The Cloud X สารคดีสัญชาติไทย
เรือลำเล็กแล่นฝ่าคลื่นออกไปกลางความมืด ที่ขอบฟ้าเริ่มมีแสงรำไรเรืองขึ้นมา ขับให้เห็นแนวขอบเกาะสีดำทะมึนข้างหน้า ของเสียของแมวน้ำและบรรดานกทะเลทับถมกันจนเต็มพื้นผิวของเกาะ ส่งกลิ่นลอยมาถึงเราก่อนที่จะเห็นตัวเกาะชัดเสียอีก
‘เกาะแห่งแมวน้ำ’ คือจุดมุ่งหมายของเรา เกาะขนาดเล็กที่พอจะเดินได้รอบแบบไม่เหนื่อย ที่นี่คือบ้านของเหล่าแมวน้ำแห่งแอฟริกาใต้หลายพันตัว
ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพูตามปริมาณแสงที่เพิ่มมากขึ้น ฝูงแมวน้ำที่ออกไปหาอาหารนอกเกาะกำลังว่ายกลับมาพร้อมกับแสงอาทิตย์ที่กำลังขึ้น แมวน้ำเป็นสัตว์ที่ปราดเปรียวว่องไว ความเร็วของพวกมันสามารถหลบหลีกฉลามที่ว่ายตามมาอย่างเปิดเผยได้ง่ายๆ หลายครั้งที่เราเห็นแมวน้ำว่ายเข้าไปตัดหน้าเพื่อหยอกฉลามตัวใหญ่
แต่ช่วงเวลาโพล้เพล้ยามเช้าคือชั่วโมงแห่งความตาย นักล่ากำลังรอแสงแรกของวัน แสงที่สว่างแค่พอจะให้พวกมันมองกลับขึ้นมาที่ผิวน้ำและเห็นเงาของอาหารที่อยู่ด้านบน แต่ยังไม่สว่างพอที่แมวน้ำจะมองเห็นพวกมันด้านล่าง ฉลามขาวนักล่าใช้ความสลัวเป็นเครื่องมือสร้างแต้มต่อ เมื่อมองลงไปจากผิวน้ำ สีเทาเข้มด้านบนตัวของฉลามขาวกลมกลืนไปกับพื้นน้ำดำมืดด้านล่าง
“2 นาฬิกา 100 เมตร” เสียงใสกังวาลของโมนิคก้องตัดผ่านลมดังให้เราได้ยินกันทั่ว ทุกคนกรูกันหันไปตามทิศทางที่เธอขานบอก หัวเรือด้านหน้าคือทิศของ 12 นาฬิกา องศาที่กระจายออกจากตัวเรือไล่ไปตามเข็มนาฬิกาที่เราคุ้นเคย 2 นาฬิกาคือทางกราบขวาของเรือ 100 เมตรคือระยะที่ห่างออกไปจากตัวเรือทางทิศนั้น
เกือบ 20 ปีแล้วที่โมนิคและคริส ฟาวโลวส์ สามีภรรยาชาวแอฟริกาใต้ พาคนนั่งเรือออกมาดูพฤติกรรมซุ่มล่าเหยื่อที่เป็นเอกลักษณ์ของฉลามขาว พวกเขาไม่ได้ชื่นชอบความตื่นเต้นของการล่า แต่พวกเขาชื่นชมความสง่างามและวิถีของพวกมัน
“เล็งตัวเล็กด้านหลังไว้” โมนิคตะโกนบอกทุกคน
แมวน้ำประมาณยี่สิบกว่าตัวมองเห็นเป็นเงาตะคุ่มสีดำผลุบๆ โผล่ๆ ตามการกระโดดเคลื่อนที่ของพวกมัน ท้ายกลุ่มมีแมวน้ำตัวหนึ่งกำลังจะว่ายไม่ทันฝูง ระยะห่างระหว่างตัวมันกับฝูงค่อยๆ เพิ่มขึ้นทุกที
ฉลามขาวจะเลือกเหยื่อที่อ่อนแอที่สุด นี่คือหน้าที่ของฉลาม หน้าที่ในการกำจัดตัวที่อ่อนแอทิ้งไป มันคือการคัดสรรของธรรมชาติ
ตูม!
