30 กรกฎาคม 2021
2 K

เส้นทางสายไหมเป็นเส้นทางการค้าขายโบราณที่เชื่อมระหว่างสองทวีปที่ห่างไกล คือทวีปเอเชียและทวีปยุโรป หนึ่งในเส้นทางสายไหมโบราณมีจุดเริ่มต้นที่เมืองซีอาน ศูนย์กลางของอารยธรรมจีนในอดีต และสิ้นสุดลงที่เมืองอิสตันบูล เมืองสองทวีป ที่ปัจจุบันตั้งอยู่ในประเทศตุรกี 

คําว่าเส้นทางสายไหมมาจากสินค้าที่เปรียบเสมือนหัวใจของการค้าขายในเส้นทางนี้ คือผ้าไหมจากประเทศจีน ซึ่งในอดีตผ้าไหมเป็นที่ต้องการของดินแดนที่ห่างไกลในทวีปยุโรป 

นักศึกษาทันตแพทย์เดินทางตามฝัน ‘ตามรอยเส้นทางสายไหมโบราณ’ จากซีอานถึงจางเย่ เมืองจีน

นอกจากนี้ การติดต่อค้าขายยังส่งผลให้เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ศาสนา และวิทยาการระหว่างสองทวีป นําไปสู่เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์ และสถานที่ที่สวยงามมากมาย ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้มายลโฉมสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวเหล่านี้ ดังนั้น การเดินทางตามรอยเส้นทางสายไหมจึงเปรียบเหมือนการชื่นชม ‘เฉดสีที่เปลี่ยนไปของอารยธรรมมนุษย์’ จากการเดินทางเริ่มต้นในทิศตะวันออก คือ ประเทศจีน ไปสิ้นสุดที่ทิศตะวันตกในประเทศตุรกี 

เราจะได้สัมผัสเรื่องราวและวัฒนธรรมที่ค่อยๆ ไล่ระดับจากความเป็นเอเชียสู่ความเป็นยุโรป ด้วยเหตุนี้คงเป็นสิ่งที่สุดยอดมาก ถ้าหากวัยรุ่นอย่างผมได้ทําตามความฝัน เดินทางตามรอยเส้นทางสายไหมโบราณจนสําเร็จ

นักศึกษาทันตแพทย์เดินทางตามฝัน ‘ตามรอยเส้นทางสายไหมโบราณ’ จากซีอานถึงจางเย่ เมืองจีน

ซีอาน จุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหม

ผมเลือกก้าวแรกของการสัมผัสเส้นทางสายไหมด้วยทริปสั้นๆ โดยเดินทางจากซีอานสู่จางเย่ ซึ่งเป็นสองเมืองท่องเที่ยวที่สวยงามในประเทศจีน เมืองซีอาน (Xi’an) หรือ ฉางอาน (Chang’an) ในอดีต ตั้งอยู่ในมณฑลส่านซี (Shaanxi) ตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ที่นี่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 3,000 ปี ด้วยเหตุนี้ คงไม่เป็นการกล่าวเกินจริงมากนักว่า ซีอานเป็นเมืองที่บอกเล่าเรื่องราวอารยธรรมจีนโบราณได้ดีที่สุด 

เมื่อออกจากอาคารสนามบิน ผมก็เผชิญกับอุปสรรคที่นักท่องเที่ยวหลายคนพบเมื่อมาท่องเที่ยวในประเทศจีน นั่นคือภาษา ผมได้เรียนรู้ว่าภาษาอังกฤษนั้นแทบไม่มีประโยชน์เลยในการเที่ยวจีน และตลอดการเดินทางในทริปนี้ ผมไม่พบคนที่พูดภาษาอังกฤษได้เลยแม้แต่คนเดียว การสื่อสารในทุกๆ ขั้นตอนจึงเป็นไปอย่างยากลําบาก 

ผมต้องขอบคุณแอปพลิเคชันแปลภาษาที่ช่วยผมเอาไว้ในหลายสถานการณ์ และเพื่อนร่วมเดินทางที่พูดภาษาจีนได้บางคํา จึงทําให้การเดินทางครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่น อย่างไรก็ตาม ความลําบากในการสื่อสารเป็นสิ่งหนึ่งที่ท้าทายการเดินทางตลอดทริป ซึ่งทําให้ผมจดจําและประทับใจการเดินทางในครั้งนี้

