เปรียบของการเป็นคนในพื้นที่ เป็นคนบ้านเดียวกัน ผมเองเกิดที่บ้านไผ่ เป็นคนพื้นเพที่นี่ แล้วก็มีเครือข่ายจากการทำงานด้านอาสาสมัครกู้ภัยที่ทำมานานเกือบ 30 ปี เลยรู้ทั้งเส้นทางและคนรู้จักเราเยอะ กลายเป็นข้อดีและทำให้บ้านไผ่เดลิเวอรี่ไม่เหมือนแอปฯ สั่งซื้อส่งสินค้าทั่ว ๆ ไปที่มีอยู่” 

บ้านไผ่เดลิเวอรี่ สตาร์ทอัพระดับอำเภอให้บริการฝากซื้อ-จัดส่งทุกสิ่งให้คนบ้านเดียวกัน
บ้านไผ่เดลิเวอรี่ สตาร์ทอัพระดับอำเภอให้บริการฝากซื้อ-จัดส่งทุกสิ่งให้คนบ้านเดียวกัน

เลือกใช้วิธีโทรศัพท์หรือแอด LINE เป็นเพื่อน เพื่อเข้าถึงผู้สูงวัยในอำเภอที่ไม่เชี่ยวโซเชียล 

ถ้าคุณอยากใช้บริการบ้านไผ่เดลิเวอรี่ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพียงแอดไลน์หรือโทรศัพท์ของบ้านไผ่เดลิเวอรี่ ก็เชื่อมต่อสั่งซื้อสินค้าต่าง ๆ ในอำเภอบ้านไผ่และให้ไปจัดส่งยังจุดที่คุณต้องการได้แล้ว สนนราคาเริ่มต้นกิโลเมตรแรกที่ 20 บาทต่อร้านค้า ถัดไปก็บวกเพิ่ม 5 บาทต่อกิโลเมตร ถือว่าราคาย่อมเยามาก เพราะเอ๋น้อยบอกกับเราว่าเขายึดหลัก ‘เราอยู่ได้และลูกค้าจ่ายไหว’ เป็นหัวใจสำคัญในการตั้งราคา 

ทว่าด้วยรูปแบบงานบริการของบ้านไผ่เดลิเวอรี่มีลักษณะคล้ายกับรถรับจ้างฝากซื้อเช่นนี้เอง เราจึงเกิดข้อสงสัยว่า ในเมื่อตอนนี้มีคนใช้บริการเยอะแล้ว ทำไมไม่คิดทำแอปพลิเคชันเหมือนกับเจ้าอื่น ๆ ซึ่งเหตุผลที่อยู่ในคำตอบนั้นสะท้อนถึงความใส่ใจลูกค้าที่เขามีอย่างน่าชื่นชม

“ที่ผ่านมามีคนถามเหมือนกันว่าทำไมไม่ทำเป็นแอปพลิเคชัน แต่ผมตัดสินใจไม่ทำ เพราะถ้าเรามีแอปฯ ลูกค้าเขาจะสั่งซื้อได้แค่ระยะทางตามที่แอปฯ กำหนดเท่านั้น เราเลยเลือกใช้วิธีโทรศัพท์สั่งซื้อโดยตรง หรือผ่านช่องทางแชตของแอปฯ สำเร็จรูปที่ทุกคนมีและใช้กันเป็นอย่าง LINE และผมก็ไม่ใช้ในรูปแบบ LINE Official Account ด้วยนะครับ เพราะคิดว่าในอำเภอยังมีกลุ่มของผู้สูงอายุหรือชาวบ้านที่เขาไม่เข้าใจหรือไม่สะดวกต่อการใช้งานระบบเหล่านั้น มันจะทำให้ยากต่อการเข้าถึงของลูกค้าที่อยากใช้บริการของเรา ก็เลยใช้วิธีโทรศัพท์สั่ง หรือใช้การแอดไลน์เป็นเพื่อนกัน รับออร์เดอร์ผ่านทางช่องทางแชตเท่านั้น 

บ้านไผ่เดลิเวอรี่ สตาร์ทอัพระดับอำเภอให้บริการฝากซื้อ-จัดส่งทุกสิ่งให้คนบ้านเดียวกัน

