นักศึกษาหลายคนอาจคิดอยากเรียนให้จบไวๆ โดยการเก็บเครดิตการเรียนให้ได้มากที่สุด หนึ่งในวิธีที่จะบรรลุเป้าหมายคือการลงเรียนซัมเมอร์ แต่ไม่ใช่สำหรับครอบครัวของฉัน 

ป๊ากับแม่ออกตัวตั้งแต่แรกว่าช่วงซัมเมอร์ก่อนเรียนจบ อยากให้ฉันไปหาประสบการณ์ จะเที่ยวจะทำอะไรก็ได้ที่เพิ่มพูนทักษะตัวเองโดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ขณะที่ตัวฉันต้องการออกไปเที่ยว อยู่กับธรรมชาติ และอยากทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม

“งั้นเดียร์จะไปเป็นอาสาสมัครดูแลสัตว์ป่า ที่ WFFT นะแม่ ที่นู่นมีชาวต่างชาติเยอะมาก ไปฝึกภาษาที่นั่นแทนแล้วกันนะ” 

คือการตัดสินใจของฉัน ที่คิดว่าต่างเดินมาคนละครึ่งทางกับพ่อแม่ และก็ได้รับการอนุมัติทันทีทันใด

บันทึกอาสา มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ดูแลสัตว์และเป็นเพื่อนกับชาวต่างชาติทั่วโลก ณ เพชรบุรี, Wildlife Friends Foundation Thailand (WFFT)

ก่อนหน้านี้ฉันเคยพาเด็กๆ ไปทำค่ายที่ WFFT มาก่อน ทำให้ฉันพอมีข้อมูลอยู่บ้างว่าที่นี่เป็นอย่างไร Wildlife Friends Foundation Thailand (WFFT) หรือมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ตั้งอยู่แถววัดพระพุทธบาทเขาลูกช้าง จังหวัดเพชรบุรี ที่นี่มีเป้าหมายในการเป็นแหล่งพักพิงสำหรับสัตว์ที่ถูกทารุณกรรมและถูกทอดทิ้ง รวมถึงช่วยเหลือสัตว์ป่าที่เคยเป็นสัตว์เลี้ยง เพื่อนำมาฟื้นฟูและปล่อยคืนสู่ป่าอีกครั้ง

การมาเป็นอาสาสมัครที่มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่านั้นไม่ยุ่งยาก เพราะทุกคนร่วมมาทำอาสาที่นี่ได้ เพียงส่งอีเมลแจ้งรายละเอียดชื่อนามสกุล ระยะเวลาที่ต้องการ มาที่ [email protected] จะมีเจ้าหน้าที่แจ้งรายละเอียดต่างๆ รวมถึงการชำระเงินกลับมา การมาเป็นอาสาที่นี้จะเสียค่าอาสาวันละ 200 บาท รวมค่าที่พักค่าอาหาร 3 มื้อครบถ้วน เทียบกับประสบการณ์ที่จะได้ มันยิ่งกว่าคุ้ม แถมถูกแสนถูกเสียอีก (ในช่วง COVID-19 กระบวนการสมัครอาจเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบรายละเอียดกับมูลนิธิด้วยตนเอง)

หลักการทำงานที่มูลนิธิไม่ซับซ้อน เราทำงาน 6 วัน เลือกวันหยุดได้เอง 1 วัน เวลาทำงานเริ่มตั้งแต่ 6.30 – 17.00 น. ขึ้นชื่อว่ามูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า การทำงานคงหนีไม่พ้นการพบเจอสัตว์ป่า แต่ไม่ต้องกังวล เพราะที่นี่มีกฎว่าอาสาจะไม่แตะต้องหรือสัมผัสสัตว์โดยตรง ที่มูลนิธิอาสาจะทำงานกันเป็นทีม หลักๆ คือเตรียมอาหารให้สัตว์ป่า ให้อาหาร ทำความสะอาดกรง รวมถึงการสังเกตพฤติกรรมเพื่อเป็นข้อมูลให้ทีมสัตวแพทย์ที่นั่น 

ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นหนึ่งอาทิตย์หลังการสอบตัวสุดท้าย ฉันได้ชักชวนเพื่อนอีก 3 คนให้มาร่วมสร้างประสบการณ์ด้วยกัน ตลอดระยะเวลากว่าครึ่งเดือนที่จะก้าวสู่การเป็นอาสาสมัคร ในที่สุดพวกเราก็โยกย้ายตัวเองพร้อมกระเป๋าใส่เสื้อผ้าและของที่จำเป็นคนละใบ มุ่งหน้าสู่ WFFT มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า จังหวัดเพชรบุรี

บันทึกอาสา มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ดูแลสัตว์และเป็นเพื่อนกับชาวต่างชาติทั่วโลก ณ เพชรบุรี, Wildlife Friends Foundation Thailand (WFFT)
บันทึกอาสา มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ดูแลสัตว์และเป็นเพื่อนกับชาวต่างชาติทั่วโลก ณ เพชรบุรี, Wildlife Friends Foundation Thailand (WFFT)

“พวกเธอเป็นคนเหรอ โดนหลอกมารึเปล่าเนี่ย” 

เจ้าของมูลนิธิหัวเราะพลางพูดกับพวกเรากึ่งหยอกกึ่งแซวในวันแรกที่เจอกัน เขาดูตกใจมากที่เห็นคนไทยอย่างพวกเรามาทำอาสา เอาเข้าจริง ในตอนที่พวกเราเข้าไปในมูลนิธิวันแรก ไม่เพียงแต่เจ้าของมูลนิธิ เจ้าหน้าที่หรือแม่ครัวเองก็ตกใจ เพราะแทบจะไม่มีคนไทยให้ความสนใจจะมาทำงานอาสาสมัครแบบนี้เลย 

“เราตั้งใจคิดค่าอาสาสำหรับคนไทยในราคาไม่แพง เพราะอยากให้คนไทยหลายๆ คน ได้มาร่วมสัมผัสและมาใช้ชีวิต ให้เห็นความสำคัญของสัตว์ป่ามากขึ้น” เจ้าของมูลนิธิบอกกับฉันตอนนั้น

หลังเก็บของเข้าห้องนอน ที่เป็นห้องนอนรวมกัน 4 – 5 คน พวกเราได้ทำความรู้จักกับอาสาสมัครจากประเทศอังกฤษ ก่อนที่อาสาสมัครหน้าใหม่อย่างพวกเราจะได้เข้าสู่การปฐมนิเทศ พวกเราได้เรียนรู้วิธีการทำงาน และพาไปดูสัตว์ต่างๆ ที่พวกเราจะดูแล รวมถึงกฎระเบียบของการอยู่ร่วมกัน ตบท้ายด้วยมื้อค่ำในบรรยากาศเงียบๆ ของอาสาคนไทยเพียง 4 คนที่นั่น ท่ามกลางภาษาอังกฤษบ้าง ภาษาฝรั่งเศสบ้าง เยอรมนีบ้าง ที่แทรกผ่านหูซ้ายออกหูขวาไป

พาตัวเองไปเจอโลกกว้าง

บันทึกอาสา มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ดูแลสัตว์และเป็นเพื่อนกับชาวต่างชาติทั่วโลก ณ เพชรบุรี, Wildlife Friends Foundation Thailand (WFFT)
บันทึกอาสา มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ดูแลสัตว์และเป็นเพื่อนกับชาวต่างชาติทั่วโลก ณ เพชรบุรี, Wildlife Friends Foundation Thailand (WFFT)
บันทึกอาสา มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ดูแลสัตว์และเป็นเพื่อนกับชาวต่างชาติทั่วโลก ณ เพชรบุรี, Wildlife Friends Foundation Thailand (WFFT)

วันแรกของการเป็นอาสาสมัครก็เริ่มขึ้นในเวลา 6 โมงเช้า หลักการทำงานที่นี่ ในแต่ละวันจะมีตารางงานบอกว่าวันนี้ต้องทำอะไรบ้าง โดยแบ่งการดูแลสัตว์ป่าออกไปแต่ละประเภท เช่น กลุ่มสัตว์กลางคืน กลุ่มหมี กลุ่มลิงค่างบ่างชะนี กลุ่มสัตว์ป่าอื่นๆ หรือกลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เหล่าอาสาสมัครจะถูกแบ่งกลุ่ม และเวียนการทำงานกันไป เพื่อทุกคนจะได้เรียนรู้งานอย่างทั่วถึง

