เรารู้จัก หญิงลี ศรีจุมพล มากแค่ไหน 

เธอคือสาวมีไฟผู้แลกฝันกับการสร้างครอบครัว เจ้าของตำแหน่งศิลปินหมอลำซิ่งคนแรกของแกรมมี่โกลด์ ที่ค่ายในตอนนั้นยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าอายุเท่าเธอจะดังได้ จนได้ดังจริง ๆ ในวัย 30 ปี ครองตำแหน่งเจ้าของเพลงฮิตข้ามทศวรรษอย่าง ขอใจเธอแลกเบอร์โทร ขาขาวสาวลำซิ่ง หญิงลั้ลลา และ อยู่เย็นเป็นโสด 

กระทั่งช่วงหนึ่ง เธอห่างหายจากวงการไปหลายปี ท่ามกลางกระแสสังคมที่บอกต่อกันอย่างมันปากว่าหญิงลีป่วยหนัก ทั้งยังถูกกดทับด้วยคำพูดที่ทำให้ใจเป็นแผล จนถึงข่าวลือว่าอาจถึงจุดอวสานอาชีพของเธอแล้ว

แต่หมอลำซิ่งคนนี้ไม่ปล่อยให้ตัวเองลอยไปตามสายธารแห่งการดูถูก เธอรักษาร่างกาย ดูแลจิตใจ ครุ่นคิดและตกตะกอนชีวิตได้ว่า “กว่าจะมีวันนี้ลำบากขนาดไหน เรื่องอะไรจะยอมตาย”

หลังออกผลงานอีกหลายสิบเพลงเพื่อหวังกู้ชื่อเสียง แต่ไม่สำเร็จเสียที จนเมื่อปลาย พ.ศ. 2565 หญิงลี ศรีจุมพล ก็ไม่ทำให้ตัวเองและแฟนคลับผิดหวัง ด้วยการกลับมาโด่งดังจากเพลงไวรัลที่แต่งเองอย่าง คาเฟอีน

“คิดสิ คิดสิ คาปูชิโน่ เอสเปรสโซ่ อาราบิก้า โรบัสต้า อะไรดีนะ มอคค่า ซุปเปอร์ริช อย่าคิดนาน”

คงต้องมีคนเผลอใส่ทำนองกันไปบ้าง เราเข้าใจ เอาล่ะ ถ้าคุณรู้จักหรือชื่นชอบผลงานของเธอแล้ว ครั้งนี้เราขอพาคุณไปรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเธอด้วย แล้วคุณจะค้นพบว่าภาพลักษณ์สุดลั้ลล้า รอยยิ้ม ชื่อเสียง และน้ำเสียงทรงเสน่ห์ ที่คุณรู้จัก เป็นเพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้นในชีวิตอันน่าสนใจของสาวลำซิ่งคนนี้

‘หญิงลี ศรีจุมพล’ หมอลำซิ่ง 9 ชีวิตที่ดังตอนอายุ 30 แลกความฝันกับชีวิตรักและการมีลูก

หมอลำซิ่งคนแรกของแกรมมี่โกลด์ เบิกฤกษ์ความดังในวัย 30 ปี ตอนนั้นมีใครบอกไหมว่าไม่น่าจะดังได้

ทางค่ายเลยค่ะ (หัวเราะ) คุณกริช ทอมมัส รับมาเซ็นสัญญาตอนอายุ 29 ก็บอกว่า สวัสดิ์ ทำไมคนนี้แก่จังเลย เพราะนักร้องมันต้องสัก 17 – 25 อาจารย์สวัสดิ์ สารคาม ผู้มีพระคุณของหญิงก็บอกกลับไปว่า ผมไม่ให้พี่ขาดทุนหรอก ค่ายก็บอกว่า รับประกันนะ อาจารย์เลยตั้งใจทำเพลงที่มีความเป็นเราจนดังจริง ๆ

ตอนนั้นคิดว่าอะไรคือเหตุผลที่ทำให้เพลง ขอใจเธอแลกเบอร์โทร และเพลงอื่น ๆ เป็นที่พูดถึงทั่วประเทศ

