ที่อาบาน่า (Havana) เมืองหลวงของประเทศคิวบา (Cuba) ประติมากรรม รูปหล่อ หรืออนุสาวรีย์อาจไม่ได้มีไว้สำหรับบุคคลสำคัญระดับท้าวพระยามหากษัตริย์เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ระลึกถึง แม้บุคคลนั้นจะเป็นเพียงคนเดินดินธรรมดา ๆ แต่หากเรื่องราวชีวิตของเขาเหล่านั้นดันไปสะกิด ‘โดน’ ต่อมอะไรสักต่อมหนึ่งของชาวอาบาน่า หรือ ‘โลส อาบาเนโรส‘ (Los Havaneros) แล้วล่ะก็ เขาจะไม่ปล่อยให้บุคคลผู้นั้นตายสาบสูญไปได้ง่าย ๆ

ในเมืองนี้จึงมีประติมากรรมที่ทำจากทองแดง หรือโลหะอื่นๆ ตั้งอยู่ตามที่ต่างๆ ทั่วเมืองเต็มไปหมด

บางที่….ไม่สังเกต ก็ไม่เจอ เพราะคุณพี่มาแบบเนียน ๆ

ลองไปสำรวจกับผมเลยดีกว่านะครับ

อาบาน่า อาบาน่า อาบาน่า อาบาน่า

1

ในบ่ายวันที่อากาศร้อน ๆ ถ้าหากได้หลบเปลวแดดไปดื่มด่ำไดกิรีรสละมุนที่ บาร์เอล ฟลอริดิต้า (El Floridita) ก็อย่าลืมหันเข้าหาบาร์แล้วดูทางมุมซ้ายมือนะครับ จะพบว่า ‘ปาป้า’ กำลังละเลียดไดกิรีอยู่กับพวกเราด้วย

สถิติผู้สั่งไดกิรีสูงสุด 12 แก้วในบ่ายวันเดียวคือปาป้า เออร์เนสต์ เฮมมิ่งเวย์ ผู้นี้ และเป็นสถิติที่วันนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถทำลายได้

เออร์เนสต์ เฮมมิ่งเวย์ (Ernest Hemingway) เป็นนักประพันธ์ผู้มีชื่อเสียงชาวอเมริกัน เจ้าของวรรณกรรมชั้นเอกของโลกมากมายอย่างเช่น The Sun Also Rises, Death in the Afternoon, A Farewell to Arms, For Whom the Bell Tolls รวมทั้ง The Old Man and the Sea ที่ทำให้เขาได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ และต่อมาก็ได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมในฐานะผู้สื่อข่าวสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

เฮมมิ่งเวย์ย้ายมาอาศัยอยู่ที่กรุงอาบาน่า ประเทศคิวบาตั้งแต่ ค.ศ. 1939 และใช้ชีวิตอยู่หลายปี พร้อมผลิตวรรณกรรมคุณภาพสู่ผู้อ่านอีกมากมาย คนท้องถิ่นต่างเรียกขานนักเขียนผู้นี้อย่างสนิทสนมว่า “ปาป้า” แม้ตัวจริงจะจากโลกนี้ไปแล้ว ชาวอาบาน่าก็พาร่างจำลองของปาป้าไปอยู่ในจุดที่เขาน่าจะโปรดปรานที่สุดคือที่เคาเตอร์บาร์

อาบาน่า

อาบาน่า

อาบาน่า

อาบาน่า

2

หากเดินต่อมาที่หน้าวิหารซานฟรานซิสโก เด อาซิส (San Francisco de Asís) จะมีรูปปั้นผู้ชายผมยาวเกาะแน่นเป็นสังกะตังหนวดเครารุงรังเดินหอบของพะรุงพะรังเต็มมือ มีตั้งแต่ดอกกุหลาบ ช้อนส้อม แอปเปิ้ล ส้ม ส่วนแขนของเขานั้นก็หนีบหนังสือพิมพ์หลายฉบับ เขาคือชายสติเสียที่ตระเวนไปทั่วจตุรัสหน้าวิหารแห่งนี้ในช่วง ค.ศ. 1950

ผู้คนขนานนามชายผู้นี้ว่า El Caballero de Paris (เอล กาบาเยโร เด ปารีส์) หรือ ‘สุภาพบุรุษแห่งปารีส’

ไม่มีใครทราบแน่นอนว่าเขาเป็นใครมาจากไหน แต่กิริยาของเขาช่างสุภาพอ่อนโยนประหนึ่งชายผู้กำเนิดในตระกูลขุนนางชั้นสูงของฝรั่งเศส ซึ่งขัดกับการแต่งตัวที่สกปรกรกรุงรัง เขาจะยื่นดอกไม้ให้ผู้หญิงที่เดินผ่านไปมาพร้อมจูบเบา ๆ ที่มือประหนึ่งว่าเธอเหล่านั้นคือสตรีผู้สูงศักดิ์จากราชสำนักแวร์ซาย ส่วนของที่เขาเก็บได้และหอบไปไหนต่อไหนด้วยเสมอนั้น เขาก็จะนำไปแลกอาหารจากคนทั่วอาบาน่าแทนการไปขอกินฟรีๆ

เขาชอบถกปรัชญาชีวิต การเมือง และศาสนาพร้อมกับทักทายผู้ที่สัญจรผ่านไปผ่านมาอย่างเป็นมิตร แม้ว่าจะดูบ้าบอ แต่ก็ไม่เคยทำร้ายใคร และเมื่อเขาตาย ศพของเขาก็ได้รับการฝังในวิหารซานฟรานซิสโก เด อาซิส แห่งนี้