เสียงของผู้ดูแลอาสาสมัครเข้ามาพูดกับพวกเราว่า วันนี้พวกเธอจะถูกจับแยกอยู่คนละกลุ่ม จะได้รู้จักอาสาคนอื่นๆ แล้วก็เป็นผู้ช่วยดูงานแต่ละกลุ่มที่ตัวเองอยู่กันไปก่อน วันข้างหน้าจะได้มาเป็นหัวหน้าทีม 

คิดในใจว่า อย่างพวกเราเนี่ยนะ จะไปเป็นผู้นำให้กับอาสาต่างชาติคนอื่นๆ ได้ ทุกคนล้วนแล้วมีประสบการณ์และผ่านการเป็นอาสาต่างแดนมาอย่างช่ำชอง

“คุณรู้ไหมที่ประเทศเรา (แคนาดา) ผมเป็นหัวหน้าคนในบริษัท เวลาผมสัมภาษณ์คนที่มาสมัครงาน ผมจะถามก่อนเสมอว่า เคยทำงานอาสามาบ้างไหม ที่ประเทศเราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก เพราะการที่คุณมาทำงานอาสา คือ หนึ่งคุณใช้เวลาว่างได้มีประโยชน์ สอง คุณมีใจในการทำงานเพื่อสังคมและคนอื่น สาม คุณจะเรียนรู้การบริหารเวลาตัวเองได้ดี ผมรับรองได้เลยว่า ที่พวกคุณมาทำงานอาสาที่นี่ จะเป็นประโยชน์ในภายหน้าของพวกคุณเองจริงๆ” อาสาชาวแคนาดาเอ่ยเมื่อเราได้สนทนากัน

บันทึกอาสา มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ดูแลสัตว์และเป็นเพื่อนกับชาวต่างชาติทั่วโลก ณ เพชรบุรี, Wildlife Friends Foundation Thailand (WFFT)
บันทึกอาสา มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ดูแลสัตว์และเป็นเพื่อนกับชาวต่างชาติทั่วโลก ณ เพชรบุรี, Wildlife Friends Foundation Thailand (WFFT)

นอกจากการทำงานที่ฉันได้เรียนรู้และไม่เคยมีสอนในตำราเรียนแล้ว การได้เห็นวัฒนธรรมจากหลากหลายชาติ เป็นสิ่งที่เพิ่มเติมมาจากความคาดหวังของฉัน แม้บางคนจะอายุไล่เลี่ยกับฉัน แต่ความคิดความอ่านเขาเป็นผู้ใหญ่มากๆ ไม่มั่นใจว่าเพราะการเลี้ยงดูหรือระบบการศึกษาของประเทศเขา แต่ไม่ขอเข้าประเด็นนี้ดีกว่า ประเด็นคือการได้เริ่มเป็นอาสาที่นี่ เหมือนได้พาตัวเองท่องเที่ยวต่างแดน มีจิตอาสาที่จะช่วยเหลือสัตว์ป่าเป็นเหมือนพาสปอร์ต ที่พาทุกคนมารวมกัน ดังที่เขาว่า เพียงแค่ก้าวออกจากบ้าน ทุกวันคือการผจญภัยและเรียนรู้แล้ว 

จงมีสติและอย่าประมาท

บันทึกอาสา มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ดูแลสัตว์และเป็นเพื่อนกับชาวต่างชาติทั่วโลก ณ เพชรบุรี, Wildlife Friends Foundation Thailand (WFFT)
บันทึกอาสา มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ดูแลสัตว์และเป็นเพื่อนกับชาวต่างชาติทั่วโลก ณ เพชรบุรี, Wildlife Friends Foundation Thailand (WFFT)
บันทึกอาสา มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ดูแลสัตว์และเป็นเพื่อนกับชาวต่างชาติทั่วโลก ณ เพชรบุรี, Wildlife Friends Foundation Thailand (WFFT)

ในวันแรกของการเป็นอาสา ฉันดูเฟอะฟะงุ่มง่ามและเชื่องช้าที่สุดแล้วในกลุ่ม จะรู้สึกภูมิใจก็ที่สื่อสารภาษาอังกฤษกับคนอื่นๆ ได้ อย่างน้อยที่แม่หวังให้ลูกสาวได้ฝึกภาษาก็ไม่เสียหลาย