นักศึกษาทันตแพทย์เดินทางตามฝัน ‘ตามรอยเส้นทางสายไหมโบราณ’ จากซีอานถึงจางเย่ เมืองจีน
เหล่ากองทัพหุ่นดินเผา

ถ้าพูดถึงซีอาน คงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่พูดถึงสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ สถานที่แห่งนี้แสดงถึงความยิ่งใหญ่อลังการของอารยธรรมจีนสมัยราชวงศ์ฉิน (221 – 206 ปีก่อนคริสต์ศักราช) กองทัพหุ่นดินเผาหลายพันตัวซึ่งมีใบหน้าเป็นเอกลักษณ์ รถม้า และทรัพย์สมบัติมากมายที่ทางประเทศจีนขุดเจอ 

สิ่งของทางประวัติศาสตร์เหล่านี้ทำหน้าที่บอกเล่าความยิ่งใหญ่ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณได้อย่างดี มีการคาดคะเนว่าสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้กินพื้นที่กว่า 2,180 ตร.กม. ซึ่งใหญ่กว่าพื้นที่กรุงเทพมหานครราวๆ 1 เท่าครึ่ง และส่วนที่ขุดค้นพบในปัจจุบันยังคงเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของสุสานทั้งหมด ไม่น่าเชื่อว่าวัตถุโบราณเหล่านี้เป็นผลงานการสร้างของมนุษย์เมื่อ 2,000 กว่าปีที่แล้ว

จิ๋นซีฮ่องเต้นับเป็นหนึ่งในจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์จีน เป็นจักรพรรดิองค์แรกที่รวบรวมจีนให้เป็นหนึ่งได้ ในยุคสมัยดังกล่าว ได้เกิดการพัฒนาจนกระทั่งจีนในขณะนั้นมีความเจริญรุ่งเรืองมาก ไม่ว่าจะเป็นการกําหนดใช้ตัวอักษรจีน การพัฒนาด้านการปกครอง ไปจนถึงการสร้างสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นมรดกลํ้าค่าของประเทศจีนจนถึงปัจจุบันอย่างกําแพงเมืองจีนหรือสุสานแห่งนี้เป็นต้น 

ความรุ่งเรืองของอารยธรรมจีนในยุคสมัยของจิ๋นซีฮ่องเต้ ทําให้ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสุสานแห่งนี้ถึงยิ่งใหญ่อลังการ

นักศึกษาทันตแพทย์เดินทางตามฝัน ‘ตามรอยเส้นทางสายไหมโบราณ’ จากซีอานถึงจางเย่ เมืองจีน
หอระฆังที่ตั้งเด่นอยู่ใจกลางเมืองซีอาน

อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของซีอาน คือหอระฆังและหอกลองซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง เพื่อทําหน้าที่บอกเวลาแก่ชาวเมืองซีอาน อาคารทั้งสองอยู่คู่เมืองซีอานตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368 – 1644) หรือราวๆ 600 ปีมาแล้ว ตอนกลางคืนทั้งหอระฆังและหอกลองจะเปิดไฟ ซึ่งทําให้ตัวอาคารสวยงามโดดเด่นกว่าในช่วงเวลากลางวัน

แม้ว่าซีอานจะเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ยาวนาน แต่ปัจจุบันซีอานถือเป็นหนึ่งในเมืองขนาดใหญ่ที่มีความเจริญไม่แพ้เมืองใหญ่แห่งอื่นในประเทศจีน ใจกลางเมืองซีอานมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ มีตึกสูงมากมาย ระบบขนส่งสาธารณะก็มีความสะดวกสบายและมีหลายตัวเลือก ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าใต้ดิน รถประจําทาง รวมถึงรถแท็กซี่ 

ทั้งความทันสมัยของโลกยุคปัจจุบันและความขลังของสถานที่ทางประวัติศาสตร์อยู่รวมกันในอาณาเขตเดียวกันได้อย่างลงตัว นี่จึงเป็นเสน่ห์ของซีอานที่ถูกกล่าวขานอย่างมากมาย

