แดดบ่ายไม่ร้อนเกินกว่าจะจิบกาแฟ เพราะบ่ายวันนี้เราเลือกมาจิบกาแฟที่ ‘ร้านแซ่บเรคคอร์ด’ เป็นชื่อที่บรรดานักศึกษาหลังมหาวิทยาลัยขอนแก่นใช้เรียกร้าน ‘ZAAB Records Café

แต่ก่อนจะมาร้านนี้ ลูกค้าทุกคนต้องเคยหลงทางมาก่อน! บ้างก็ขับไปเจอวัด บ้างก็ขับเลยร้าน บ้างเจอป่า บ้างก็เจอร้านก้อย และแน่นอน ในที่สุดทุกคนต้องหาร้านจนเจอ ถึงมาบ่นเรื่องเล่าระหว่างทางให้ จักร-จักรพันธ์ ชัยศิริ เจ้าของร้านฟัง พอลูกค้าคนอื่น ๆ ได้ยินได้ฟัง ก็เกิดบทสนทนาขึ้นจนเป็น ‘คนรู้จักกัน’ ไปแบบไม่รู้ตัว และเมื่อมาถึงร้านสำเร็จ ก็จะพบกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยงานศิลปะ แผ่นเสียง เทปคาสเซ็ตต์ ต้นไม้ สุนัข 2 ตัว สระน้ำที่มีเรือน้อย 1 ลำ ชิงช้า และชายวัยกลางคนที่ยิ้มต้อนรับรอตรงบาร์กาแฟ

ZAAB Records Café คาเฟ่ขอนแก่นที่บุกเบิกศิลปะ ดนตรี เทศกาลแผ่นเสียง จนเป็นขวัญใจเด็ก มข.
ZAAB Records Café คาเฟ่ขอนแก่นที่บุกเบิกศิลปะ ดนตรี เทศกาลแผ่นเสียง จนเป็นขวัญใจเด็ก มข.

ซาบเรคคอร์ด

น้อยคนจะทราบว่า Zaab มาจากภาษาเยอรมัน มิใช่ภาษาลาวแต่อย่างใด เพราะที่ตั้งร้านและความแซ่บของเจ้าของร้าน ทำให้ไม่มีใครทราบว่าต้องเรียก ‘ซาบเรคคอร์ด’ ที่มีความหมายว่าซาบซึ้งจึงจะถูกต้อง

“เราตั้ง Zaab Records ขึ้นมาถ้าจำไม่ผิดน่าจะปี 2009 ด้วยแนวคิดที่ชอบดนตรีอยู่แล้ว ก็เลยลองทำร้านดู ส่วนใหญ่เป็นที่รวมตัวของน้อง ๆ นักดนตรี เวลาเขาเล่นเสร็จแล้วไม่มีที่ไป ก็จะมานั่งฟังเพลง มันก็เลยกลายเป็นจุดพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้กัน” เขาเปิดฉากเล่าเรื่องการเริ่มต้นทำร้านให้ฟังข้าง ๆ สระน้ำและต้นไม้ที่สั่นไหวตามลม เหมือนกับร่วมแอบฟังบทสนทนานี้อยู่ด้วย

“ครอบครัวเราอยู่ที่นี่ เพื่อนฝูงก็อยู่ที่นี่ ก็เลยทำร้านที่ขอนแก่นนี่แหละ ตอนร้านเริ่มใหญ่ขึ้นก็มีโซนนั่งดื่ม มีการจัดแสดงงานศิลปะ งานดนตรี เป็นร้านเดี่ยว ๆ ตั้งอยู่ข้างร้านก๋วยเตี๋ยว เวลามีคอนเสิร์ตทุกคนก็จะยืนติดริมถนน ถือว่าเป็นที่แรก ๆ ที่เอาสิ่งแปลกใหม่เข้ามาในขอนแก่น ตอนนั้นเริ่มทำ Records Store Day ทำกันเอง อินดี้สุด ๆ” เขาเล่าด้วยแววตาเบิกกว้าง เหมือนยังคงใจเต้นกับสิ่งนั้น

ZAAB Records Café คาเฟ่ขอนแก่นที่บุกเบิกศิลปะ ดนตรี เทศกาลแผ่นเสียง จนเป็นขวัญใจเด็ก มข.
ZAAB Records Café คาเฟ่ขอนแก่นที่บุกเบิกศิลปะ ดนตรี เทศกาลแผ่นเสียง จนเป็นขวัญใจเด็ก มข.