หลายปัจจัยนะคะ ทรงผมเรามีเอกลักษณ์ ท่าเต้น การแต่งตัว ใบหน้า ถือเป็นของใหม่ในสังคม ถ้าเปรียบกับการปิดทองพระ ก็คือปิดทองบนที่ว่าง ไม่ปิดทับตรงที่คนอื่นปิดไปแล้ว 

เพลง คาเฟอีน ก็ถือเป็นของใหม่ในตลาด เอากาแฟมาแต่งเป็นความรัก ตอนนี้ก็เพลง อ้อนแม่กินกุ้งแช่ ที่ใช้จังหวะตุ้งแช่เข้ามา บางคนฟังสั้น ๆ จะบอกว่าปัญญาอ่อน แต่ถ้าฟังยาวจะได้เนื้อหาครบถ้วนว่าเป็นเรื่องของสาวอกหักที่อ้อนแม่ให้ไปดื่มคลายเศร้าเป็นเพื่อน

อีกอย่างคือทางค่ายให้อิสระศิลปินดีไซน์ลุคของตัวเอง ใส่ตัวตนลงในเพลง ก็คงถือว่าสำเร็จตั้งแต่เพลง หญิงลั้ลลา แล้วว่านั่นคือตัวเรา ฟังเพลงแล้วเห็นภาพเรา

ปกติพูดถึง หญิงลี คนจะนึกถึงเรื่องการร้องและเต้น จริง ๆ พี่มีความสามารถอื่นที่แอบซ่อนไว้อีกไหม

คิดสิ คิดสิ คาปูชิโน่ (ทำท่าเต้น) เพลงนี้หญิงแต่งค่ะ ไม่ใช่ความลับ แต่คนอาจจะไม่ทราบ แล้วก็มี ขาขาวสาวลำซิ่ง หญิงลั้ลลา ที่พอจะมีคนรู้จัก ล่าสุดก็คือ อ้อนแม่กินกุ้งแช่ ที่เราขอให้ทีมงานสั่งกุ้งแช่ให้กิน แต่สั่งไม่เสร็จสักที เพราะร้องเป็นจังหวะเชิดสิงโต เราฟังแล้วติดหูเลยเอามาแต่งเพลงให้คนฟังติดหูเหมือนเรา

‘หญิงลี ศรีจุมพล’ หมอลำซิ่ง 9 ชีวิตที่ดังตอนอายุ 30 แลกความฝันกับชีวิตรักและการมีลูก
‘หญิงลี ศรีจุมพล’ หมอลำซิ่ง 9 ชีวิตที่ดังตอนอายุ 30 แลกความฝันกับชีวิตรักและการมีลูก

ในจุดที่โด่งดังมีงานเข้ามาเยอะแยะ เคยได้ยินว่านิสัยคนสะท้อนผ่านการใช้เงิน เงินก้อนแรกที่พี่หญิงได้แบ่งไปทำอะไรบ้าง

ดาวน์รถตู้ ซื้อเครื่องเสียง ลำโพง ต่อแขนต่อขาเพื่อสานต่ออาชีพของเรา สมัยเด็กมีหลายอย่างที่ไม่มี เพราะครอบครัวยากจน พอเพลง ขอใจเธอแลกเบอร์โทร ดังตอนอายุ 30 มันทำให้เราได้ทำตามฝัน บ้านพี่ไม่มีน้ำ มีแต่ทุ่งนาแห้งแล้ง พอมีเงินซื้อนาก็เริ่มทำรีสอร์ต สร้างสระว่ายน้ำให้เด็กเล่นน้ำฟรีหรือเก็บราคาถูก ๆ ให้ฝึกว่ายน้ำ เพราะสถิติเด็กจมน้ำเยอะ เราแค่อยากมีส่วนผลักดันชุมชนให้พัฒนาขึ้น 

พี่ก็นอกเรื่องไปไกลเลยนะ (หัวเราะ)

ดีค่ะ จะได้รู้จักพี่หญิงเยอะขึ้น แล้วจากวันที่ได้ค่าตัว 150 บาท จนถึงวันที่ดัง มีอะไรเปลี่ยนไปหรือตัวเองต้องเปลี่ยนแปลงไหม