หน้าที่หลักของการเป็นอาสาสมัครมีอยู่ไม่มาก แต่ค่อนข้างต้องใช้ความละเอียดและความใส่ใจ เพราะต้องดูแลสัตว์ป่าจริงๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการค้าอย่างผิดกฎหมาย หรือโดนทำร้ายจากมนุษย์ สองสามวันแรกผ่านพ้นไปอย่างสะบักสะบอมเพราะแทบไม่ได้นั่งเลย นอกจากตอนพักกินข้าวกลางวัน และอยู่ภายใต้ความกังวลกับการเป็นหัวหน้าทีมในวันถัดมา มีเพียงแค่ทักษะทางภาษาอังกฤษที่แข็งแกร่งมากขึ้น

การก้าวสู่การเป็นหัวหน้าทีมวันแรก ฉันตื่นเต้นตั้งแต่ตื่นนอน ฉันตะโกนเรียกลูกทีมตามรายชื่อที่เขียนไว้บนกระดาน สมาชิกในทีมของฉันเชื้อชาติหลากหลายมาก การเริ่มงานจึงตะกุกตะกัก แต่ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ดี คลายความกังวลลงไปได้เยอะ จะมีก็แต่…

“หมูป่ามันชนจนประตูเปิด!!”

คือเสียงตะโกนของลูกทีมขณะที่ฉันกำลังเข้าเขตหมูป่าเพื่อจะไปเติมน้ำให้พวกมัน ฉันรีบวิ่งไวสูสีเท่ายูเซน โบลต์ เพื่อไปล็อกกลอนประตูอย่างเฉียดฉิว เป็นความประมาทของฉันเองที่คิดว่าไม่ต้องล็อกกลอนให้แน่นก็ได้ แค่ไปเติมน้ำ คงไม่เป็นอะไร ที่ไหนได้ เจ้าหมูป่ามันวิ่งชนประตูเข้าอย่างจังจนเปิดออกมา ดีแค่ไหนแล้วที่มันไม่หลุดออกไป ไม่อย่างนั้นคงวุ่นวายกันทั่ว

แม้จะรู้สึกผิดกับตัวเองในหน้าที่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าภูมิใจกับเสียงปรบมือและคำชมจากลูกทีมไม่น้อย สำหรับความไวดุจปีศาจของตัวเอง ฉันยิ้มอยู่ในใจ การเป็นหัวหน้าทีมครั้งแรกก็จบลงอย่างงดงาม พร้อมกับการถูกทาบทามให้ไปเป็นหัวหน้าทีมในกลุ่มอื่นๆ ต่อไป

บันทึกอาสา มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ดูแลสัตว์และเป็นเพื่อนกับชาวต่างชาติทั่วโลก ณ เพชรบุรี, Wildlife Friends Foundation Thailand (WFFT)
บันทึกอาสา มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ดูแลสัตว์และเป็นเพื่อนกับชาวต่างชาติทั่วโลก ณ เพชรบุรี, Wildlife Friends Foundation Thailand (WFFT)
บันทึกอาสา มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ดูแลสัตว์และเป็นเพื่อนกับชาวต่างชาติทั่วโลก ณ เพชรบุรี, Wildlife Friends Foundation Thailand (WFFT)

อีกเรื่องของการขาดสติ คงจะหนีไม่พ้นเหตุการณ์ที่ฉันล้มกลิ้งไม่เป็นท่า ขณะทำความสะอาดกรงหมี

ให้นึกภาพกรงหมีกันก่อน กรงขนาดใหญ่มากๆ มีเนินสูงคล้ายภูเขาลูกเล็กๆ ตั้งอยู่ เพื่อให้สภาพเป็นป่าไม้มากที่สุด ในวันนั้นฉันและเพื่อนได้รับหน้าที่ไปเก็บกวาดเศษซากอาหารต่างๆ ที่จะเน่าและส่งกลิ่นเหม็น หลังจากเจ้าหน้าที่นำพาหมีเข้าไปอยู่ในกรงแยก การกวาดทำความสะอาดก็เริ่มขึ้น 