Records Store Day เป็นงานที่สนับสนุนร้านขายแผ่นเสียง ซึ่งจัดวันเดียวเท่านั้น แต่จัดพร้อมกันทั่วโลก จัดขึ้นในวันเสาร์ 1 วันของเดือนเมษายน และทุก ๆ วัน Black Friday ในเดือนพฤศจิกายน เพื่อ ‘เฉลิมฉลองวัฒนธรรมของร้านแผ่นเสียงที่เป็นเจ้าของโดยอิสระ’ วันนั้นเป็นการรวมตัวกันของแฟน ๆ ศิลปิน และร้านแผ่นเสียงอิสระหลายพันแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านเล็ก ๆ แห่งนี้ที่ขอนแก่นเช่นกัน

“แล้วก็มีศิลปินที่จะออกแผ่นเสียงใหม่ ๆ แปลก ๆ ที่จะมาในวัน Records Store Day เป็นวันที่หายาก ลิมิเต็ด พี่ก็เลยลองจัดดู มีนักดนตรีขอนแก่นมาเล่น ในปีหนึ่งมันควรมีกิจกรรมที่ได้ทำร่วมกันที่เป็นอิสระของเราจริง ๆ อยากเล่นเพลงอะไรก็เล่น ต่างจากปกติที่ส่วนใหญ่นักดนตรีกลางคืนจะเล่นเพลงตามคำขอ ซึ่งเราตั้งโจทย์เลยว่า ‘นักดนตรีในงานต้องมีเพลงของตัวเองมาเล่นเท่านั้น’ ก็เป็นโจทย์ให้นักดนตรีที่มางานเริ่มสนุก เพราะเขาได้แสดงตัวตนผ่านเพลงและดนตรี”

ZAAB Records Café คาเฟ่ขอนแก่นที่บุกเบิกศิลปะ ดนตรี เทศกาลแผ่นเสียง จนเป็นขวัญใจเด็ก มข.
ZAAB Records Café คาเฟ่ขอนแก่นที่บุกเบิกศิลปะ ดนตรี เทศกาลแผ่นเสียง จนเป็นขวัญใจเด็ก มข.

หลงไปในซอยลุงจักร

ลูกค้าหลักของร้านคือลูกค้าประจำเท่านั้น เพราะใครที่ฝ่าฟันอุปสรรคในการเดินทางมาได้ ส่วนใหญ่ก็ติดใจและมาอีกซ้ำ ๆ ลูกค้าขาจรก็มาบ้างเพราะปากต่อปาก บ้างเพราะเห็นในโซเชียลมีเดีย

แต่อย่างที่บอกไป ก่อนจะถึงร้านยังไงก็ต้องเคยหลงทางมาก่อน

“เราไม่อยากมีป้ายบอกทาง มันง่ายไป มันชี้นำ เหมือนเราต้องไปดูงานศิลปะ แล้วเราชี้นำคนดูงานศิลปะมากเกินไปมันก็ไม่ดี แล้วอีกอย่างหนึ่ง คอนเซ็ปต์ของการหลงทางก็คือ พอทุกคนพูดเรื่องเดียวกันว่า หลงทางแต่ทุกคนไม่รู้จักกัน ทำให้ทุกคนจอยกันด้วยเหตุการณ์เดียวกัน” เขาเล่าที่มาที่ไปของร้าน

