‘หวานนวล’ เป็นคาเฟ่ขนาด 1 โต๊ะใหญ่ บวก 1 โต๊ะย่อย ที่ตั้งอยู่ในซอยแคบๆ ย่านสาทร แสงเงาในพื้นที่เล็กๆหลังผ้าม่านสีขาวให้บรรยากาศอุ่นๆ เหมือนอยู่ในคาเฟ่จากนิยายญี่ปุ่นสักเรื่อง 

หวานนวลคาเฟ่ เสิร์ฟขนมไทยประเภทที่คนคุ้นเคย เช่น สังขยาใบเตย กะหรี่ปั๊บ ตะโก้ ข้าวเหนียวเปียกลำไย และมีเครื่องดื่มเป็นกาแฟและชาจากแหล่งต่างๆ

หวานนวลคาเฟ่ คาเฟ่ขนมไทยตามใจตัวเองที่ตั้งใจจะไม่เปิดทุกวัน
หวานนวลคาเฟ่ คาเฟ่ขนมไทยตามใจตัวเองที่ตั้งใจจะไม่เปิดทุกวัน

หวานนวลคาเฟ่ เปิดให้บริการเพียงเดือนละ 2 สัปดาห์ ไม่สัญญาว่าจะเปิดทุกเดือน แต่สัญญาว่าจะแจ้งวันเปิดและปิดล่วงหน้าเสมอ

“ก็มันมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ” นวล-พาฝัน ศุภวานิช เจ้าของคาเฟ่แห่งนี้บอกเราอย่างอารมณ์ดี 

หวานนวลคาเฟ่ คาเฟ่ขนมไทยตามใจตัวเองที่ตั้งใจจะไม่เปิดทุกวัน

นวลเป็นบรรณาธิการสำนักพิมพ์วงกลมที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำหนังสือท่องเที่ยว และเธอก็รักการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ นอกจากการทำหนังสือที่ทำให้เธอเดินทางทีครั้งละนานๆ แล้ว เธอยังต่อยอดการทำเนื้อหาไปเป็นการจัดทริปพาคนไปเที่ยวด้วย และในอีกมุมหนึ่ง นวลก็สนใจเรื่องอาหาร นวลเปิดคลาสสอนทำขนมอยู่บ่อยๆ และหลายทริปที่จัดก็มีเรื่องอาหารการกินเข้ามาเป็นแกนกลาง

การเปิดหวานนวลคาเฟ่เป็นโปรเจกต์ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ เพื่อสนับสนุนโปรเจกต์อื่นๆ ของเธอให้สนุกยิ่งขึ้น หลายคนกลัวว่าการเปิดคาเฟ่จะทำให้ต้องคอยเฝ้าร้าน จะไปไหนก็ลำบาก แต่เพราะนวลไม่สามารถจะยอมอยู่กับที่ เงื่อนไขการทำคาเฟ่ของนวลเลยต่างจากคาเฟ่ทั่วไป

นวลบอกว่า “เราก็ยังอยากเดินทาง อยากเขียนหนังสือ อ่านหนังสือ เจอเพื่อน ดูซีรีส์ หรือไม่ก็ทดลองสูตรอาหารใหม่ๆ และเชื่อว่าการเปิดคาเฟ่มันก็ยังอนุญาตให้เราทำแบบนั้นได้” นวลยืนยัน

หวานนวลคาเฟ่ คาเฟ่ขนมไทยตามใจตัวเองที่ตั้งใจจะไม่เปิดทุกวัน

01

นวลเชื่อว่าขนมหวานไม่ใช่ของที่ควรจะกินทุกวัน ฉะนั้น หวานนวลคาเฟ่ก็ไม่ต้องเปิดทุกวันทั้งปีก็ได้

“ขนมเนี่ย กินสัปดาห์ละสองครั้งก็พอ และหลังสี่โมงก็ไม่ควรกินแล้ว” นวลแบ่งปันแนวคิดเรื่องการบริโภคขนมให้พอดีในวัยผู้ใหญ่ ซึ่งดูขัดกับตำแหน่งเจ้าของคาเฟ่ที่ควรจะเชียร์แขกให้มากกว่านี้

นวลเล่าว่าการทำหวานนวลคาเฟ่ไม่ได้มีโจทย์เป็นความต้องการของตลาด แต่มีโจทย์เป็นเงื่อนไขจากตัวเธอที่ตั้งใจทำคาเฟ่แบบที่อยากทำ และต้องเป็นรูปแบบที่ดำเนินการได้ด้วยคนเพียงหนึ่งคน 

