เวิร์กช็อปของนิสิต นิทรรศการศิลปะ งานเรียนต่อ มหกรรม สัมมนา และคอนเสิร์ต

ไม่ว่าจะอีเวนต์ขนาดเล็กที่เน้นความเงียบสงบแบบสิบคน หรือใหญ่ยักษ์ระดับพบปะกับคนนับหมื่น ทุกอีเวนต์มีคุณค่าและความหมายเสมอ เพราะเป็นช่วงเวลาที่คนจากภูมิหลังที่แตกต่างแต่หลงใหลใคร่สงสัยอะไรเหมือนกัน มารวมตัวสร้างสรรค์สังคมแห่งใหม่

นี่คือความเชื่อของ ‘Zipevent’ สตาร์ทอัพอายุราว 5 ขวบ ผู้นิยามตัวเองเป็นแพลตฟอร์มจัดการด้านอีเวนต์แบบครบวงจร

Zipevent, สตาร์ทอัพ, เจ-ภาโรจน์ เด่นสกุล
Zipevent, สตาร์ทอัพ, เจ-ภาโรจน์ เด่นสกุล

หากคุณอยากเดินเล่นอีเวนต์ที่ตรงใจแต่หาที่ใดก็ไม่เจอ เบื่อการกรอกข้อมูลซ้ำไปมาบนกระดาษตอนเข้าร่วมงาน อาจเคยจัดงานอีเวนต์และปวดหัวกับปัญหาร้อยแปดแสนวุ่นวาย หรือไปออกบูทที่ใดก็รำคาญใจกับกระบวนการมากมาย

Zipevent อาจเป็นผู้ช่วยที่คุณกำลังตามหาอยู่ ด้วยระบบและบริการที่กำจัดปัญหาดังกล่าว พร้อมสามารถปรับแต่งการใช้งานได้ตามเหมาะสม ไม่ว่าคุณจะเป็นใครใน 3 ฝ่ายหลักในการจัดอีเวนต์ อันประกอบด้วยผู้เข้าร่วมงาน ผู้จัดงาน และผู้ออกงาน

เป้าหมายของเราคือพยายามจะหาจุดลงตัวระหว่างผู้ใช้งานทุกฝ่ายเป็นตัวตั้ง เพื่อให้ได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการมาอีเวนต์ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ซึ่งเทคโนโลยีสามารถเข้ามาช่วยตรงนี้และสร้างอิมแพ็คได้

เจ-ภาโรจน์ เด่นสกุล Co-founder และ CEO เล่าให้เราฟังถึงความตั้งใจเบื้องหลัง เจมองว่างานอีเวนต์มีเสน่ห์ในการเชื่อมต่อคนเข้าหากันในแบบที่ออนไลน์ไม่สามารถทำได้อยู่แล้ว แต่โลกออนไลน์สามารถเข้ามาเสริมสร้างประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อได้ และนี่คือสิ่งที่เจอยากตื่นขึ้นมาทำทุกวัน

แต่กว่าจะมาได้ถึงทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ในวงการที่มีผู้เล่นมากมายแข่งขันเพื่อสร้างประสบการณ์อีเวนต์ให้ตอบโจทย์ ทำไม Zipevent ถึงเป็นชื่อแรกๆ ที่ได้รับการกล่าวขานและไว้วางใจจากผู้ใช้งาน ดูแลงานระดับแสนคนอย่าง Digital Thailand Bigbang หรืองานที่ทรงคุณค่าอย่างงานแจกหนังสือ ‘The Visionary ถอดรหัสกษัตริย์ผู้มองเห็นอนาคต’

ไม่รอช้า เราดำเนินบทสนทนากับเจต่อ เพื่อไขคำตอบเบื้องหลังสตาร์ทอัพสายอีเวนต์ที่ไม่ได้เป็นเพียงแอปพลิเคชันธรรมดา แต่พร้อมเป็นอะไรก็ได้ที่แก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน

Zipevent, สตาร์ทอัพ, เจ-ภาโรจน์ เด่นสกุล
Zipevent, สตาร์ทอัพ, เจ-ภาโรจน์ เด่นสกุล
Zipevent, สตาร์ทอัพ, เจ-ภาโรจน์ เด่นสกุล

ลงทะเบียนร่วมวงการ

“จริงๆ เราเริ่มจากแก้ปัญหาให้ตัวเองก่อน สมัยก่อนหาข้อมูลงานอาร์ตหรือดนตรีเล็กๆ ไม่ค่อยได้ และคิดว่าน่าจะมีคนอยากรู้เหมือนเรา” เจเล่าถึงจุดเริ่มต้นในการทำแอปพลิเคชันเพื่อแก้ปัญหาของตัวเองในระหว่างทำงานประจำ ก่อนค้นพบว่ามีคนพบปัญหาแบบเดียวกันมากพอที่จะพัฒนาเป็นธุรกิจ

พลตฟอร์มเริ่มจากการรวมข้อมูลอีเวนต์น้อยใหญ่ไว้ในที่เดียวก่อน ไม่ว่าใครก็ฝากประชาสัมพันธ์งานของตัวเองได้ฟรี เพื่อให้มีอีเวนต์ในระบบมากเพียงพอต่อความสนใจของผู้ใช้ และเป็นจุดเริ่มต้นที่แตกต่างของ Zipevent กับผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกันในเวลานั้น

เมื่อคลุกคลีพูดคุยกับผู้คนในวงการอีเวนต์มากขึ้น ปัญหาฝั่งผู้จัดงานเริ่มปรากฏให้เห็นเด่นชัด

การเก็บข้อมูลคนร่วมงานและการลงทะเบียนซื้อบัตรที่ไม่สะดวกและใช้เวลานาน ไม่มีระบบอัตโนมัติที่ดีเพียงพอเป็นเรื่องแรกๆ ที่เจลองพัฒนาให้กลายเป็นแพลตฟอร์มพร้อมใช้งานในการเก็บข้อมูลและความคิดเห็นคนร่วมงานแบบเรียลไทม์

การทดลองครั้งนั้นได้เสียงตอบรับที่ดีกลับมา เป็นจุดเริ่มต้นที่เจปรับทิศทางแอปพลิเคชันให้มีศักยภาพในการปรับแต่งให้เหมาะกับโจทย์ของผู้ใช้งาน

Zipevent, สตาร์ทอัพ, เจ-ภาโรจน์ เด่นสกุล
Zipevent, สตาร์ทอัพ, เจ-ภาโรจน์ เด่นสกุล

ผู้ใช้งานเป็นหัวใจสำคัญที่เจเน้นย้ำตลอดบทสนทนากับเรา อาจเพราะเข้าใจความเจ็บปวด (Pain Point) ที่เกิดขึ้นด้วยประสบการณ์ของตัวเอง เจจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานไม่จะว่าเป็นคนไหนให้ดีที่สุด

“เราอาจเป็นสตาร์ทอัพที่ความเชื่อแตกต่างกับเจ้าอื่นอยู่บ้าง เราเชื่อว่าสตาร์ทอัพที่ดีควรได้รับการลงทุนจากผู้ใช้งานก่อนที่จะเป็นนักลงทุน ถ้าเราทำให้สินค้าตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ สุดท้ายจะมีรายได้ขึ้นมา จากนั้นค่อยขยายก็ไม่สาย” เจเล่าให้ฟังถึงเคล็ดลับส่วนหนึ่งที่เขาคิดว่าทำให้แพลตฟอร์มกำเนิดขึ้นได้

เมื่อจังหวะเวลาเหมาะสม เข้าใจปัญหาของผู้ใช้งานอย่างถ่องแท้ เจจึงตัดสินใจลาออกจากงาน ตีตั๋วเข้าร่วมวงการสตาร์ทอัพในฐานะผู้บริหาร