ไม่นะ เหมือนเดิมเลย เสื้อผ้า การแต่งตัว เราไม่ได้ใช้ของแบรนด์เนม อาจเพราะไม่ได้มีเงินมาตั้งแต่กำเนิดและเป็นคนใช้ของแบบไม่ค่อยรักษา กระเป๋าผ้าเลยตอบโจทย์กว่า เสื้อผ้าส่วนตัวไม่ต้องแพง ใส่วนซ้ำได้ ยกเว้นของโชว์ที่ต้องแพง เพราะเราให้ความสำคัญกับอาชีพ เป็นการให้เกียรติคนดู

หรือเรื่องรถ 10 ปีก่อนหญิงได้ซื้อรถคู่ใจ 1 คัน ตอนนี้ก็ยังใช้อยู่ ไม่ทิ้ง ไม่ขาย ไม่ซื้อใหม่ ไม่เปลี่ยน เพราะรักมาก

เพิ่มเติมขึ้นมาหน่อย คือหาเงินได้แล้วเลยได้ทำในสิ่งที่เคยโหยหาค่ะ

สิ่งที่ว่านั้นมีอะไรบ้าง

อย่างแรก ของกินอร่อย ๆ แอปเปิล องุ่น ไม่มีโอกาสได้กินเลยนะ ต้องไปขึ้นกกโกกกหว้าตามท้องนา เคยสร้างตำนานขโมยมะม่วงมันผู้ใหญ่บ้านแล้วเขารู้ (อย่าทำตามนะ) ตอนเด็กไม่มีให้กินเลยกลายเป็นขโมย

อย่างที่สอง คือของเล่น เราไม่ได้เล่น ไม่ได้ไปเที่ยว

สุดท้าย คืออิสรภาพ เราไม่ค่อยมีโอกาสใช้ความคิดหรือจินตนาการ ตอนเด็กชอบปีนหลังวัวหลังควาย เป่ายาง ดีดลูกแก้วเหมือนผู้ชาย พ่อแม่ก็จะบอกว่าไม่งาม อิสรภาพก็เลยหายไป

นี่คือ 3 ข้อที่เรามาเติมเต็มตอนโต แต่เรื่องกินก็กินไม่เยอะหรอก ซื้อแจกทดแทนที่ขาดไปตอนเด็ก

‘หญิงลี ศรีจุมพล’ หมอลำซิ่ง 9 ชีวิตที่ดังตอนอายุ 30 แลกความฝันกับชีวิตรักและการมีลูก

จากที่บอกว่าเป็นคนกินไม่เยอะ เพราะเป็นคนทำเองด้วยหรือเปล่า

ก็เป็นอีกความสามารถที่คนไม่ค่อยรู้นะ (ยิ้ม) 

พี่เป็นคนทำอาหารได้แซ่บ จัดจ้านมาก ขาดทุนไม่ว่า เอาหน้าไว้ก่อน ทำกินได้ ทำขายขาดทุน (หัวเราะ) เวลาพี่สั่งซื้อ พี่รู้ว่าต้องบอกให้เขาทำยังไงบ้าง เค็ม เปรี้ยว หวานขนาดไหน กระเทียมเยอะ พริกน้อย มันจะนัว ซึ่งเกิดจากการจดจำรสชาติที่ชอบ พอมาทำเองก็ปรุงจนใกล้เคียงเขา

พี่หญิงให้ความสำคัญกับเรื่องการกินมาก จริง ๆ แล้วเรื่องนี้ในอดีตส่งผลอะไรต่อชีวิตหรือเปล่า

ด้วยความที่พ่อแม่เป็นชาวนายากจนเลยไม่ได้เน้นเรื่องสุขอนามัยหรือรสชาติขนาดนั้น กินเท่าที่มี ผักข้างรั้ว เนื้อสัตว์ไม่ค่อยมี นมโรงเรียนเขาแจกพี่ก็ไม่กิน นี่อาจเป็นสิ่งที่ทำให้ไม่สูงด้วย เรื่องนี้แหละมั้งที่กลายมาเป็นปมของเราจริง ๆ

