วันนี้เป็นวันที่ 2 ของชีวิตในเกาะคิวชู ตามแผนการเดินทางวันนี้คือการไปเที่ยวที่เมือง Nagasaki (นางาซากิ) ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของคิวชู จุดมุ่งหมายวันนี้คือการนั่งรถไฟขบวนใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่กี่ปี นั่นคือรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็น (Shinkansen) สายใหม่ที่ชื่อว่า ‘Nishi Kyushu Shinkansen’ (นิชิคิวชูชินคันเซ็น) และรถไฟท่องเที่ยว ‘Two Stars 4047’ 

สำหรับคิวชูนั้น รถไฟท่องเที่ยวคือที่สุดของจุดขาย ความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยว อาหาร ธรรมชาติ ทำให้ JR Kyushu ผุดขบวนรถไฟแบบพิเศษที่พานักเดินทางไปสัมผัสประสบการณ์ต่าง ๆ ที่หลากหลายในแต่ละพื้นที่ และแน่นอนว่ารถไฟท่องเที่ยวแต่ละขบวนก็มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะรูปลักษณ์ภายนอก การตกแต่ง หรือแม้กระทั่งเรื่องเล่าของรถไฟขบวนนั้น ๆ โดยรถไฟท่องเที่ยวของคิวชูมีชื่อเก๋ ๆ ว่า ‘Design & Story Train’ เรียกสั้น ๆ ว่า D&S 

ตามโอตาคุรถไฟไปนางาซากิ นั่ง Two Stars 4047 รถไฟท่องเที่ยวขบวนใหม่แห่งเกาะคิวชู

อย่างที่บอกไป เขาตั้งชื่อมาว่า Design & Story ก็ต้องมีการออกแบบและเรื่องราวอยู่ในรถไฟเหล่านั้น ซึ่งรถไฟ D&S ของเจอาร์คิวชูผ่านการออกแบบจาก อาจารย์เอจิ มิโตะโอะกะ ซึ่งเป็นปรมาจารย์ด้านการออกแบบรถไฟที่มีชื่อเสียงและสรรสร้างรถไฟ D&S ทั่วเกาะคิวชู รวมถึงรถไฟชินคันเซ็น Tsubame ที่เป็นต้นตำรับของคิวชูอีกด้วย

อาจารย์เอจิสอดแทรกเอกลักษณ์และเรื่องราวต่าง ๆ ใส่ลงไปในรถไฟแต่ละขบวนได้อย่างยอดเยี่ยมและแยบยล รายละเอียดที่ปรากฏตั้งแต่สีสันภายนอกรถ ลวดลายบนพื้น ลายฉลุของไม้ หรือแม้กระทั่งผ้าหุ้มเบาะ เล่าเรื่องพื้นที่ที่รถไฟผ่าน ตำนานพื้นบ้าน ไปจนถึงเป็นการสื่อสารจากรถไฟที่พูดไม่ได้ไปสู่คนนั่งให้เข้าใจและเข้าถึงเรื่องราวผ่านการออกแบบที่ลึกซึ้ง 

ตามโอตาคุรถไฟไปนางาซากิ นั่ง Two Stars 4047 รถไฟท่องเที่ยวขบวนใหม่แห่งเกาะคิวชู

รถไฟ D&S ในญี่ปุ่นไม่ได้เริ่มต้นจากสถานีฮากาตะซึ่งเป็นสถานีหลักที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคคิวชูเพียงอย่างเดียว เจอาร์คิวชูเลือกกระจายรถไฟ D&S ออกไปตามเมืองใหญ่ต่าง ๆ เช่น Kumamoto (คุมาโมโตะ) Miyazaki (มิยาซากิ) นางาซากิ (Nagasaki) หรือแม้แต่ Kagoshima (คาโกชิมะ) เมืองทางใต้สุด เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการนั่งรถไฟเหล่านั้นได้เดินทางไปที่สถานีต้นทาง เพื่อท่องเที่ยวและใช้ชีวิตอยู่ในเมือง ๆ นั้นสักคืนหนึ่ง นอกจากเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นการกระจายรายได้ให้กับเมืองได้อีกด้วย