เราทำโดยไม่ได้รู้สึกว่าจะล้มหรือเลิกเลยไม่ได้กลัวตรงนี้ เกือบ 2 ปีที่เราทำงานประจำสลับกับการพัฒนา Zipevent ออกไปทดสอบ คุยกับกลุ่มผู้ใช้งานเรื่อยๆ พัฒนาจนได้สิ่งที่แก้ปัญหาผู้ใช้ได้จริง เราเชื่อตรงนี้ เราเห็นความเป็นไปได้และออกมาทำเต็มตัว

สตาร์ทอัพที่สร้างสรรค์และปรับแต่งประสบการณ์งานอีเวนต์โดยมีผู้ใช้เป็นหัวใจสำคัญ แก้ไขปัญหาให้ทุกฝ่ายด้วยเทคโนโลยีที่พร้อมปรับเปลี่ยน
สตาร์ทอัพที่สร้างสรรค์และปรับแต่งประสบการณ์งานอีเวนต์โดยมีผู้ใช้เป็นหัวใจสำคัญ แก้ไขปัญหาให้ทุกฝ่ายด้วยเทคโนโลยีที่พร้อมปรับเปลี่ยน

เป็นทุกอย่าง (เรื่องอีเวนต์) ให้เธอแล้ว

แพลตฟอร์มไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นเพียงแอปพลิเคชันเท่านั้น คุณค่าที่เจตั้งใจมอบให้ผู้คนคือวิธีการแก้ไขสารพันปัญหาในทุกกระบวนการจัดงานอีเวนต์อย่างชาญฉลาด ตั้งแต่ก่อนเริ่ม ภายใน และหลังจบงาน

“Zipevent เปรียบเสมือนอาหารที่มีทั้งจานหลักและเครื่องเคียง ในเมนูหลักของเราผู้จัดงานจะมีระบบลงทะเบียนที่ปรับแต่งได้ อยากขายเมื่อไหร่ บัตรกี่ประเภท ราคาเท่าไหร่ จ่ายผ่านช่องทางไหน ปรับได้ครบ คนที่มาร่วมงานอีเวนต์ก็สะดวก ยืนยันเข้าร่วมงานได้รวดเร็วผ่าน QR Code เพราะมีข้อมูลเก็บไว้ในระบบเรา หารายละเอียดบูทได้ง่าย เอาโค้ดไปยืนยันตัวตนแลกข้อมูลกับเจ้าของบูทแทนการแลกนามบัตรได้เลย ไม่ต้องกรอกข้อมูลซ้ำไปมา คนที่ไปออกบูทก็สมัครเข้าร่วมงานได้ง่ายขึ้น มีระบบการจัดการหลังบ้านที่ดูแลได้อย่างครอบคลุม ลดความวุ่นวายในการเตรียมงาน

หากผู้จัดงานอยากได้อะไรเพิ่มก็สั่งเครื่องเคียงได้ เช่น ประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมบนแพลตฟอร์ม สั่งทำริสต์แบนด์ที่มี QR Code แจกจ่าย วิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียด หรือระบบถามตอบในงานสัมมนา เราทำได้หมด”  เจบรรยายสรรพคุณที่คิดค้นมาอย่างครบเครื่อง เรื่องเหล่านี้เจไม่ได้คิดออกมาตั้งแต่ต้น แต่เป็นสิ่งที่เขาเรียนรู้ระหว่างทางและปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้คน

สตาร์ทอัพที่สร้างสรรค์และปรับแต่งประสบการณ์งานอีเวนต์โดยมีผู้ใช้เป็นหัวใจสำคัญ แก้ไขปัญหาให้ทุกฝ่ายด้วยเทคโนโลยีที่พร้อมปรับเปลี่ยน
สตาร์ทอัพที่สร้างสรรค์และปรับแต่งประสบการณ์งานอีเวนต์โดยมีผู้ใช้เป็นหัวใจสำคัญ แก้ไขปัญหาให้ทุกฝ่ายด้วยเทคโนโลยีที่พร้อมปรับเปลี่ยน