ในสังคมไทย ถ้าสูงถึง 160 ส่วนตัวจะรู้สึกมั่นใจกว่านี้มาก มันเคยทำให้เราไม่กล้าฝันอยากเป็นดาราด้วย มีละครหลายเรื่องประสานมาให้เล่น แต่ความสูงแค่ 156 ทำให้เรากลายเป็นหลุมเวลายืนกับคนอื่น เราไม่มั่นใจ แต่ก็ต้องอยู่ให้มีความสุข ก็อาจจะดีนะ ตัวเล็กเลยดูเด็กหน่อย 

เผื่อไม่รู้ ตอนนี้พี่ 40 แล้วนะ

‘หญิงลี ศรีจุมพล’ หมอลำซิ่ง 9 ชีวิตที่ดังตอนอายุ 30 แลกความฝันกับชีวิตรักและการมีลูก

จากตอนเด็กที่ใช้ชีวิตโลดแล่นตามท้องนา เสียงดนตรีเข้ามาเป็นส่วนสำคัญของชีวิตได้ยังไง

แต่ก่อนขอเงินแม่ 50 บาท เขาให้ยากมาก เพราะเขาไม่มีเงิน เราก็รู้ แม่ทอผ้าไหมหอบไปขายที่ภูพาน พ่อไปทำงานก่อสร้าง ส่งเงินมาก็ต้องเก็บไว้ทำนา แต่เสียงเพลงทำให้เราได้เงิน 

พี่ไปร้องเพลงกับครูที่วงดนตรีนักเรียน ได้ค่าตัวครั้งแรก ที่สำคัญคือได้ไปเที่ยวลั้ลลากับเพื่อน เพราะปกติไปดูหนังกลางแปลงต้องไปกับพ่อ แม่ ยาย ไปแค่โรงเรียนแล้วกลับบ้าน ไม่มีรถแห่ให้เต้นแบบสมัยนี้ด้วย อิจฉา (หัวเราะ)

อะไรคือสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการขึ้นเวทีในวันนั้นบ้าง

เงินหายาก และการจะได้รับการยอมรับจากผู้คนต้องขยัน อดทน ใช้เวลา ทำให้เราตั้งคำถามด้วยว่าเราจะทำงานอะไร เพราะรู้ตัวว่าเรียนหนังสือไม่เก่ง ขี้เบื่อ ทำงานโรงงานคงไม่ไหว เลยคิดว่าอยากเป็นหมอลำซิ่ง จะได้เงินหลายพัน ทำไร่ทำสวนไปด้วย ขายของ ตำส้มตำ ช่วงมัธยมเลยเริ่มฝันแบบนี้

‘หญิงลี ศรีจุมพล’ หมอลำซิ่ง 9 ชีวิตที่ดังตอนอายุ 30 แลกความฝันกับชีวิตรักและการมีลูก
‘หญิงลี ศรีจุมพล’ หมอลำซิ่ง 9 ชีวิตที่ดังตอนอายุ 30 แลกความฝันกับชีวิตรักและการมีลูก

พี่หญิงลีเคยพูดว่า การเดินทางตามเสียงเพลงคือการเดินตามแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ประโยคนี้มีความหมายแฝงอะไรไหม

แสงสว่างปลายอุโมงค์ หมายถึงการที่เราเดินตามแสงไป เดินไปเรื่อย ๆ แสงจะเริ่มสว่างขึ้น แผ่รัศมีมากขึ้น นั่นคือผู้คนมากมายที่ได้เจอในเวลาต่อมา 

การได้เรียนหมอลำซิ่งกับ แม่วัชราภรณ์ สมสุข ท่านคือแสงสว่างที่ทำให้ได้รู้จักกับ ‘ค่ายเอ็ม.ดี.เทป’ จนได้ออกเพลงครั้งแรกตอนอายุ 20 ปี เพลง บ่ย่านบาป แต่ด้วยบุญวาสนาคงไม่ถึง เพลงเลยถูกแบนเพราะเรื่องเนื้อหา 

