ช่วงนี้หากเราได้กระทำการสำรวจแบบสวนดุสิตโพลว่าคืนศุกร์-เสาร์เราใช้เวลาไปกับอะไร คาดได้เลยว่าประชากรกรุงเทพฯ จำนวนมหาศาลจะต้องตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า โธ่คุณพี่ จะให้น้องทำอะไรได้ นอกจากตามล่าหาคำตอบว่าใคร.. เป็นคนฆ่าประเสริฐ! กับละครยอดฮิตติดดาวในช่วงนี้ เลือดข้นคนจาง

ก็จะไม่ให้เกาะขอบจอรอชมได้อย่างไร นอกจากจะมีนักแสดงวัยรุ่นหล่อเหลาให้ยลโฉมแล้ว (นิดหนึ่งน่า..) เนื้อเรื่องก็เข้มข้นชวนติดตามและระทึกในการวิเคราะห์คาดการณ์ ว่าด้วยความขัดแย้งระหว่างมรดกน้องพี่ในครอบครัว ‘จิระอนันต์’ จนเกิดเป็นเรื่องบาดหมางถึงขั้นเกิดฆาตกรรมปริศนาที่ทุกๆ คนในครอบครัวล้วนตกเป็นผู้ต้องสงสัย

ธุรกิจอะไรกันนะที่อยู่ในมรดกจนทำให้พี่น้องต้องบาดหมางทะเลาะกันใหญ่หลวง จนกลายเป็นหนึ่งในปมปริศนาผู้เข้าชิงเหตุฆาตกรรมครั้งใหญ่แห่งครอบครัวจิระอนันต์ รอบนี้ขออาสาพาทัวร์ประหนึ่งเป็นญาติในตระกูล ไปยัง 2 สถานที่ที่อยู่ภายใต้การดูแลของทั้งประเสริฐ (กบ ทรงสิทธิ์) และภัสสร (แหม่ม คัทลียา)

 

โรงแรม ‘จิรานันตา’

โรงแรมเอเชีย กรุงเทพ

ประเดิมสถานที่แรกที่เรียกได้ว่าน่าจะเป็นธุรกิจหลักและธุรกิจแรกของครอบครัวจิระอนันต์ กับโรงแรมในกรุงเทพฯ ‘จิรานันตา’ ฐานหลักของ ‘ประเสริฐ’ พี่ชายคนโตของตระกูลผู้ดำเนินกิจการในฐานะหัวเรือใหญ่ของธุรกิจ ตั้งแต่ฉากแรกก็อดไม่ได้ที่จะสะดุดตาในความไม่ธรรมดาของโรงแรมนี้ที่มีความคลาสสิกบางอย่าง ไม่เหมือนในละครทั่วไป น่าสนใจจนต้องพลิกกรุงหาว่ามันคือที่ใด

เลือดข้นคนจาง เลือดข้นคนจาง

คำตอบนั้นอยู่ไม่ไกลจากใจกลางกรุงเทพฯ เลย เพียงแค่ลงบีทีเอสสถานีราชเทวี คุณก็จะพบกับเป้าหมายแรกที่เรามักจะผ่านเลยไปโดยไม่ได้สนใจ ด้วยความที่ตัวละครเองพูดถึงธุรกิจตกทอดของครอบครัว โดยอาศัยความคลาสสิกประหนึ่งทรัพย์สินตกทอดจากรุ่นพ่อสู่ลูก โรงแรมเอเชีย กรุงเทพ จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย (มีการใช้คำศัพท์แบบสืบสวนเล็กน้อยเพื่อความอินกับละคร)

เลือดข้นคนจาง เลือดข้นคนจาง

ในความเป็นจริงแล้วนั้น โรงแรมเอเชีย กรุงเทพ ถือกำเนิดมาตั้งแต่ พ.ศ. 2509 มีอายุกว่า 60 ปี เป็นหนึ่งในไม่กี่โรงแรมที่มาตั้งแต่รุ่นบุกเบิกการท่องเที่ยวของประเทศไทย หลังการก่อตั้งองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเพียง 7 ปี (เพื่อนร่วมรุ่นก็มีโรงแรมโอเรียนเต็ล โรงแรมเอราวัณ และโรงแรมดุสิต เก๋าๆ กันทั้งนั้น)