พวกเราค่อยๆ ไล่เก็บจากเนินสูงสุดไต่ลงมา ระหว่างที่ทุกคนกำลังกวาดบนยอด ฉันก็เดินออกมาไล่เก็บกวาดเงียบๆ คนเดียว ตามไหล่เนินต่างๆ โดยหารู้ไม่ว่า อีกไม่กี่นาทีต่อจากนั้น ฉันจะล้มกลิ้งลงเนินไปอย่างไม่เป็นท่า

“ช่วยด้วย โอ๊ย!” ฉันร้องขอความช่วยเหลือแต่เหมือนไม่เป็นผล หญิงแกร่งอย่างฉันจึงค่อยๆ ตั้งสติ และเดินขึ้นเนินไปหาเพื่อนๆ พร้อมสภาพที่สะบักสะบอม และเล่าสิ่งที่พึ่งประสบมาให้เพื่อนๆ ฟัง

“ว่าแล้ว ได้ยินเหมือนเสียงของหล่นดังกุกๆ กักๆ อยู่ ไม่คิดว่าจะเป็นมึง”

“ไปทำอีท่าไหนถึงล้มได้”

ฉันคิดเอาเองว่าเพื่อนคงแสดงความเป็นห่วงเป็นใยในอีกรูปแบบนะ

ความจริงถ้าฉันมีสติไม่เหม่อลอย ฉันก็คงไม่กลิ้ง ดันไม่ได้สังเกตว่ามีหลุมอยู่ระหว่างทางการเก็บกวาด ซึ่งเป็นหลุมที่พวกหมีขุดเอาไว้อยู่แล้วตามธรรมชาติของพวกมัน และถ้าสังเกตให้ดี ก็จะเห็นหลุมอีกมากมายตามไหล่เนิน สติเตลิดจึงเกิดปัญหาเลยไหมเล่า

ความสุขเป็นเรื่องที่เรียบง่าย

บางทีคนเราพยายามค้นหาความสุขจากที่ไกลตัวมากเกินไป จนมองข้ามความสุขอันเรียบง่าย และบางครั้งก็เป็นทุกข์โดยไม่รู้ตัว 

ฉันเข้าใจคำว่าความสุขคือความธรรมดาและไม่หวือหวา ก็ตอนที่ฉันและเพื่อนๆ เริ่มรู้สึกเอียนและไม่ชินกับอาหารที่มูลนิธิ ที่นั่นส่วนใหญ่มีแต่อาสาต่างชาติ อาหารต่างๆ ที่แม่ครัวทำ จึงปรุงรสเพื่อลิ้นชาวต่างชาติโดยแท้ แน่นอนว่า รสจืด นุ่มลิ้น และออกเชิงมังสวิรัติ พวกเด็กกำลังโตและลูกอีสานครึ่งใต้อย่างพวกเรา จึงมักมีมาม่าต้มยำกุ้งเป็นกองกลางเสมอ เอาไว้ซดน้ำให้แซ่บตัดเลี่ยน

บันทึกอาสา มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ดูแลสัตว์และเป็นเพื่อนกับชาวต่างชาติทั่วโลก ณ เพชรบุรี, Wildlife Friends Foundation Thailand (WFFT)

จนกระทั่งเช้าวันหนึ่ง หลังฉันทำงานกะเช้าในการให้อาหารและทำอาหารให้สัตว์ต่างๆ เสร็จ ฉันได้ยินเสียงแม่ครัวหัวเราะพูดคุยกันตอนมื้อเช้า พร้อมกลิ่นปลาร้าที่ยั่วยวนกระเพาะอาหาร ฉันไม่รีรอ เดินตรงดิ่งเข้าไปพูดคุยและขอปลาร้ามาคลุกข้าว ฉันจำข้าวคำแรกที่คลุกปลาร้าในวันนั้นได้ 

ถ้าเป็นวันปกติทั่วไป ฉันก็คงแค่รู้สึกว่ามันอร่อยดี แต่ในวันนั้นนอกจากอร่อยแล้ว ฉันยังมีความปิติต่อใจและต่อพุง เป็นความสุขที่ธรรมดาสามัญมากๆ สุขที่อร่อย สุขที่ได้กิน