หญิงติดสัญญากับค่ายเดิม 8 ปี จนถึงอายุ 28 ไม่ได้ทำเพลง จนอายุ 29 ปี อาจารย์สวัสดิ์ พามาออดิชันที่แกรมมี่โกลด์ ชีวิตก็เลยเปลี่ยน 

อีกท่านที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ พ่อเดฟ จรยุทธ ท่านเสียไปแล้ว พ่อเดฟก็พามาทำเพลงกับอาจารย์สวัสดิ์ เห็นไหมคะ ทุกท่านคือแสงสว่าง เช่นเดียวกับค่ายเก่าที่ถึงแม้จะไม่ได้ไปถึงฝันด้วยกัน แต่เขาก็ทำให้เราได้เข้าสู่วงการ อยากให้มองอีกมุมว่าถึงเราไม่ได้ขยับขาก้าวเดิน แต่ยังไงก็คือการใช้ชีวิตอย่างที่มนุษย์คนหนึ่งจะได้ใช้ พี่ไม่เสียดายนะ

ความฝันของศิลปินคือเป็นการออกเพลง ถ้าไม่ได้ทำตามที่ฝัน แล้ว 8 ปีนั้นพี่หญิงทำอะไรบ้าง เรียกว่าเป็นช่วงแห่งการอดทนรอไหม

หญิงมองว่าตัวเองไม่ได้อดทนนะ พยายามแล้ว แต่มันไปไม่ถึงฝันจริง ๆ ผ่านมาได้ก็ดีใจ

ตอนนั้นพี่มีแฟนนะ แม้จะเป็นคนล้มเหลวเรื่องความรักมาตลอด อายุ 25 ก็เลยมูฟออนจากอีสานเข้ามากรุงเทพฯ ใช้ชีวิต 4 ปี รับจ้างร้องเพลงในงานวัด เดือนหนึ่งก็มีสัก 10 งาน หักค่าใช้จ่ายนู่นนี่นั่นเหลือพันสองพัน ว่าง ๆ ก็ไปขายของช่วยญาติ มีเปิดร้านเสริมสวยด้วยแต่ก็เจ๊ง เพราะไม่ถนัด ไม่มีลูกค้า เป็นหน้าใหม่ โอ๊ย! เศร้า! เครียด! เราอยากทำงาน เหมือนเป็นนักร้องแต่ไม่มีคนจ้างอะ

‘หญิงลี ศรีจุมพล’ หมอลำซิ่ง 9 ชีวิตที่ดังตอนอายุ 30 แลกความฝันกับชีวิตรักและการมีลูก

นอกจากความรักที่ไม่สำเร็จ มีอะไรที่พี่หญิงแลกมาเพื่อการตามฝันของตัวเองไหม

ความจริงหญิงอยากมีลูกตั้งแต่ตอนเป็นวัยรุ่นแล้ว แต่ยังอยากเป็นนักร้องอยู่ สมัยนั้นถ้ามีลูกก็เป็นนักร้องไม่ได้ เราเลยยังไม่มี เพราะใช้เวลาตามหาฝัน ถือว่าแลกกัน

แต่พอถึงเวลาทำงานหนัก ลูกก็ไม่มา นั่นคือสิ่งที่โชคชะตาขีดให้ศิลปินได้อย่างเสียอย่าง เป็นเหมือนคำสาป ครูสวัสดิ์เคยบอกว่า เขาสาปนะเธอ นักร้องดังเขาจะสาปให้พวกเธอไม่มีลูก เพราะใช้ร่างกายหนักแลกกับชื่อเสียงและความใฝ่ฝันจนเลยจุดที่ร่างกายพร้อม

การสร้างครอบครัวคือความฝันที่สำคัญ ถ้าแก้ไขอดีตได้ อยากกลับไปเปลี่ยนแปลงไหม

ยากจัง มันแก้ไม่ได้อะนะ เพราะเป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้ว พี่ไม่เสียใจ เราได้เป็นนักร้องสมกับที่ฝัน ตั้งใจยอมแลกตั้งแต่แรก โชคดีในปัจจุบันก็มีการแพทย์เข้ามาช่วยเหลือ ตอนนี้ก็ยังอยากมีความฝันนี้อยู่