นักศึกษาทันตแพทย์เดินทางตามฝัน ‘ตามรอยเส้นทางสายไหมโบราณ’ จากซีอานถึงจางเย่ เมืองจีน

ไม่ไกลจากหอกลองเป็นที่ตั้งของถนนมุสลิม ถนนคนเดินที่มีชื่อเสียงที่สุดในซีอาน คงไม่ผิดถ้าจะเรียกที่นี่ว่าเป็นสวรรค์ของนักกิน ตลอดทางสองฝั่งเต็มไปด้วยสตรีทฟู้ดมากมาย และหลายอย่างเป็นของกินที่ผมไม่เคยเห็น ไม่ว่าจะเป็นขนมหน้าตาแปลกๆ ซึ่งพ่อค้ากําลังใช้ค้อนทุบอยู่ หรือก๋วยเตี๋ยวเส้นแบนที่ถูกทําขึ้นสดๆ 

เดินไปสักพักก็เจอโครงแกะทั้งตัวถูกห้อยโตงเตงอยู่หน้าร้านอย่างโจ่งแจ้ง สําหรับผม การมาเดินเล่นที่นี่เหมือนการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เพราะนอกจากจะได้เปิดหูเปิดตาแล้วยังได้ความอร่อยด้วย

นักศึกษาทันตแพทย์เดินทางตามฝัน ‘ตามรอยเส้นทางสายไหมโบราณ’ จากซีอานถึงจางเย่ เมืองจีน
สตรีชาวหุยที่ค้าขายในถนนมุสลิม

สาเหตุที่ถนนแห่งนี้ถูกเรียกว่าถนนมุสลิม เนื่องจากบริเวณนี้เป็นชุมชนที่อยู่อาศัยของชาวจีนที่นับถือศาสนาอิสลามหรือชาวหุย เชื่อกันว่าจุดเริ่มต้นของการตั้งรกรากในชุมชนแห่งนี้ มาจากพ่อค้าชาวมุสลิมที่เดินทางไปมาตั้งแต่ยุคสมัยเส้นทางสายไหมโบราณ เมื่อได้ยินครั้งแรก ผมสงสัยว่าประเทศจีนมีชาวมุสลิมอาศัยอยู่มากมายด้วยหรือ 

เมื่อหาข้อมูลจึงพบว่า ประเทศจีนถือเป็นประเทศที่มีผู้นับถือศาสนาอิสลามจํานวนมาก มีมากกว่า 20 ล้านคน หรือราวๆ 2 เปอร์เซ็นต์จากประชากรทั้งหมด การมาเดินเล่นที่ถนนมุสลิมจึงเป็นการสัมผัสวัฒนธรรมจีนที่แตกต่างออกไปจากสเตอริโอไทป์ที่ผมเข้าใจ

นักศึกษาทันตแพทย์เดินทางตามฝัน ‘ตามรอยเส้นทางสายไหมโบราณ’ จากซีอานถึงจางเย่ เมืองจีน
ชาวเมืองซีอานมาพักผ่อนหย่อนใจบนกําแพงเมืองโบราณ

ซีอานเป็นเมืองที่ถูกล้อมรอบด้วยกําแพงเมืองเก่าแก่ ซึ่งยังคงสภาพเดิมมามากกว่า 600 ปี ปัจจุบันกําแพงเมืองถือเป็นหนึ่งในสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของคนที่นี่ เราเช่าจักรยานปั่นเที่ยวบนกําแพงเมืองโบราณนี้ก็ได้

  ทุกสิ่งที่ได้สัมผัสในซีอานล้วนเป็นตัวแทนของอารยธรรมจีน การได้ไปเยือนสถานที่ที่สวยงามเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ นับเป็นก้าวแรกที่ดีของการเดินทางตามรอยเส้นทางสายไหมของผม แม้จะตื่นเต้นแค่ไหนกับจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งนี้ หรือกังวลเรื่องอุปสรรคด้านการสื่อสารมากเท่าไหร่ แต่ผมก็พยายามหลับตา เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับการผจญภัยในวันรุ่งขึ้น ที่ผมจะเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูง มีจุดหมายคือจางเย่ เมืองแห่งภูเขาสีรุ้ง