“คนมาร้านนี้ ส่วนมากเป็นคนคอเดียวกัน คุยกันไม่ยาก หลังจากที่เขาพูดเรื่องหลงทาง เขาก็ถามกันว่ามาจากไหน คณะอะไร ถามไถ่กันเสร็จก็คุยเรื่องส่วนตัวของเขาเอง แต่หลายสิ่งหลายอย่างเกิดจากการหลงทางนะ บางคนใช้เวลามาเจอกันครั้งสองครั้งที่นี่ จากนั้นก็ไปที่อื่นด้วยกันต่อ” ฟังดูแล้วคงเหมือนประโยคที่ว่า ‘ศีลเสมอกัน’ ไปวัดก็เจอเพื่อนแบบหนึ่ง กินกาแฟพร้อมฟังเพลงก็เจอเพื่อนอีกแบบหนึ่ง

ZAAB Records Café คาเฟ่ขอนแก่นที่บุกเบิกศิลปะ ดนตรี เทศกาลแผ่นเสียง จนเป็นขวัญใจเด็ก มข.
ZAAB Records Café คาเฟ่ขอนแก่นที่บุกเบิกศิลปะ ดนตรี เทศกาลแผ่นเสียง จนเป็นขวัญใจเด็ก มข.

เราเบรกการคุยเล็กน้อยเพื่อจิบกาแฟแก้ง่วง ช่วยกันหยิบหนอนบุ้งออกจากโต๊ะ เพราะเราเลือกที่นั่งใกล้ต้นไม้และริมน้ำ รู้สึกเหมือนเวลาเดินช้าลงเล็กน้อย ความเครียดลดลง เพราะสีเขียวจากต้นไม้ใหญ่และไม้ใบนานาชนิด รวมถึงภาพวาดเด็กผู้หญิงวัยมัธยมต้นปากสีชมพูปนแดง ผมประบ่ามีหน้าม้า ขนาดสูงราว 2 เมตรที่จ้องมองพวกเราอยู่ แล้วค่อยเริ่มสัมภาษณ์กันต่อเกี่ยวกับร้านในช่วงเวลานี้

“ช่วงนี้เป็นช่วงที่กำลังจะปล่อยให้ร้านดำเนินไปในอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะตัวพี่จะเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อใช้ชีวิตในจุดที่เรารู้สึกว่า เราอยู่กับศิลปะแล้วมีความสุขให้มากที่สุด ยอมรับว่า 10 ปีที่ทำตรงนี้ เราได้ทำอะไรมาเยอะแล้ว แต่หลังจากนี้จะเป็นเรื่องของการเก็บประสบการณ์อีกรูปแบบหนึ่งในต่างแดน ตอนนั้นที่เคยไปก็คืออายุ 22 ปี แต่ตอนนี้อายุ 44 ปีแล้ว

“คิดว่าจะเล่าเรื่องต่าง ๆ และวิถีคนทำงานศิลปะที่นั่นผ่านโลกโซเชียล จริง ๆ ก็ชอบนั่งคุย แต่ด้วยมันถึงจุดอิ่มตัวกับที่นี่ เราเจอสิ่งที่เราอยู่ใกล้ ไม่ใช่ไม่รัก แต่บางครั้งเหมือนน้ำหล่อเลี้ยงชีวิตมันหายไป

“อย่างเช่นเรื่องการคมนาคมในบ้านเรา มันเป็นปัญหาหลัก ๆ สำหรับพี่ พี่ขับรถไม่เป็น ไปไหนพี่ต้องปั่นจักรยานหรือเรียก Grab แล้วการคมนาคมในต่างจังหวัดมันไม่ทั่วถึง จะไปเขื่อนอุบลรัตน์เรายังคิดแล้วคิดอีกเลย เพราะมันไม่เอื้ออำนวยสำหรับเรา

“ถ้าไปอยู่ที่นู่นแล้วอยากเข้าหาธรรมชาติ ก็เดินไปที่สถานีรถไฟ พอขึ้นรถไฟแล้ว อยู่ดี ๆ ก็ไปโผล่ที่ยอดเขาหรือพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ หรือไปโผล่ที่ปารีส ที่มิลาน มันเป็นเรื่องการคมนาคมที่สะดวก พอเราอยู่ที่นี่ก็เหมือนถูกบีบ ไม่ได้เรียกว่าทิ้งร้านไปไหน เรียกว่าฝากไว้ก่อน ฝากให้น้องชายดูแลแทน”