แล้วความฝันในตอนที่เราว่างเว้นจากงานไปหลายปีคืออะไร ได้ลองฝันอะไรไว้บ้างไหม

ไม่มีเลยค่ะ ตอนนั้นคิดแค่ว่า 5 ค่ายเพลงในไทย ต้องมีสักค่ายที่เอาเรา ไม่เอาเราก็จะไปยัดเยียดให้เอา ไม่ปั้นเราก็ขอเซ็นสัญญาไว้ก่อน ขอให้คนเอ็นดูเมตตา แต่ถ้าไม่มีใครเอาจริง ๆ ก็จะไปแต่งงานมีลูกมีเต้าแล้ว (หัวเราะ) คงถึงเส้นชัยแล้วอะ แล้วไม่เคยคิดจะมีเป้าหมายอื่นเลยนะ เพราะไม่มีทุน (หัวเราะ)

‘หญิงลี ศรีจุมพล’ หมอลำซิ่ง 9 ชีวิตที่ดังตอนอายุ 30 แลกความฝันกับชีวิตรักและการมีลูก

หลายคนบอกว่า ขอใจเธอแลกเบอร์โทร คือเพดานสูงสุดของพี่หญิงลี พอพี่ป่วยเลยมีคนเอาไปเปรียบเทียบกับช่วงที่ดัง

ตอนที่ป่วย แล้วทำกี่สิบเพลงเป็นอัลบัมก็ไม่ดัง เศร้า ป่วย เหนื่อย ท้อ โดนด่า โดนเปรียบเทียบ

คนปากร้ายก็ทำร้ายจิตใจกันเก่ง ซ้ำเติมเก่ง ไม่เข้าใจเลยว่าเราเจ็บแค่ไหน ทั้งป่วย เพลงก็ไม่ดัง ทำไปเขาก็บอกว่าไม่สู้เพลงนั้น จบแล้วหญิงลี หมดสภาพ ไม่มีใครเอาแล้ว เขาคอมเมนต์เข้ามาให้เราเสียใจ

หญิงยอมรับว่า ขอใจเธอแลกเบอร์โทร เพดานมันสูงมาก เพลงอื่นที่ทำมันเลยเงียบ จนเพลง คาเฟอีน มาดัง เราถึงร้องไห้โฮ เพราะก่อนหน้านั้นมันเจ็บปวดเหลือเกินกับคำที่เขาเหยียดหยามและการเปรียบเทียบเพลง

แต่กับคนที่เขาดีกับเรา หญิงต้องขอบพระคุณจากใจนะคะ ตอนป่วยทางค่ายก็ช่วยกันผลักดัน แต่เพลงมันยังไม่ตอบโจทย์คนฟัง

รู้จัก ‘หญิงลี ศรีจุมพล’ หมอลำซิ่งผู้แลกความฝันกับความรัก ไขว่คว้าและสร้างโอกาสจนดังในวัย 30 แม้จะไม่มีใครเชื่อ

สังคมบอกต่อกันว่าพี่หญิงป่วยหนักจนไม่มีทางกลับมาได้ จริง ๆ แล้วพี่หญิงยังไหว ใจยังสู้

ก็มีช่วงป่วยหนักจริง ๆ แทบจะช็อกตาย พอเจ็บป่วยก็เป็นข่าว คนเชื่อว่าหญิงลีหมดศักยภาพ ความเชื่อในปีนั้นส่งผลมาถึงความเชื่อในอีก 3 ปี งานเลยน้อยลง ปีที่ 4 ก็เฟดตัว เพราะทำแค่ไหนก็ไม่มีคนเชื่อว่าดี