หวานนวลคาเฟ่ คาเฟ่ขนมไทยตามใจตัวเองที่ตั้งใจจะไม่เปิดทุกวัน

นวลเลยวางแผนทุกอย่างมาแบบที่ทำคนเดียวได้ เช่น เมนูขนมที่มีประจำทุกวันจะเป็นสังขยาใบเตยกับกะหรี่ปั๊บที่นวลทำจนเชี่ยวชาญ เวลาทำก็เลยใช้เวลาไม่นานและคนกินชอบ ส่วนตะโก้ก็จะมีอาทิตย์ละ 2 วัน ส่วนขนมอื่นๆ ก็วนกันไป ชากาแฟที่เสิร์ฟแต่แบบร้อน มีอาหารกลางวันตามคำเรียกร้องแค่สัปดาห์ละ 2 วัน ไม่เข้าร่วมกับวงการเดลิเวอรี่ เปิดแค่ 2 สัปดาห์ต่อเดือน และระหว่างเวลา 11 โมงถึงบ่าย 3 เท่านั้น

หวานนวลคาเฟ่ คาเฟ่ขนมไทยตามใจตัวเองที่ตั้งใจจะไม่เปิดทุกวัน
หวานนวลคาเฟ่ คาเฟ่ขนมไทยตามใจตัวเองที่ตั้งใจจะไม่เปิดทุกวัน

“มีคนชอบมาบอกว่าลูกค้าเยอะ ทำไมไม่ขายไปเลยทุกวัน” นวลเล่า “เป็นคำถามที่แปลกนะ เพราะคงไม่มีใครที่จะมากินขนมทุกวันหรอก 

“ขนมหวานตามร้านเดี๋ยวนี้หวานมาก” นวลขึ้นเสียงสูง “ขนมของร้านเราทำแบบหวานพอดีๆ ใช้กะทิแท้ๆ อยากให้คนได้กินของดีๆ ที่ดีกับตัวเขา แล้วก็ไม่แน่นะ ถ้าใครมากินที่ร้านเราบ่อยๆ ลิ้นอาจจะปรับจนไม่ชอบกินรสหวานจัดไปเลยก็ได้” นวลแอบหวัง

หวานนวลคาเฟ่ คาเฟ่ขนมไทยตามใจตัวเองที่ตั้งใจจะไม่เปิดทุกวัน
หวานนวลคาเฟ่ คาเฟ่ขนมไทยตามใจตัวเองที่ตั้งใจจะไม่เปิดทุกวัน

02

ลูกค้าร้านหวานนวล มีลักษณะร่วมกันอย่างหนึ่งคือเป็น ‘คนแถวนี้’ 

“เราเคยเป็นคนทำงานที่อยู่แถวนี้ เลยรู้ว่าบางทีมันก็เบื่ออะไรเดิมๆ เราเปิดร้านเล็กๆ ตรงนี้ ขนมที่นี่อร่อย แต่ก็ไม่ได้วิเศษวิโสอะไร ไม่ต้องลำบากเดินทางจากที่ไกลๆ มากิน แค่คนที่เดินผ่าน เห็นแล้วแวะเข้ามาบ้างก็พอแล้ว” นวลเปิดกลยุทธ์ตกลูกค้าให้เราฟัง

พอคิดแบบนี้ โลกออนไลน์จึงไม่ใช่ยุทธศาสตร์หลักของหวานนวลคาเฟ่ เคยมีคนเสนอให้นวลจ้างพนักงานมาคอยรับออเดอร์จากคนที่สั่งทางออนไลน์ หรือเพิ่มบริการขายอาหารกลางวันแบบส่งปิ่นโต เพื่อจะได้มีรายได้เพิ่ม แต่นวลก็ไม่ได้ทำ แม้จะบอกว่า “รู้ว่าถ้าทำมากกว่านี้ก็คงได้เงินเยอะกว่านี้” ก็ตาม

นวลสนใจการสร้างชุมชนของพนักงานออฟฟิศใจกลางเมืองให้ได้กินขนมอร่อยๆ และมีช่วงเวลาที่ผ่อนคลายมากกว่า

ในตัวทุกคนที่เดินกันขวักไขว่ ล้วนแบกบทบาทฟันเฟืองขององค์กรในระหว่างเวลางาน แต่ร้อยทั้งร้อยก็ยังมีความเป็นคนที่ต้องการพื้นที่เพื่อคลายเนกไท ถอดส้นสูง แล้วกลับมาเป็นตัวเอง 

หวานนวลคาเฟ่จึงไม่ได้ให้แค่สถานที่แอร์เย็นๆ มีขนมและอาหารเพื่อให้อิ่มท้อง แต่ยังให้ช่องว่างทั้งในมิติของสถานที่และเวลาสำหรับคนกลางย่านธุรกิจ ให้ได้ใช้เวลาอยู่กับสิ่งสำคัญตรงหน้าจริงๆ

“อยากทำร้านที่ได้คุยกับคน และคนก็ชอบสิ่งที่เราเสนอให้” แก่นแกนของหวานนวลคาเฟ่ แท้จริงแล้วมันสั้นง่ายเท่านี้ 

หวานนวลคาเฟ่ คาเฟ่ขนมไทยตามใจตัวเองที่ตั้งใจจะไม่เปิดทุกวัน

03

นวลสารภาพว่าทำคาเฟ่นี้ขึ้นมาตามความรู้สึก

นวลบอกเราว่าการไปเยือนที่ไหนเธอก็อยากจะไปให้ ‘ถึง’ ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์จากสถานที่ กิจกรรมที่ทำ หรือแม้แต่อาหารที่กิน เธอก็ต้องชิม ศึกษา ทำความเข้าใจผ่านการพูดคุย หรือไม่ก็ลงมือลองทำ และเธอมักประทับใจบรรยากาศที่ดี เจ้าของร้านที่คุยสนุก อาหารที่อร่อย หรือคอนเซปต์ของการนำเสนอแบบพิเศษๆ ของคาเฟ่ โรงแรม หรือร้านอาหารต่างๆ และมักจะบันทึกประสบการณ์นั้นไว้ในรูปของความรู้สึก ความอยากเปิดคาเฟ่มันก็ผุดขึ้นในใจเป็นระยะๆ เวลาได้รับประสบการณ์เหล่านั้น

“อยากทำคาเฟ่ให้คนที่มา ได้รู้สึกแบบนั้นบ้าง” นวลบอก 

เธอจึงตั้งใจทำให้หวานนวลคาเฟ่เป็นพื้นที่ที่ทำให้คนมารู้สึกสบายใจ และกลับออกไปอย่างอิ่มเอม นวลเล่าว่า “อยากให้คนที่มาที่นี่ได้มีเราเป็นเพื่อนคุย บางคนเขาก็มาช่วงบ่ายที่ไม่ค่อยมีคนเพื่อจะได้คุยกับเรา มากินขนม มาเล่า มาระบาย พอได้คุยกันแล้ว พอท้องอิ่มแล้ว เขาก็อาจจะได้ไอเดียใหม่ๆ ได้รู้จักกับเรื่องใหม่ๆ ที่เราชวน เช่น ชวนมาเรียนทำขนม ชวนไปเดินทาง”

หวานนวลคาเฟ่ คาเฟ่ขนมไทยตามใจตัวเองที่ตั้งใจจะไม่เปิดทุกวัน

04

นวลไม่ใช่เชฟทำขนม ไม่ใช่นักชงชา ไม่ใช่บาริสต้า แต่เป็นนักป้ายยามือฉมัง

นวลมีต้นทุนมากมายในรูปแบบของเรื่องเล่า เธอเป็นนักเดินทาง เป็นคนทำหนังสือท่องเที่ยว เป็นนักจัดทริป และเป็นคนชอบการผจญภัย คนที่มาหวานนวลคาเฟ่เลยจะไม่ได้กินแค่ขนมและชากาแฟ แต่ยังได้เสพเรื่องราวจากการเดินทาง และบางทีก็อาจได้ชิมประสบการณ์เหล่านั้นด้วย

ทริปท่องเที่ยวที่นวลแนะนำอาจถูกอ้างอิงมาจากเมล็ดกาแฟที่คุณกำลังดื่ม ถ้าคุณชมว่าขนมที่กินอยู่อร่อยมาก คุณอาจตกลงจองคลาสเรียนทำขนมกับนวลไปตั้งแต่ยังไม่ก้าวออกจากร้าน คนที่ร่วมโต๊ะอยู่กับคุณก็อาจกลายมาเป็นเพื่อนใหม่ต่างออฟฟิศ และเรื่องมันอาจเลยเถิดถ้าบังเอิญว่าชาหอมๆ แก้วนั้น หรือขนมถ้วยนั้นมันพาคุณไปรู้จักกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่อาจจะเปลี่ยนชีวิตคุณ 

“เคยมีคนมาที่นี่ คุยกันเรื่องเหล้าบ๊วย เลยเอาให้เขาชิม แล้วก็ชวนเขาไปทริปทำเหล้าบ๊วยด้วยเลย” นวลเล่าถึงการป้ายยาครั้งล่าสุดให้เราฟัง