คาเฟ่ในจังหวัดขอนแก่นที่ให้ผู้คนดำดิ่งกับกาแฟ ความเงียบ และเพลงแจ๊ส ใน ‘พื้นที่ส่วนรวม แต่ความรู้สึกส่วนตัว’

รถไฟขบวนขอนแก่น-ปารีส

ปารีส เมืองในฝันของคนรักศิลปะ นับเฉพาะพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ใน 1 ปีมีงานแสดงมากถึง 24 ครั้ง ศิลปินทั่วโลกจึงต้องมาที่นี่เพื่อเสพ-ขาย-สร้างงานศิลปะในทุกแขนง การเดินทางของรถไฟขบวนสายปารีส-ขอนแก่น จอดลงที่หน้าบ้านของเด็กชายจักรพันธ์ตั้งแต่วัยเยาว์ จากการที่เขาเริ่มรู้จักกับ วินเซนต์ แวนโก๊ะ (Vincent Van Gogh)

“พี่จักรเคยตกหลุมรักขอนแก่นเหมือนที่ตกหลุมรักปารีสบ้างไหม”

ฉันส่งคำถามชวนปวดหัวให้แก่เจ้าของร้าน เพียงเพราะเกิดความสงสัยขึ้นมาขณะเดินชมบรรยากาศในร้าน ทั้ง ๆ ที่ตั้งอยู่ในขอนแก่น แต่ข้าวของในร้านกลับแสดงตัวตนไปในทางยุโรปเสียมากกว่า

“พี่ไม่เคยตกหลุมรักขอนแก่น จะพูดยังไงดี ขอนแก่นเป็นบ้านเกิด แต่ไม่ใช่เมืองที่พี่เข้ามาถึงแล้วต้องร้องว้าว พี่เคยทำงานชิ้นหนึ่งชื่อว่า ‘ขอนแก่นปารีส’ เป็นงานโฟโต้กล่องไฟแบบดิจิทัล ตอนนั้นพี่เอาตึกร้างมาซ้อนทับกับหอไอเฟล จะเห็นว่าขอนแก่นกับปารีสมีทำเลที่ตั้งคล้าย ๆ กัน

คาเฟ่ในจังหวัดขอนแก่นที่ให้ผู้คนดำดิ่งกับกาแฟ ความเงียบ และเพลงแจ๊ส ใน ‘พื้นที่ส่วนรวม แต่ความรู้สึกส่วนตัว’

“ขอนแก่นไม่มีภูเขา ปารีสก็ไม่มีภูเขา ขอนแก่นไม่มีทะเล ปารีสก็ไม่มีทะเล นี่คือสิ่งที่คล้ายกัน แต่สิ่งที่ไม่คล้ายกันคือคน ถ้าเราตั้งใจมองว่าปารีสมีอะไรเกิดขึ้นจากธรรมชาติที่โด่งดังไปทั่วโลกบ้าง อย่างเดียวที่มีก็คือแม่น้ำแซน ที่เหลือเกิดจากน้ำมือมนุษย์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรมแห่งชาติฌอร์ฌ ปงปีดู มงมาร์ต หอไอเฟล แม้กระทั่งตัวคน ศิลปินที่ไปที่นั่นต่างสร้างปารีสด้วยความเป็นคนและความงาม

“ขอนแก่นก็เหมือนกัน แต่เรามุ่งไปที่เรื่องของการเป็นเมืองแบบนิวยอร์ก ภาพจำฮอลลีวูดของเขาค่อนข้างเยอะ การพัฒนาคือการนำตึกเข้าเมือง หรือการนำสิ่งของที่ล้ำสมัยเข้าเมือง แต่ที่โน่นการพัฒนาคือการทำให้บ้านดูทันสมัย บ้านรูปแบบเก่าแต่มีหุ่นยนต์ เมืองที่พัฒนาแล้วก็คือการที่เมืองนั้นเอาต้นไม้ไว้ในเมือง ไม่ใช่เอาออกจากเมือง”