เลือดข้นคนจาง เลือดข้นคนจาง

และด้วยโลเคชันใจกลางเมืองระดับอึดใจเดียวก็ถึงสยามแล้ว ทำให้โรงแรมเอเชียยังคึกคักด้วยนักท่องเที่ยวหลากสัญชาติ รวมไปถึงบริษัทเล็กใหญ่ต่างๆ ที่มาเช่าพื้นที่จัดงานสัมมนา และงานแต่งที่เข้ามาจองห้องเรื่อยๆ อย่างไม่ขาดสาย แถมล่าสุดยังไปปรากฏตัวในหนังร้อยล้านแห่งปี 2017 อย่าง ฉลาดเกมส์โกง ของผู้กำกับบาส-นัฐพล พูลพิริยะ อีกด้วย (ฉากจำหลักๆ ก็ต้องเป็นรีเซปชันที่มีนาฬิกานานาชาติเรียงราย ทำให้ ‘ลิน’ ถึงบางอ้อวิธีการโกงอย่างชาญฉลาดนั่นเอง) เรียกว่าหากได้ไปเยือนที่นี่ ก็เหมือนการติ่งแบบยิงนกนัดเดียวได้เครื่องบินมาทั้งลำเลยนะเออ!

เลือดข้นคนจาง

ใครไปใครมาในฐานะคนกรุงเองอาจจะรู้สึกจึ๊กกะดึ๋ยในการพักค้างอ้างแรมในโรงแรมเอเชีย แต่ขอแอบบอกเลยว่าที่นี่ก็มีของดีที่นอกเหนือจากห้องพัก นั่นก็คือสารพัดร้านอาหารหลากสัญชาติที่ขึ้นชื่ออย่างมากเรื่องความหลากหลายและคุ้มค่า มีตั้งแต่ห้องอาหารบราซิล Rio Grill สารพัดปิ้งย่างติดไม้เอาใจสายเนื้อ หรือจะร้านอาหารเวียดนามบุฟเฟต์ Saigon Vietnam Restaurant แต่เด็ดสุดไม่เหมือนใครต้อง Tivoli Coffee Shop บุฟเฟต์ข้าวต้มรอบดึก เรียงรายไปด้วยเมนูยอดฮิตของคนนอนดึกกว่า 50 รายการ แถมยังเปิดถึงตี 2 อีกด้วย!  

เลือดข้นคนจาง เลือดข้นคนจาง

ไม่ว่าใครก็สามารถมาติ่งโรงแรมเอเชีย เอ๊ย โรงแรมจิรานันตาได้แบบไม่ต้องเขินอาย แวะเข้าไปซื้อขนมสักนิด กินบุฟเฟต์สักหน่อย ก็เป็นการซึมซับบรรยากาศ ‘ข้นๆ’ ได้อย่างดี

พิกัด: โรงแรมเอเชีย กรุงเทพ 296 ถนนพญาไท แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400

 

KAAN SHOW

พัทยา

จบธุระคุยกับประเสริฐที่โรงแรมเอเชีย กรุงเทพ แล้ว เราขอเกาะรถเบนซ์ขาวของภัสสรแล้วมุ่งสู่แดนพัทยาเพื่อไปสู่อีกธุรกิจครอบครัวที่คุมโดยลูกชายคนรองของภัสสร ‘เอิร์น (กัปตัน ชลธร) ที่แสดงให้เห็นว่าครอบครัวจิระอนันต์นั้นครอบครองมากกว่าธุรกิจโรงแรม คาดเดาว่าน่าจะเป็นเหมือนธุรกิจที่เกิดมาเพื่อเอื้อกับกิจการโรงแรม เพิ่มความบันเทิงให้กับลูกค้าโรงแรม ดูได้จากสารพัดหุ่นพ่นไฟสีสันสดใส ลอยตัว กระโดดกลางอากาศ อย่างอลังการงานสร้างที่โผล่มาให้เห็นกันตั้งแต่ Episode 1

เลือดข้นคนจาง

ที่เห็นแต่งตัวประหลาดหลากสีสันนั้น ก็เพราะว่าพวกเขาเป็นตัวละครในโชว์ที่มืชื่อว่า KAAN SHOW (อันนี้ไม่ใช่คานแบบขึ้นคานนะ แต่หมายถึงความสมดุลหรือการอยู่กลางๆ) การแสดงที่ผสมผสานทั้งการแสดงแสงสีเสียงและเทคนิคภาพยนตร์ เล่าเรื่องราวของตัวเอก ‘คาน’ ที่จับพลัดจับผลูหลุดเข้าไปใน 6 วรรณคดีไทย พระอภัยมณี, พระสุธน มโนราห์, นางมณีเมขลากับรามสูร, สังข์ทอง, ไกรทอง และ รามเกียรติ์ ที่จะต้องทำภารกิจต่างๆ ให้ตัวเองเดินทางกลับสู่โลกปัจจุบันสำเร็จ และระหว่างทางนั่นแหละที่เราจะได้เห็นตัวละครสีสันและเทคนิคตระการตาดังที่ได้ดูใน เลือดข้นคนจาง