Two Stars 4047 มีเส้นทางวิ่งแปลกกว่าขบวนอื่น ๆ คือวิ่งเป็นวงกลมจากสถานี Takeo-Onsen ไป Nagasaki (นางาซากิ) แล้ววนกลับมาที่ Takeo-Onsen อีกครั้ง โดยเที่ยวไปและเที่ยวกลับวิ่งคนละเส้นทาง โดยขาไปหรือที่เรียกว่า Morning Route รถไฟวิ่งไปตามชายฝั่งด้านทิศตะวันออก ส่วนในช่วงบ่ายขบวน Two Stars จะวิ่งไปเส้นผ่านชายทะเลด้านทิศตะวันตก ซึ่งเราเลือกได้ว่าจะนั่งรอบเช้าหรือรอบบ่าย หรือจะนั่งทั้ง 2 รอบก็ได้ เพราะยังไงแล้ววิวสองข้างทางรวมถึงเส้นทางที่วิ่งก็ไม่ซ้ำกันอยู่แล้ว

ถ้านึกภาพไม่ออก ให้ทุกคนจินตนาการว่าทางรถไฟสายนี้เป็นหน้าปัดนาฬิกา

สถานี Takeo-Onsen อยู่ที่เลข 12

สถานี Nagasaki อยู่ที่เลข 6

รอบเช้า รถไฟจะวิ่งตามเข็มนาฬิกา จากเลข 12 ผ่านเลข 3 ไปสิ้นสุดที่เลข 6 จากนั้นก็จะรับผู้โดยสารเซตใหม่สำหรับรอบบ่าย วิ่งจากเลข 6 ผ่านเลข 9 ไปจบที่เลข 12 เป็นอันจบทริปใน 1 วัน

เราเลือกนั่งเส้นทางรอบบ่าย เพราะเป็นเส้นทางเลียบทะเลที่ยาวที่สุด ได้เห็นพระอาทิตย์ตกดิน ได้จอดที่สถานีประชิดทะเลดูแสงสีทองกระทบเกลียวคลื่น 

ถ้าเราจะนั่งรถไฟรอบบ่าย เราต้องไปตั้งต้นที่เมืองนางาซากิ 

การเดินทางจาก Hakata ต้องนั่งรถไฟหลายต่อหน่อย เริ่มต้นด้วยการนั่งรถด่วนที่ชื่อว่า Relay Kamome (รีเลย์คาโมเมะ) ไปลงที่สถานี Takeo-Onsen แล้วเปลี่ยนขบวนเป็นรถไฟชินคันเซ็นของสาย Nishi Kyushu Shinkansen (นิชิคิวชูชินคันเซ็น) เดินทางต่อไปสถานี Nagasaki 

ไอ้เจ้าชินคันเซ็นสายนี้นี่แหละคือความแปลกประหลาด 

ตามโอตาคุรถไฟไปนางาซากิ นั่ง Two Stars 4047 รถไฟท่องเที่ยวขบวนใหม่แห่งเกาะคิวชู

ตามที่เรารู้กันดีว่ารถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็นของญี่ปุ่นถือว่าเป็นรถไฟที่เชื่อมตั้งแต่ทางตอนเหนือของประเทศตั้งแต่เกาะฮอกไกโด ผ่านโตเกียว โอซาก้า ยาวลงไปถึงคาโกชิมะที่เกาะคิวชู มีสายแยกออกไปนิด ๆ หน่อย ๆ เป็นกิ่งจากสายหลักไป แต่สำหรับชินคันเซ็นเส้นที่วิ่งไปนางาซากิดันไม่เชื่อมต่อกับใครเลย มันเป็นรถไฟความเร็วสูงสายเอกเทศที่มีระยะสั้น ๆ จากสถานี Takeo-Onsen ไปปลายทางที่สถานี Nagasaki จะว่าไปแล้วก็เหมือนทางรถไฟสายมหาชัยของไทยเหมือนกัน ที่เราขึ้นจากหัวลำโพงไม่ได้ ต้องนั่งเรือข้ามฟากไปสถานีต้นทางที่วงเวียนใหญ่เท่านั้น เราก็เลยเรียกชื่อชินคันเซ็นสายนี้แบบติดตลกว่า ‘ชินคันเซ็นมหาชัย’ 

อย่างที่บอกไปว่าญี่ปุ่นเดินทางด้วยรถไฟง่ายมากกกกกก กด ก ไก่ ได้อย่าง Infinity แม้ว่าการเดินทางจะแบ่งออกเป็นท่อน ๆ แต่เขาคิดมาดีแล้วว่าจะทำยังไงให้เราเดินทางได้ Smooth as Silk ที่สุด ยิ่งเราถือ JR Kyushu Rail Pass ที่เป็นตั๋วแบบบุฟเฟต์ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ เพียงสอดบัตรผ่านประตูเข้าไปแค่ใบเดียวก็เดินทางได้อย่างสะดวกง่ายดาย 

