ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ อาเฮียที่ทำโรงงานสินค้าตกแต่งบ้าน ดีไซเนอร์ไม่ว่าจะสาขาไหน ถ้าพูดถึงงานมิลานแฟร์ รับรองว่ารู้จักกันทุกคน เพราะนอกจากเดือนเมษายนที่ผ่านมาจะมีงานแสดงสินค้าตกแต่งบ้านที่มีชื่อเสียงอย่าง BIG + BIH ในบ้านเราแล้ว ในช่วงเวลาเดียวกันยังมีงานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ระดับโลกอย่าง Milan Furniture Fair หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Milan Design Week จัดขึ้นอีกด้วย
แน่นอนว่ามิลานแฟร์ก็ต้องจัดกันที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี งานนี้ถือว่าเป็นงานแสดงสินค้าตกแต่งบ้านที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีเฟอร์นิเจอร์ทุกรูปแบบ ทุกประเภทที่คุณจะจินตนาการได้บนโลกรวมกันอยู่ที่นี่ สเกลของงานใหญ่ขนาดว่าเดินเช้าถึงเย็น 5 วันก็อาจจะยังไม่หมด จัดกันมาทุกปีจนจะครบปีที่ 60 อีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้แล้ว แถมไม่ได้จัดแค่ในห้องแสดงสินค้าที่มีพื้นที่ 2 แสนกว่าตารางเมตรเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายเขตในเมือง โชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ต่างพร้อมใจกันใช้ช่วงเวลานี้โชว์ของเจ๋งๆ เปิดบ้านให้คนจากทั่วโลกเข้าชมกัน ในขณะที่พื้นที่ว่างเปล่า อาทิ โกดังเก็บของ หรือร้านค้าที่ปล่อยร้าง ช่วงเวลานี้ก็ถูกจับจองทำพื้นที่แสดงงานของแบรนด์น้อยใหญ่และดีไซเนอร์หลากหลาย ใครไปก็เดินตามแผนที่แสดงงานซึ่งจะบอกว่ามีอะไรอยู่ที่ไหนบ้าง ขาก็ลากกันไป 9 โมงเช้าถึง 2 ทุ่มทุกวัน
ยอมรับว่าช่วงหลังผมไม่ค่อยได้ไปงานนี้ เพราะหันมาทำแบรนด์และต้องขายของในงานแฟร์ที่กรุงเทพฯ ในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ปีนี้ทนไม่ไหวต้องไปอัพเดตบ้าง ใครชอบงานออกแบบ ชอบของแต่งบ้าน ถึงแม้ไม่ได้ทำอาชีพที่เกี่ยวข้อง หากมีโอกาสได้ไปเดินเล่นก็คงตื่นตาตื่นใจ เพราะเราจะเห็นแบรนด์ระดับตำนานเอาของมาแสดงกัน แม้จะเป็นแบรนด์ที่ไม่ได้ทำธุรกิจด้านเฟอร์นิเจอร์ก็ตามที อาทิ LOUIS VUITTON จ้างนักออกแบบระดับโลกมาทำคอลเลกชันเฟอร์นิเจอร์ร่วมแสดง ส่วนค่ายรถยนต์สายฮิปอย่าง MINI Cooper ก็ทำนิทรรศการเจ๋งๆ ให้คนเข้าไปต่อคิวชมกันยาวเหยียด
ในส่วนของงานแสดงสินค้าหลัก พื้นที่แบ่งออกเป็น 20 ฮอลล์ ใครเคยไปเดินงานบ้านและสวนที่เมืองทองธานี ขนาดประมาณนั้นนับเป็น 1 ฮอลล์ของงานมิลานแฟร์เท่านั้น การแสดงสินค้าจะแบ่งตามรูปแบบเฟอร์นิเจอร์ โดยสินค้าดีไซน์กินพื้นที่สูงที่สุดถึง 10 ฮอลล์ บริษัทที่อยากไปแสดงสินค้าในงานนี้ต้องยอมจ่ายค่าพื้นที่สูงลิบลิ่ว พื้นที่ในงานแสดงสินค้าหลักขนาด 5 x 5 เมตร รวมค่าก่อสร้างแล้ว อาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายรวมเกือบ 7 หลัก แต่แค่เงินถึงก็ใช่ว่าจะเข้าได้ เพราะถ้าสินค้าไม่ได้ตามคุณภาพตามเกณฑ์เขาก็ไม่ให้จัดแสดงอีก ไฮไลต์ที่ผมคิดว่าควรไปชมให้ได้คือ ส่วนที่จัดไว้ด้านหลังสุดคู่กับออฟฟิศของเฟอร์นิเจอร์ SaloneSatellite มันเป็นโซนสำหรับนักออกแบบธรรมดา หรือนักศึกษาจบใหม่ หากฝีมือเข้าตาก็สามารถทำงานกับแบรนด์ระดับโลกได้
สารภาพตามตรงว่า ผมเดินจนข้อเท้าเจ็บก็ยังเดินไม่ทั่ว งานใหญ่มากจริงๆ สิ่งที่ทำผมหงายหลังคือ ปีนี้มีนิทรรศการเจ๋งๆ ที่เยอะจนมึนหัว ถ้าเป็นงานดีไซน์ ผมชอบงานของ Moooi ที่มี่หัวเรือใหญ่อย่าง Marcel Wanders (มาร์เซล แวนเดอร์ส) เขาปิดสตูโอให้คนต่อคิวยาวเหยียดเข้าไปสัมผัสบรรยากาศสุดยอดแห่งดัตช์ดีไซน์ ความเพี้ยน ความมัน ความไม่เข้ากันที่แสนจะเข้ากันของดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์แห่งยุค โดยมาร์เซล แวนเดอร์ส ยังทำให้บรรยากาศแบบ Moooi ถูกพูดถึงในช่วงมิลานดีไซน์วีกได้เสมอ
