ใครที่กำลังหาเบื่อ ๆ ไม่อยากนอนอยู่บ้าน ถ้ายังไม่รู้จะไปไหนดี เราอยากแนะนำให้มาลองเดินงาน ‘Crafts Bangkok 2025’ งานใหญ่ระดับมหกรรม อัดแน่นไปด้วยแบรนด์มากมายที่มาพร้อมกับสินค้างานคราฟต์และงานหัตถศิลป์ฝีมือคนไทย ทั้งในหมวดไลฟ์สไตล์ ของใช้ในชีวิตประจำวัน ของตกแต่งบ้าน กระทั่งของฝากไว้หิ้วกลับไปเป็นที่ระลึก จัดโดยสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) ภายใต้คอนเซปต์ ‘Weaving Past to the Future’

Crafts Bangkok 2025 ถือเป็นปีที่ 7 แล้วและยังคงเป้าหมายเดิมเอาไว้ไม่เปลี่ยน นั่นคือการเป็นพื้นที่ให้เหล่าคนทำงานคราฟต์ ตั้งแต่หน้าใหม่ในวงการยันครูช่างมากประสบการณ์ได้มาจัดแสดงสินค้า บอกเล่าเรื่องราวเบื้องหลัง มอบบทเรียนให้กับผู้ที่กำลังสนใจ แบ่งปันความมั่นใจให้กับคนที่กำลังอยากเริ่มทำ ซึ่งเราเชื่อว่า 1 คนต้องมีสัก 1 บูทที่ถูกใจอย่างแน่นอน เพราะขนกันมากว่า 300 ร้านค้าจากทั่วประเทศ ตามไปเดินงานได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2568 ณ ฮอลล์ 5 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ถ้านึกไม่ออกว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี เรามี 10 แบรนด์น่าสนใจมาแนะนำ และที่สำคัญอย่าลืมพูดคุยกับเหล่าคนทำงานคราฟต์นะ เพราะพวกเขาคือบุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจชั้นดี!

‘Dudee4Me’ เป็นแบรนด์สินค้าทำมือที่สร้างขึ้นจากดิน ตั้งแต่ปลูกฝ้ายและลูกเดือยในสวนของตัวเองเพื่อลดการนำเข้าวัตถุดิบให้น้อยที่สุด และสร้างประโยชน์จากสรรพคุณของพืชและสมุนไพรที่ปลูกด้วยการจับคู่กับเส้นใยต่าง ๆ เช่น การนำประดงเลือดหรือมะเกลือมาสกัดเป็นสีเพื่อย้อมผ้าฝ้าย

ผลงานทุกชิ้นของ Dudee4Me เป็นการร่วมมือกับกลุ่มแม่ ๆ และช่างฝีมือรุ่นใหม่ที่มีใจรักผ้าฝ้าย-งานหัตถกรรม โดยไม่จำกัดการทำงานเฉพาะชุมชนของตนเอง แต่ทำงานข้ามชุมชน ข้ามอำเภอ และข้ามจังหวัด เพราะแบรนด์ต้องการเชื่อมโยงทุกภาคส่วนเข้าด้วยกัน ซึ่งเน้นการให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม

สินค้าที่เราอยากป้ายยาคือผ้ารันเนอร์ฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติ ปักเมล็ดลูกเดือยที่ปลูกเอง ทุกฝีปักร้อยเรียงอย่างประณีต ไม่เพียงสวยงามน่าใช้ น่าสะสม แต่ยังสะท้อนหัวใจของคนทำงานคราฟต์

‘อยู่ลำพูน’ แบรนด์หมอนปล่องหน้าตาน่ารัก สีสวยสะดุดตา คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เกิดจากภูมิปัญญาท้องถิ่นของคนเหนือ โดย คุณยายนิด-คณิตดา วงศ์จักร์ ที่เริ่มต้นทำหมอนปล่องด้วยความคิดถึงคุณยายทวด

หมอนปล่องมีให้เลือกช้อป 3 ขนาด คือเล็ก กลาง ใหญ่ ฟังก์ชันไม่ใช่แค่ความสบาย แต่ยังใช้เพื่อรองนั่งเวลาสวดมนต์ก็ได้ ทำสปาก็ดี หรือเล่นโยคะก็สบาย แถมรูตรงกลางทำให้หมอนยืดหยุ่น หนุนสบายช่วยระบายอากาศได้ดีเพราะไทยเป็นเมืองร้อน แต่คุณยายแซวว่าคนสมัยก่อนเอาไว้ซ่อนสตางค์

ลวดลายของหมอนมีให้เลือกเพียบ เนื้อผ้านุ่ม ๆ จากผ้าฝ้ายคละสี-คละลาย

ข้อสำคัญที่อยากบอก หมอนทุกชิ้นรังสรรค์ด้วยฝีมือคุณยายนิด คุณครูเกษียณวัย 75

‘นันธารา’ เกิดจากความชอบหลังจากที่ได้เห็นลายรดน้ำที่เชียงใหม่ นำไปสู่การเรียนวาดภาพ กลายมาเป็นความคิดที่อยากจะสืบสานและสานต่อในรูปแบบของ Mass Product ในเวลาต่อมา