‘สุภาพบุรุษแห่งปารีส‘ ดูจะโด่งดังมากทีเดียว เพราะทุกวันนี้ยังมีคนแต่งตัวเลียนแบบเขายืนเป็นหุ่นบ้าง ส่งจูบบ้าง ยื่นดอกไม้บ้างอยู่ทั่วไปในเมืองอาบาน่า

อาบาน่า

อาบาน่า

อาบาน่า

3

เดินต่อมาอีกไม่ไกลกันนัก เราจะพบรูปปั้นของหญิงสาวหน้าเศร้าที่ยืนอยู่หน้าโบสถ์ เด อานเฆล (Inglesia de Angel) เธอมีนามว่า เซซิเลีย บัลเดส (Cecilia Valdez)

นามสกุล ‘บัลเดส’ เป็นนามสกุลที่ทางการกำหนดให้กับผู้ที่เป็นกำพร้า แม้ไม่ได้เป็นพี่น้องกัน แต่ถ้าเกิดมาเป็นกำพร้าแล้วทุกคนจะใช้นามสกุลว่าบัลเดสเหมือนกันหมด

เรื่องราวของเธอเกิดขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 เมื่อคิวบายังเป็นเมืองขึ้นของจักรวรรดิสเปน เธอเป็นสาวผิวสีลูกผสมสแปนิช-แอฟริกันที่ตกหลุมรักหนุ่มสเปนเชื้อสายขุนนาง แม้ว่าเขาได้ร่างเธอไป แต่ใจจริงแล้วเขาไม่ได้รักเธอเลย เพราะในที่สุดเขาก็ไปแต่งงานกับสาวสเปนเชื้อสายขุนนางที่อยู่ในวรรณะเดียวกัน

ในวันแต่งงานของเขา เซซิเลียได้กระโดดจากหอระฆังลงมาตายตรงลานหน้าโบสถ์แห่งนี้

ตรงที่ที่มีรูปปั้นเธออยู่ ใบหน้าเธอดูเศร้ามาก ๆ

อาบาน่า

อาบาน่า

อาบาน่า

อาบาน่า

4

ถ้าออกจากเขตเมืองเก่าอาบาน่า (Vieja Havana หรือบีเอฆ่า อาบาน่า) ก็ขอให้แวะไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะในเขตเบดาโด (Vedado) เมื่อไปถึงแล้วก็อย่าลืมมองหาจอห์น เลนอน ( John Lennon) นะครับ เขานั่งเนียนๆ อยู่ตรงนั้น บนเก้าอี้เหล็กกลางสวนและกำลังรอคุณอยู่

จอห์น เลนนอน ไม่เคยมาอาบาน่าเลย แต่เพลง ‘Imagine’ ของเขาดังถล่มทลาย พร้อมกับกระพือไฟปฏิวัติให้ลุกโชนทั่วประเทศคิวบา

สิ่งที่ผมว่าน่ารักมาก ๆ คือคุณลุงท่านนึงที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของจอห์นจะมานั่งเป็นเพื่อนเขาทุกวัน หน้าที่ของคุณลุงคือดูแล ‘แว่นตา’ ให้เขา เวลาใครมาถ่ายรูป คุณลุงจะออกมา แล้วเอาแว่นตามาใส่ให้ทั้งจอห์นและผู้มาถ่ายภาพกับจอห์น มันเป็นแว่นตาทรงกลมดีไซน์เดียวกับที่เป็นเอกลักษณ์ของจอห์น เลนนอน นอกจากนี้คุณลุงจะเป็นช่างภาพให้ด้วย

ตรงพื้นปูนหน้ารูปปั้นจอห์นจะมีข้อความเขียนเป็นภาษาสเปนว่า
‘Diras que soy un senador pero no soy el unico’

(ดิราส เก๊ ซอย อุน เซนาดอร เปโระ โนะ ซอย เอล อูนิโกะ)

แปลว่า…

You may say I’m a dreamer, but I’m not the only one…

คุ้นไหมครับ…ประโยคนี้

หากมีโอกาสไปเที่ยวอาบาน่าแล้วล่ะก็ อย่าลืมดูรายละเอียดของเมืองแสนสวยแห่งนี้นะครับ ประติมากรรมเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ตามมุมต่าง ๆ พร้อมจะเผยเรื่องราวอันเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ทำให้เรารู้จักและเข้าใจความเป็นมาและเป็นไปของอาบาน่า ผมเชื่อว่าทุกเรื่องราวจะทำให้คุณหลงรักแบบถอนตัวไม่ขึ้นเลย…

อาบาน่า

ถ้าคุณมีประสบการณ์เดินทางแปลกใหม่จากการไปใช้ชีวิตในทั่วทุกมุมโลก เชิญส่งเรื่องราวของคุณพร้อมภาพถ่ายประกอบบทความ รูปถ่ายผู้เขียน ประวัติส่วนตัวผู้เขียน ที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อ และชื่อ Facebook มาที่อีเมล [email protected] ระบุหัวข้อว่า ‘ส่งต้นฉบับสำหรับคอลัมน์ Travelogue’

ถ้าผลงานของคุณได้ตีพิมพ์ลงในเว็บไซต์ เราจะมีสมุดบันทึกปกหนังเล่มสวยส่งให้เป็นที่ระลึกด้วยนะ

Writer & Photographer

Avatar

โลจน์ นันทิวัชรินทร์

หนุ่มเอเจนซี่โฆษณาผู้มีปรัชญาชีวิตว่า "ทำมาหาเที่ยว" เพราะเรื่องเที่ยวมาก่อนเรื่องกินเสมอ ชอบไปประเทศนอกแผนที่ที่ไม่ค่อยมีใครอยากไป เลยต้องเต็มใจเป็น solo backpacker Instagram : LODE_OAK