การเข้าไปอยู่ในทุกกระบวนการของอีเวนต์และยินดีในการปรับแต่งให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานเป็นเรื่องพิเศษ แต่ก็ต้องแลกมากับภาระการดูแลที่มากขึ้นตามไปด้วย เช่น มีคนโทรศัพท์มาถามหาข้อมูลอีเวนต์กับทางบริษัทราวกับเป็นคอลเซ็นเตอร์ให้งาน ซึ่งทางแพลตฟอร์มไม่ได้เกี่ยวข้องในส่วนนี้

แม้ไม่ใช่หน้าที่ แต่เจเชื่อว่าการส่งมอบความรู้สึกดีๆ และส่งต่อคุณค่าที่เราทำได้ให้ผู้ใช้งานเป็นกุญแจสำคัญที่จะตราตรึงอยู่ในใจคน

“เราคงทนไม่ได้ด้วยถ้าเห็นเพื่อนเราบ่นแพลตฟอร์มว่าห่วยในโลกออนไลน์ เราอยากให้คนได้รับสิ่งที่น่าประทับใจกลับไป ซึ่งต้องเริ่มจากภายในบริษัท” เจพูดติดตลก แต่แนวคิดนี้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการนำบริษัทให้ทุกคนไปในทิศทางเดียวกัน

ผลพลอยได้คือ ยิ่งมีข้อมูลจากผู้คนมากขึ้นเท่าไหร่ แพลตฟอร์มยิ่งมีความรู้เชิงลึกที่สามารถนำมาแนะนำผู้ใช้งานคนอื่นๆ ต่อได้อย่างตรงใจไม่แพ้ใคร

ถ้าเรามีข้อมูลมากพอ เราจะเห็นเทรนด์บางอย่าง บางทีแนะนำคนได้เลยว่าบัตรงานศิลปะควรขายตอนไหนกี่โมงดี ชอบงานประเภทนี้ควรไปอีเวนต์ไหนต่อ ตอนนี้ใช้คนแนะนำอยู่ ต่อไปถ้าจะให้ดีคือระบบแนะนำได้ด้วยตัวเองเลย เป็นสิ่งที่เราตั้งใจทำอยู่

ยิ่งเป็นผู้ให้..ยิ่งเป็นได้ทุกอย่างสำหรับเธอ

สตาร์ทอัพที่สร้างสรรค์และปรับแต่งประสบการณ์งานอีเวนต์โดยมีผู้ใช้เป็นหัวใจสำคัญ แก้ไขปัญหาให้ทุกฝ่ายด้วยเทคโนโลยีที่พร้อมปรับเปลี่ยน
สตาร์ทอัพที่สร้างสรรค์และปรับแต่งประสบการณ์งานอีเวนต์โดยมีผู้ใช้เป็นหัวใจสำคัญ แก้ไขปัญหาให้ทุกฝ่ายด้วยเทคโนโลยีที่พร้อมปรับเปลี่ยน

ปรับตัวได้ ไม่ต้องกลัวอะไร

ความสามารถในการปรับตัวอย่างรวดเร็วถือเป็นอีกหนึ่งความโดดเด่นของแพลตฟอร์ม ยิ่งในวงการเทคโนโลยีที่ต้องปรับตัวให้ได้ปีต่อปี การมีดีเอ็นเอนี้บรรจุอยู่ในบริษัทถือเป็นอาวุธสำคัญในการรับมือการเปลี่ยนแปลง

“เราปรับตัวตลอด เช่นเรารู้ว่าจริงๆ คนขี้เกียจดาวน์โหลดแอปพลิเคชันถ้าไม่ได้ใช้บ่อย เราก็สร้างเว็บไซต์ ทำคอนเทนต์ มีแชทบอตขึ้นมา ทำให้ง่ายและกลายเป็นจุดหลักที่คนเข้ามาหาเรา หรืออย่างคีออส (Kiosk) ที่เริ่มใช้ในงาน Startup Thailand ไอเดียมาจากเราคุยกับลูกค้าแล้วมีหลายคนแนะนำให้ทำเพราะสะดวก ตั้งเป็นแท่นแล้วเปิดไฟ คนเห็นง่าย เดินมาเสียบบัตรประชาชนในเครื่องแล้วจบเลย เราลองศึกษาข้อมูลแล้วเห็นว่าเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาที่ดีก็ทำเลย ถือว่าเราเป็นเจ้าแรกๆ ที่ทำตรงนี้” เจเล่าถึงนวัตกรรมที่แพลตฟอร์มทดลองปรับใช้กับงานอีเวนต์และประสบความสำเร็จอย่างมาก

อีกหนึ่งความยากลำบากของการเป็นสตาร์ทอัพคือการขยายตัวออกไปให้ไกล ในไทยก็ว่ายากแล้ว ขยายไปต่างประเทศยิ่งยากกว่า ครั้งหนึ่งเจเคยไปรับงานที่จัดในต่างประเทศและได้สัมผัสความท้าทายใหม่

แต่ละพื้นที่มีการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น คนเวียดนามเคยชินกับการกรอกกระดาษ ถ้าให้พิมพ์จะค่อนข้างช้า หรือที่เมียนมา คนมีแต่ชื่อจริง ไม่มีนามสกุล ถ้าใช้แพลตฟอร์มเหมือนที่บ้านเราเขาคงงงกันมากๆ เป็นต้นเจเล่าให้ฟังถึงโจทย์ที่ยาก การขยายต่อไปได้ต้องทำให้แพลตฟอร์มแข็งแรงและมีทีมที่พร้อมลุยไปขยายต่อในต่างแดน ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนก้าวต่อไปที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

เราพยายามจะเชื่อมโยงอุตสาหกรรมอีเวนต์และธุรกิจ MICE (Meetings, Incentive Travel, Conventions, Exhibitions) ในประเทศไทยเข้าด้วยกันและเรากลายเป็นศูนย์กลางที่ดึงอีเวนต์น่าสนใจในต่างประเทศเข้ามาในเครือข่าย อาจจะเริ่มจากในอาเซียน ถ้าเกิดการเชื่อมต่อข้ามประเทศกันได้คงจะเจ๋งน่าดู

แม้เทคโนโลยีจะไปไวแค่ไหน แต่ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลสำหรับเลย เพราะแพลตฟอร์มพร้อมปรับตัวและขยายไปอยู่ในรูปแบบไหนก็ได้ เพียงแค่สามารถเชื่อมต่อคนเข้าด้วยกันผ่านอีเวนต์ ไม่ว่าด้วยวิธีการหรือรูปแบบใดก็ตาม

สตาร์ทอัพที่สร้างสรรค์และปรับแต่งประสบการณ์งานอีเวนต์โดยมีผู้ใช้เป็นหัวใจสำคัญ แก้ไขปัญหาให้ทุกฝ่ายด้วยเทคโนโลยีที่พร้อมปรับเปลี่ยน
สตาร์ทอัพที่สร้างสรรค์และปรับแต่งประสบการณ์งานอีเวนต์โดยมีผู้ใช้เป็นหัวใจสำคัญ แก้ไขปัญหาให้ทุกฝ่ายด้วยเทคโนโลยีที่พร้อมปรับเปลี่ยน

คุณค่าที่มอบให้คนที่พบเจอ

หลังจากมีประสบการณ์มากมายหลายอีเวนต์ เราถามเจว่าอีเวนต์ไหนท้าทายหรือน่าประทับใจที่สุด

งานแจกหนังสือ The Visionary ครับเจตอบอย่างรวดเร็ว

งานนี้แจกหนังสือที่ทางสานต่อที่พ่อทำจัดขึ้นมา โจทย์ที่เราได้รับคือช่วยดูแลการลงทะเบียนรับหนังสือประมาณ 40,000 เล่มให้หมดภายใน 3 วัน ซึ่งคนสนใจและถามคำถามเข้ามาเยอะมาก เราต้องจัดระบบการลงทะเบียนเข้ารับหนังสือให้ดีและรวดเร็วเพื่อไม่ให้คนต่อแถวยาวเกินไป เตรียมรับมือถ้าเกิดระบบขัดข้องขึ้นมา แต่สุดท้ายงานก็ผ่านไปได้ด้วยดี ได้เสียงตอบรับที่ดี นอกจากความท้าทายของการจัดการแล้ว เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการมอบสิ่งดีๆ อย่างหนังสือเล่มนี้ไปให้กับคน