“ทุกวันผมทำหน้าที่มอนิเตอร์หน้าจอโทรศัพท์ตั้งแต่ 8 โมงเช้าไปจนถึง 3 ทุ่ม เพื่อตอบรับออร์เดอร์ต่าง ๆ ก่อนส่งต่อไปยังไลน์ของไรเดอร์แต่ละคน นี่คือหน้าที่ของผม ซึ่งจะทำเพียงคนเดียว ถ้าช่วงไหนที่คิวงานเยอะ ๆ ไรเดอร์คิวงานแน่นและวิ่งไม่ทันแน่ ๆ ผมก็จะทำการปิดรับงานชั่วคราวเพื่อไม่ให้มีงานเพิ่ม เพราะถ้ารับงานก็จะเกิดความล่าช้ากับลูกค้าได้ พองานไรเดอร์ซาลง พร้อมรับงานก็เปิดรับงานใหม่ ทั้งหมดนี้ผมจะมอนิเตอร์ด้วยตัวเอง

“อีกอย่างคือช่วงแรกที่ผมเริ่มทำ ผมจะล่าเบอร์โทรศัพท์ร้านอาหาร ร้านค้าต่าง ๆ และเก็บรวบรวมเอาไว้ นั่นเป็นข้อดี เพราะเวลาลูกค้าสั่งซื้อของผ่านเรา เราก็โทรศัพท์ไปที่ร้านเหล่านั้นและสั่งสินค้าไว้ก่อนได้ พอไรเดอร์ไปถึงก็ได้รับสินค้าพอดี ลูกค้าไม่ต้องรอนาน

“ผมคิดว่าเราต้องเลือกทางง่ายที่สุด สะดวกที่สุด ซึ่งจะช่วยให้คนในอำเภอได้รับความสะดวกสบายและประทับใจในการใช้บริการ นี่คือหัวใจและหน้าที่ของบ้านไผ่เดลิเวอรี่”

ชวนคนบ้านเดียวกันมาเป็นไรเดอร์ บริหารแบบพี่น้อง เพื่อให้ทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้น

ส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในธุรกิจนี้ คือไรเดอร์ ซึ่งเอ๋น้อยเล่าให้ฟังว่าเขาเปิดรับสมัครไรเดอร์โดยอาศัยการสัมภาษณ์พูดคุยกันเป็นหลัก หากคลิกกันและเห็นความตั้งใจจริงว่าอยากทำงาน ก็รับเข้าทำงานเลย ไม่มีพิธีรีตองอะไร แต่จุดสำคัญที่สุดคือต้องมีใจรักการทำงานบริการและไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเด็ดขาด ที่ผ่านมาไรเดอร์ส่วนใหญ่เป็นคนพื้นที่ในอำเภอบ้านไผ่ทั้งหมด แต่ก็มีบ้างที่มาจากต่างอำเภอ ซึ่งเขาก็เปิดโอกาสให้กับบุคคลเหล่านั้นได้เข้ามาร่วมทีม

“อันดับแรกเลยคือเรื่องยาเสพติด ผมจะไม่ให้เด็ดขาด นอกนั้นไม่มีอะไรมากครับ มาคุยกัน แล้วก็ขอสำเนาใบขับขี่กับสำเนาบัตรประชาชนแค่นั้น อย่างอื่นไม่มีอะไร ขอให้มีใจรักการทำงานบริการ ที่เหลือทั้งกระเป๋าและอุปกรณ์ต่าง ๆ ทุกอย่างผมมีให้หมด เสื้อเราก็มีให้ ผมออกแบบเสื้อเองให้เป็นสีเขียวมะนาว ซึ่งเป็นสีที่ผมชอบ กระเป๋าใส่สินค้าก็มีแจกให้ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไร ขอให้ทำหน้าที่ของคุณคือขับรถส่งสินค้าโดยไม่ต้องกังวลเรื่องอื่น แต่จะใช้รถมอเตอร์ไชค์ของคนขับเอง ให้พวกเขาเติมน้ำมัน ซ่อมบำรุงรถเอง  

