เชื่อว่าอควาเรียมเป็นสถานที่โปรดของหลาย ๆ คน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ เราก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น เพราะไม่ว่าจะมีโอกาสได้ไปเมืองอะไรก็ตาม หากที่นั่นมีอควาเรียม เราต้องแวะ! 

ก็การมีปลาเป็นร้อยเป็นพันที่ไม่ได้หาดูได้ง่าย ๆ มาว่ายล้อมรอบตัวนั้นมันมหัศจรรย์มาก 

แต่ในวันนี้ที่เราได้ก้าวเข้ามา ณ อความเรียมกลางกรุงเทพฯ ในเวลา 9 โมงเช้า เรากลับลืมดูปลาไปเสียสนิท เพราะคนที่อยู่ตรงหน้านั้น คือ Scott O’Neil ประธานกรรมการบริหารของบริษัทระดับโลกอย่าง Merlin Entertainments ผู้อยู่เบื้องหลังสถานที่ท่องเที่ยว เช่น London Eye, Madame Tussauds และ SEA LIFE Bangkok 

ใครจะไปคิดไปฝันว่าฉากหลังของการได้นั่งคุยกับ CEO ของบริษัทระดับโลกจะเป็นฉลามตัวโตที่ว่ายน้ำเอื่อย ๆ อย่างสบายใจ

คุณ Scott เองก็มีความเป็นกันเองและชิลล์ไม่แพ้ฉลามยักษ์ตัวนั้นแม้แต่น้อย ซึ่งเป็นเรื่องน่าประหลาดใจสำหรับเราเป็นอย่างมาก เพราะการเป็น CEO ของบริษัทระดับโลก การแบกรับความรับผิดชอบในสเกลใหญ่ ความกดดันจากผู้ถือหุ้น ความคาดหวังจากพนักงานหลักหมื่น แค่ฟังก็เหนื่อยแล้ว

แต่สำหรับคุณ Scott แล้ว การได้เป็น CEO ของบริษัทสร้างสุขแห่งนี้ คือความสุขสูงสุด สุขจนไม่คิดอยากจะไปไหน และสุขจนไม่คิดอยากจะเกษียณ

เพราะฉะนั้น นอกเหนือจากการอัปเดตสถานการณ์การท่องเที่ยวในไทยและเรื่องราวของ Merlin Entertainments แล้ว วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงที่มาที่ไปของความสุขสูงสุดของ CEO คนนี้ผ่านคอลัมน์กัปตันทีมกัน

ตอนนี้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและความบันเทิงในประเทศไทยเป็นอย่างไรบ้าง

แม้ตอนนี้อาจจะยังไม่ได้ฟื้นกลับมาจากโควิด 100% แต่ไทยเป็นประเทศที่มหัศจรรย์มากครับ เป็นประเทศที่มีความโดดเด่นมาก ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การท่องเที่ยวในประเทศนั้นขับเคลื่อนด้วยนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน ผมมองเห็นโอกาสในประเทศไทยเต็มไปหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้างสรรพสินค้า เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักทั้งสำหรับต่างชาติและคนไทยเอง ประเทศไทยมีเศรษฐกิจท้องถิ่นที่แข็งแกร่ง ชนชั้นกลางที่กำลังเติบโตและกล้าที่จะจับจ่ายใช้สอย 

ผมจึงคิดว่าประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งโอกาส แต่แน่นอนว่าทุกเมืองนั้นมีการแข่งขันสูง ซึ่งถ้าตลาดในประเทศไทยอิ่มตัวมากกว่านี้ เราคงจะไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไหร่ แต่เรามองเห็นพื้นที่ว่างสำหรับโอกาสอีกมากมาย เราเห็นความเคลื่อนไหวของผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวที่ให้ความสนใจในคุณภาพและสนใจในแบรนด์ ซึ่งมันเข้าทางเรา เพราะฉะนั้น เราก็วางแผนว่าจะอยู่ในตลาดนี้อีกยาว ๆ 