บันทึกอาสา มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ดูแลสัตว์และเป็นเพื่อนกับชาวต่างชาติทั่วโลก ณ เพชรบุรี, Wildlife Friends Foundation Thailand (WFFT)

อีกเหตุการณ์ที่ทำให้ฉันเข้าใจว่าความสุขเรียบง่าย คือการนั่งมองอาทิตย์ตก อาทิตย์ขึ้นและตกทุกวัน ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นหรือแปลกใหม่ ออกจะเป็นความเคยชินไปด้วยซ้ำ จนพวกเราไม่ได้สังเกตถึงความงามของมันมาก่อน แต่ในวันนั้น วันที่พวกเราได้หยุดงานหนึ่งวัน ตอนเย็นระหว่างกลับเข้ามูลนิธิ พวกเราเห็นอาทิตย์กำลังตกดิน ในบรรยากาศสงบ แสงสีเหลืองทองอ่อนๆ สะท้อนเข้ากับต้นไม้ใบหญ้า เบื้องหลังภูเขาที่พวกเรากำลังจับจ้อง เริ่มประกายเปลี่ยนสีไปตามเวลา พวกเราตัดสินใจลงจากรถ แล้วนั่งเหม่อมองอาทิตย์ตกโดยไม่มีใครพูดจาอะไร 

อาทิตย์ตกแรกของการมาเป็นอาสาที่ได้นั่งมองมันอย่างตั้งใจ อาทิตย์ขึ้นและตกของมันทุกวัน แต่วันนี้มันช่างสวยงาม สงบ อ่อนโยน และดีต่อใจพวกเราทุกคน เป็นการนั่งมองและปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่ได้ทำอะไร ที่พวกเราต่างเต็มใจและมีความสุขมากๆ ทุกวันนี้โลกและสังคมมันก็โหดร้ายพอตัวแล้ว การใช้เวลาไปกับสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข คงไม่เสียเวลามากหรอกมั้ง ฉันคิดเข้าข้างตนเอง

หัวหินจ๋า พี่มาแล้วจ้ะ

บันทึกอาสา มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ดูแลสัตว์และเป็นเพื่อนกับชาวต่างชาติทั่วโลก ณ เพชรบุรี, Wildlife Friends Foundation Thailand (WFFT)
บันทึกอาสา มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ดูแลสัตว์และเป็นเพื่อนกับชาวต่างชาติทั่วโลก ณ เพชรบุรี, Wildlife Friends Foundation Thailand (WFFT)

การได้หยุดทำงานหนึ่งวัน ช่างเป็นวันที่มีความหมาย ไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นกับการนั่งหาที่พักผ่อนหย่อนใจเท่านี้มาก่อน เนื่องจากมูลนิธิตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างหัวหินและชะอำ จึงเกิดการเสี่ยงดวงเกิดขึ้นว่าจะไปที่ไหนดี การโยนหัวก้อยได้กลับมาใช้อีกครั้ง และผลคือตกที่หัวหิน

ฉันจดจำได้ดี เมื่อเดินทางไปถึงตลาดโต้รุ่งหัวหิน ฉันและเพื่อนๆ เดินดุ่มผ่านร้านขายของไปอย่างว่องไว ปล่อยให้จมูกและท้องไส้นำทางไปหาร้านอาหารรสชาติคนไทยทันที ตอนอยู่มูลนิธิฉันกินเพื่ออยู่ แต่วินาทีที่อยู่หัวหิน พวกฉันอยู่เพื่อกินโดยแท้จริง วันนั้นกินหมดทั้งของคาว ของหวาน รวมไปถึงนั่งดื่มพูดคุยแลกเปลี่ยนกับมิตรสหายในคืนนั้น ทุกคนล้วนเติบโตและมีมุมมองที่กว้างขึ้นจากการมาเป็นอาสาที่นี่

ทุกคนเท่ากัน

บันทึกอาสา มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ดูแลสัตว์และเป็นเพื่อนกับชาวต่างชาติทั่วโลก ณ เพชรบุรี, Wildlife Friends Foundation Thailand (WFFT)
บันทึกอาสา มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ดูแลสัตว์และเป็นเพื่อนกับชาวต่างชาติทั่วโลก ณ เพชรบุรี, Wildlife Friends Foundation Thailand (WFFT)
บันทึกอาสา มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ดูแลสัตว์และเป็นเพื่อนกับชาวต่างชาติทั่วโลก ณ เพชรบุรี, Wildlife Friends Foundation Thailand (WFFT)