สภาพจิตใจเราตอนนั้นถูกกดทับ ป่วยเป็นไทรอยด์ คุณแม่ก็ถูกรถชนหน้ารีสอร์ต เราหันหลังให้ถนนก็ไม่รู้ว่าแม่ตัวเอง พอได้ยินเสียง เรากรี๊ด วิ่งไปหา ตอนนั้นป่วยอยู่ ขาชาเดินไม่ค่อยได้ ขาลีบ ตัวใหญ่ ตัวบวม ถือว่าทุกวันนี้ผ่านจุดเลวร้ายมาหลายอย่างแล้ว โชคดีที่คุณแม่ปลอดภัย

พี่ก็ถือว่าตอนนั้นแค่โชคร้าย 

ถ้าอย่างนั้นพี่หญิงอาจมีมุมมองที่แตกต่างว่า ความโชคร้ายและปากร้าย ๆ ของคนในสังคมได้มอบอะไรให้กับพี่บ้าง

ความเจ็บปวด ความเข้มแข็ง และความเข้าใจในชีวิตของเราเอง เมื่อไหร่ที่รู้สึกทะเยอทะยาน พี่จะฉุดตัวเองลงมา คนเราพอถึงเวลา ตัวหนังสือแม้แต่ตัวเดียวก็จำไม่ได้ ชื่อตัวเองก็ลืมไปหมด

ตอนป่วย พี่หญิงลีทำอะไรเพื่อรักษาใจตัวเองบ้าง

ทำทุกอย่างเพื่อจะได้ไม่เหงา ดีใจนะคะที่ คาเฟอีน ทำให้เราคืนชีพกลับมาได้ ทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่ทำมาทั้งหมดไม่เสียเปล่า ไม่เสียใจถึงเพลงที่ผ่านมาจะขายไม่ได้

ทำ 10 เพลง มาติดที่เพลงที่ 10 ก็ยังดีกว่าไม่ทำสักเพลง ไม่อย่างนั้น คาเฟอีน อาจเป็นแค่เพลงที่ 1 เราเลยให้กำลังใจกับทุกคนเสมอว่าทำไปเรื่อย ๆ นะ มันจะมีสักเพลงที่ช่วยเรา

รู้จัก ‘หญิงลี ศรีจุมพล’ หมอลำซิ่งผู้แลกความฝันกับความรัก ไขว่คว้าและสร้างโอกาสจนดังในวัย 30 แม้จะไม่มีใครเชื่อ

ช่วงที่ทุกข์หนัก ๆ เคยคิดไหมว่าจะพอแล้วกับโลกใบนี้

ไม่เคยคิดว่าพอแล้ว แต่เคยคิดว่าทำไมฉันเหนื่อยจัง ถ้าฉันตายไปยังไงก็มีทุกอย่างไว้ให้ครอบครัวแล้ว ถึงอย่างนั้นก็ไม่ดีเลย

เป็นหญิงลีศักดิ์ศรีค้ำคอ กว่าจะสำเร็จได้ผ่านมาตั้งเยอะ จะตายได้ยังไง เราบอกตัวเองว่าห้ามอยากตาย นั่นคือสิ่งที่ได้เรียนรู้จากชีวิต เจอแรงต้านทานจนเดินไม่ไหวก็จะคลานไป มันต้องตะเกียกตะกาย

ตะเกียกตะกายเรื่องการมีชีวิต รวมไปถึงเรื่องความรักด้วยไหม

ตอนนี้ต่อให้เป็นความรักก็มีภูมิ รู้จักตัดใจ รักใครคนหนึ่งก็ให้ถือว่าเขาเป็นดารา เข้าบ่เถิง! บ่ต้องไปเบิ่งรูปเขา! ฉันมันตัวเล็ก เธอมันดัง เป็นดาราแตะต้องบ่ได้!