เดินทางไกลสู่ภูเขาเจ็ดสีที่จางเย่

เริ่มต้นวันด้วยการเดินทางไปสถานีรถไฟความเร็วสูงตั้งแต่เช้ามืด เพื่อเดินทางสู่เมืองจางเย่ (Zhangye) ซึ่งตั้งอยู่ในมณฑลกานซู่ (Gansu) มณฑลที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน สถานีรถไฟความเร็วสูงของเมืองซีอานมีขนาดใหญ่และทันสมัยมากราวกับสนามบินนานาชาติ ผมได้ขึ้นรถไฟที่มีหน้าตาไม่ต่างจากรถไฟชินคันเซ็นของประเทศญี่ปุ่น นับจากนี้ผมนั่งชมวิวจากรถไฟขบวนนี้อีก 7 ชั่วโมงครึ่ง ตลอดระยะทางจากซีอานสู่จางเย่ 1,130 กม. เทียบเท่ากับระยะทางจากกรุงเทพฯ สู่เบตง 

นักศึกษาทันตแพทย์เดินทางตามฝัน ‘ตามรอยเส้นทางสายไหมโบราณ’ จากซีอานถึงจางเย่ เมืองจีน
ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่กับแนวเขาฉีเหลีย ณ ส่วนหนึ่งของระเบียงเหอซี

เมื่อรถไฟวิ่งถึงเขตมณฑลกานซู่ จะเข้าสู่ส่วนที่เรียกว่า ระเบียงเหอซี (Hexi Corridor) ช่องเขาที่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นทุ่งหญ้าเขียวขจี เป็นเหมือนโอเอซิสหรือพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ท่ามกลางภูมิประเทศที่แห้งแล้ง ระเบียงเหอซีเป็นช่องเขาที่ขนาบด้วยเทือกเขาฉีเหลียนทางทิศใต้ และทะเลทรายโกบีทางทิศเหนือ

ทุ่งหญ้ากว้างสุดสายตาเต็มไปด้วยฝูงแกะ นับเป็นวิวไฮไลต์ของการเดินทางด้วยรถไฟเส้นทางนี้ ในอดีตระเบียงเหอซีถือว่าเป็นเส้นทางสําคัญของคาราวานพ่อค้าในยุคเส้นทางสายไหมโบราณ ซึ่งช่องเขานี้เป็นเส้นทางที่เหมือนประตูบานหลักสู่ศูนย์กลางของจีนในยุคสมัยนั้น

จางเย่ถือเป็นเมืองที่สำคัญในยุคสมัยเส้นทางสายไหมโบราณซึ่งตั้งอยู่ในระเบียงเหอซี คาราวานจํานวนนับไม่ถ้วนได้เดินทางผ่านเมืองแห่งนี้ โดยจางเย่เป็นจุดแวะพักสําหรับกลุ่มพ่อค้าที่เดินทางมุ่งตรงสู่ศูนย์กลางของจีน และเดินทางออกจากจีนเพื่อไปค้าขายกับดินแดนที่ห่างไกลในทิศตะวันตก 

ปัจจุบันจางเย่เป็นเมืองที่กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง ภายในเมืองเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติสวยงามหลายแห่ง รวมถึงภูเขาสีรุ้งที่โด่งดังไปทั่วโลก

นักศึกษาทันตแพทย์เดินทางตามฝัน ‘ตามรอยเส้นทางสายไหมโบราณ’ จากซีอานถึงจางเย่ เมืองจีน
นักศึกษาทันตแพทย์เดินทางตามฝัน ‘ตามรอยเส้นทางสายไหมโบราณ’ จากซีอานถึงจางเย่ เมืองจีน
ป่าหินรูปทรงประหลาดตาใน Binggou Scenic Area

เมื่อเดินทางถึงจางเย่ในช่วงบ่ายแก่ๆ ผมพบกับไกด์ท้องถิ่นและขึ้นรถเพื่อเดินทางไปชม Binggou Scenic Area เป็นบริเวณหุบเขาขนาดใหญ่ที่มีลักษณะภูมิประเทศเหมือนดาวอังคาร ที่นี่เต็มไปด้วยภูเขาหินที่มีรูปร่างประหลาดตา เป็นรูปทรงคล้ายสิ่งต่างๆ ได้แก่ รูปอูฐ รูปเจดีย์ จนถึงรูปทรงคล้ายปราสาท หินรูปร่างต่างๆ ในสถานที่แห่งนี้เป็นผลงานจากการกัดเซาะหินทรายโดยลมและนํ้าเป็นระยะเวลานาน 