“แรก ๆ ไรเดอร์เป็นคนในพื้นที่กันก่อน หลัง ๆ เริ่มมีน้องจากต่างอำเภออยากมาสมัคร เราเห็นความตั้งใจของเขาก็เปิดโอกาสให้ลองทำ ช่วงแรกอาจต้องช่วยบอกเส้นทางกันสักหน่อย และแนบเบอร์โทรลูกค้าให้กับไรเดอร์เผื่อหาไม่เจอจะได้ติดต่อกันได้ แต่ทำไปสักพักพวกเขาก็รู้เส้นทางกันเอง เพราะอำเภอบ้านไผ่ไม่ได้กว้างมาก 

บ้านไผ่เดลิเวอรี่ สตาร์ทอัพระดับอำเภอให้บริการฝากซื้อ-จัดส่งทุกสิ่งให้คนบ้านเดียวกัน

“เรื่องรายได้และค่าใช้จ่ายของไรเดอร์ ผมจะคิดแค่ค่าบริหารจัดการระหว่างวันที่ต้องส่งงานให้วันละ 100 บาทต่อไรเดอร์ 1 คน นอกนั้นรายได้ระหว่างวันที่แต่ละคนหามาได้ก็เป็นของพวกเขาทั้งหมด โดยมีวันหยุดสัปดาห์ละ 1 วัน ให้สลับวันกัน เพื่อให้พวกเขาได้พักและยังมีไรเดอร์เพียงพอต่อการให้บริการ บางวันงานเยอะ ๆ ผมก็เคยออกไปช่วยวิ่งส่งของเองนะครับ บางครั้งมาลองนั่งคิดค่าใช้จ่ายดู เผลอ ๆ ไรเดอร์ได้เงินต่อวันมากกว่าผมด้วยซ้ำ (หัวเราะ) 

“ผมการันตีนะว่าไรเดอร์ที่มีอยู่ตอนนี้ เขาจะได้รายได้อย่างต่ำ 500 บาทต่อวัน หลังหักค่าบริหารจัดการให้ผมแล้ว โดยทุกคนจะมีคิวงานเฉลี่ยอยู่ที่ 30 คิวเป็นอย่างน้อย รายได้สูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำในตอนนี้ด้วยซ้ำ ถือว่าไม่ธรรมดา นี่ไรเดอร์เราก็ออกรถใหม่หลายคันแล้วนะครับ แรก ๆ มามีแต่คันเก่า ๆ แสดงว่าน้อง ๆ เขาก็โอเค เพราะผมบอกน้อง ๆ ว่า อย่างน้อยที่สุด จะอยู่ให้ได้เราต้องมีรายได้วันละ 500 บาทขึ้นไป

“ส่วนเรื่องการทำงาน ผมเน้นย้ำมากเรื่องการแต่งกายให้เรียบร้อย ถ้าวันไหนฝนตกก็อนุโลมให้ใส่รองเท้าแตะได้ และที่สำคัญต้องพูดจาและมีมารยาทที่ดีต่อลูกค้า ผมเน้นเรื่องนี้ทุกวันผ่านทางไลน์กลุ่มของไรเดอร์บ้านไผ่เดลิเวอรี่ ผมบอกตลอดว่าในการขับขี่บนท้องถนน อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ และควรมีน้ำใจกับผู้ขับขี่บนท้องถนน 

“ผมบอกน้อง ๆ ทุกคนว่า เวลาออกไปส่งของ ถ้าเจอคนขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่เกิดปัญหาบนท้องถนน เช่น น้ำมันหมดหรืออะไรก็ตาม ให้ช่วยเขาเหล่านั้นด้วย จะช่วยยันรถเขาไปที่ปั๊มน้ำมันหรืออะไรก็ว่ากันไป อย่าปล่อยปละละเลยผู้ที่ขับขี่ร่วมท้องถนนเหมือนกันกับเรา ซึ่งความคิดนี้มาจากที่ตัวผมเองเป็นอาสาสมัครกู้ภัยมาก่อน 

บ้านไผ่เดลิเวอรี่ สตาร์ทอัพระดับอำเภอในขอนแก่น ให้บริการฝากซื้อ-จัดส่งทุกสิ่ง และชวนคนบ้านเดียวกันมาเป็นไรเดอร์