ในชีวิตที่ผ่านมา ช่วงไหนที่ร้องไห้หนักที่สุด

อืม หญิงไม่ค่อยร้องไห้เรื่องงาน มีเครียดบ้างจากงานเยอะ รู้ไหมว่าหญิงลองไปนับ ๆ มีเกือบร้อยเพลงที่ทำมาในช่วงหลายปี เพลงเร็ว 80 กว่าเพลง คิดดูว่าเข้าห้องอัดกี่ครั้ง

แต่เรื่องที่ทำให้ร้องไห้คงเพราะอกหัก อีกแล้วเนอะ (ยิ้ม)

มีจุดไหนในชีวิตที่ไม่อยากกลับไปอีกไหม

ก็คงตอนที่ตัวเองโง่เขลา เบาปัญญา อกหัก คลั่งรัก

ไม่ได้เกี่ยวกับงานเลย (หัวเราะ) ก็งานพี่ไม่ร้องไห้จริง ๆ

รู้จัก ‘หญิงลี ศรีจุมพล’ หมอลำซิ่งผู้แลกความฝันกับความรัก ไขว่คว้าและสร้างโอกาสจนดังในวัย 30 แม้จะไม่มีใครเชื่อ

ปัจจุบันพี่หญิงเป็นทั้งศิลปินและเจ้าของธุรกิจ คิดว่าธุรกิจอะไรที่ทำแล้วประสบความสำเร็จมากที่สุด

ธุรกิจบันเทิงในตัวของหญิงลี ได้เงินมาจากชื่อ หญิงลี ศรีจุมพล ที่เป็นนักร้อง มันคือชีวิต เป็นจิตวิญญาณ มุ่งมั่นมากบนเวที ร้อง เต้น ยืน พูด ทำยังไงให้คนประทับใจ คิดทุกนาทีนะคะ จะเป็นดาวในดวงใจของคนที่นั่งดู ทุกคนจะผิดหวังไม่ได้

เราเห็นพี่หญิงเป็นนักสู้ อยากรู้ว่าในชีวิตนี้กลัวอะไรบ้างไหม

กลัวคนที่ให้โอกาสเราเสียใจ กลัวเขาผิดหวังว่า เธอเคยเป็นปลาตัวเล็กที่ปั้นจนตัวใหญ่ พอเธอตัวใหญ่แล้วก็ไปจากเรา หญิงถึงต่อสัญญาตลอด จะอยู่จนเขาไม่เอา เราเองก็เคยปั้นศิลปินด้วยเลยเข้าใจ มันยากมากเลยนะ พอเราเห็นฟีดแบ็กไม่ดีก็เสียใจมาก เข้าใจผู้ใหญ่ที่เขาปั้นเรา เลยอยากให้เขาชื่นใจ

นอกนั้นไม่กลัวอะไรเลย เพราะเราเป็นผู้ให้ ให้ญาติ ให้ครอบครัว

และให้สังคมด้วย 

ใช่ค่ะ ให้เท่าที่ให้ได้

จากที่ตัดสินใจยกทรัพย์สินทั้งหมดให้กับสังคมเพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้า อย่างนี้ปลายทางชีวิตของหญิงลีคือการอยู่เพื่ออะไร

อยู่เพื่อความสุข อยากทำอะไรก็จะทำ มีแค่นั้นเองค่ะ หญิงจะไม่ดิ้นรน จะดีกับทุกคน แฟนเพลงขอถ่ายรูปจะกอดเขาในนาทีนี้เลย พรุ่งนี้คืออีกเรื่อง ส่วนเมื่อวานคือสิ่งที่ไขว่คว้าไม่ได้ 

หญิงเคยเฉียดใกล้ความตาย มันทำให้รู้ว่าลมหายใจในปัจจุบันสำคัญที่สุด และเพราะยังมีลมหายใจ เราถึงอยู่เพื่อคนอื่นได้

รู้จัก ‘หญิงลี ศรีจุมพล’ หมอลำซิ่งผู้แลกความฝันกับความรัก ไขว่คว้าและสร้างโอกาสจนดังในวัย 30 แม้จะไม่มีใครเชื่อ

Writer

วโรดม เตชศรีสุธี

วโรดม เตชศรีสุธี

นักจิบชามะนาวจากเมืองสรอง งานประจำเป็นนักฟัง งานพาร์ทไทม์เป็นนักเขียน งานอดิเรกเป็นนักเล่า

Photographer

Avatar

ผลาณุสนธิ์ ผดุงทศ

ช่างภาพที่โตมาจากเมืองทอง รักแมว ชอบฤดูฝน และฝันอยากไปดูบอลที่แมนเชสเตอร์