ปีนี้ มาร์เซล แวนเดอร์ส จับมือกับ Levon Biss (เลวอน บิสส์) ช่างภาพแมลงที่มีชื่อเสียงในระดับโลก ทำวอลเปเปอร์ขนาดยักษ์เป็นรูปชุดแมลงหายากจากพิพิธภัณฑ์ในอังกฤษ โดยใช้กล้องชนิดพิเศษถ่ายกันจนเห็นขนเห็นเส้นเลือด! น่าสนใจตรงที่รายละเอียดของภาพแมลง เมื่อรวมกับอินทีเรียแบบประหลาด อบอุ่น เร้าใจของ Moooi (ผมก็ไม่แน่ใจว่าความรู้สึกนี้จะเรียกรวมกันว่าอะไร) กลับทำให้งานตกแต่งภายในดูน่าสนใจและทรงพลังในรูปแบบที่ผมคิดว่าไม่มีใครกล้าเหมือน
อีกงานที่คิวยาวพอกันคือนิทรรศการของ nendo ที่คุณพี่โอกิ ซาโตะ และทีมงานขนพลังสร้างสรรค์แบบญี่ปุ่นที่เรียบง่ายและทรงพลังขนาดดีไซเนอร์มืออาชีพเห็นแล้วยังอ้าปากค้างมาปูเต็มตึกสีขาวกลางย่านสุดฮิปในเขต Brera (บรีร่า)
nendo จัดแสดงงานที่โชว์รูมของ Jil Sander (จิล แซนเดอร์) รวม 16 โปรเจกต์เข้าไว้ด้วยกันภายใต้คอนเซปต์ Invisible Outline ความสามารถของ nendo ที่ดีไซเนอร์ทราบกันดีคือการพลิกแพลง เล่นกับบริบทคุ้นเคยในรูปแบบใหม่ เล่าเรื่องง่ายๆ ให้น่าสนใจและทรงพลังแบบคาดไม่ถึง เช่น แจกันแมงกะพรุน (Jellyfish Vases) ที่ใช้แผ่นซิลิโคนรูปแจกันบางเฉียบหลายขนาดวางเรียงกันในตู้ปลา สร้างการเคลื่อนไหวของแจกันแต่ละใบด้วยฟองอากาศที่ถูกกำหนดปล่อยออกมาเป็นจังหวะ ใครเดินผ่านก็ต้องหยุดมอง สนใจในความประหลาดที่เรียบง่าย ประทับใจ ของ Installation ชิ้นน้อยอันนี้
มิลานเป็นดีไซน์แฟร์ที่สนุกที่สุดสำหรับผมที่เป็นนักออกแบบ เดินไปก็ใจเต้น ไฟลุกกับดีไซน์ระดับโลก เราเห็นการเติบโตของแบรนด์ เราเห็นการสร้างคุณค่า ความละเอียดที่อยู่ในตำนานแบบจับต้องได้ ในดีไซน์ผ่านช่วงมิลานแฟร์ ต้องยอมรับว่าการออกแบบเป็นวัฒนธรรมของอิตาลี เขาซีเรียสเรื่องนี้ งานฝีมืออยู่ในสายเลือด อยู่ในความคิด ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น พลังสร้างสรรค์ที่อยู่ในทุกอุตสาหกรรมทำให้ประเทศเติบโต ดีไซน์กลายเป็นสินค้าส่งออก ตั้งแต่อาหาร ของแต่งบ้าน ไปจนถึงแฟชั่นชั้นสูง
การเดินดีไซน์แฟร์เป็นเรื่องจำเป็นของดีไซเนอร์ เราจะเรียนรู้ว่าโลกของการออกแบบได้เดินทางไปถึงไหนผ่านการทำงานของเพื่อนร่วมสายวิชาชีพ ในภาพใหญ่เราเห็นพลังของงานออกแบบที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของประเทศ คุณภาพชีวิตประชากรที่มีดีไซน์อยู่ในชีวิตประจำวัน เราได้เห็นวิธีคิด เห็นเทคโนโลยี ที่ถูกรวมเข้ากับดีไซน์ใหม่ๆ เห็นมุมมองการทำธุรกิจของแบรนด์เล็กใหญ่มากมาย การเดินมิลานแฟร์และดีไซน์แฟร์อื่นๆ ทั่วโลกจะเป็นเชื้อเพลิงที่จะคอยช่วยเติมให้ไฟของดีไซเนอร์ยังคงลุกและพร้อมที่จะสร้างงานใหม่ๆ ให้กับวงการออกแบบ ความพิเศษคืออีก 3 ปีข้างหน้าถ้ามีโอกาสไปอีก ภาพของมิลานแฟร์อาจจะไม่เหมือนที่ผมเคยเห็นมาในปีนี้เลยก็ได้ เพราะในความเป็นจริงแล้วศาสตร์การดีไซน์มีการเปลี่ยนแปลงในทุกๆ วัน
ถ้าคุณมีประสบการณ์เดินทางแปลกใหม่จากการไปใช้ชีวิตในทั่วทุกมุมโลก เชิญส่งเรื่องราวของคุณพร้อมภาพถ่ายประกอบบทความ รูปถ่ายผู้เขียน ประวัติส่วนตัวผู้เขียน ที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อ และชื่อ Facebook มาที่อีเมล [email protected] ระบุหัวข้อว่า ‘ส่งต้นฉบับสำหรับคอลัมน์ Travelogue’
ถ้าผลงานของคุณได้ตีพิมพ์ลงในเว็บไซต์ เราจะมีสมุดบันทึกปกหนังเทียมเล่มสวยส่งให้เป็นที่ระลึกด้วยนะ