เลือดข้นคนจาง เลือดข้นคนจาง

เลือดข้นคนจาง

KAAN SHOW มีอายุอานามไม่มาก เพิ่งจะเริ่มเปิดการแสดงไปได้เมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว แต่ก็เริ่มที่จะเป็นที่ขึ้นชื่อลือชาในโชว์ฝีมือโดยคนไทยที่เทียบเท่าระดับโลก ผ่านการสร้างสรรค์ด้วยผู้นำทัพอย่าง สิน–ยงยุทธ ทองกองทุน และ กอล์ฟ–ปวีณ ภูริจิตปัญญา ตัวแทนจากบริษัทภาพยนตร์ GDH ที่ศึกษาวิเคราะห์โชว์จากทั่วโลกมาอย่างดี แล้วนำมารังสรรค์ความแปลกใหม่ในทุกๆ ส่วน ตั้งแต่การใช้ระบบไฮโดรลิกทำให้เวทีเคลื่อนไหวดั่งมีชีวิต รวมถึงการประยุกต์นำศาสตร์ของภาพยนตร์มาใช้ ร่วมกับเทคนิคพิเศษที่ได้บริษัทแอนิเมชันและคอมพิวเตอร์กราฟิก RIFF STUDIO มาจัดทำ Projection Mapping หรือการฉายแสงสร้างมิติลงบนผนัง สร้างความเหมือนจริงยิ่งกว่าการแสดงทั่วๆ ไป ก่อร่างสร้างตัวจนเป็นโชว์สุดประทับใจแบบที่ไม่เคยเห็นในประเทศไทยมาก่อนให้กับทุกคนที่ได้มาดู

เลือดข้นคนจาง เลือดข้นคนจาง

และถึงแม้ไม่ได้ดู KAAN SHOW อย่างน้อยแค่ได้ผ่านเพื่อดูการออกแบบสถาปัตยกรรมที่รับประกันความไม่ธรรมดาของที่นี่ รับหน้าที่โดย A49 บริษัทสถาปนิกชื่อดังที่มาสร้างสรรค์โรงละครให้กลายเป็น ‘โรงละครลอยฟ้า’ หนึ่งเดียวในโลก ด้วยกฎแห่งภาพลวงตา ด้วยการสร้างฐานที่ใช้กระจกเงามาสะท้อนภาพฝั่งตรงข้าม เชื่อมต่อกับกล่องโรงละครสีทองด้วยการใช้เทคนิค Kinetic Facade มาจากแผ่นอลูมิเนียมสีทองชิ้นเล็กๆ เชื่อมต่อกัน พลิ้วไหวไปตามลมเหมือนเกลียวคลื่น แถมถ้าอยู่จนมืด แผ่นสีทองจะสะท้อนสีอื่นๆ ออกมาแลดูสวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน

เลือดข้นคนจาง เลือดข้นคนจาง

ไม่ต้องมีผู้จัดการหล่ออย่างกัปตัน ชลธร ที่นี่ก็ต้องมา! หากผ่านมาทางพัทยาเมื่อไร แนะนำให้ไปดูความอลังการทั้งภายนอกและภายในของ KAAN SHOW ด้วยตาของตัวเอง เปิดให้ชมทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์

พิกัด: 168/8 หมู่ 12 ถนนเทพประสิทธิ์ ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี 20260

สำรองที่นั่งได้ที่ : http://kaanshow.com/th/ticket/type/

 

เลือดข้นคนจาง ฉายแล้ววันนี้ทางช่องวัน 31

ทุกวันศุกร์ เวลา 20.45 น. และวันเสาร์ เวลา 20.10 น.

Writer & Photographer

Avatar

ศิขรินทร์ ลางคุลเสน

นักเพ้อฝันมืออาชีพ งานประจำคือทาสแมว ส่วนยามว่างก็จัดทำกิจกรรมด้านภาพยนตร์กับเพื่อนๆ ในนาม "YOUNG จะทำ”