นี่คือมุมมองที่มีต่อบ้านเกิด และเมืองอีกฟากโลกที่เป็นหมุดหมายที่รักของเขา

คาเฟ่ในจังหวัดขอนแก่นที่ให้ผู้คนดำดิ่งกับกาแฟ ความเงียบ และเพลงแจ๊ส ใน ‘พื้นที่ส่วนรวม แต่ความรู้สึกส่วนตัว’

ความเป็นมนุษย์และสุขนิยม

“Eat, drink and be merry for tomorrow we die”

“กินและดื่ม เพื่อตายอย่างสำราญในวันพรุ่งนี้”

เป็นวลีที่อยู่ในคัมภีร์ไบเบิลฉบับพระเจ้าเจมส์ (King James Bible) ที่ชวนคนให้ออกไปกิน ดื่ม เที่ยว และแสวงหาความสุขเสียตั้งแต่ตอนนี้ เพราะชีวิตนั้นสั้นเกินกว่าที่จะเสียเวลาไปกับความทุกข์ นี่คือคำถามที่เราส่งไปยังเจ้าของร้านว่ามีความเห็นอย่างไร เพราะตัวเขาก็เข้าข่ายการใช้ชีวิตแบบสุขนิยม

“ถามว่าสุขไหม ก็ไม่ได้สุขตลอดหรอก แต่ก็เป็นสุขนิยม เพราะพี่จะไปกิน ไปดื่ม มันก็เป็นความสุขของพี่ เกิดแนวคิดนี้มาได้ เพราะจุดหมายเราคือตาย ไม่ต้องอธิบายอะไรมากทุกคนก็รู้

“แล้วระหว่างทางเราจะทำอย่างไร ก่อนที่เราจะไป อยู่แล้วเราก็ต้องสุข มันมีเรื่องเข้ามาประเดประดังทำให้เราทุกข์ และท้ายที่สุดเราต้องสละเพื่อมีความสุขให้ได้ หาความสุขให้ตัวเองเหมือนกับตอนนี้ที่ต้องออกต่างประเทศ เพราะพี่ต้องทำให้ตัวเองมีความสุข ไปรีเซ็ตหลาย ๆ ความรู้สึก มันก็คือสุขนิยม” เขาตอบกลับด้วยท่าทีจริงจังกว่าเรื่องที่ผ่านมา อาจเพราะกำลังสนทนาเรื่องปรัชญาชีวิตอยู่

“พี่จักรเชื่อไหมว่าร้านที่ดีทำให้ชีวิตคนดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น” ฉันถามด้วยความสงสัยอีกครั้ง

คาเฟ่ในจังหวัดขอนแก่นที่ให้ผู้คนดำดิ่งกับกาแฟ ความเงียบ และเพลงแจ๊ส ใน ‘พื้นที่ส่วนรวม แต่ความรู้สึกส่วนตัว’
คาเฟ่ในจังหวัดขอนแก่นที่ให้ผู้คนดำดิ่งกับกาแฟ ความเงียบ และเพลงแจ๊ส ใน ‘พื้นที่ส่วนรวม แต่ความรู้สึกส่วนตัว’

“มีส่วนครับ มันเป็นคาแรกเตอร์ของร้านด้วย เหมือนกับว่าเราปล่อยให้ลูกค้าอยู่กับสิ่งที่เขาอยากเจอมากกว่า พี่พูดคุยสนุกสนานกับลูกค้า ดูไม่ใช่เจ้าของกิจการ บรรยากาศเมื่อก่อนมันเหมือนพี่มาเจอกับน้อง มาสร้างความรื่นเริงให้กับชีวิต ให้กับร้าน ให้กับคนที่มาร้าน ไม่ใช่แค่มานั่งแช่แล้วก็ไป