สตาร์ทอัพที่สร้างสรรค์และปรับแต่งประสบการณ์งานอีเวนต์โดยมีผู้ใช้เป็นหัวใจสำคัญ แก้ไขปัญหาให้ทุกฝ่ายด้วยเทคโนโลยีที่พร้อมปรับเปลี่ยน
สตาร์ทอัพที่สร้างสรรค์และปรับแต่งประสบการณ์งานอีเวนต์โดยมีผู้ใช้เป็นหัวใจสำคัญ แก้ไขปัญหาให้ทุกฝ่ายด้วยเทคโนโลยีที่พร้อมปรับเปลี่ยน
สตาร์ทอัพที่สร้างสรรค์และปรับแต่งประสบการณ์งานอีเวนต์โดยมีผู้ใช้เป็นหัวใจสำคัญ แก้ไขปัญหาให้ทุกฝ่ายด้วยเทคโนโลยีที่พร้อมปรับเปลี่ยน
สตาร์ทอัพที่สร้างสรรค์และปรับแต่งประสบการณ์งานอีเวนต์โดยมีผู้ใช้เป็นหัวใจสำคัญ แก้ไขปัญหาให้ทุกฝ่ายด้วยเทคโนโลยีที่พร้อมปรับเปลี่ยน

งานดังกล่าวผ่านไปได้อย่างดี รับหนังสือได้อย่างรวดเร็วจนหลายต่อหลายคนชื่นชมในความเป็นมืออาชีพ

การมีอยู่ของแพลตฟอร์มนอกจากจะแก้ปัญหาเรื่องเวลาและความสะดวกสบายในการจัดอีเวนต์ต่างๆ แล้ว สิ่งสำคัญคือการสร้างพื้นที่ให้อีเวนต์แต่ละอีเวนต์ได้เฉิดฉายและทำหน้าที่อย่างราบรื่นสมบูรณ์

และเจไม่ลืมที่จะพูดถึงผลลัพธ์ที่ดีเหล่านี้แก่ทีมงานเบื้องหลังการเติบโตของแพลตฟอร์ม เพราะเชื่อว่าการผลักดันอีเวนต์เหล่านี้ให้ดำเนินไปได้ด้วยดีไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใด ทำให้ทีมงานของเขาได้พัฒนาขึ้น

เราอยากให้คนที่มาทำงานกับเราและมีส่วนเกี่ยวข้องกับอีเวนต์ที่เราทำได้เรียนรู้และเติบโต สิ่งที่เขาทำตอบโจทย์ชีวิต เราพยายามให้น้องๆ ได้ทดลองผ่านการได้ลงมือทำจริง ทุกทีมจะได้เห็นสิ่งที่ผู้ใช้งานเสนอแนะมาเพื่อนำไปพัฒนาต่อ ถ้าเขียนโปรแกรม เขาจะได้เห็นว่าผู้ใช้ต้องการอะไร มีตรงไหนที่เขาควรปรับแก้ ถ้าทำคอนเทนต์ คนดูชอบและได้ประโยชน์หรือเปล่า ทีมจะได้เห็นผลลัพธ์จากการลงมือทำและคุณค่าของสิ่งที่ทำ

ในโลกที่คนกล่าวกันว่าสตาร์ทอัพกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ล้มหายตายจาก ไม่น่าแปลกใจที่แพลตฟอร์ม ยืนหยัดได้อย่างมั่นคงและพร้อมพัฒนาต่อไป เพราะความตั้งใจในการมอบคุณค่าให้กับคนที่พบเจอนี้เอง