ทุกคนรู้อยู่แล้ว อาจด้วยการสอนหรือจิตสำนึกว่ามนุษย์เรามีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกัน แต่การปฏิบัติในชีวิตจริงไม่เหมือนในตำราที่เรารับรู้ มีความเหลื่อมล้ำมากมายในสังคม เป็นเรื่องชินตาสำหรับใครหลายคนด้วยซ้ำ แต่ที่นี่ไม่ใช่ ที่นี่ทุกคนเหมือนเพื่อน ฉันได้รู้จักคนมากหน้าหลายตา หลายเชื้อชาติ หลายอายุ และหลากหลายอาชีพ แต่ทุกคนปฏิบัติเหมือนกันหมด แม้กระทั่งเหล่าสัตว์ป่าที่นั่น ก็ได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพเช่นกัน 

ไม่ใช่มิตรภาพเกิดขึ้นระหว่างอาสาสมัครกับอาสาสมัครด้วยกันเองเท่านั้น ป้าๆ ที่ทำครัว พี่ๆ ที่คอยให้อาหารลิง ผู้ดูแลสัตว์ป่าน้อยใหญ่ หรือกระทั่งพี่ๆ ควาญช้าง ก่อนและหลังกินข้าว เราจะทักทายกันเหมือนคนในครอบครัว เสร็จงานตอนเย็น ก็มานั่งดื่มนั่งชิลล์ พูดคุยร่วมโต๊ะอาหารเดียวกัน กับข้าวทุกอย่าง พวกเรากินร่วมกัน ไม่มีแบ่งแยก

ฉันจดจำได้ดี ในวันสุดท้ายก่อนพวกเราจะเดินทางกลับกรุงเทพ พวกพี่ๆ ที่ดูแลสัตว์ป่าทุกฝ่าย มีปาร์ตี้ปิ้งย่างให้พวกเรา คืนนั้นเป็นค่ำคืนที่ประทับใจและอบอุ่นมากๆ ฉันและเพื่อนเอร็ดอร่อยกับอาหารมื้อนั้น แม้จะไม่ใช่มื้อที่เลิศหรูอลังการ แต่ความจริงใจและตั้งใจเปี่ยมล้น

เช้าวันสุดท้าย ฉันและเพื่อนต่างตระเวนเดินเล่นทั่วมูลนิธิ เพื่อเก็บภาพถ่ายทุกคนไว้ รวมถึงสัตว์ป่าต่างๆ ที่ฉันได้ดูแลมาทั้งหมด ฉันพึ่งมาสังเกตว่านอกจากผู้คนที่นั่นแล้ว ฉันเองก็ปฏิบัติกับสัตว์พวกนั้น ไม่ได้แตกต่างไปจากมนุษย์ด้วยกันเองเลย ทุกชีวิตมีสิทธิ์ในการที่จะมีชีวิต มีสิทธิ์ที่จะเลือกเดินตามทาง มนุษย์เรามีสิทธิ์อะไรถึงไปครอบครองสิทธิ์ในการมีชีวิตอยู่ของสัตว์เหล่านี้ ยิ่งทำร้ายมันด้วยแล้ว ยิ่งละเมิดสิทธิ์กันไปใหญ่

จริงๆ แล้วที่นี่ไม่ใช่แค่ทุกคนเท่ากัน แต่ ‘ทุกชีวิตเท่ากัน’ น่าจะเหมาะสมที่สุด 

ทำในสิ่งที่รัก รักในสิ่งที่ทำ

ฉันพาตัวเองมาเหนื่อยทำไม นอนอยู่บ้าน ไปเที่ยวแบบปกติก็ดีอยู่แล้ว 

ทำไมต้องพาตัวเองมาทำงานที่อยู่กับป่า อยู่กับสัตว์ ไม่ค่อยมีแม้สัญญาณโทรศัพท์ หรือกระทั่งมีวันหยุดจริงๆเพียงแค่วันเดียว เป็นความคิดขัดแย้งในตัวเองหลังการเป็นอาสาในช่วงสองสามวันแรก แล้วทุกอย่างก็ค่อยๆ คลี่คลาย นานวัน ฉันคลุกคลีกับสัตว์ป่าแทบจะทุกชนิด ได้พบเจอมิตรภาพและเพื่อนใหม่จากแดนไกล ทั้งอังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส อเมริกา แคนาดา หรือจีน ที่ตั้งใจมาเป็นอาสาที่บ้านเรา 