เงาสีดำทะมึนขนาดใหญ่พุ่งทะลุผิวน้ำขึ้นมา ฉลามขาวว่ายพุ่งตัวขึ้นมาจากความลึก ตรงสู่เหยื่อที่เป็นเป้าของมันด้วยความเร็วสูง แรงโมเมนตัมส่งให้ฉลามขาวหนัก 1 ตันลอยตัวสูงพ้นจากผิวน้ำ มันคือการล่าที่รุนแรงและจบลงในชั่วพริบตา แมวน้ำตายคาที่เรียบร้อยแล้วจากแรงกระแทก ไม่ทันได้เจ็บปวดและรับรู้ใดๆ การฆ่าที่ฉับไวและงดงาม ฉลามไม่เคยล่าเพื่อความสนุกสนาน การล่าทุกครั้งของมันทำเพื่อการอยู่รอดเท่านั้น
ฝูงแมวน้ำที่เหลือเคลื่อนที่ต่อไปข้างหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันต้องไปให้ถึงแนวน้ำตื้นของเกาะให้เร็วที่สุด ความมืดตรงที่ลึกด้านล่างไม่ใช่พื้นที่ที่พวกมันจะโอ้เอ้ได้
“คุณดำน้ำลงไปดูฉลามจริงๆ เหรอ” เด็กชายนักโต้คลื่นชาวแอฟริกาถามเราเมื่อเราเปิดรูปในโทรศัพท์มือถือให้ดู พร้อมกับทำท่าขนลุกขนพองไปด้วย “พวกมันกินคนนะ!” เขากล่าวท้วงด้วยความกังวล
สำหรับนักโต้คลื่น ฉลามคือตัวอันตรายอย่างที่สุด เมื่อมองขึ้นมาจากใต้น้ำรูปทรงของนักโต้คลื่นช่างคล้ายคลึงกับแมวน้ำที่ว่ายอยู่ช้าๆ อย่างโดดเดี่ยว “ผมอยากจะฆ่าพวกมันทิ้งให้หมด เราจะได้มีทะเลที่ปลอดภัย”
“ในบางเวลา เราก็แค่ดูคล้ายอาหารของมันมากเกินไป” ฉันตอบเขาไปตามความจริงของฉลาม ภาพเบลอๆ ของฉลามที่มองจากเหนือน้ำกลับชัดเจนขึ้นเมื่อได้ลงไปอยู่ในทะเลผืนเดียวกัน มันคือสิ่งมีชีวิตที่สง่างาม ท่วงท่าการขยับของมันสะกดให้เราหยุดนิ่ง มีเพียงสายตาของเราที่ขยับไปตามทิศทางที่มันเคลื่อนไป
เมื่อมันเข้ามาใกล้ในระยะแค่เอื้อมถึง รายละเอียดก็ปรากฏชัดเจนขึ้น ปากของฉลามขาวนั้นเต็มไปด้วยบาดแผลเหวอะ ในสายตาของฉัน มันดูน่าสงสารมากกว่าน่าเกรงขาม
สำนวนของฝรั่งที่ว่า ความขี้สงสัยจะฆ่าแมว ลอยมาในความคิดฉัน “พวกมันแค่สงสัย การกัดของมันก็เหมือนกับเราเอามือไปจับดูว่าของนี้คืออะไร กินได้หรือไม่” ในความพร่าเลือนของทะเล ฟันที่แหลมคมช่วยเติมแต่งภาพแห่งสัตว์ร้าย สัตว์ร้ายที่ต้องถูกฮีโร่ปราบให้สิ้นซาก ความขี้สงสัยกำลังฆ่าฉลาม
ฉลามขาวกัดทดสอบแล้วมักจะทิ้งนักโต้คลื่นไป นี่ไม่ใช่อาหารที่พวกมันอยากกิน ฟันแหลมคมของพวกมันแค่ทำให้คนเสียเลือด แต่มันไม่เคยซุ่มดักเพื่อจะกินเราเหมือนอย่างที่มันทำกับแมวน้ำ
“ผมเข้าใจละ มันไม่ได้ตั้งใจมาล่าเรา” ฉันกับเด็กชายนักโต้คลื่นเริ่มเห็นพ้องกัน ทะเลคือบ้านของมัน เราเข้าไปในบ้านฉลาม ก็ต้องเคารพกฎของพวกมัน “เราก็ไม่จำเป็นต้องไปตามล่ามันเช่นกัน”
พระอาทิตย์ขึ้นสว่างแล้ว เวลาซ่อนตัวของฉลามหมดลง ภาพของนักล่าที่สง่างามก็เริ่มชัดเจนขึ้น