ภายในอุทยานมีขนาดใหญ่โตเกินกว่าจะเดินชมจุดต่างๆ ได้ด้วยตนเอง การเที่ยวชมจึงต้องอาศัยรถของอุทยานรับส่งตามจุด น่าแปลกใจที่ถึงแม้ที่นี่จะสวยงามอลังการมากสําหรับผม แต่ผมกลับไม่พบนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ เลย อาจเป็นเพราะอุทยานแห่งนี้ถูกบดบังรัศมีโดยภูเขาสีรุ้งที่โด่งดัง จึงทําให้ไม่ค่อยมีคนมาเยี่ยมชมมากนัก

นักศึกษาทันตแพทย์เดินทางตามฝัน ‘ตามรอยเส้นทางสายไหมโบราณ’ จากซีอานถึงจางเย่ เมืองจีน
นักศึกษาทันตแพทย์เดินทางตามฝัน ‘ตามรอยเส้นทางสายไหมโบราณ’ จากซีอานถึงจางเย่ เมืองจีน
ธงมนตราแบบทิเบตซึ่งพบได้ในวัดแห่งนี้

วันต่อมาผมเดินทางไปชมวัด Matisi ซึ่งมีความหมายว่าวัดเกือกม้า สาเหตุที่เรียกว่าวัดเกือกม้ามาจากรอยเกือกม้าบนหินที่ถูกรักษาไว้ภายในวัดแห่งนี้ มีความเชื่อว่ารอยดังกล่าวเกิดขึ้นโดยม้าจากสวรรค์ที่ลงมาบนโลกมนุษย์ 

วัดแห่งนี้มีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ เพราะสร้างขึ้นโดยการเจาะหน้าผาให้กลายเป็นถํ้า ภายในเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูป และจิตกรรมฝาผนังที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ วัดเกือกม้าเป็นหนึ่งในวัดแบบทิเบตที่ตั้งอยู่ในมณฑลกานซู่ ซึ่งอารายธรรมทิเบตนั้นแผ่กว้างไกลจากเขตปกครองตนเองทิเบตทางทิศใต้มาสุดขอบทางทิศเหนือที่มณฑลกานซู่แห่งนี้

นักศึกษาทันตแพทย์เดินทางตามฝัน ‘ตามรอยเส้นทางสายไหมโบราณ’ จากซีอานถึงจางเย่ เมืองจีน
ร่องรอยเส้นทางดั้งเดิมของเส้นทางสายไหมโบราณ

พอช่วงบ่ายก็ถึงเวลาของไฮไลต์ในการเดินทางครั้งนี้ คือ Zhangye National Geopark หรือ ภูเขาสีรุ้ง ภูเขาที่มีลักษณะโดดเด่น สีสันสวยงามแปลกตา ภายในอุทยานมีขนาดใหญ่และแบ่งเป็นจุดชมวิวหลายส่วน เนื่องจากที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดัง อุทยานแห่งนี้จึงทําทางเดินอย่างดี มีสิ่งอํานวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นห้องนํ้าและรถบัสรับส่งระหว่างจุดชมวิว ว่ากันว่าสถานที่ที่งดงามแห่งนี้เป็นผลงานของธรรมชาติมามากกว่าล้านปี ชั้นของสีที่แตกต่างกันนั้น มีสาเหตุมาจากการสะสมของชั้นแร่ธาตุที่แตกต่างกันบนหินทราย 

ภาพของภูเขาสีรุ้งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกให้มาเยี่ยมชม และเป็นสาเหตุที่ทําให้นักเดินทางชาวไทยอย่างผมยอมเดินทางไกล เพื่อมาชมความสวยงามของสถานที่แห่งนี้ด้วยตาของตัวเอง ส่วนภายในอุทยานมีจุดที่ให้ชมเส้นทางเดินของเส้นทางสายไหมในอดีต ซึ่งตัดผ่านใจกลางของภูเขาสีรุ้งแห่งนี้ ผมเชื่อว่าพ่อค้าและเหล่านักเดินทางที่ได้เดินทางผ่านสถานที่แห่งนี้ในอดีต คงรู้สึกตื่นตะลึงในความสวยงามของภูเขาสีรุ้งไม่ต่างกับที่ผมกําลังรู้สึกในขณะนี้

นักศึกษาทันตแพทย์เดินทางตามฝัน ‘ตามรอยเส้นทางสายไหมโบราณ’ จากซีอานถึงจางเย่ เมืองจีน
แสงแดดยามเย็นช่วยขับให้สีสันของภูเขาสีรุ้งมีความงดงามยิ่งขึ้น

ความอลังการของภูเขาสีรุ้ง ทําให้ผมรู้สึกคุ้มค่าที่ตั้งใจเดินทางมาเพื่อชื่นชมสถานที่แห่งนี้ ผมใช้เวลาเดินดูจนครบทุกจุด ถ่ายภาพไว้จนเต็มอิ่มจนเกือบถึงเวลาปิดอุทยาน นับเป็นจุดสิ้นสุดทริปเส้นทางสายไหมทริปแรกอย่างสวยงาม

ความรุ่งเรืองของอารยธรรมจีนที่ผมสัมผัสในซีอาน ไปจนถึงความงดงามอลังการของภูเขาสีรุ้งในจางเย่ ผสมผสานออกมาเป็นรสชาติที่กลมกล่อม ซึ่งเป็น ‘เฉดสีแรก’ หรือ ‘ปฐมบท’ ที่สวยงามสําหรับการเดินทางตามรอยเส้นทางสายไหม 

การเดินทางครั้งนี้จุดประกายให้ผมอยากเรียนรู้ที่จะปรับตัว เปิดใจรับวัฒนธรรมใหม่ๆ และเรียนรู้ภาษาที่แตกต่าง เพียงแค่คิดถึงความฝันของผมในการเดินทางตามรอยเส้นทางสายไหมส่วนที่เหลือก็ทําให้ผมรู้สึกตื่นเต้น 

เพราะผมเชื่อว่า ยังคงมีวัฒนธรรมและเรื่องราวอีกหลายเฉดสี รอคอยให้ผมเรียนรู้และสัมผัส 

จุดชมวิวที่สวยงามที่สุดของภูเขาสีรุ้ง

ท้ายที่สุด ผมมีความหวังว่าหากมีโอกาสครั้งถัดไป ผมจะไม่รีรอก้าวเท้าเดินทางตามรอยเส้นทางสายไหมนี้ต่อไป จนกระทั่งไปสิ้นสุดที่ทิศตะวันตกในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี เพื่อไปเยี่ยมชมอีกหลายดินแดนที่ผมไม่รู้จัก พบปะผู้คน เรียนรู้วัฒนธรรมที่หลากหลาย เช่นเดียวกับการเดินทางของเหล่าพ่อค้าเส้นทางสายไหมในอดีต 

และผมมีความเชื่อว่า ผมจะค่อยๆ เติบโตไปพร้อมกับการเดินทางตามความฝันในครั้งนี้

Write on The Cloud

Travelogue

ถ้าคุณมีประสบการณ์เรียนรู้ใหม่ ๆ จากการไปใช้ชีวิตในทั่วทุกมุมโลก เชิญแบ่งปันเรื่องราวความรู้ของคุณพร้อมภาพถ่ายประกอบบทความ รูปถ่ายผู้เขียน ประวัติส่วนตัวผู้เขียน ที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อ และชื่อ Facebook มาที่อีเมล [email protected] ระบุหัวข้อว่า ‘ส่งต้นฉบับสำหรับคอลัมน์ Travelogue’ ถ้าผลงานของคุณได้ตีพิมพ์ลงในเว็บไซต์ เราจะส่งสมุดลิมิเต็ดอิดิชัน จาก ZEQUENZ แบรนด์สมุดสัญชาติไทย ทำมือ 100 % เปิดได้ 360 องศา ให้เป็นที่ระลึกด้วยนะ

Writer & Photographer

Avatar

ปฏิภาณ จินดาประเสริฐ

นักศึกษาทันตแพทย์ ผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และการเดินทาง ได้พยายามแบ่งเวลาจากการเรียนเพื่อเดินทางตามความฝัน