ชุมชนชาวมุสลิมในกรุงเทพมหานครแบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มที่อพยพมาจากกรุงศรีอยุธยา ชุมชนมุสลิมริมคลองแสนแสบ และกลุ่มมุสลิมที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานในย่านชานพระนครใต้ บนแนวถนนเจริญกรุง เมื่ิอพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงมีพระราชดำริให้ตัดถนนอย่างตะวันตกขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2404 เพื่อให้ทัดเทียมต่างประเทศ ชาวมุสลิมต่างอพยพมาอาศัยหรือทำธุรกิจที่ย่านบางรัก ไม่ว่าจะเป็นชาวอินเดียที่เข้ามาขายผ้าหรืออัญมณี ชาวชวาเข้ามาต่อเรือหรือจัดสวน พวกเขาอาศัยอยู่ในย่านนี้มามากกว่า 100 ปี

เจริญกรุงเป็นย่านการค้าที่รุ่งเรืองสมชื่อถนน ในช่วงพัฒนาประเทศเข้าสู่ยุคใหม่ นอกจากปลูกตึกแถวแบบสิงคโปร์ ติดตั้งโคมไฟฟ้าริมทาง ตลอดเส้นทางนี้ยัังมีมัสยิดและกุโบร์ (สุสานมุสลิม) อยู่ใกล้ชิดกับวัดและโบสถ์ฝรั่งมาโดยตลอด แต่หลายคนอาจไม่เคยได้เข้าไปทำความรู้จักวิถีชีวิตแบบอิสลามใจกลางกรุงเทพฯ

เดือนพฤษภาคมนี้ตรงกับเดือนเราะมะฎอน เดือนแห่งการถือศีลอดของชาวมุสลิม ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาสำคัญประจำปีของศาสนาอิสลาม วาระนี้ The Cloud และเครื่องดื่ม 100PLUS ขอชวนทุกท่านไปเดินชมศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบอิสลามผ่านมัสยิดอายุ 100 กว่าปี กุโบร์ และอาคารเก่าย่านเจริญกรุง เพื่อทำความรู้จักความงาม ปรัชญา ขนบวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของชาวมุสลิมในย่านนี้

ศิลปะอิสลามไม่มีรูปเคารพหรือลายตัวแทนบุคคล แต่สะท้อน ‘อนันตภาพ’ (infinity) ของจักรวาล และ ‘เอกภาพ’ (unity) ของพระผู้เป็นเจ้า ผ่านลวดลายอักษรประดิษฐ์ (calligraphy) ลายเรขาคณิต (geometry) และลายอาหรับ (arabesque)

เราจะเริ่มทำความเข้าใจแนวคิดศิลปะนี้ที่สถาบันศิลปะอิสลามแห่งประเทศไทย ณ บ้านเขียว อดีตบ้านพักของอาจารย์ต่วน สุวรรณศาสน์ อดีตจุฬาราชมนตรีผู้แปลพระมหาคัมภีร์อัลกุรอ่านภาษาไทยฉบับพระราชทาน

มุสลิม

หลังจากนั้นวิทยากรจากสถาบันศิลปะอิสลามฯ อาจารย์วรพจน์ ไวยเวทา เลขานุการสถาบันศิลปะอิสลาม และอาจารย์สุนิติ จุฑามาศ นักวิจัยด้านโบราณคดีอิสลาม จะพาเราเข้าไปเยี่ยมมัสยิดฮารูณ ซึ่งตกแต่งด้วย calligraphy สไตล์ ‘มูซันนา’ (Musanna) สะท้อนปฐมบทคัมภีร์อัลกุรอ่าน 2 ด้านอย่างสมมาตร และเป็นมัสยิดของชุมชนมุสลิมหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งไทย เมียนมา ชวา อินเดีย ไปจนถึงแอฟริกา จากนั้นจึงไปเยี่ยมมัสยิดบ้านอู่ มัสยิดเก่าแก่ของย่านอู่ต่อเรือที่ขึ้นทะเบียนตามพระราชบัญญัติมัสยิดอิสลามเป็นแห่งแรกของประเทศไทย

มัสยิด

มัสยิด มัสยิด

ต่อไปเราจะไปมัสยิดยะวา มัสยิดหลังคา 2 ชั้นสไตล์ชวาที่มีกุโบร์สวยงามขนาดใหญ่ และมัสยิดดารุ้ลอาบิดิน หรือมัสยิดตรอกจันทน์ ตัวอาคารสไตล์ตะวันตกประดับด้วยกระเบื้องโมเสก สร้างโดยรองอำมาตย์ตรี เอ็ม.เอ.กาเซ็ม หรือกาเซ็ม-แปลน สถาปนิกมุสลิมชื่อดังในสมัยรัชกาลที่ 6

มัสยิด

กุโบร์

มัสยิด มัสยิด

จากนั้นเราจะเข้าชมอาคารลิเบีย ตึกคอนกรีตสไตล์อิสลามของมูลนิธิช่วยเหลือเด็กกำพร้าของสตรีไทยมุสลิมแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งได้รับทุนสร้างจากมูอัมมาร์ กัดดาฟี อดีตผู้นำประเทศลิเบีย ปิดท้ายด้วยมัสยิดบางอุทิศ มัสยิดเก่าแก่ที่รัฐบาลตุรกีร่วมลงทุนรีโนเวทเป็นสไตล์จักรวรรดิออตโตมันมุสลิม

มัสยิด มัสยิด

หมายเหตุ* ทริปนี้เราเปิดรับผู้ร่วมทริปโดยไม่จำกัดศาสนา มีข้อแม้ว่าต้องแต่งกายสุภาพมิดชิด เยี่ยมชมศาสนสถานด้วยความเคารพ และขอสงวนสิทธิ์ห้ามเข้ามัสยิดสำหรับสุภาพสตรีที่มีประจำเดือน

Walk with The Cloud 07

Islamic Art

วัน-เวลา

เวลา 08.30 – 18.00 น.

สถานที่

สถาบันศิลปะอิสลามแห่งประเทศไทย

จำนวนผู้เข้าร่วม

30 คน

ค่าใช้จ่าย

1,000 บาท

วิธีการสมัคร

  • กรอกใบสมัครเข้าร่วมกิจกรรมที่นี่
  • ปิดรับสมัคร วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤษภาคม 2561
  • ประกาศผลผู้ร่วมเดินทาง 30 คน วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม 2561
  • เราจะแจ้งรายละเอียดการโอนเงินและการเตรียมตัวให้ผู้ร่วมเดินทางทราบทางอีเมล
  • ชำระเงินค่าสมัคร 1,000 บาท ภายใน 12.00 น. ของวันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม 2561
  • ทีมงานจะคัดเลือกผู้เข้าร่วมจากความสนใจและความหลากหลาย ใครพลาดกิจกรรมนี้ก็ไม่ต้องเสียใจ รอติดตามสรุปเรื่องราวของกิจกรรมครั้งนี้ได้ในคอลัมน์ Walk with The Cloud บนเว็บไซต์ readthecloud.co หลังจบกิจกรรมได้เลย