“อีกอย่าง ด้วยระบบที่เราใช้รับคำสั่งซื้อสินค้าคือการโทรศัพท์หรือผ่านแชตไลน์ หากมีอะไรผิดพลาด ลูกค้าจะร้องเรียนมาโดยตรงทันที และผมจะเห็นทุกอย่างที่รายงานอยู่ในนี้ ต่างจากแอปฯ ทั่วไปที่มี ซึ่งเวลาเกิดเหตุ เวลาร้องเรียนอะไรก็จะส่งเรื่องไปที่ออฟฟิศ กว่าจะดำเนินการก็รอกันไป แต่ของบ้านไผ่เดลิเวอรี่ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นและถูกร้องเรียนจะส่งตรงมาที่ผม เรารู้ทั้งหมดและต้องเข้าไปจัดการแก้ไข  

“ไรเดอร์ที่อยู่กันทุกวันนี้เราอยู่กันเหมือนพี่เหมือนน้อง ผมจะไม่ถือตัวว่าเป็นเถ้าแก่ มีอะไรแบ่งกันกิน มีปัญหาอะไรปรึกษากันได้ เอาความผูกพันแบบนี้ คือน้องกินอะไรผมกินแบบนั้น ไม่ถือเนื้อถือตัว มีอะไรก็ปรึกษากัน ไถ่ถามกัน ช่วยกันตลอด และระหว่างวันช่วงที่ยังไม่มีคิวงาน ผมจะให้พวกเขามาพักตรงจุดนี้ที่เราเช่าเอาไว้ ซึ่งเคยเป็นออฟฟิศของแอปฯ ดิลิเวอรีเจ้าหนึ่งที่ปิดกิจการไป เพราะอยากให้น้องไรเดอร์มีที่อยู่ เอาไว้หลบแดด หลบฝน ไม่ต้องไปอยู่ตามร่มไม้หรือจอดตามข้างทางเหมือนไรเดอร์ของค่ายอื่น ๆ”

ฟังถึงตรงนี้ ทำให้เราเข้าใจแล้วว่าบ้านไผ่เดลิเวอรี่เป็นมากกว่าแค่งานบริการรับ-ส่งของ อำนวยความสะดวกให้กับคนในอำเภอเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญคือสตาร์ทอัพนี้ได้ให้ชีวิตที่ดีขึ้นกับผู้ร่วมงานด้วย ทั้งเรื่องรายได้ที่เป็นธรรม ความสุขระหว่างการทำงานของคนทำงาน และความไว้วางใจต่อกัน ซึ่งความรู้สึกนี้ยิ่งถูกเน้นย้ำให้ชัดเจนขึ้น เมื่อได้แยกออกไปพูดคุยกับไรเดอร์ของบ้านไผ่เดลิเวอรี่ท่านหนึ่ง ซึ่งเผยความในใจที่อยากบอกกับลูกพี่ของเขา

จากใจไรเดอร์บ้านไผ่เดลิเวอรี่ ถึงลูกพี่

“ผมชื่อ แสงเทียน สันทา ชื่อเล่นว่า ใหญ่ อายุ 36 ปีครับ เมื่อก่อนผมเป็นผู้จัดการบริษัท พอลาออกจากบริษัทกลับมาอยู่บ้าน ก็เริ่มจากขับรถดิลิเวอรีส่งอาหารให้กับแอปฯ หนึ่งในบ้านไผ่ ไม่นานแพลตฟอร์มดังกล่าวก็ปิดกิจการลง ผมเลยมาสมัครทำงานที่บ้านไผ่เดลิเวอรี่ ซึ่งช่วงนั้นน่าจะเปิดมาได้ประมาณปีกว่า ๆ แล้ว

“การทำงานที่บ้านไผ่เดลิเวอรี่ทำให้ผมได้ทำงานอยู่ใกล้บ้านเกิด ได้เปลี่ยนประสบการณ์ใหม่ ๆ ถึงจะไม่ใช่งานที่ตรงกับสาขาช่างกลโรงงานที่เรียนจบมา และต้องตากแดดเวลาไปส่งของ ต้องเผชิญกับอากาศร้อน ๆ เราก็มีเครียดบ้างไปตามสภาพอากาศ แต่สำคัญที่สุดคืองานนี้ทำให้ผมได้อยู่ใกล้บ้าน ใกล้พ่อแม่ ได้ดูแลท่าน และได้รายได้ดีสูสีกับที่เคยทำงานเป็นผู้จัดการบริษัทเลย เพียงพอต่อการดำรงชีวิตได้อย่างดี

