The Cloud x Macao Government Tourism Office
ถ้าไม่ไปเที่ยวตามแลนด์มาร์ก มาเก๊ายังมีที่ไหนให้เราไปได้อีกบ้าง?
สำหรับมนุษย์ที่ไม่ถนัดเสพสิ่งก่อสร้างสุดอลังการ และไม่สันทัดกันการท่องเที่ยวตามทัวร์สักเท่าไร จากการเดินลัดเลาะซอกซอยต่างๆ ในมาเก๊าด้วยตัวเองอยู่หลายวัน ทำให้เราค้นพบว่า มาเก๊าของเราคือเมืองเล็กน่ารักที่น่าชวนเพื่อนมาทำความรู้จักมากๆ เมืองหนึ่ง
เพราะมาเก๊าในมุมที่เราได้รู้จักคือเมืองที่สนใจศิลปะ มีความกลางเก่ากลางใหม่ของทั้งผู้คนและสถาปัตยกรรม และยังเป็นเมืองที่มีประชากรเป็นมิตรและเป็นนักทำกิจกรรมตัวยงอีกด้วย
ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา The Cloud และการท่องเที่ยวมาเก๊าประจำประเทศไทยจึงได้รับสมัครนักเดินทาง 5 คนไปทำความรู้จักกับมาเก๊าด้วยกัน จากอีเมลเกือบ 200 ฉบับที่ส่งเข้ามา ทำให้เราได้พบกับ 4 หนุ่มและ 1 สาวที่มีมุมมองน่าสนใจและเราอยากให้พวกเขาไปเก็บเรื่องราวมาฝากผู้อ่าน The Cloud ด้วยกัน
กำกับโดย Thirarat Phutthawong
คิว-กิตติคุณ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา และ สกาย-รัชชานนท์ อ้นเจริญ คือ 2 หนุ่มที่เพิ่งจบจากคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาหมาดๆ อัณณ์-ติณณ์ กายสอน น้องเล็กจากรั้วศิลปากร ที่แม้ว่าจะเพิ่งอยู่ปี 3 แต่ผลงานของเขาเนี้ยบเกินอายุไปมาก เบสท์-ธีรวีร์ สระสรง (TRAV) Freelance Videographer ที่ไม่ว่าจะถ่ายอะไรเราก็ประทับใจในมุมมองของเขาไปหมด และหญิงเดี่ยวคนสุดท้าย แพร-ฉัตรพร นิลธรรมชาติ เจ้าของผลงานหนังสือ KNOCK KNOCK, KANTO และเพจ Pair Notebook ที่เราเชื่อว่าเธอจะทำให้มาเก๊าน่ารักได้ในแบบของเธอ
มาดูกันว่า 10 สถานที่ และ 10 วิดีโอที่พวกเขาตั้งใจเก็บมาเล่าจะทำให้เรามองมาเก๊าเป็นแบบไหน
1. นั่งกระเช้าขึ้นไปมองมาเก๊าจากจุดสูงสุดของ Guia Fortress
กำกับโดย Ratchanon Oncharoen
สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นปอดของคนมาเก๊าและเป็นจุดชมวิวที่ทำให้เห็นมาเก๊ารอบด้านและกว้างที่สุด ที่นี่เป็นสวนที่มีพื้นที่กว้างมากจนสามารถรวมไว้ได้ทุกกิจกรรม เพราะมีทั้งพื้นที่ออกกำลังกายและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากที่นี่เคยเป็นฐานทัพของกองทัพโปรตุเกสมาก่อน จึงมีหลุมหลบภัยที่เคยใช้งานจริงซ่อนอยู่ใกล้กับป้อมปราการ แต่ปัจจุบันได้ถูกดัดแปลงให้เป็นห้องจัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ในอดีตและเก็บเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ไว้ให้คนเดินเขาได้เข้ามาชม
ถ้าใครมีเวลาในมาเก๊ามากพอจะเดินชมวิวเมืองมาเก๊าเพลินๆ แล้วเดินเทรกกิ้งขึ้นไปถึงยอดเขาก็ได้เช่นกัน แต่ถ้าไม่อยากเดินนานก็สามารถประหยัดเวลาด้วยการขึ้น Cable Car จากประตู Flora Park ขึ้นไปข้างบนได้นะ แม้ว่าระยะทางจะสั้นมากแต่ก็ยังตื่นเต้นกับวิวมุมสูงได้อยู่นะ
ที่อยู่: Travessa do Tunel
เวลาทำการ: เปิดทุกวัน 08.00 – 18.00
2. ชมงาน Installation Art ขนาดยักษ์และพักดูปลาที่ MGM Hotel
กำกับโดย Tin Guyson