พวกเขาคงเอาไว้ซึ่งเสน่ห์ของลายรดน้ำ ทว่าประยุกต์ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการวาดลาย ซึ่งแต่ละลายก็ได้แรงบันดาลใจมาจากศิลปะภายในวัด อาทิ กรอบประตูจากวัดโพธิ์-วัดพระแก้ว ซึ่งการวาดมือในโปรแกรมทำให้ลายเส้นสวยงามและคมกริบ สีที่ใช้กับชิ้นงานก็ปรับจากสีดำเงาวาวของยางรักเป็นสีดำด้าน ขับเน้นสีทองจากทองคำเปลวให้เด่นชัด จนผลงานเป็นที่หมายปองของลูกค้าชาวต่างชาติ

สินค้าแทบทุกชิ้นอยู่บนพื้นฐานที่อยากให้ลูกค้านำไปใช้งานได้จริง เช่น กรอบรูป นาฬิกา และฐานพระ นอกจากซื้อไปใช้ในบ้านยังเหมาะเป็นของขวัญหรือของฝากให้คนพิเศษหรือญาติผู้ใหญ่ก็เหมาะ

‘GHOM LANNA’ (ออกเสียงว่า โกมล้านนา – ตามสำเนียงคนอู้จ๋าภาษาเหนือ เรียก ‘โคม’ ว่า ‘โกม’) ของ ป่าน-วีรศิษฎ์ ภู่สุวรรณ์ ลูกหลานชาวลำปางผู้ทำวิทยานิพนธ์เรื่องโคม ต่อยอดสู่แบรนด์งานฝีมือที่ดึงเสน่ห์ของวัสดุและเทคนิคสานโคมมาใช้ เพื่อเผยแพร่ศิลปหัตถกรรมและเอกลักษณ์ของเมืองลำปาง

สินค้าของแบรนด์ใช้เทคนิคสานโคมแบบดั้งเดิมมาผสมผสานเทคนิคต่าง ๆ เข้าด้วยกัน อย่างการถอดรหัสโครงสร้าง ลดทอนองค์ประกอบจากโคมม่านแปดเหลี่ยม โคมดาว โคมบัวเพชร มาเป็น ‘โคมสายลม’ คอลเลกชันเครื่องประดับที่เรียบง่ายและทรงเสน่ห์ ซึ่งป่านก็ต่อยอดเป็นของแต่งบ้านด้วย

เจ้าต่างหูโคมสายลมทรงระย้าก็คว้ารางวัลจาก Chiang Mai Design Week มาด้วย

‘INTHAI’ แบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์ของ มายด์-อารียา บุญช่วยแล้ว เธอเริ่มต้นจากการทำลวดลายผ้าตามแรงบันดาลใจที่ได้จากลวดลายไทย ๆ และต่อยอดเป็นเครื่องประดับเซรามิกทำมือ ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ สร้อยข้อมือ ต่างหู จนเลยเถิดไปถึงชุดเกมกระดานอย่างหมากรุกและลูกเต๋าอันน้อย ๆ

สินค้าของ INTHAI สื่อสารความเป็นไทยออกมาได้น่ารัก ยกตัวอย่างหมากรุกที่หยิบขั้วตรงข้ามของยักษ์วัดแจ้งกับยักษ์วัดโพธิ์มาเล่า พร้อมลวดลายของกระเบื้องวัดที่นำมาใช้เป็นตารางหมากรุก

ลูกเต๋าเป็นอุปกรณ์เล่นบอร์ดเกมที่คนรู้จักกันดี ตัวเลขบนก้อนสี่เหลี่ยมนั้นแทนที่ด้วยลวดลายจากกระเบื้องวัด และความน่ารักยังไม่หมดเท่านี้ เพราะมีเครื่องประดับจากลูกปัดเซรามิกลายคราม กระดุมเซรามิก แมกเน็ต ให้เลือกซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน อ้อ งานผ้าสวย ๆ ก็มีให้ช้อปเช่นกัน

‘It takes two to tango’ แบรนด์เสื้อผ้าและไลฟ์สไตล์ของฝาแฝดเมืองกรุงที่ไปเรียนทอผ้า เรียนย้อมครามกับคนท้องถิ่นในสกลนคร ใช้เพลงที่พวกเธอชอบฟังและการเดินทางท่องโลกเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ

งานคราฟต์ของพวกเธอคราวนี้ว่าด้วยคนที่ชอบและมีความสุขกับการอยู่บ้าน

สินค้าทุกชิ้นของ It takes two to tango เกิดจากความรู้สึกดี ๆ ระหว่างที่ไม่ได้ออกไปไหน อัดแน่นไปด้วยเรื่องราวของชีวิตความเป็นอยู่ ตั้งแต่เสื้อผ้า ชุดออกกำลังกาย ภาพวาดด้วยมือซ้าย ซึ่งเป็นมือที่พวกเธอที่ไม่ถนัด ไปจนถึงถุงเท้าที่ใส่ในชีวิตประจำวัน

โดยมีแนวคิดว่า ใช้อะไร ใช้อย่างไร ก็ทำสิ่งนั้นออกมา

‘KOON’ แบรนด์เซรามิกที่ใช้เทคนิคพิเศษในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน นั่นคือการนำดินพื้นบ้านของคนในชุมชน (ส่วนมากมาจากขอนแก่น) มาออกแบบด้วยกระบวนการดิจิทัล และจุดสำคัญอยู่ตรงนี้ เพราะสตูดิโอนี้ขึ้นรูปด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ได้ยินทีแรกก็อดตกใจไม่ได้จริง ๆ สาเหตุเพื่อให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่ที่อยากมีงานเซรามิกเป็นของตัวเองได้ง่ายขึ้น

จากโปรดักต์ที่เริ่มต้นด้วยกระถางต้นไม้มาสู่ชิ้นงาน 3 ประเภท

หนึ่ง Tableware หรือก็คือเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารจำพวกแก้ว

สอง Decoration สำหรับใช้ตกแต่งบ้านและสวน

สาม Wall Art งานประติมากรรมและเอเลเมนต์ต่าง ๆ ในงานสถาปัตยกรรมสำหรับนำไปตกแต่ง

ย้ำอีกทีหนึ่ง ทุกชิ้นงานขึ้นรูปด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติทั้งหมดเลย

‘NERA’ แบรนด์ของแต่งบ้าน เครื่องประดับ โคมไฟ และที่โดดเด่นคือกระเป๋าลวดลาดสะดุดตา มีการจับคู่โทนสีและสีสันให้ร่วมสมัย พร้อมกับ Improvise ไปเรื่อย ๆ ตามใจคนทำจนกว่าจะสุดทางคิด แต่ส่วนที่ทำให้งานคราฟต์ของพวกเขาโดดเด่น คือทั้งหมดทุกชิ้นต่างถูกร้อยเรียงต่อยอดมาจากลูกปัดมโนราห์ที่สะท้อนรากเหง้างานหัตถศิลป์ของชาวใต้

ถ้าใครกำลังมองหาเครื่องกระเป๋าลวดลายไม่เหมือนใคร หรือประดับตกแต่งชิ้นเล็กน่ารัก เข็มกลัดจากลูกปัดมโนราห์ก็นับว่าเหมาะกำลังดี

นอกจากนี้ หากใครสนใจและอยากรู้จักมากกว่าแค่หน้าบูท อยากลองสัมผัสภูมิปัญญาของชาวใต้ด้วยตัวเอง พวกเขาก็มีศูนย์เรียนรู้หัตถกรรมลูกปัดมโนราห์บ้านขาวตั้งอยู่ที่จังหวัดสงขลาให้ไปเรียนรู้ด้วย

‘TUESCLAY’ แบรนด์เซรามิกที่พัฒนามาจากธีสิส ว่าด้วยเทคนิคฉลุลาย ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากการแสดงหนังใหญ่ (มหรสพรูปแบบหนึ่ง) ในบ้านเกิดที่จังหวัดราชบุรีอีกทีหนึ่ง พร้อม ๆ กับเทคนิคการฝังเคลือบอย่างจีน พัฒนามาเป็นแก้วสำหรับใช้งานในชีวิตประจำวัน

ในอนาคต TUESCLAY อาจมีโคมไฟลวดลายเกี่ยวกับหนังใหญ่ตามมา หรือลายเมฆมงคลที่ใช้เทคนิคข้างต้น ที่เก็บกลิ่นอายของเทคนิคฉลุลายเอาไว้อย่างชัดเจน

‘Wisdomative’ แบรนด์งานคราฟต์ที่เกิดจากคนรักผ้าและงานคราฟต์ โดยมีจุดมุ่งหมายที่อยากขับเคลื่อนงานคราฟต์ไทยไปพร้อม ๆ กับช่วยเหลือชุมชนให้พัฒนาองค์ความรู้และมีรายได้มั่นคง

สิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ตอนนี้คือการเข้าไปแนะนำชุมชน การจับคู่สี การออกแบบที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ทำให้งานหัตถกรรมไทยสนุก แต่งแต้มสีสัน และเห็นความเป็นไปได้ใหม่ ๆ

ในงานนี้พวกเขาเสิร์ฟคอลเลกชันใหม่ เป็นของใช้ในบ้านที่ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน อย่างผ้ารองจาน ผ้ารองแก้ว ถุงมือกันความร้อน ผ้ากันเปื้อน ฯลฯ กระซิบดัง ๆ ว่าคู่สีนั้นสวยงามสะบัด ที่สำคัญเป็นผลงานช่างฝีมือชุมชน ผ้าผลิตโดยช่างทอจากจังหวัดสระแก้ว และตัดเย็บโดยชุมชนจากจังหวัดนครพนม

ผ้าเมตร เสื้อผ้า เสื่อ กระเป๋า ในบูทนี้ก็มีขายนะ รับรองครบจบที่ Wisdomative!