บ้านไผ่เดลิเวอรี่ สตาร์ทอัพระดับอำเภอในขอนแก่น ให้บริการฝากซื้อ-จัดส่งทุกสิ่ง และชวนคนบ้านเดียวกันมาเป็นไรเดอร์

“ที่สำคัญ ผมมีความสุขกับการทำงานที่นี่มาก เพราะมีหัวหน้าที่ดี มีทีมงานที่ดี เวลาที่เราว่างจากการส่งของแล้วมารวมอยู่ตรงจุดพัก เราก็ได้พูดคุยเฮฮากันสนุกสนาน เราได้ผ่อนคลายหายเหนื่อย และดีใจที่ได้รับใช้ชาวบ้านไผ่ ได้พูดคุยสนุกกับลูกค้า บางครั้งได้คุยกันแบบตลก ๆ ถ้ามีอะไรผิดพลาดเราก็ขอโทษลูกค้าไป เขาก็ให้อภัยเรา ด้วยความเป็นคนบ้านเดียวกัน สิ่งเหล่านี้ทำให้รู้สึกอบอุ่นใจ

“ผมคิดว่าจะยังทำงานกับบ้านไผ่เดลิเวอรี่ไปอีกนานเลยครับ นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ การทำงานที่นี่ทำให้ผมมีบ้าน มีรถวิ่งงานใหม่ คือรถคันที่ผมนำมาขับให้ถ่ายภาพในวันนี้แหละครับ เพิ่งออกมาใหม่ได้เดือนเดียวเอง และตอนนี้ก็กำลังสร้างบ้านอยู่ครับ นี่เป็นสิ่งที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงจากการทำงานของผมกับบ้านไผ่เดลิเวอรี่ ผมภูมิใจมากและมีกำลังใจดีขึ้นมากกับการกลับมาอยู่บ้านเกิด ดีใจที่ได้มารับใช้คนบ้านไผ่

“ในฐานะลูกน้อง ผมอยากบอกว่าผมรักและเคารพพี่เอ๋มาก พี่เป็นหัวหน้าที่เหมือนพี่ชายคนหนึ่ง ตั้งแต่ผมเข้ามาเริ่มงานกับพี่ ผมมีความสุข ผมภูมิใจที่ผมได้รับงานนี้ ขอบคุณที่ให้โอกาสผมได้เข้ามาถึงจุดนี้ ทำให้ชีวิตผมได้มีอะไรหลาย ๆ อย่าง เหมือนพี่ให้ชีวิตใหม่ ให้โอกาสผมอีกครั้งหนึ่ง”

บ้านไผ่เดลิเวอรี่ สตาร์ทอัพระดับอำเภอในขอนแก่น ให้บริการฝากซื้อ-จัดส่งทุกสิ่ง และชวนคนบ้านเดียวกันมาเป็นไรเดอร์

ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือในช่วงท้ายของไรเดอร์ผู้นี้ เราสัมผัสได้ทันทีว่าลูกพี่ของเขานั้นซื้อใจเขาได้ทั้งดวง 

หลังจากพูดคุยกันถึงตรงนี้ ฉันและช่างภาพได้ขอเบรกบทสนทนา เพื่อลองตามติดชีวิตของพี่ใหญ่ ไรเดอร์ของบ้านไผ่เดลิเวอรี่ที่ขับรถมอเตอร์ไซค์คันใหม่เอี่ยมของเขาพาไปยังจุดต่าง ๆ รอบอำเภอ เพื่อซื้อหาสินค้าตามออร์เดอร์ที่ลูกค้าสั่ง มีทั้งวัตถุดิบอาหารสดอย่างพืชผักหรืออาหารปรุงเสร็จพร้อมกิน อาทิ ก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อยในอำเภอ นั่นยิ่งตอกย้ำว่างานบริการในนามบ้านไผ่เดลิเวอรี่นั้นซื้อหาและจัดส่งสินค้าได้ทุกอย่างจริง ๆ จนชวนคิดว่าคนอำเภอนี้ช่างโชคดีที่มีคนคิดทำงานบริการเช่นนี้ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับวิถีชีวิตแต่ละวันของพวกเขา 

ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนบ้านไผ่ และก่อให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในบ้านเกิด