บันทึกอาสา มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ดูแลสัตว์และเป็นเพื่อนกับชาวต่างชาติทั่วโลก ณ เพชรบุรี, Wildlife Friends Foundation Thailand (WFFT)

เด็กที่ไม่เคยผ่านการทำงานแบบมนุษย์เงินเดือนจริงๆ อย่างฉันเริ่มเข้าใจว่าทำไมเราถึงควรทำงานที่เรารัก และแวดล้อมไปด้วยผู้คนที่ดี อาจเพราะว่าคุณจะรู้สึกเต็มใจที่จะตื่นแต่เช้า และทำงานอย่างเต็มที่แม้ว่าจะรู้สึกเหน็ดเหนื่อยบ้างในบางเวลา แต่คุณจะไม่รู้สึกว่าไม่อยากตื่นเลย ตื่นมาทำไม เราต้องการอะไรกันแน่

สิ่งเหล่านี้สำหรับฉันนั้นสำคัญมากกว่าเงินตรา แน่นอนว่าเงินตราก็ยังสำคัญ แต่ถ้าเราทำในสิ่งที่เราเห็นคุณค่าและพร้อมจะใช้ชีวิตอีกครึ่งหนึ่งไปกับสิ่งที่เพิ่มความสุขทางใจก็จะดีกว่าไม่ใช่หรือ

การมาเป็นอาสาสมัคร นอกจากจะรู้สึกได้มาทำงาน ผสมกับการได้ออกมาท่องเที่ยว ฉันยังพบเจอผู้คนที่ดีมากมาย ฉันมีเพื่อนเป็นควาญช้าง มีเพื่อนเป็นสัตวแพทย์ มีเพื่อนเป็นหนุ่มสาวที่ออกมาค้นหาตัวเองและทำบางสิ่งเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม มีเพื่อนเป็นหัวหน้าบริษัทจากแคนาดาและอีกมากมาย ฉันได้อยู่กับธรรมชาติ ได้ค้นพบตัวเองทีละน้อย ได้บทเรียนและประสบการณ์มากมาย เป็นช่วงเวลาที่รู้สึกคุ้มค่าในทุกวันที่ผ่านพ้นไป

ฉันคงต้องจบบันทึกการเป็นอาสาสมัครดูแลสัตว์ป่า ด้วยหวังว่าคงมีผู้คนสนใจบ้างไม่มากก็น้อย สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นก็ไม่เท่ากับลงมือทำ

บันทึกอาสา มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ดูแลสัตว์และเป็นเพื่อนกับชาวต่างชาติทั่วโลก ณ เพชรบุรี, Wildlife Friends Foundation Thailand (WFFT)

Write on The Cloud

บทเรียนจากต่างแดน

ถ้าคุณมีประสบการณ์เรียนรู้ใหม่ๆ จากการไปใช้ชีวิตในทั่วทุกมุมโลก เชิญแบ่งปันเรื่องราวความรู้ของคุณพร้อมภาพถ่ายประกอบบทความ รูปถ่ายผู้เขียน ประวัติส่วนตัวผู้เขียน ที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อ และชื่อ Facebook มาที่อีเมล [email protected] ระบุหัวข้อว่า ‘ส่งต้นฉบับสำหรับคอลัมน์ บทเรียนจากต่างแดน’ ถ้าผลงานของคุณได้ตีพิมพ์ลงในเว็บไซต์ เรามีของขวัญส่งให้เป็นที่ระลึกด้วยนะ

Writer & Photographer

อลิศรา สำราญ

อลิศรา สำราญ

เป็นสิ่งมีชีวิตชั่วคราวที่หลงใหลในธรรมชาติ และตระหนักเสมอว่าทุกอย่างในชีวิตไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน