“ตอนเด็ก ๆ ไม่ได้อินกับธรรมชาติ เพราะอยู่ท่ามกลางบรรยากาศแบบนั้นมาตลอด ตอนนั้นผมสนใจศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรีมากกว่า มาสนใจธรรมชาติตอนทำงานไม้ เริ่มมองหาว่าที่มาที่ไปมันอยู่ตรงไหน บวกกับชอบกิจกรรมเอาต์ดอร์ เดินป่า วิ่งเทรล”
น็อต-วชิร ทองหล่อ เจ้าของที่พักหนุ่มเล่าให้ฟังถึงพื้นเพความสนใจในธรรมชาติ เริ่มจากสิ่งใกล้ตัวอย่างผิวไม้ที่สัมผัสอยู่ทุกวันผ่านงานเฟอร์นิเจอร์ที่ทำ ภายใต้แบรนด์ If I were a carpenter ที่กรุงเทพฯ
ความเบื่อหน่ายชีวิตวุ่นวายในเมืองกรุงทำให้เขาเลือกใช้วันหยุดออกไปทำกิจกรรมเอาต์ดอร์ต่างจังหวัดเสมอ โดยเฉพาะการวิ่งเทรลที่นำพาให้ชีวิตสนิทกับเชียงใหม่มากขึ้นเรื่อย ๆ ในฐานะที่ฝึกซ้อมและสนามแข่งขัน จนสุดท้ายตัดสินใจชวน กิ๊ฟเว่น-พิมพ์พิศา ทองหล่อ ภรรยา นักออกแบบงานคราฟต์ ผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบผ้าบาติกทั้งหมดที่ใช้ตกแต่งที่พัก ย้ายมาปักหลักที่แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
และเป็นจุดเริ่มต้นของ ‘Wood and Mountain Cabin’ ที่พักที่มีพื้นฐานมาจากความหลงใหลในงานที่ทำและกิจกรรมที่ชอบ
Trail will tell
หนังสือ มีเพื่อนเป็นภูเขา เคยบอกเราเอาไว้ว่า ถ้าอยากรู้จักใครให้ลึกซึ้ง อย่ามองงานที่เขาทำ แต่จงมองหนังสือที่อ่าน เพลงที่เขาฟัง หนังที่เขาดู.. แต่สำหรับการเดินทางครั้งนี้ เราอยากขอเติมอีกข้อคือ กิจกรรมที่เขาทำ
ประสบการณ์วิ่งเทรลพาน็อตและกิ๊ฟเว่นไปเห็นสีสันความงามมากมายในธรรมชาติ จนกลายมาเป็นงานคราฟต์ รวมถึงเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันให้เขาเลือกทำที่พักที่นี่ เพราะจากจุดสตาร์ท ณ ริมรั้วที่พักนำไปสู่เส้นทางหลายสาย หลากจุดหมายให้เลือกไป ไม่ว่าจะห้วยตึงเฒ่า ดอยปุย ขุนช่างเคี่ยน จนถึงโป่งแยง มือโปรก็วิ่งได้ไม่เบื่อ ส่วนมือใหม่ถ้าไม่ไหว น็อตก็อาสาพาเดินไปจุดชมวิวใหม่ที่เพิ่งค้นพบในระยะทางเพียง 4 กิโลเมตรจากที่พัก เพื่อสัมผัสวิวยอดดอย ระหว่างทางอาจพบแรงบันดาลใจใหม่ ๆ เป็นกิจกรรมที่อยากชวนคุณให้ลองสักครั้ง โดยเฉพาะเมื่อเรามีเจ้าบ้านมือฉมังเป็นไกด์นำทาง
Cabin
“ถ้าให้เลือกเคบินหนึ่งที่ที่อยากไปนอน”
เจ้าบ้านย่นคิ้วเล็กน้อย ทวนคำถามที่เราพาย้อนไปถึงที่มาที่ไปของแรงบันดาลใจ ที่มาที่ไปในการเลือกทำที่พักในรูปแบบเคบิน