หลังตามติดไรเดอร์แล้ว เราก็กลับมายังจุดพักของบ้านไผ่เดลิเวอรี่อีกครั้ง เพื่อกล่าวคำขอบคุณกับเอ๋ และไม่ลืมถามคำถามสำคัญที่ยังขยักไว้ คือบ้านไผ่เดลิเวอรี่สอนอะไรกับเขาบ้าง และในฐานะของคนให้บริการดิลิเวอรีในอำเภอ เขาอยากบอกอะไรกับลูกค้าคนบ้านไผ่บ้าง

เอ๋กล่าวกับเราว่า “ความคิดเราเปลี่ยนไปนะครับ จากวันแรกที่คิดแค่จะหาเงินใช้และได้ทำงานเป็นนายตัวเองเท่านั้น วันนี้การทำบ้านไผ่เดลิเวอรี่เป็นอะไรที่มากไปกว่านั้น เพราะเรากลายเป็นส่วนหนึ่งของคนบ้านไผ่ไปแล้ว อย่างวันไหนที่ผมประกาศหยุด ลูกค้ายังโทรมาถามเราว่า ถ้าหยุดแล้วเขาจะทำยังไง จะสั่งซื้อของกินของใช้ได้ยังไง เขายังโทรมาในลักษณะแบบนี้ ยิ่งสะท้อนชัดเจนว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของลูกค้าไปแล้วจริง ๆ ซึ่งถือว่าเป็นเกียรติกับทีมของเรามาก

“ผมอยากขอบคุณลูกค้าทุกท่านครับ และอยากชวนให้ลูกค้าบ้านไผ่มาใช้บริการกันเยอะ ๆ เพราะเราเองก็คนบ้านไผ่ ไรเดอร์เองส่วนใหญ่ก็เป็นคนบ้านไผ่ ลูกค้าก็คนบ้านไผ่ สั่งซื้อของจากร้านค้าของคนบ้านไผ่ ต่างฝ่ายในอำเภอต่างช่วยเหลือกัน มันก็จะเกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนอยู่ในอำเภอนี้ ธุรกิจต่าง ๆ ในอำเภอก็จะเจริญและไปได้ดี เงินทองก็ไม่รั่วไหลออกจากอำเภอเราครับ”

แทบไม่น่าเชื่อว่าธุรกิจสตาร์ทอัพระดับอำเภอนี้จะเชื่อมโยงหลายส่วนของสังคมให้พัฒนาไปสู่การมีชีวิตที่ดีกว่าได้อย่างน่าชื่นชม นับเป็นตัวอย่างที่สะท้อนให้เราเห็นว่าการสร้างสรรค์สังคมให้ดีขึ้นนั้น ไม่จำเป็นต้องรอการขับเคลื่อนจากนโยบายใหญ่ ๆ ก็ได้ แค่เริ่มจากตัวเราเอง เริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ คนเล็ก ๆ ขอเพียงแค่ทำสิ่งนั้นอย่างจริงใจ แล้ววันหนึ่งรอยคลื่นจากหินที่โยนลงในน้ำจะกระเพื่อมสร้างวงกว้างออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเอง  

เอ๋น้อยยังฝากบอกไปอีกว่า หากมีพื้นที่ใดที่คิดอยากทำดิลิเวอรีสำหรับคนในพื้นที่ เขาก็ยินดีรับให้คำปรึกษา

ก่อนกล่าวลา เราไม่ลืมที่จะถามเอ๋น้อยว่า ในฐานะที่บ้านไผ่เดลิเวอรี่เปิดมานานพอตัว และรับสั่งซื้อสินค้าในอำเภอบ้านไผ่ทุกวัน คนที่นี่สั่งซื้ออะไรมากที่สุด คำตอบคือ ‘อาหาร’ เพราะที่อำเภอนี้มีอาหารอร่อยอยู่หลายเจ้า โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวรสเด็ด เราจึงขอให้ทีมบ้านไผ่เดลิเวอรี่ช่วยจัดอันดับ 3 ร้านก๋วยเตี๋ยวในดวงใจซึ่งสั่งซื้อผ่านบริการของบ้านไผ่เดลิเวอรี่มากที่สุด และนำมารีวิวฝากคุณกัน เผื่อวันไหนมีโอกาสแวะมาเยือนบ้านไผ่จะได้ไม่พลาดของอร่อย