Relay Kamome วิ่งออกจากสถานี Hakata ผ่านชนบททุ่งนาเขียวขจีชวนมองเพลิน ๆ เพียง 1 ชั่วโมงก็มาถึงสถานี Takeo-Onsen จากนั้นผู้โดยสารทุกหมู่เหล่าที่ต้องการไปนางาซากิก็ต้องเปลี่ยนขบวน โดยการเปลี่ยนขบวนไม่ได้ซับซ้อนเลย แค่ก้าวออกจากประตูรถไฟขบวนเดิมไปสู่ขบวนใหม่ที่จอดข้าง ๆ กันเท่านั้นเอง

ตามโอตาคุรถไฟไปนางาซากิ นั่ง Two Stars 4047 รถไฟท่องเที่ยวขบวนใหม่แห่งเกาะคิวชู

เส้นทาง Nishi Kyushu Shinkansen เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 23 กันยายน ปี 2022 รถไฟที่ใช้คือชินคันเซ็น รุ่น N700S ความยาว 6 ตู้ ใช้เวลาเดินทางจาก Takeo-Onsen ไป Nagasaki เพียง 30 กว่านาที ด้วยความเร็ว 260 กม. / ชม. มีชื่อขบวนรถที่แสนน่ารักว่า ‘Kamome’ 

Kamome แปลว่า นกนางนวล การออกแบบสีสันของ Kamome เรียกได้ว่ามีความลึกซึ้งสุด ๆ ตัวเรือนรถเป็นสีขาว พร้อมลายเส้นรูปนกกางปีก หากเราเดินไปดูหัวและท้ายรถ มองเห็นว่าส่วนล่างของตู้ใกล้กับล้อถูกทาเป็นแถบสีแดงเอาไว้ ด้านหน้าสุดของรถมีรูปสามเหลี่ยมกลับหัวเล็ก ๆ อยู่ตรงปลายสุดของจมูกรถไฟ เหนือฐานสามเหลี่ยมเป็นสันขึ้นมาครอบไฟหน้าทั้งสองดวง ถ้ามองเผิน ๆ มันก็แค่รถไฟสีขาว-แดงเท่านั้น แต่ถ้าพิจารณาอย่างละเอียด เจ้าชินคันเซ็น Kamome คือนกนางนวลในร่างรถไฟที่มีร่างกายสีขาวและช่วงล่างสีแดง

ไฟหน้า-ไฟท้าย คือดวงตาของนก ส่วนสันนูนที่ยาวจากไฟหน้าลงไปจนถึงสามเหลี่ยมสีดำปลายสุดของหน้ารถ คือจะงอยปากของเจ้านกนางนวลนั่นเอง เมื่อมอง Kamome วิ่งทะยานไปบนราง ภาพด้านหน้าไม่ได้ต่างอะไรกับนกนางนวลที่กำลังโฉบเฉวียนอยู่บนรางเหล็กเลย

จีเนียส

ตามโอตาคุรถไฟไปนางาซากิ นั่ง Two Stars 4047 รถไฟท่องเที่ยวขบวนใหม่แห่งเกาะคิวชู
ตามโอตาคุรถไฟไปนางาซากิ นั่ง Two Stars 4047 รถไฟท่องเที่ยวขบวนใหม่แห่งเกาะคิวชู

แต่นกสายนี้ไม่ได้บินเหนือทะเล มันมุดถ้ำเสียเป็นส่วนใหญ่ นับตั้งแต่เจ้านางนวลทะยานออกมาจากสถานีต้นทาง แทบไม่เห็นวิวอะไรเลยนอกจากความมืด แหงล่ะสิ เป้าประสงค์ของชินคันเซ็นสายนี้คือตัดระยะทางไปนางาซากิให้ใกล้ลง เส้นทางต้องตรงให้มากที่สุด และการเจาะอุโมงค์ก็เป็นทางออกนั้นในพื้นที่ที่กายภาพเป็นภูเขา จากความตั้งใจจะชมวิวก็เปลี่ยนเป็นการซ่อนตาดำแทน จนในอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา เจ้านางนวลก็จอดสนิทที่สถานี Nagasaki 

