หลังจากอัดอั้นมาหลายปี ในที่สุดการเดินทางไปอิตาลีก็ไม่ได้ยากมากมายอีกต่อไป จะมีก็แต่การขอวีซ่าที่มีคิวยาว (และจุกจิกเข้มงวดมากเป็นปกติ) และการที่ยังไม่มีสายการบินที่บินตรง (เขียนในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2565) เรื่องเอกสารอื่น ๆ เกี่ยวกับทางสาธารณสุขไซร้ ไป่มี
ว่าแต่ ไปตอนนี้ หน้าหนาวอย่างนี้น่ะหรือ ใครเขาเที่ยวกัน อ๊ะ ๆ อย่าได้ดูเบาไปเทียว ตามสถิติแล้ว คนอิตาเลียนก็เที่ยวกันช่วงนี้หนักไม่เบา จะเป็นรองก็แต่ช่วงหน้าร้อนที่ร้อนดับตับแตกเท่านั้น
หน้าหนาวย่อมไม่เหมือนหน้าร้อน ชื่อก็บอกอยู่ จุดหมายปลายทางและกิจกรรมการท่องเที่ยวจึงต่างกันไปบ้างตามสภาพอากาศ อีกทั้งอิตาลียังเป็นประเทศที่ยาวเป็นรองเท้าบูต (ราว 1,200 กิโลเมตร) ภูมิอากาศทางเหนือกับทางใต้จึงมีความแตกต่างอย่างที่เราชาวไทยเดาได้ไม่ยาก หนาวมิลานกับหนาวปาแลร์โม (เกาะซิซีลี) แตกต่างราวกับคนละประเทศ
กลับมาพูดในปริบทคนไทยอย่างเรา ๆ เงินเก็บมีแล้ว (เพราะไม่ได้ไปไหนมา 2 ปี) อยากเที่ยวอิตาลี แต่ให้มีอันจำเป็นต้องไปตอนหน้าหนาวเท่านั้น จะไปไหนดี
สิทธิการิยะ แม่หมอขอชี้โพรงให้กระรอกน้อยดังนี้
01
เล่นสกี
เมื่อหน้าหนาวมา หิมะก็จะตก แต่ดูก่อนภราดรทั้งหลาย อิตาลีไม่ได้มีหิมะทั้งประเทศหรอกนะ อย่างโรม หิมะตกที ชาวเมืองแทบจะจัดสมโภช ในขณะที่ชาวเขาทางเหนือ เห็นหิมะเกล็ดแรกร่วมมา ก็ถอนหายใจหนึ่งเฮือกแล้วหันหลังเข้าห้องเก็บของ คว้าพลั่วและอะไรต่ออะไรไว้ เตรียมรับมือกับหิมะที่อาจจะมาปิดทางเดินจนเข้า-ออกบ้านไม่ได้
แหล่งเล่นสกีที่คนนิยมไปคือบริเวณกลุ่มเขาโดโลมีตี (Dolomiti) ที่ภาษาอังกฤษเรียก โดโลไมตส์ (Dolomites) นั่นล่ะ เหตุที่ไปที่นั่นไม่ใช่เพียงเพราะมีหิมะ หากแต่เป็นเพราะมีทิวทิศน์ที่สวยงามมาก จนแม้ในฤดูกาลอื่นก็ยังควรค่าที่จะกลับมาเยือน

ภาพ : trekkingblog.it
02
พิพิธภัณฑ์
เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่า หน้าหนาวฝรั่งมีคุณลักษณะบางประการ เช่น กลางวันสั้น อากาศหนาวเย็นยะเยือก และไม่มีดอกไม้ดอกไร่อะไรให้ชม ความหวังที่จะถ่ายรูปเก็บไว้สวัสดีวันจันทร์ทั้งปี จึงทำไม่ได้ในทริปนี้
ด้วยเหตุดังกล่าว เราจึงควรทำอย่างอื่นให้ถูกกรรมถูกวาระ นั่นก็คือเดินอุ่นสบายอยู่ในสถานที่ซึ่งกลางวันกลางคืนไม่ต่างกัน
…ซึ่งจะมีอะไรเหมาะไปกว่าการเดินพิพิธภัณฑ์…
พิพิธภัณฑ์ในอิตาลีมีจำนวนมหาศาล ที่แนะนำให้ไปในฤดูนี้ คือ
1. พิพิธภัณฑ์วาติกัน (Vatican Museums) แถมพ่วงไปกับมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ การไปในช่วงนี้ คนจะน้อยหน่อย ความเบียดเสียดยัดเยียดก็จะน้อยลง คนยืนบังงานศิลปะก็น่าจะน้อยลงไปด้วย ที่สำคัญ คนที่ไปอัดแน่นอยู่ในวัดน้อยซีสตีน (Sistine Chapel) ก็น่าจะเบาบางไปด้วยเช่นกัน จากที่เคยไหลไปตามกระแสนักท่องเที่ยว อาจจะได้ยืนแหงนคอตั้งบ่าชมนิ่ง ๆ อย่างที่วาดฝันไว้เสียที
2. พิพิธภัณฑ์อุฟฟิตซี (Uffizi) ที่เมืองฟลอเรนซ์ เหตุผลที่ควรไปแหล่งรวมงานศิลปะที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกแห่งนี้ ในช่วงนี้ก็เหมือนกับด้านบน อ้อ ไม่ว่าจะอย่างไร ก็ต้องจองตั๋วก่อนไปอยู่ดีนะ
3. หอศิลป์บอร์เกเซ (Galleria Borghese) อันนี้ชอบเป็นการส่วนตัว เพราะเล็ก กระชับ งานดีทุกชิ้น คุ้นหน้าคุ้นตามาก จำกัดเวลาและคนเข้าชม ให้เวลาเข้าชม 2 ชั่วโมงก็จริง แต่เป็น 2 ชั่วโมงคุณภาพที่อิ่มเอมมาก งานชิ้นที่ไปกี่ครั้งก็ยังเดินหมุนรอบราวกับจะเวียนเทียน และยืนจ้องอยู่นานก็คือ รอยบุ๋มจากการกดนิ้วบนต้นขาของรูปสลัก ‘การลักพาโปรสเปรีนา’ (Il ratto di Prosperina) และรอยยุบบนฟูกของ ‘เปาลีนา บอร์เกเซ’ (Paolina Borghese) มันช่างสมจริงเสียเหลือเกิน

ภาพ : commons.wikimedia.org

ภาพ : commons.wikimedia.org
4. โคลอสเซียม ใช่ อยู่กลางแจ้ง แต่ก็นับเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่แนะนำให้ไปตอนหน้าหนาวเพราะแถวจะสั้น และโรมจะอุ่น
5. น้ำพุเทรวี จะได้ไม่ต้องรีบตื่นไปแต่ 6 โมงเช้าเพื่อหลีกเลี่ยงกลุ่มทัวร์ไง
6. ปอมเปอี อันนี้ก็กลางแจ้ง ซึ่งเวลาไปในหน้าร้อน เหงื่อกาฬแตกพลั่ก แต่พอเป็นหน้าหนาว ด้วยความเป็นเมืองทางใต้ อากาศจึงเหมาะแก่การชมและอาบแดดอุ่นยิ่งนัก
ส่วนที่อื่น ๆ นั้นก็แนะนำเช่นกัน แต่ที่ที่กล่าวมานี้ ปกติคนจะแน่นมาก อาศัยช่วงพวกเศรษฐีไปสกีทางเหนือนี่ละ ที่เราพอจะเดินอ้อยอิ่งชมงานศิลป์ชิลล์ ๆ กับเขาได้บ้าง

ภาพ : commons.wikimedia.org
03
ของดีช่วงเทศกาล
อย่าลืมว่าหน้าหนาวของอิตาลีคือราวธันวาคม มกราคม และกุมภาพันธ์ หน้าหน้าวจึงมีเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่แทรกอยู่ตรงกลางด้วย
หากการเที่ยวหน้าหนาวของคุณอยู่ในช่วงสิ้นปี สิ่งที่คุณไม่น่าพลาด คือ
1. เดินตลาดคริสต์มาส ซึ่งจะมีแทบทุกเมือง ขึ้นอยู่กับว่าจะเล็ก จะใหญ่ เท่านั้นเอง

ภาพ : www.bb30.it
2. ถ้ำพระกุมาร เด็กไทยต้องทำกระทงฉันใด เด็กอิตาเลียนต้องทำถ้ำพระกุมารฉันนั้น มันคืออะไร มันคือฉากจำลองการประสูติของพระเยซู ซึ่งมิใช่แต่เพียงเด็ก ๆ จะต้องทำร่วมกันกับครูที่โรงเรียนเท่านั้น แต่ธรรมเนียมการทำถ้ำพระกุมารพบได้ทั่วไปในอิตาลีช่วงวันคริสต์มาส ถ้ำพระกุมารที่ผู้คนจับตารอดูที่สุด เห็นจะไม่พ้นที่กลางจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์วาติกัน ถึงแม้ตามสถิติจะไม่ใช่ถ้ำฯ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ก็มีขนาดใหญ่มากเสมอต้นเสมอปลายมาทุกปี

ภาพ : initalia.virgilio.it
3. เดินดูการประดับไฟ อันนี้ไม่อยากให้ตั้งความหวังไว้มาก เพราะการประดับไฟของอิตาลีจะไม่กะพริบวิบวับเหมือนไฟที่ยอดกิ่งไผ่ใต้โคมแดง หรือรั้วระแนงกับศาลพระภูมิของบ้านเรา แต่จะเป็นไฟแพตเทิร์นเดียวกัน เรียงยาวเป็นตับ และเปิดแช่เสียเป็นส่วนใหญ่ เรื่องพลุไม่ต้องพูดถึง เพลงจิงเกิลเบลก็ไม่มี ซานตาคลอสหัวเราะโฮ่ ๆ ๆ เหรอ ถามว่าเกี่ยวอะไรกับการเกิดของพระเยซูก่อน
04
ไปโรม ฟลอเรนซ์ เวนิส เซียน่า คาปรี ฯลฯ
กล่าวคือ จะไปไหนก็ไปเถอะ ยิ่งเมืองที่ตามปกตินักท่องเที่ยวแน่น ๆ ยิ่งดี เพราะช่วงนี้คนจะน้อย แต่จุดมุ่งหมายควรเป็นการเดินชมเมืองนะ เพราะบริการต่าง ๆ อาจไม่ครบถ้วนเต็มสตีมเท่า อย่างเช่น คนแจวเรือกอนโดลาในเวนิสเคยบอกว่า ถ้าอยากคุย อยากเจอกับพวกเขา หน้าหนาวเจอกันที่ภูเก็ตนะ หรือเมืองชายหาดหน้าร้อนอย่างรีมีนี (Rimini) ก็ไม่ควรไป เพราะมันไม่มีอะไรเลย นอกจากนั้น บาร์หรือแหล่งบันเทิงใด ๆ มักจะปิดกิจการในฤดูการอื่นด้วย แต่ข้อดีคือ ช่วงหน้าหนาว ที่พักจะถูก

ภาพ : it.hotels.com
05
ซิซีลี (Sicily)
ซิซีลีเป็นแคว้นที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี และเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของทะเลเมดิเตอเรเนียน เป็นแหล่งรวมอารยธรรมมากมายที่ซ้อนทับกันอยู่อย่างน่าสนใจ แนะนำที่นี่เพราะสิ่งที่น่าสนใจมักเป็นโบราณสถาน เมือง ทะเล วิถีชีวิต มากกว่าการไปดูใบไม้ใบหญ้า อีกทั้งหน้าหนาวที่นี่มักจะอุ่นกว่าที่อื่นด้วย กล่าวคือ ราว 11 – 12 องศาเซลเซียส อย่าคิดถึงแอร์ในห้องเรา ของจริงไม่หนาวขนาดนั้น
ก็นั่นล่ะ บอกไว้ว่าเผื่อจะต้องไปอิตาลียามหน้าหนาวแล้วไม่รู้จะไปไหน ไปทำอะไรดี
แต่ไม่ว่าจะอยู่ไทย อยู่อิตาลี อยู่ที่นี่ อยู่ที่ไหน ก็ขอให้มีความสุขกับหน้าหนาวที่กำลังจะมาถึงจ้ะ

แหล่งข้อมูล
www.beelovedcity.com/italy-in-winter
gretastravels.com/italy-in-winter/
clairesfootsteps.com/italy-in-winter/
mypathintheworld.com/best-places-to-visit-in-italy-in-winter/
www.bookmundi.com/t/italy-in-winter-top-7-destinations
www.bb30.it/magazine_news/I_mercatini_di_Natale_piu_belli_d_Italia.htm