Top 3 ร้านก๋วยเตี๋ยวรสเลิศในอำเภอบ้านไผ่ จัดอันดับโดย บ้านไผ่เดลิเวอรี่

บ้านไผ่เดลิเวอรี่ สตาร์ทอัพระดับอำเภอในขอนแก่น ให้บริการฝากซื้อ-จัดส่งทุกสิ่ง และชวนคนบ้านเดียวกันมาเป็นไรเดอร์

อันดับ 1 ร้านชวนโอชา ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำใส ๆ เชง ๆ  

ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำใสเก่าแก่ที่มีลูกค้ามุงเต็มหน้าร้านทุกวันแห่งนี้ เปิดพร้อมการก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เดิมขายก๋วยเตี๋ยวหลายชนิด ทั้งก๋วยเตี๋ยวเป็ด ก๋วยเตี๋ยวไก่ไทยน้ำใส และก๋วยเตี๋ยวหมู ปัจจุบันขายเฉพาะก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำใส ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย แต่ต้องรอนานสักหน่อย เพราะคนทำรุ่นลูกก็อายุอานามก็เริ่มมากแล้ว 

ทีเด็ดอยู่ตรงน้ำซุปกระดูกหมูรสหวานธรรมชาติ ใส่หมูสับบะช่อเน้น ๆ พร้อมเครื่องสารพัด ทั้งหมูยอ ตับลวก เซี่ยงจี๊ กระเพาะหมู เครื่องในทุกอย่างทำมาได้ดีแบบไร้กลิ่นสาบ แถมหั่นชิ้นหนา ไม่หวงเครื่อง ถ้าใครสั่งแบบก๋วยเตี๋ยวแห้งจะมีถั่วลิสงคั่วบุบ คั่วเองหอม ๆ โรยมาด้วย  

พิกัดร้าน ริมถนนเจนจบทิศ ใกล้กับแยกหอนาฬิกาตรงสี่แยกใหญ่ใน อ.บ้านไผ่ (แผนที่)

เปิด วันจันทร์-เสาร์ เวลา 06.30 – 15.30 น.

โทรศัพท์ 06 2414 4985

บ้านไผ่เดลิเวอรี่ สตาร์ทอัพระดับอำเภอในขอนแก่น ให้บริการฝากซื้อ-จัดส่งทุกสิ่ง และชวนคนบ้านเดียวกันมาเป็นไรเดอร์

อันดับ 2 เชียงใหม่โอชา ก๋วยเตี๋ยวเนื้อกลิ่นหอมยวนใจ

คุณธงชัย จันทร์นวล ซึ่งเป็นคนเชียงใหม่ เคยทำงานในร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อชื่อดังในเชียงใหม่มาก่อน วันหนึ่งมีโอกาสมาพักที่บ้านไผ่ และเห็นว่าเป็นทำเลที่เหมาะจะค้าขาย จึงย้ายมาใช้ชีวิตและเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนี้ขึ้นในช่วง พ.ศ. 2524 ปัจจุบัน คุณอ้น ผู้เป็นลูกชายเป็นผู้สานต่อกิจการ 

ก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ดีงามที่ใช้เนื้อวัวสดใหม่มาปรุงทุกวัน ทำลูกชิ้นเอง และนำน้ำต้มลูกชิ้นมาทำน้ำซุปก๋วยเตี๋ยว จึงมีกลิ่นหอมและอร่อยแบบไม่ต้องพึ่งผงชูรส เนื้อเปื่อยของทางร้านก็เปื่อยแบบพอดี เครื่องในวัวก็จัดการได้ดี ไร้กลิ่นสาบกลิ่นคาว รับรองว่าอร่อยจนต้องขอชามซดน้ำซุปจนหยดสุดท้ายกันเลย

พิกัดร้าน ถนนสุขาภิบาล 2 ต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ ฝั่งตรงข้ามโรงแรมอินภาวาและศาลเจ้า (แผนที่)

เปิด ทุกวัน เวลา 07.30 – 15.30 น. อาจหยุดบางช่วงหลังเทศกาลสำคัญ เช่น ปีใหม่ สงกรานต์ 