ตามโอตาคุรถไฟไปนางาซากิ นั่ง Two Stars 4047 รถไฟท่องเที่ยวขบวนใหม่แห่งเกาะคิวชู

เรามีเวลาประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนกลับมาขึ้นรถไฟ D&S ในรอบบ่าย จึงถือโอกาสทัศนศึกษานางาซากิสักเล็ก ๆ น้อย ๆ

เราคุ้นเคยชื่อเมืองนี้ในฐานะเป้าหมายการทิ้งระเบิดปรมาณูควบคู่กับเมืองฮิโรชิม่า ความน่าหดหู่ของสงครามและความสูญเสียเป็นบาดแผลที่ยิ่งใหญ่และฝังลึก ภาพของนางาซากิที่อยู่ข้างหน้าคือเมืองใหญ่ที่มีความทันสมัย และสอดแทรกความคลาสสิกของเมืองท่าไปในตัว ระบบขนส่งมวลชนไม่ได้มีแค่รถเมล์ แต่ยังมีรถราง (Tram) ทั้งรุ่นคลาสสิกพื้นไม้ และรุ่นโมเดิร์นทันสมัยวิ่งขวักไขว่รวมอยู่กับรถยนต์บนถนน จนเราเกิดคำถามว่า เขาจัดการจราจรกันยังไงนะ ไม่ให้รถรางกับรถยนต์มาจ๊ะเอ๋กัน 

ตามโอตาคุรถไฟไปนางาซากิ นั่ง Two Stars 4047 รถไฟท่องเที่ยวขบวนใหม่แห่งเกาะคิวชู

นางาซากิ หมายถึง แหลมที่ทอดยาว เมืองนี้เดิมทีเป็นหมู่บ้านชาวประมงขนาดเล็ก จนกระทั่งได้เริ่มติดต่อกับชาวโปรตุเกส การเข้ามาของชาติตะวันตกอย่างโปรตุเกสนั้นเป็นประโยชน์กับการค้าขายรวมถึงการเผยแผ่ศาสนาคริสต์ในเวลาต่อมา เราจึงพบเห็นศาสนสถานหรือแม้กระทั่งอาคารสไตล์ตะวันตกซุกซ่อนตัวอยู่ในเมืองนี้ และการติดต่อค้าขายกับต่างชาติ

จุดที่น่าสนใจคือสวนสาธารณะใกล้กับ Atomic Museum เป็นจุดศูนย์กลางที่ระเบิดปรมาณูลงมากระทบกับเมืองจนทำให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ปัจจุบันเป็นสวนสาธารณะที่มีอนุสรณ์และสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ ส่วนถ้าใครอยากเข้าไปดูพิพิธภัณฑ์ Atomic ก็ใช้เวลาเดินไม่นาน แต่ต้องขอเตือนก่อนว่า ถ้าคุณมีความอ่อนไหวด้านจิตใจ เนื้อหาภายในอาจสร้างความหดหู่ได้ง่าย ๆ เลยทีเดียว

กลับมาที่สถานี Nagasaki 

รถไฟสีขาวขลิบทองความยาว 3 คันจอดเทียบส่งเสียงหึ่ง ๆ อยู่ในชานชาลา นี่แหละคือรถไฟ D&S ขบวนที่มีชื่อว่า Two Stars 4047

Two Stars คือดวงดาว 2 ดวง หมายถึง เมืองซากะและนางาซากิที่รถไฟขบวนนี้วิ่งผ่าน

4047 จับแยกออกมา 2 รหัส คือ 40 และ 47 หมายถึงรถดีเซลราง KiHa 40 และ KiHa 47 ที่มารวมร่างกลายเป็นรถไฟขบวนนี้

ลายคลื่นน้ำ หมายถึง คลื่นในทะเลที่โอบล้อมนางาซากิและซากะเอาไว้ ซึ่งจุดขายของรถไฟขบวนนี้นอกจากการตกแต่งภายในที่สะสวยแล้ว ยังเป็นการวิ่งเลาะชายฝั่งในระยะทางที่มากพอให้เราเคลิบเคลิ้มกันได้  

ตามโอตาคุรถไฟไปนางาซากิ นั่ง Two Stars 4047 รถไฟท่องเที่ยวขบวนใหม่แห่งเกาะคิวชู
ตามโอตาคุรถไฟไปนางาซากิ นั่ง Two Stars 4047 รถไฟท่องเที่ยวขบวนใหม่แห่งเกาะคิวชู

ระหว่างที่รอประตูเปิดให้เข้ารถไฟ เราสังเกตเห็นนักท่องเที่ยวเดินขึ้นมาถ่ายรูป บางคนเหมือนมาจากชานชาลาอีกฝั่ง แค่มาถ่ายรูปแล้วก็ลงไป บางคนที่เพิ่งลงรถไฟมาก็ขอแวะมาแชะภาพก่อนแล้วก็ออกไป บางคนที่ดูเหมือนเป็นเพื่อนร่วมขบวนก็มารุมกันอยู่ตรงหัวขบวน เราว่าภาพแบบนี้ไม่ค่อยเกิดขึ้นกับรถไฟไทย ถ้าไม่ใช่ขบวนที่เป็นเอกลักษณ์จริง ๆ อย่างรถจักรไอน้ำหรือรถนำเที่ยวที่ใช้ KIHA 183 เหมือนที่ทุกคนรู้จักรถไฟขบวนนี้เป็นอย่างดี จนเหมือนดาราท่านหนึ่งที่เจอตัวเมื่อไหร่ต้องขอเข้าไปถ่ายรูปทันที

เสียงจิงเกิลบนชานชาลาดังขึ้นเป็นทำนอง ประตูรถไฟเปิดออกให้เหล่าผู้เดินทางกับ 4047 ก้าวเท้าเข้าไป ภายในรถตกแต่งด้วยไม้อย่างประณีต ไม่ได้ดูหรูหราแต่ดูคลาสสิกเสียเต็มประดา รายละเอียดต่าง ๆ บรรจงตกแต่งลงไปอย่างพิถีพิถัน โคมไฟบนเพดานเป็นแบบกระจกกลมเพื่อให้หวนระลึกถึงตู้รถไฟรุ่นโบราณ เบาะนั่งนุ่มนิ่มเย็บติดกับโครงเก้าอี้ที่ทำด้วยไม้สีน้ำตาลเงาวับ หน้าต่างประทับด้วยดาว 2 ดวงที่เมื่อโดนแสงแดดยามบ่ายจะทอดเงาลงมาบนเก้าอี้และผนัง 

นั่งรถไฟไปนางาซากิ นั่ง Two Stars 4047 รถไฟขบวนใหม่ที่จะพาไปพบทั้งธรรมชาติและวิถีชีวิตของผู้คนบนเกาะคิวชู
นั่งรถไฟไปนางาซากิ นั่ง Two Stars 4047 รถไฟขบวนใหม่ที่จะพาไปพบทั้งธรรมชาติและวิถีชีวิตของผู้คนบนเกาะคิวชู
นั่งรถไฟไปนางาซากิ นั่ง Two Stars 4047 รถไฟขบวนใหม่ที่จะพาไปพบทั้งธรรมชาติและวิถีชีวิตของผู้คนบนเกาะคิวชู

คันที่ 1 และ 3 เป็นรถสำหรับโดยสาร ตรงกลางเป็นที่นั่งหันหน้าออกไปด้านข้างพร้อมหน้าต่างบานใหญ่ที่ยาวตั้งแต่พื้นจรดเพดานให้ชมวิวอย่างชัดเจนและจุใจ พื้นที่ด้านหลังห้องขับเป็นที่นั่งสำหรับน้องหนู ส่วนคันกลางเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ใครต่อใครก็เข้ามานั่งได้พร้อมกับบาร์ขายของทานเล่น เครื่องดื่ม และของที่ระลึก เรามักเรียกตู้ส่วนกลางว่า ‘ซอยละลายทรัพย์’ เพราะเมื่อไหร่ที่เดินเข้ามา ย่อมมีเงินบินออกไป 

พนักงานสาวสองคนทำหน้าที่ตัวเองอย่างขะมักเขม้น พนักงานหญิงคนหนึ่งร่างสูง มีผมบ๊อบเป็นลอน ทำหน้าที่ขายของที่ระลึกและของทานเล่น เธอพูดภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่วและเสนอขายของที่ระลึกให้กับเนิร์ดรถไฟชาวไทยจนอยากกวาดทุกอย่างแล้วคิดเงินเดี๋ยวนั้นเลย ระหว่างนั้นพนักงานสาวอีกท่านก็เดินเข้าไปในห้องพนักงานและกล่าวคำต้อนรับในขณะที่รถไฟเคลื่อนตัวออกจากสถานี บอกคร่าว ๆ ว่า นี่คือขบวนอะไร จอดที่ไหน วิ่งไปทางไหน และปลายทางที่ไหน นอกจากนั้นเธอยังบอกอีกว่าตู้ส่วนกลางมีโปสต์การ์ดประจำขบวนนี้ให้เราได้แสตมป์ไว้สะสมกันด้วย

นั่งรถไฟไปนางาซากิ นั่ง Two Stars 4047 รถไฟขบวนใหม่ที่จะพาไปพบทั้งธรรมชาติและวิถีชีวิตของผู้คนบนเกาะคิวชู
นั่งรถไฟไปนางาซากิ นั่ง Two Stars 4047 รถไฟขบวนใหม่ที่จะพาไปพบทั้งธรรมชาติและวิถีชีวิตของผู้คนบนเกาะคิวชู

ไวเท่าใจคิด เรารีบถลาตัวกลับไปเอาพาสปอร์ตสะสมแสตมป์ที่หัวหน้าที่รักซื้อมาฝากจากญี่ปุ่น พาสปอร์ตเล่มนี้เอาไว้แสตมป์ตราประทับที่ระลึกตามสถานีและรถไฟต่าง ๆ ซึ่งคนญี่ปุ่นเรียกว่า ‘เอกิแสตมป์ (Eki Stamp)’ 

Two Stars 4047 วิ่งโดกเดกไปตามทางรถไฟที่หมอนรองรางยังเป็นไม้ รางเป็นหัวต่อมีเสียงดัง กึกกัก ๆๆ เป็นระยะตลอดเวลา ถ้าเอาตามความนิ่ม เราว่าทางรถไฟในไทยนิ่มกว่า วิวสองข้างทางยังเป็นหมู่บ้านและภูเขาอยู่

รถไฟขบวนนี้เกิดขึ้นมาได้เพราะ Nishi Kyushu Shinkansen เปิดให้บริการ จากเดิมรถไฟจาก Hakata ที่จะไปปลายทาง Nagasaki ต้องผ่านเส้นทางนี้เป็นประจำ ทั้งรถด่วน Kamome และรถ Seaside Liner แต่เมื่อชินคันเซ็นเปิด รอบขบวนของ Kamome จึงงดวิ่งเกือบทั้งหมด แล้วให้ผู้โดยสารใช้ชินคันเซ็นเดินทางแทน เมื่อความเจริญเข้ามาก็ย่อมมีผู้ได้รับผลกระทบ หมู่บ้านและเมืองที่อยู่ตามแนวเส้นทางรถไฟสาย Nagasaki Line และ Omura Line ขาดรถด่วนให้บริการโดยทันที ทำให้เจอาร์คิวชูต้องแก้เกมด้วยการเปิดรถไฟท่องเที่ยวให้ยังคงวิ่งไปตามเส้นทางเดิมที่ครั้งหนึ่งถูกครองเส้นทางด้วยรถด่วน Kamome และปรับเที่ยวรถท้องถิ่นระยะสั้นให้เหมาะสมยิ่งขึ้น 

พนักงานประจำรถเล่าให้ฟังว่า มันคือรถไฟขบวนเดียวกับ Hayato no Kaze ที่เคยวิ่งในเส้นทางจาก Kagoshima-Chuo ไป Yoshimatsu ซึ่งงดให้บริการไปในช่วงปี 2022 การเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยวหลังจากเปิด Nishi Kyushu Shinkansen ทำให้ Hayato no Kaze ถูกย้ายบ้านจากใต้มาสู่เหนือในฐานะรถไฟท่องเที่ยวขบวนใหม่ นั่นก็คือ Two Stars 4047 นั่นเอง

นั่งรถไฟไปนางาซากิ นั่ง Two Stars 4047 รถไฟขบวนใหม่ที่จะพาไปพบทั้งธรรมชาติและวิถีชีวิตของผู้คนบนเกาะคิวชู
ขบวนรถ D&S Hayato no Kaze ก่อนปรับปรุงเป็น Two Stars 4047

เสียงประกาศเป็นภาษาญี่ปุ่นดังขึ้นมาตามลำโพงอีกครั้ง น้องชายผู้โดยสารที่นั่งข้างเราลุกพรวดขึ้นมาเอากล้องจ่อไปที่หน้าต่าง ภาพที่เราเห็นคือท้องทะเลสีครามตัดกับท้องฟ้าใสผ่านหน้าต่างไป ถ้าเราไม่มองลงไปข้างล่าง เหมือนกับรถไฟขบวนนี้กำลังวิ่งอยู่บนทะเลยังไงอย่างนั้น ภาพของรถไฟลอยน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ลอยเข้ามาในหัว ต่างกันแค่เขื่อนป่าสักเป็นน้ำจืด ส่วนตอนนี้เป็นน้ำเค็ม

นั่งรถไฟไปนางาซากิ นั่ง Two Stars 4047 รถไฟขบวนใหม่ที่จะพาไปพบทั้งธรรมชาติและวิถีชีวิตของผู้คนบนเกาะคิวชู
นั่งรถไฟไปนางาซากิ นั่ง Two Stars 4047 รถไฟขบวนใหม่ที่จะพาไปพบทั้งธรรมชาติและวิถีชีวิตของผู้คนบนเกาะคิวชู

เราสละที่ข้างหน้าต่างให้เด็กชายที่ดูแล้วอายุไม่น่าเกิน 15 นั่งแทนเราไปเลย สักพักเริ่มสัมผัสได้ว่าเด็กคนนี้มีบางอย่างน่าจะเชื่อมโยงกับเราอย่างน่าประหลาดใจ และแน่นอน เซนส์มันบอก เราได้รับคำเฉลยว่าเจ้าเด็กชายที่ชื่อ ฮารุกิ คนนี้เป็นโอตาคุรถไฟเหมือนกับเรานี่เอง 

น้องฮารุกิพยายามสื่อสารกับเรา เขาเล่าว่ามาจากเมืองแถว ๆ โอซาก้า อยากมานั่งรถไฟที่คิวชูแล้วจะอยู่รอดูรถจักรไอน้ำ SL Hitoyoshi ในอีกไม่กี่วันหลังจากนี้อีกด้วย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้นั่งรถไฟสายนี้ (อ๋อ พี่ก็ครั้งแรกลูก) เขาตื่นเต้นมาก กำลังรอถึงสถานีที่จอดประชิดริมทะเล พูดยังไม่ทันจบ รถไฟก็เลี้ยวผ่านทะเลอีกครั้ง เป็นช่วงใหญ่ ๆ ที่ระยะทางมากพอให้เราถ่ายรูปได้อย่างหนำใจ

นั่งรถไฟไปนางาซากิ นั่ง Two Stars 4047 รถไฟขบวนใหม่ที่จะพาไปพบทั้งธรรมชาติและวิถีชีวิตของผู้คนบนเกาะคิวชู
นั่งรถไฟไปนางาซากิ นั่ง Two Stars 4047 รถไฟขบวนใหม่ที่จะพาไปพบทั้งธรรมชาติและวิถีชีวิตของผู้คนบนเกาะคิวชู

ชั่วโมงเศษ ๆ ผ่านไป Two Stars ก็มาจอดสนิทที่สถานี Chiwata ให้เราลงไปดูรถไฟริมทะเล ดูแสงอาทิตย์กระทบน้ำ และได้เลือกซื้อของจากชุมชนในย่านนั้น

เออ มันสวยจริง ๆ แล้วก็เป็นจุดที่เป็นสถานี ทะเล โค้ง และแสงแดดยามเย็นที่ลงตัวมาก อาคารสถานี Chiwata เป็นไม้สีคล้ำ ชานชาลาเล็กกะทัดรัดไม่มีหลังคา ถัดจากรถไฟที่จอดอยู่คือผนังกันคลื่นที่เรียกได้ว่ารถไฟจอดริมทะเลจริง ๆ มีร้านค้าเล็ก ๆ มีป้ายต้อนรับพวกเราจากขบวน Two Stars ขึงเอาไว้พร้อมขายผลิตภัณฑ์แบบบ้าน ๆ ที่น่าซื้อไปเสียทุกอย่าง ทั้งผลไม้ ขนม และชา 

เรามีเวลาที่นี่แค่เพียงไม่นาน เผอิญว่าช่วงที่เรามาเป็นฤดูใบไม้ผลิ พระอาทิตย์เลยตกช้า หากมาช่วงหน้าหนาว สถานีนี้คงเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินอย่างแน่แท้ 

นั่งรถไฟไปนางาซากิ นั่ง Two Stars 4047 รถไฟขบวนใหม่ที่จะพาไปพบทั้งธรรมชาติและวิถีชีวิตของผู้คนบนเกาะคิวชู

เสียงระฆังจากมือของพนักงานสาวดังเป็นจังหวะให้เรากลับไปบนขบวนรถอีกครั้ง และพร้อมเดินทางต่อไปกับแสงอาทิตย์อัสดง ระหว่างทาง เราเห็นการต้อนรับจากสารพัดคนที่ออกมาดูรถไฟ ทั้งยกกล้องถ่าย ทั้งโบกมือให้ เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเจอมาก่อนจริง ๆ อะไรทำให้รถไฟขบวนหนึ่งกลายเป็นจุดสนใจและเป็นสิ่งที่คนตั้งตารอ

พนักงานเล่าว่ารถไฟท่องเที่ยวก็เหมือนตัวแทนของคนจังหวัดนั้น เขามองเห็นตัวเอง มองเห็นชุมชน มีส่วนร่วมกับรถไฟขบวนนั้น หากรถไฟท่องเที่ยวไม่เดินทางมาถึงก็คงไม่ค่อยมีคนมาเที่ยว การโบกมือทักทายระหว่างที่รถไฟขบวนพิเศษเดินทางมาถึง คือการโอบรับนักท่องเที่ยวที่ดีที่สุดที่คนสองข้างทางพึงกระทำได้

นั่งรถไฟไปนางาซากิ นั่ง Two Stars 4047 รถไฟขบวนใหม่ที่จะพาไปพบทั้งธรรมชาติและวิถีชีวิตของผู้คนบนเกาะคิวชู

แสงอาทิตย์ค่อย ๆ คล้อยต่ำลง Two Stars 4047 เดินทางมาถึงสถานี Takeo-Onsen เราโบกมือลาพนักงานสาวผมลอน และรอบนชานชาลาจนรถไฟที่เก็บข้าวของเสร็จเรียบร้อยแล้วเคลื่อนตัวออกจากสถานีไปพักผ่อนรอนักท่องเที่ยวชุดใหม่ในวันรุ่งขึ้น ส่วนตัวเราเองก็ต้องเคลื่อนตัวออกจากสถานีนี้เช่นกัน รถด่วน Relay Kamome ขบวนสีขาวค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้ามาเพื่อรับคนจากชินคันเซ็น 

อากาศเย็นทำให้เรารีบเข้ารถไปให้เร็วที่สุด รถค่อย ๆ เคลื่อนออกจากชานชาลามุ่งหน้ากลับไป Hakata วิวเมืองค่อย ๆ ผ่านหน้าต่างไปเรื่อย ๆ เห็นทุ่งนา ชีวิตคนยามเย็น รถราที่วิ่งผ่านไปมา 

เราเริ่มเข้าใจแล้วว่า ‘การท่องเที่ยวจากบนรถไฟเป็นยังไง’

นั่งรถไฟไปนางาซากิ นั่ง Two Stars 4047 รถไฟขบวนใหม่ที่จะพาไปพบทั้งธรรมชาติและวิถีชีวิตของผู้คนบนเกาะคิวชู

เกร็ดท้ายขบวน

  1. แนะนำให้ซื้อบัตร IC Card ไว้ใช้งาน จะใช้จ่ายค่ารถรางหรือแม้กระทั่งตู้กดสินค้าอัตโนมัติได้อย่างสะดวก
  2. Two Stars 4047 ควรจองที่นั่งฝั่งซ้ายมือของขบวนรถ เพราะจะได้เห็นวิวทะเลอย่างเต็มตา
  3. Two Stars 4047 เป็นรถที่ต้องสำรองที่นั่ง ควรจองให้เสร็จตั้งแต่ประเทศไทยจะง่ายกว่าไปจองที่ญี่ปุ่น โดยเมื่อเราได้รหัส JR Kyushu Rail Pass มาแล้ว จองผ่านเว็บไซต์ได้เลย

Writer & Photographer

Avatar

วันวิสข์ เนียมปาน

มนุษย์ผู้มีรถไฟไทยเป็นเพื่อนสนิท และอยากแนะนำเพื่อนให้ชาวบ้านสนิทด้วย รักการเดินทางและชอบเดินเป็นชีวิตจิตใจ