หวานนวลคาเฟ่ คาเฟ่ขนมไทยตามใจตัวเองที่ตั้งใจจะไม่เปิดทุกวัน
หวานนวลคาเฟ่ คาเฟ่ขนมไทยตามใจตัวเองที่ตั้งใจจะไม่เปิดทุกวัน

05

ในวัย 56 ปีที่เข้าใจชีวิต นวลได้เรียนรู้ว่า ความเหนื่อยแต่สนุกยังน่าหลงใหลกว่าความสบายแต่น่าเบื่อ

นวลบอกว่าการทำคาเฟ่คนเดียวแบบนี้มันก็เหนื่อย การเตรียมวัตถุดิบ เตรียมเปิดร้าน รวมทั้งการเก็บล้างมันเรียกร้องกำลังวังชาอยู่ไม่น้อย

และแม้หวานนวลจะเปิดแค่เดือนละ 2 สัปดาห์ แต่ก็ไม่ได้โดนแยกไว้เป็นโลกอีกใบ ช่วงที่ไม่ได้เปิดร้านนวลก็สะสมวัตถุดิบ ทั้งประสบการณ์สนุกๆ ไอเดียทริปใหม่ๆ สูตรขนมเมนูพิเศษ หรือการสะสมเมล็ดกาแฟ เพื่อเอามาเสิร์ฟเมื่อเปิดร้านรอบถัดไป

นวลทำทั้งหมดนี้ควบคู่ไปกับการดูซีรีส์ อ่านหนังสือ ไปแฮงก์เอาต์กับเพื่อน ทำหนังสือ ทำโปรเจกต์เกี่ยวกับพื้นที่ที่เชียงดาว และอื่นๆ อีกมากมาย

นวลบอกว่าไม่ได้คิดว่ามันคืองาน แต่เธอมองว่าทั้งหมดคือสิ่งที่เธออยากทำ

“วันที่เปิดร้านก็ล้างจานมากหน่อย” นวลพยายามหาความแตกต่างของวันที่เปิดร้านกับวันอื่นๆ

หวานนวลคาเฟ่ คาเฟ่ขนมไทยตามใจตัวเองที่ตั้งใจจะไม่เปิดทุกวัน

06

คนในวัยเดียวกันอาจถูกงานที่นับวันความรับผิดชอบก็ยิ่งมากดูดเอาพลังและความหนุ่มสาวไปหมดสิ้น แต่นวลยังเริ่มธุรกิจใหม่ ยังกระฉับกระเฉง และยังมีตาที่เป็นประกายเวลาชักชวนคนให้ทำโน่นทำนี่ 

เธอบอกเคล็ดลับว่า “ต้องเตรียมตัวให้ดี”

ถ้าอยากจะใช้ชีวิตแบบตามใจตัวเอง อย่างแรกที่ต้องมีคือเงินเก็บที่มากพอจะดูแลตัวเองและเรื่องที่จะทำไปได้สัก 6 เดือน อย่างที่สองคือ ความอยากในระดับที่อะไรก็ฉุดไม่อยู่ และอย่างที่สามคือ ร่างกายที่แข็งแรง

“แล้วก็ควรจะมีมิตรนะ การมีสิ่งที่ทำแล้วมีความสุขและมีมิตรที่เข้าใจมันเป็นเรื่องที่ดีมาก” นวลกล่าว ก่อนจะชวนให้เรากินฟักทองสังขยาให้หมดก่อนจบการสนทนา

หวานนวล คาเฟ่
  • ซอยศึกษาวิทยา สีลม (แผนที่)
  • เปิด-ปิด 11.00 – 15.00 น. 
    (วันที่เปิดของแต่ละเดือนดูได้จากป้ายหน้าร้าน)

Writer

พิชญา อุทัยเจริญพงษ์

พิชญา อุทัยเจริญพงษ์

อดีตนักโฆษณาที่เปลี่ยนอาชีพมาเป็นนักเล่าเรื่องบนก้อนเมฆ เป็นนักดองหนังสือ ชอบดื่มกาแฟ และตั้งใจใช้ชีวิตวัยผู้ใหญ่ไปกับการสร้างสังคมที่ดีขึ้น

Photographer

มณีนุช บุญเรือง

มณีนุช บุญเรือง

ช่างภาพสาวประจำ The Cloud เป็นคนเชียงใหม่ ชอบแดดยามเช้า การเดินทาง และอเมริกาโน่ร้อนไม่น้ำตาล