Merlin Entertainments แตกต่างจากบริษัทอื่น ๆ ในวงการอย่างไร

ถ้าดูจากจำนวนผู้มาเยือนสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ แล้ว Disney เป็นที่ 1 Merlin เป็นที่ 2 และ Universal เป็นที่ 3 แต่ Merlin ไม่เป็นสองรองใครแน่นอนในแง่ของขนาดและขอบเขตการทำงานของเรา ไม่มีบริษัทไหนที่อยู่ใน 23 ประเทศ 87 เมืองรอบโลกเหมือนอย่างเรา ดังนั้น เวลาแบรนด์ใดอยากจะทำให้ตัวเองมีชีวิตชีวาและมีตัวตนขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็น LEGO, Peppa Pig หรือ Ferrari เราก็เป็นบริษัทที่น่าเข้าหา 

ข้อได้เปรียบของ Merlin Entertainments ในสนามแข่งขันนี้คืออะไร

ถึงแม้ว่าบริษัทจะตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษ แต่เราเป็นบริษัทระดับโลก และพยายามดำเนินงานให้ยั่งยืนที่สุดผ่านการให้คนท้องถิ่นเป็นผู้นำในแต่ละประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ จีน เกาหลี หรือประเทศไทย เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน ทีมบริหาร หรือทีมงาน ทุกคนเกิดและโตในประเทศนั้น ๆ ทุกคนรู้จักพื้นที่นั้น ๆ เป็นอย่างดี รู้ว่าอะไรจะเวิร์กหรือไม่เวิร์ก รู้จักเจ้าหน้าที่ราชการ เข้าใจนโยบาย และสิ่งที่ดึงดูดคนในพื้นที่เป็นอย่างดี

ในมุมมองของ Merlin แล้ว ไทยแตกต่างจากประเทศอื่นในแถบนี้อย่างไร

การต้อนรับและความเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวนั้นเหมือนกับเป็นธรรมชาติของประเทศไทยและคนไทยเลยทีเดียว ในแง่ของการหาผู้นำและทีมงานในประเทศไทยนั้นไม่ใช่ปัญหาเลย ประเทศไทยมีกลุ่มคนที่มีความสามารถจำนวนมากที่เข้าใจการต้อนรับและการรับรองแขกบ้านแขกเมือง พร้อมสร้างประสบการณ์ระดับโลกไปพร้อม ๆ กัน นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีที่พักซึ่งน่าทึ่งมาก มีโรงแรมให้เลือกตั้งแต่ 1 ไปจนถึง 5 ดาว อาหารก็สุดยอด สนามบินก็ดีมาก โครงสร้างพื้นฐานมีพร้อม ไหนจะมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าดึงดูดอีก เช่น วัดและพระราชวัง ผมว่าไทยเป็นประเทศที่ทุกคนทั่วโลกต้องมาสักครั้ง ผมเชื่อว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวไปได้อีกนาน

Merlin Entertainment มีเป้าหมายอย่างไรในการเติบโตในประเทศไทย

เราใช้ลอนดอนเป็นโมเดล เราเป็นผู้บริหาร London Eye ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวโด่งดังที่สุดในโลก และเราก็มี Madame Tussauds ด้วย เวลาที่คนไปเที่ยวลอนดอนก็ต้องไป 2 ที่นี้อย่างแน่นอน อันที่จริงแล้ว 1 ใน 4 ของนักท่องเที่ยวที่ไปลอนดอนต้องไปอย่างน้อย 1 ที่ที่เราดูแลอยู่ และ 40% ของนักท่องเที่ยวนั้นไปมากกว่า 2 ที่ของเราด้วยซ้ำ เพราะนอกจาก London Eye และ Madame Tussauds แล้ว เรายังมี SEA LIFE Center, The London Dungeon และ Shrek’s Adventure อีกด้วย เพราะฉะนั้น ถือว่าเรามีอัตราการเข้าถึงตลาด (Penetration Rate) ถึง 25% 

ทำให้เรากลับมาตั้งคำถามว่า แล้วมีเมืองไหนบนโลกที่เราจะทำแบบนี้ได้อีกไหม ซึ่งประเทศไทยเป็น 1 ใน 10 ประเทศที่เป็นคำตอบของเรา เราพยายามที่จะนำโมเดลความสำเร็จจากลอนดอนมาใช้ที่นี่ แน่นอนว่าคงไม่เกิดขึ้นภายในข้ามคืน มันต้องใช้เวลาและความอดทน แต่เราก็จะพยายามผลักดันให้มันเกิดขึ้นให้จนได้ 

ทำไมคุณถึงเลือกที่จะมาเป็น CEO ของ Merlin Entertainments

มี 3 อย่างที่ดึงดูดผมเข้ามาที่นี่ อย่างแรก คือคน ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ผมก็รู้สึกได้ว่าทุกคนที่นี่มีแพสชันอย่างแรงกล้า สัมผัสได้ผ่านวัฒนธรรมของคนที่นี่ ทุกคนมีความเป็นผู้นำที่สร้างแรงบันดาลใจได้ Merlin ยังมีคณะกรรมการที่มีวิสัยทัศน์ที่จะพาบริษัทเติบโต และผู้บริหารทุกคนที่นี่ก็เก่งมากจริง ๆ 

อย่างที่ 2 คือขนาดของบริษัท เราอยู่ใน 23 ประเทศ 87 เมือง มีมากกว่า 140 สถานที่ท่องเที่ยว และพนักงานมากกว่า 30,000 คน ซึ่งพอเป็นบริษัทใหญ่ขนาดนี้ ทำให้ผมกล้าที่จะฝัน และการได้เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทระดับโลกทำให้ได้เจอโอกาสทุกรูปแบบ ยิ่งในทุกวันนี้ที่โลกเล็กลงและโอกาสใหญ่ขึ้น 

สุดท้าย คือเรื่องของจุดมุ่งหมาย สำหรับผมแล้ว ผมจะทำงานในธุรกิจที่มีจุดมุ่งหมายอันยิ่งใหญ่เท่านั้น ซึ่งสำหรับ Merlin แล้ว เรามีจุดมุ่งหมายในการสร้างความสุข ความสัมพันธ์ และความทรงจำที่ดี ซึ่งทำให้ผมอยากตื่นมาทำงานทุกเช้า ยิ่งหลังจากที่เราได้เจอโควิดมาแล้วด้วย ผมจึงยิ่งเห็นว่าการมีความสัมพันธ์กับคนรอบตัวสำคัญขนาดไหน

คุณจะให้คำนิยามตัวเองว่าเป็น CEO แบบใด

สิ่งหนึ่งที่ผมหลงใหลคือการสร้างผู้นำรุ่นใหม่ ผมจึงมองว่าตัวเองเป็นเหมือนโค้ช เป็นที่ปรึกษา และเป็นครู ผมชอบคนที่มีพรสวรรค์และมีความสามารถ ซึ่งเมื่อผมจับคู่และช่วยสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถให้มีคุณธรรม ทำงานเป็นทีม และมีความสงสัยใคร่รู้ได้ ผมว่ามันเป็นสูตรสำเร็จของผู้นำที่ดีมาก ๆ เลยนะ 

อีกอย่างคือผมชอบการเติบโต ผมตื่นเต้นและชอบโอกาสที่มาจากการเปลี่ยนแปลง และผมชอบการมีพื้นที่ในการทำสิ่งที่ดี มีโอกาสที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในโลก เพื่อให้โลกนี้ดีขึ้นกว่าที่เคยเป็น

คิดว่าอะไรคือคุณสมบัติที่สำคัญของกัปตันทีม

ผมว่าคือการมีวิสัยทัศน์สำหรับอนาคตและความสามารถในการดึงดูดคนเก่งเข้าสู่องค์กร เพราะผมเชื่อว่าผลการดำเนินธุรกิจและคุณภาพของคนนั้นสัมพันธ์กันชัดเจน หลาย ๆ ครั้งคนที่เป็นผู้นำอาจไปโฟกัสกับผลลัพธ์ แต่ที่สำคัญไม่แพ้กันคือคุณได้ผลลัพธ์นั้นมาอย่างไร ซึ่งกระบวนการอันนำมาซึ่งผลลัพธ์นั้นเริ่มและจบด้วยประเภทของคนที่คุณดึงดูดเข้ามาสู่องค์กรและคงอยู่ในองค์กร จนเกิดเป็นวัฒนธรรมในองค์กรนั้น ๆ ซึ่งถ้าคุณทำตรงนี้ได้ถูกต้อง ผมเชื่อว่าที่เหลือจะเป็นเรื่องที่สนุกและง่ายดาย

อะไรคือบทเรียนสำคัญที่สุดที่คุณได้เรียนรู้ในฐานะ CEO

ผมว่าความไว้ใจนั้นเป็นรากฐานที่สำคัญของบริษัทและของทีมผู้บริหารที่ดีครับ

อะไรคือสิ่งที่ยากและลำบากใจที่สุดที่เคยทำมาในฐานะ CEO

สำหรับผมคือการต้องปล่อยคนของเราไปเมื่อถึงเวลา เราเป็นบริษัทที่มีอายุถึง 30 ปี มีประเพณี ประวัติศาสตร์ ตลอดจนผู้บริหารที่น่าทึ่ง ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งมายาวนานและเข้าใจตัวตนของเราจริง ๆ แต่แน่นอนว่าก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเวลาที่เราค้นพบว่าสิ่งที่พาเรามาถึงปัจจุบันอาจจะไม่ได้พาเราไปสู่จุดมุ่งหมายก็ได้ และเมื่อถึงวันนั้นก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง แต่ก็ยังเป็นสิ่งที่ยากลำบากใจสำหรับผมมากที่สุดอยู่ดี

อะไรคือสิ่งที่คุณภูมิใจที่สุดตั้งแต่เข้ามาเป็น CEO ของ Merlin Entertainments

จริง ๆ ปีที่แล้วเราทำรายได้ได้สูงสุดเท่าที่เคยทำมา และเราก็มีแผนจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นเรื่องดีมาก ๆ แต่สิ่งที่ผมรู้สึกภูมิใจที่สุดกลับเป็นจดหมายจากผู้ปกครองที่เขียนมาเล่าว่าสถานที่ท่องเที่ยวของเราเป็นที่ที่ลูก ๆ ของพวกเขาได้เรียนรู้อย่างปลอดภัย ซึ่งนั่นคือจุดมุ่งหมายของเรา

ถ้าไม่ใช่เรื่องงาน คุณมีความหลงใหลและสนใจในเรื่องอะไร

ผมมีลูกสาว 4 คน การเป็นพ่อและครอบครัวคือแพสชันของผม ผมแต่งงานกับคุณ Lisa O’Neil มาแล้ว 28 ปี เรารู้จักกันตั้งแต่อายุยังน้อย เธอเป็นผู้หญิงที่มหัศจรรย์มาก ยิ่งในงานของผมที่เป็น CEO แล้วด้วย บางทีงานมันรัดตัวจนไม่ได้เจอครอบครัวเป็นเดือน ผมจึงต้องมีรากฐานที่แข็งแรงในสิ่งที่ผมให้คุณค่า ซึ่งก็คือศรัทธา ครอบครัว และงาน พอมีจุดยึดที่แข็งแรงใน 3 สิ่งนี้ ผมว่าทุกอย่างก็ราบรื่นดีหมด

ถ้านอกเหนือจากครอบครัวและงานแล้ว โดยพื้นฐานผมเป็นคนชอบการแข่งขันมาก ผมเล่นกีฬาทุกอย่าง ถ้ามีโอกาสทุกวันนี้ผมก็จะยังไปเล่นบาสฯ อยู่ ตอนนี้ผมเจอกีฬาใหม่ด้วย ชื่อ Paddle ค่อนข้างสนุกเลยทีเดียว ผมชอบชนะ ผมไม่ชอบแพ้เลย เพราะฉะนั้น ผมจะแข่งขันอย่างเต็มที่เสมอ และผมก็ชอบเรียนรู้และชอบการอ่าน Cryptocurrency ผมก็สนใจนะ ผมชอบสิ่งใหม่ ๆ ชอบเทคโนโลยีใหม่ ๆ ชอบหาโอกาสในการทำสิ่งใหม่ ๆ ในรูปแบบที่แตกต่างออกไป