โทรศัพท์ 08 4263 0701

บ้านไผ่เดลิเวอรี่ สตาร์ทอัพระดับอำเภอในขอนแก่น ให้บริการฝากซื้อ-จัดส่งทุกสิ่ง และชวนคนบ้านเดียวกันมาเป็นไรเดอร์

อันดับ 3 กวงตัง บะหมี่เส้นเล็กบาง เหนียวหนึบนุ่ม เป็ดย่างทำเอง

ร้านบะหมี่เจ้าดังประจำอำเภอที่เปิดมาตั้งแต่ พ.ศ. 2485 โดย นายเซ็ง แซ่ว่อง ชาวจีน เอกลักษณ์คือเส้นบะหมี่ที่ทางร้านทำเอง เส้นเล็กบาง เหนียวนุ่มหนึบหนับนั้นดีงามมาก แนะนำให้สั่งแบบแห้งพร้อมเป็ดย่างกลิ่นหอมควันไฟ ราดน้ำเป็ดย่างหอม ๆ หรือใครจะสั่งแบบพิเศษเพิ่มเกี๊ยวแผ่นบางเฉียบห่อหมูสับชิ้นโต พร้อมหมูแดงที่แห้งแต่นุ่มใส่มาด้วยก็ช่วยเพิ่มดีกรีความอร่อย ส่วนสาวกก๋วยเตี๋ยวน้ำ น้ำซุปของทางร้านก็หอมหวานกลิ่นน้ำต้มกระดูก แวะมาบ้านไผ่ไม่ควรพลาด

พิกัดร้าน ถนนสุขาภิบาล 2 ต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ ฝั่งเดียวกันกับร้านเชียงใหม่โอชา ตรงข้ามร้านศรีนวลข้าวมันไก่ (แผนที่)

เปิด ทุกวัน เวลา 09.30 – 16.00 น. (ร้านอาจปิดเมื่อมีธุระ) 

โทรศัพท์ 04 3272 595, 08 1872 6972

ท้ายที่สุดนี้ หากคุณมีโอกาสแวะเวียนมาเยี่ยมเยือนหรือท่องเที่ยวอำเภอเล็กน่ารักที่มีของกินอร่อยเพียบอย่างอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น และต้องการสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพดิลิเวอรีประจำอำเภอ ก็โทรศัพท์หรือแอดไลน์ของบ้านไผ่เดลิเวอรี่ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08 4790 3007 แล้วเข้าไปสั่งซื้ออาหารในอำเภอบ้านไผ่กันได้เลย รับรองว่ารวดเร็วทันใจ ไม่ผิดหวัง แถมทุกครั้งที่เลือกใช้บริการดังกล่าว คุณยังได้มีส่วนช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจในอำเภอแห่งนี้ให้หมุนเวียนและดำรงอยู่ต่อไปอีกด้วย

บ้านไผ่เดลิเวอรี่ สตาร์ทอัพระดับอำเภอในขอนแก่น ให้บริการฝากซื้อ-จัดส่งทุกสิ่ง และชวนคนบ้านเดียวกันมาเป็นไรเดอร์

Writer

สิทธิโชค ศรีโช

สิทธิโชค ศรีโช

มนุษย์ผู้ตกหลุมรักอาหารการกินมาตั้งแต่จำความได้ เคยโลดแล่นอยู่ในวงการสื่อสารด้านอาหารกว่าสิบปี ก่อนกลับบ้านนอกมาใช้ชีวิตติดกลิ่นปลาร้าที่อีสาน และยังคงมุ่งมั่นส่งต่อเรื่องราววัฒนธรรมอาหาร สุขภาพ และการดำรงชีวิตของผู้คนบนที่ราบสูง ให้โลกได้รับรู้

Photographer

Avatar

กานต์ ตำสำสู

จบวารสารศาสตร์ ม.สารคาม อายุ 26 เป็นคนสตูลที่เดินทางมาเรียนที่ภาคอีสาน ชอบฟังเพลงโลโซ คลั่งฟุตบอลไทย และชอบถ่ายภาพบ้านเกิดตัวเองเป็นชีวิตจิตใจ ปัจจุบันเปิดแล็ปล้างฟิล์มและห้องมืด ‘ฟิล์มกาหลง’ อยู่ขอนแก่น