“มันอยู่ในหนังสือ Cabin Porn ที่ออกมาเกือบ 4 – 5 ปีแล้ว”
นักวิ่งหนุ่มพูดถึงหนังสือเล่มหนา 4 – 5 เล่มที่เป็นเหมือนตำราการทำเคบิน (Cabin) วางอยู่ในชั้นไม้ภายในที่พัก เขาว่าอยากให้หนังสือทำให้เราได้รู้จักกันมากขึ้น เพราะสถานะที่อยากใช้ไม่ใช่ลูกค้ากับเจ้าของกิจการ แต่เป็นเพื่อนที่แวะเวียนกันมานอนในอ้อมกอดภูเขา
“เคบินที่ชอบเป็นของ Foster Huntington ชื่อ The Cinder Cone บ้านต้นไม้บนต้นไม้คู่หลังหนึ่ที่เป็นแรงบันดาลใจให้อยากทำเคบิน เพราะอายุพอ ๆ กัน แล้วเขาทำกันเองกับเพื่อน ได้เรียนรู้หน้างาน ดูสนุกดี”
นักออกแบบเฟอร์นิเจอร์เสริมให้เราฟังอีกว่า โปรเจกต์เคบินเป็นอะไรที่อยากทำตั้งแต่ตอนทำแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ เพราะชอบวัสดุไม้ และอยากทดลองว่าไม้เก่าที่ใช้ จะต่อยอดเป็นอะไรได้มากกว่าเฟอร์นิเจอร์บ้าง
พื้นที่ใช้สอยขนาดกะทัดรัดและมีทางไปเดินป่าและวิ่งเทรลได้ จึงเป็นคำนิยามความเป็นเคบินที่น็อตส่งต่อให้ทีมสถาปนิกอย่าง Sher Maker สถาปนิกท้องถิ่นที่มีแนวทางในการทำงานเชิงทดลอง ในทำนองเดียวกับที่ If I were a carpenter ทำงานไม้
พวกเขาพัฒนาดีไซน์ร่วมกันจนกลายเป็น Wood and Mountain ชื่อและคอนเซ็ปต์หลักที่ร้อยรวมส่วนสำคัญ 2 ส่วน
Wood บอกเล่าความ Craft และ Mountain เป็นตัวแทนกิจกรรม Adventure เพื่อทำให้ที่พักแห่งนี้สร้างประสบการณ์แตกต่างให้ทุกคนที่มาเยี่ยมเยือน
Craft Experience
ความคราฟต์อย่างใส่ใจไม่ได้เป็นคำกล่าวอ้างลอย ๆ แต่สัมผัสได้จริงตั้งแต่ล้อรถบดลงบนถนนโรยกรวด ทอดยาวจากประตูรั้วทางเข้าไปสู่พื้นที่ด้านในติดลำธาร ซึ่งเป็นตำแหน่งของเคบินที่ถูกเลือกมาอย่างตั้งใจ เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวและเปิดมุมมองให้ผู้มาเยือนได้ใช้เวลาเนิบช้าใกล้ชิดธรรมชาติที่สุด
ทางเดินไม้ตัดกับสีเขียวของสนามหญ้าด้านหน้า นำเราไปสู่กระท่อมหลังน้อยทรงสี่เหลี่ยมสอบสูงชะลูด ขนาด 50 ตารางเมตร มีผนังไม้ไล่เฉดเข้มอ่อน เกิดจากเทคนิค Shou Sugi Ban แบบญี่ปุ่น ที่สองเจ้าของบอกว่าจริง ๆ จะสั่งจากโรงงานมาโดยตรงเลยก็ได้ แต่เพราะอยากให้ที่นี่ถูกคราฟต์ขึ้นด้วยมือ จึงเลือกใช้ไฟเผาไม้อย่างตั้งใจทีละแผ่น เพื่อรักษาเนื้อไม้ กำจัดแมลง และสร้างมิติความงามให้ไม้เก่าที่ถูกนำมาประกอบร่างใหม่ในอาคาร
พื้นที่ด้านในหลังประตูไม้บานใหญ่ ต้อนรับเราด้วยการเปิดให้เห็นวิวธรรมชาติอย่างเต็มตาผ่านกระจกใส สวยพอดิบพอดีจนอดไม่ได้ที่จะฮัม ‘I, I’m I’m so in love with you’ เนื้อร้องท่อนแรกของเพลง Let’s Stay Together ที่ดังมาจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงบนคอนโซลชิดผนังไม้ฝั่งซ้าย แต่ถ้าใครไม่นิยมเพลงเก่า ทีมเจ้าบ้านก็เตรียมเพลย์ลิสต์ใหม่ให้เลือกฟังด้วยเช่นกันในชื่อ Wood and Mountian บนแอปพลิเคชัน Spotify
เราทิ้งตัวลงบนโซฟาหุ้มผ้าบาติกลวดลายกราฟิกสีขาวดำฝีมือของกิ๊ฟเว่น ที่ใช้นั่งเล่นในเวลากลางวันและเปลี่ยนเป็นเตียงนอนเสริมในยามค่ำคืน นั่งฟังเพลงเพลิน ๆ กวาดสายตาสำรวจมุมนู้นมุมนี้ได้สักพัก ก็เหลือบไปเห็นจุดสีสันสดใสโดดเด้งออกมาทักทายท่ามกลางบรรยากาศของไม้สีเข้ม ซ้ายมือคือห้องน้ำขนาดน่ารักกำลังดีที่น็อตแชร์ให้ฟังว่ากว่าจะมาถึงตรงนี้ไม่ง่าย
“เราอยากหาวัสดุพื้นถิ่นมาใช้ ก็ไปเจอกระเบื้องแม่ริม เซรามิค ตอนแรกจะไปสั่งให้ได้เฉดเป๊ะ ๆ แต่จำนวนไม่พอและใช้เวลานาน เขาบอกว่ามีสต็อกตัดเกรดอยู่ ให้ลองไปค้นดู”
จากการหากระเบื้องเฉดเป๊ะอย่างที่ตั้งใจตอนแรก กลายเป็นเรื่องไม่ง่ายเมื่อต้องผจญภัยกับกระเบื้องตัดล็อตคละสี จะว่าไปก็คล้ายการวิ่งเทรล ที่คาดเดาว่าจะเจอกับอะไรข้างหน้าไม่ได้ แต่สุดท้ายกลายเป็นโอกาสดีที่ทำให้ได้เห็นสีสันอันหลากหลาย ผ่านการจัดเรียงกระเบื้องดินเผาแผ่นต่อแผ่น ผนังต่อผนังร่วมกับสถาปนิก ทำให้บรรยากาศของห้องน้ำขนาดกะทัดรัดไม่อึดอัดและมีชีวิตชีวา
พอเดินสอดส่องพื้นที่ภายในได้สักพักก็อดใจไม่ไหว เพราะระเบียงไม้ขนาดใหญ่ที่ทอดตัวอยู่ภายนอกเรียกร้องให้ลองก้าวออกไปสำรวจ อากาศช่วงปลายปีดีจนต้องคว้าเก้าอี้แคมป์ออกมากาง ทิ้งตัวลงค่อย ๆ ละเลียดโชว์จากธรรมชาติ ผ่านการเปลี่ยนแปลงไล่เฉดสีของท้องฟ้าในช่วงสุดท้ายของวันในจังหวะเนิบช้า ก่อนพระอาทิตย์จะโบกมือลาลับหลังม่อนล่อง แนวสันเขาทอดยาวที่ปลายตา ผู้ครอบครองตำแหน่งยอดดอยสูงที่สุดในแม่ริม และถูกนำมาใช้บอกเล่าเป็นเส้น Outline ของโลโก้ Wood and Mountain เพื่อสื่อถึงถิ่นที่ตั้ง
เจ้าบ้านที่อยู่มาทุกฤดูเสริมว่าความเปลี่ยนแปลงธรรมของชาติที่นี่ไม่ได้มีแค่รอบวันเท่านั้น ในแต่ละช่วงเวลาของปีก็มีประสบการณ์เฉพาะที่อยากให้คุณมาลองสัมผัสเช่นกัน