ความสนใจต่าง ๆ ของคุณสะท้อนออกมาในงานหรือไม่ อย่างไร

แน่นอนอยู่แล้วครับ บางทีคนชอบถามผมว่า ในสถานที่ท่องเที่ยวของ Merlin ทั้งหมด ผมชอบที่ไหนที่สุด คำตอบของผมคือ Thorpe Park ที่ประเทศอังกฤษ เพราะเป็นสถานที่ที่ผมมีความทรงจำดี ๆ กับลูกสาวคนเล็ก และการเป็นพ่อคนนั้นเป็นประโยชน์กับงานของผมอย่างมาก เพราะสุดท้ายแล้วผมต้องทำงานกับคนที่เป็นพ่อเป็นแม่เหมือนกัน ผมก็จะเข้าใจพวกเขาดี

ถ้าเกษียณแล้วคุณวางแผนว่าจะทำอะไร

ตอนนี้ผมอายุ 54 แล้ว แต่ผมรักงานของผมมาก ผมไม่อยากจะไปไหน ไม่อยากจะไปวิ่งหาอะไร มันอธิบายค่อนข้างยากนะ แต่ผมหลงใหลในสิ่งที่ทำและวิธีการของเราจริง ๆ เพราะฉะนั้น ผมไม่อยากไปทำอะไรอย่างอื่นบนโลกนี้แล้ว บางคนอาจจะชอบตีกอล์ฟหรือมีงานอดิเรกอื่น ๆ แต่ผมชอบสร้างทีม สร้างความทรงจำ และปลดล็อกโอกาส 

แน่นอนว่างานของ CEO คือการเพิ่มมูลค่าบริษัทเพื่อผู้ถือหุ้น แต่ว่าการเพิ่มมูลค่าบริษัทก็มาพร้อมกับการสร้างโอกาสให้ทีมของเราได้เติบโตและเรียนรู้ สร้างโอกาสให้ครอบครัวได้มาพบปะ และมาสร้างความทรงจำดี ๆ ร่วมกัน เพราะฉะนั้น ตอนนี้ผมอยู่ในบริษัทระดับโลกที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ จินตนาการไม่ออกเลยจริง ๆ ว่าอยากจะทำอะไรอย่างอื่นอีก

10 Things you never know

about Scott O’Neil

1.  สถานที่ท่องเที่ยวในฝัน

Las Ventanas, Cabo ประเทศ Mexico

2.  เครื่องเล่นที่ชอบที่สุดในสวนสนุก

Wicker Man ที่สวนสนุก Alton Towers

3.  คุณเป็นแฟนบอลทีมอะไร

Aston Villa

4.  ประเทศน่าสนใจที่สุดที่เคยไป

ประเทศไทย

5.  สถานที่ที่ชอบที่สุดในประเทศไทย

SEA LIFE Bangkok

6.  ตอนเด็กอยากทำอาชีพอะไร

Point Guard (ผู้เล่นตำแหน่งหนึ่งในบาสเกตบอล) ของทีม New York Knicks

7.  หนังสือที่ทุกคนควรอ่าน

Be Where Your Feet Are (เพราะผมเขียนครับ)

8.  ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ คุณจะเปลี่ยนอะไร

ทุกความผิดพลาดในอดีตทำให้ผมได้เรียนรู้ ผมจึงไม่อยากกลับไปเปลี่ยนอะไรเลย

9.  หนังโปรดตลอดกาล

Father of the Bride

10.  อธิบายความเป็นตัวเองใน 3 คำ

Passionate, Fun และ Driven

Writer

ลิตา ศรีพัฒนาสกุล

ลิตา ศรีพัฒนาสกุล

ชอบอ่านหนังสือก่อนนอน ออกกำลังกาย และกำลังตามหางานอดิเรกใหม่ ๆ

Photographer

Avatar

ปฏิพล รัชตอาภา

ช่างภาพอิสระที่สนใจอาหาร วัฒนธรรมและศิลปะร่วมสมัย มีความฝันว่าอยากทำงานศิลปะเล็กๆ ไปเรื่อยๆ