First-time Founder, Life-long Learner

หลังจากผ่านร้อนผ่านหนาวมาร่วม 5 ปีกับ Zipevent เจได้ทบทวนและแบ่งปันถึงเส้นทางของเขาในฐานะผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพให้เราฟัง

สตาร์ทอัพต้องเติบโตอย่างรวดเร็ว เราในฐานะที่เป็นผู้ก่อตั้งและผู้บริการยิ่งต้องเติบโตให้ไว เราเป็นพนักงานประจำมาก่อน ไม่เคยมีทีม ทำงานด้วยตัวเอง พอมาทำสตาร์ทอัพของตัวเองต้องคิดเยอะขึ้นไป มีน้องจบใหม่มาทำงานกับเราเป็นงานแรก เริ่มจากมี 5 – 6 คน ตอนนี้มี 20 กว่าคน จะทำให้เขาโตได้ยังไง จะพาธุรกิจให้ไปรอดได้ยังไง ต้องคิดในหลายมิติมากขึ้นและเป็นผู้ใหญ่ให้เร็ว เป็นความท้าทายที่หนักสุดที่เจอ

สุดท้าย เจฝากบทเรียน 3 ข้อที่ยึดอยู่ในใจเสมอในการทำสตาร์ทอัพ สำหรับใครที่สนใจร่วมตีตั๋วลงทะเบียนมาร่วมในวงการด้วยกัน

มี 3 ข้อคือ A, B และ C – A หมายถึง Adaptability คือปรับตัวได้ ถ้าทำสตาร์ทอัพจะมีช่วงขาลงสุดๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงบ่อย เราต้องพร้อมปรับตัวอย่างรวดเร็วให้อยู่รอด ส่วน B หมายถึง Belief คือความเชื่อ ถ้าเราไม่เชื่อ ไม่มั่นใจในสิ่งที่กำลังทำ เราจะขาดกำลังใจ ห่อเหี่ยวและหมดไฟเมื่อปัญหามีมากขึ้น

สุดท้ายคือ C ที่มาจาก Communication การสื่อสารสำคัญมาก ไม่ว่าจะคุยในทีมหรือคุยกับผู้ใช้งาน ถ้าเราสื่อสารได้ไม่ตรงจุด คนจะไม่เชื่อในศักยภาพของผลิตภัณฑ์เรา เราอยากให้คนสื่อสารกัน เราถือว่าล้มเหลวไปครึ่งหนึ่งถ้าทำสตาร์ทอัพแล้วคนไม่สื่อสารกัน

อนาคต Zipevent จะเป็นอย่างไรคงไม่มีใครรู้ แต่มั่นใจได้ว่า Zipevent พร้อมเรียนรู้ ปรับตัวและสื่อสารให้เรารับรู้ด้วยความเชื่อที่มีอยู่

ความเชื่อที่ว่าพวกเขาสามารถเชื่อมต่อและสร้างสรรค์สังคมใหม่และมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้แก่ผู้คนที่พบเจอ

สตาร์ทอัพที่สร้างสรรค์และปรับแต่งประสบการณ์งานอีเวนต์โดยมีผู้ใช้เป็นหัวใจสำคัญ แก้ไขปัญหาให้ทุกฝ่ายด้วยเทคโนโลยีที่พร้อมปรับเปลี่ยน
 

Writer

Avatar

ปัน หลั่งน้ำสังข์

บัณฑิตวิศวฯ ที่ผันตัวมาทำงานด้านสื่อ เพราะเชื่อว่าเนื้อหาดี ๆ จะช่วยให้คนอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป

Photographer

Avatar

ธีรพันธ์ ลีลาวรรณสุข

ช่างภาพ นักออกแบบกราฟิก นัก(หัด)เขียน โปรดิวเซอร์และผู้ดำเนินรายการพอดแคสต์ และอื่นๆอีกมากมายแล้วแต่ว่าไปเจออะไรน่าทำ IG : cteerapan