“แต่ปัจจุบันพี่ทำร้านเพื่อให้ทุกคนมีความเป็นส่วนตัวมากที่สุด มีคำพูดหนึ่งที่ว่า ‘พื้นที่ส่วนรวมแต่ความรู้สึกส่วนตัว’ เพราะอะไร เพราะพี่จัดโต๊ะห่างกัน แต่ละคนอยู่คนละมุม โดยไม่ต้องมีใครมาแอบดูเวลาเล่นโทรศัพท์ ปล่อยให้โล่งเลย ทุกคนมานั่งโง่ ๆ ที่นี่ นั่งแบบไม่ต้องคุยกับพี่ นั่งชิงช้า นั่งเปล นั่งตรงลานห้องหนังสือ ว่าง ๆ ก็ไปเล่นกับหมา เสร็จแล้วก็เข้าไปค้นดูเพลงแล้วก็นอน บางคนก็หลับไปเลย

“ความสุขในการทำงานคือทุกอย่าง ได้นั่งคุยกับน้อง ๆ ได้แลกเปลี่ยน ไม่มีรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ มีแค่เรา อีกอย่างคือได้ทำให้ตาน้องลุกวาว เวลาคุยเรื่องนู้นเรื่องนี้ มันทำให้น้องได้ค้นคว้า ได้เสาะหาสิ่งที่เกิดขึ้น ได้ออกเดินทาง” เขาพูดสรุปจบแบบสวยงาม ก่อนที่เราจะคุยเรื่องราวส่วนตัวกันต่ออีกนานนับชั่วโมง

แน่นอนว่าเราเป็นอีกหนึ่งคนที่หลงทางมาเจอกับพี่จักร บทสนทนา ผู้คน เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ที่นี่ให้ความสงบและอบอุ่นมากสำหรับนักศึกษาที่เหงาและคิดถึงบ้าน

คาเฟ่ในจังหวัดขอนแก่นที่ให้ผู้คนดำดิ่งกับกาแฟ ความเงียบ และเพลงแจ๊ส ใน ‘พื้นที่ส่วนรวม แต่ความรู้สึกส่วนตัว’
คาเฟ่ในจังหวัดขอนแก่นที่ให้ผู้คนดำดิ่งกับกาแฟ ความเงียบ และเพลงแจ๊ส ใน ‘พื้นที่ส่วนรวม แต่ความรู้สึกส่วนตัว’

ที่นี่มีนมอุ่น ๆ พร้อมหนังสือให้เลือกอ่าน มีดินสอสีและกระดาษให้วาดรูป มีต้นไม้แจกฟรี มีสุนัข 2 ตัวคือ ‘แท่งทอง’ และ ‘แพนเค้ก’ ที่ขาดไม่ได้คือมีพ่อครัวสุดแจ๋วอย่าง ‘พี่เจี๊ยบ’ ทำให้นักศึกษาทั้งหลายเลือกฝากท้องไว้ ณ ที่แห่งนี้ นักศึกษาหลายรุ่นที่จบไปแล้ว ก็พูดได้เต็มปากว่าจบจากคณะแซ่บเรคคอร์ด

เพราะมีร้านนี้เป็นส่วนหนึ่งที่คอยโอบอุ้มผ่านพื้นที่ที่อบอุ่นคล้ายบ้าน ทำให้ผ่านวัยเรียนที่โหดร้ายไปได้ อย่างที่พี่จักรเคยบอกไว้ว่า “ที่นี่มีพื้นที่ส่วนรวม แต่ให้ความรู้สึกส่วนตัว”

คาเฟ่ในจังหวัดขอนแก่นที่ให้ผู้คนดำดิ่งกับกาแฟ ความเงียบ และเพลงแจ๊ส ใน ‘พื้นที่ส่วนรวม แต่ความรู้สึกส่วนตัว’

ZAAB Records Café 

ที่ตั้ง : 825 หมู่ 3 ซอยวัดลานหญ้า ตำบลศิลา อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น (แผนที่)

วัน-เวลาทำการ : เปิดบริการวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 11.00 – 20.00 น.

โทรศัพท์ : 08 7234 4042

Facebook : ZAAB Records Café

Photographer

Avatar

ณาฌารัฐ ภักดีอาสา

นักเรียนวารสารศาสตร์จากมอน้ำชี ที่เชื่อว่าชีวิตต้องผ่านน้ำ เบื่อการเรียนออนไลน์ อยากเรียนจบแล้ว รักใครรักจริง