ช่วงที่ดีที่สุดสำหรับเขาคือหน้าหนาว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงมกราคม เพราะอากาศเย็นพอเหมาะ ออกไปวิ่งก็ไม่ร้อนจนเกินไป จะผิงไฟหรือแช่น้ำก็อุ่นกำลังดี ส่วนหน้าฝนอาจต้องใช้เวลาในพื้นที่ภายในเยอะหน่อย และสีของบรรยากาศจากต้นไม้ที่รายล้อมก็เขียวชอุ่มชุ่มฉ่ำที่สุดในรอบปีด้วย
สำหรับที่นี่ จะทำอาหารเย็นเองง่าย ๆ จากวัตถุดิบที่เราเตรียมมาจากในเมืองก็ได้ โดยมีเตาไฟฟ้าและอุปกรณ์เครื่องครัวสไตล์แคมป์ปิ้งที่เจ้าบ้านจัดเตรียมไว้ให้อย่างครบครัน รวมถึงเมล็ดกาแฟคัดสรรจากร้านในเชียงใหม่ ไปจนถึงคราฟต์เบียร์และไวน์หลายประเภทให้เลือกได้ตามใจ หรือถ้าใครไม่ถนัดทำอาหาร ก็โทรสั่งจากร้านเพื่อนบ้านมานั่งทานรับลมใต้ผ้าฟลายชีทข้างลำธารก็ได้อีกรสชาติ
อีกสิ่งที่ทำให้การพักที่นี่มีสีสัน คือการผ่าฟืนเพื่อก่อไฟในคอกอิฐไม่ใกล้ไม่ไกลจากโต๊ะทานอาหาร เป็นกิจกรรมที่ไม่ค่อยได้สัมผัสบ่อยนักในชีวิตประจำวัน และเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้การทานข้าวท่ามกลางลมหนาวในอุณหภูมิ 18 องศาเซลเซียสผ่านไปได้ด้วยดี โดยไม่มีใครต้องลุกหนีไปซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มเสียก่อน
นั่งผิงไฟเล่นทายชื่อกลุ่มดาวที่กระจายตัวอยู่บนผืนฟ้าสีเข้มได้สักพัก ก็พอดีกับจังหวะที่พระจันทร์ดันตัวขึ้นไปอยู่เหนือยอดไม้ ได้เวลาเปิดฝาอ่างไม้สนที่เติมน้ำร้อนไว้ในระดับพอเหมาะกับการหย่อนตัวลงไปแช่ ความหนาวเย็นจากภูเขาและความอุ่นจากน้ำร้อนบรรจบกันที่จุดตัดบริเวณพื้นที่ผิวน้ำ ระเหยเป็นไอลอยเรี่ย สร้างประสบการณ์การแช่น้ำร้อนท่ามกลางไอหนาว ใต้แสงนวลของโคมไฟออโต้ทรงกลมผิวขรุขระสลักรูปกระต่ายที่ห่างจากเราออกไป 384,400 กิโลเมตร เป็นประสบการณ์ที่ทำให้การแช่น้ำที่นี่ดีไม่แพ้ที่อื่น และอยากชวนให้ทุกคนได้มาลองทิ้งตัวให้น้ำร้อนห่มในคืนหนาวกันดูสักครั้ง
หลังจากสำรวจผจญภัยในกิจกรรมกึ่งแอดเวนเจอร์ มาทั้งวัน ถึงเวลาก้าวขาขึ้นไปหาห้องนอนหนึ่งเดียวบนชั้นลอย ทิ้งตัวลงบนฟูกหนาน่านอน หมอนนุ่ม ผ้านวมอุ่น แล้วปล่อยให้สีสันแห่งผืนป่าจากผ้าบาติกพาคุณเข้าสู่นิทรา
Wood and Mountain Cabin
บ้านหนึ่งหลัง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พักได้ครั้งละ 2 คน
ที่ตั้ง : ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม เชียงใหม่ 50180 (แผนที่)
โทรศัพท์ : 09 3356 9965
Line ID : @woodandmountain
เว็บไซต์ : www.woodandmountain.com/cabin
Facebook : Wood and Mountain Cabin