มาเก๊าคือเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องความอลังการของขนาดและการตกแต่งโรงแรม แต่สิ่งที่ทำให้เราสนใจ MGM ไม่ใช่เหตุผลนั้น แต่เป็นเพราะที่นี่เนรมิตให้ Main Lobby เป็นพื้นที่ศิลปะขนาดยักษ์เพื่อดึงดูดคนภายนอกให้เข้ามาใช้พื้นที่ ภายในโถงกลางขนาดใหญ่ใต้ห้องกระจกใสที่เปิดรับแสงธรรมชาติจากดวงอาทิตย์ คือ Installation Art ที่สร้างสรรค์ขึ้นโดย Stephen Stefanou ศิลปิน Visual Design ที่ถนัดในการออกแบบพื้นที่ร่วมกับงานศิลปะ จะมีการเปลี่ยนธีมทุก 3 – 4 เดือนและทุกเทศกาลสำคัญ ถ้ามีโอกาสได้กลับมามาเก๊าอีกหลายครั้งก็แวะเข้ามาดูความเปลี่ยนแปลงของ MGM กันได้ ที่นี่เข้าฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย และไม่ต้องเป็นแขกของโรงแรมก็ได้ ส่วนกลางโถงคืออะควาเรียมขนาดกะทัดรัดที่มองเห็นปลาได้แบบ 360 องศา ถ้าไม่อยากพลาดดูโชว์ให้อาหารปลาต้องมาเวลา 15.00 น. นะ
ที่อยู่: MGM MACAU, Avenida Dr. Sun Yat Sen, NAPE, Macau
เวลาทำการ: เข้าชมฟรี 24 ชั่วโมง
3. ตามหาหนังสือพิมพ์โปรตุเกสฉบับแรกที่ Leal Senado
กำกับโดย TRAV
ถ้าผ่านมาย่านช้อปปิ้งกลางเมือง Senado Square จะเห็นตึกสไตล์บารอคสีขาวขนาดใหญ่อายุราว 400 ปีตั้งอยู่ตรงข้ามกับลานน้ำพุ ที่นี่ในอดีตเคยเป็นที่ทำการของรัฐบาลโปรตุเกส ปัจจุบันถูกใช้งานเป็นที่ประชุมของเทศบาลเมืองมาเก๊า และยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมข้างในได้วันที่ไม่มีการประชุม บริเวณชั้น 2 คือส่วนของห้องประชุมและห้องสมุดโบราณ ซึ่งถ้าหากไม่สังเกตดีๆ อาจจะหาห้องสมุดไม่เจอ เพราะทางเข้าต้องผ่านสำนักงานไปก่อน ภายในเก็บรวบรวมหนังสือโบราณและเอกสารสำคัญของทางการโปรตุเกสเอาไว้หลายร้อยปี มีตั้งแต่ช่วง ค.ศ. 1700 – 1950 คนรักสิ่งพิมพ์และหลงใหลในความเก่าต้องไม่พลาดมาดูหนังสือพิมพ์โปรตุเกสฉบับแรกที่นี่
ที่อยู่: Senado Square, Macao
เวลา: 13.00 – 21.00 น. (ปิดวันจันทร์และวันหยุดราชการ)
4. กินไอศครีมแซนด์วิชโบราณที่ Lai Kei Ice-Cream
กำกับโดย Pair Chatporn
ร้านไอศครีมโบราณอายุราว 77 ปีที่เปิดมาตั้งแต่ ค.ศ. 1940 ปัจจุบันดูแลโดยทายาทรุ่นที่ 3 คือ Ambert Kong Wong-tsan ภายในร้านจะพยายามรักษาความดั้งเดิมทุกอย่างเอาไว้ ทั้งการตกแต่ง แพ็กเกจจิ้ง รวมถึงคุณภาพของไอศครีมที่เคยเน้นวัตถุดิบคุณภาพและของสดใหม่ตามฤดูอย่างไรปัจจุบันก็ยังคงเดิม การันตีคุณภาพด้วยภาพอากงอาม่าที่เป็นคนรุ่นเก่าแวะเวียนเข้ามานั่งสวีตกันเหมือนสมัยหนุ่มสาวอย่างไม่ขาดสาย ภายในร้านยังมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ที่เก็บรวบรวมของสะสมเก่าๆ ที่เคยใช้จริงในอดีตเอาไว้ให้ชม เช่น แพ็กเกจจิ้งรุ่นเก่าที่ร้านเคยใช้ แม่พิมพ์ปั๊มนูนทำจากไม้ แผ่นฟิล์มที่ใช้โฆษณาไอศกรีมในโรงภาพยนตร์ และของอื่นๆ ที่เกิดในยุคเดียวกันกับร้านไอศครีม
ที่อยู่: G/F, 12 Avenida do Conselherio Ferrerira de Alemida R/C, Ferreira de Almeida
เวลาทำการ: 12.00 – 19.00 น.
ติดต่อ : +853 2837 5781
5. จิบกาแฟดีๆ และช้อปสินค้าดีไซน์เก๋ที่ Quarter Square
กำกับโดย Kittikun Seniwong Na Ayutthaya
ตึกแถวสีพาสเทล 3 ชั้นขนาดกะทัดรัดที่น่ารักแห่งนี้คือ Quarter Square Lifestyle Boutique & Espresso Bar ร้านกาแฟที่จำหน่ายสินค้าดีไซน์แห่งเดียวที่ตั้งอยู่ใกล้กับ Taipa Village และถนน Taipa Street Food สินค้าดีไซน์เก๋จากทั่วโลกมาจาก Alberto Chan เจ้าของผู้เป็นทั้งดีไซเนอร์และบาริสตา อัลเบอร์โต้เคยใช้ชีวิตในนิวยอร์กและรักงานดีไซน์อยู่แล้ว และอยากให้เห็นคนมาเก๊าได้เข้าถึงงานดีไซน์ใหม่ๆ มากขึ้น และมีพื้นที่ให้ออกจากบ้านมานั่งพูดคุยกันแบบสบายๆ จึงใช้กาแฟเพื่อเป็นตัวกลางในการเชื่อมคนให้เข้ามาในร้านเพื่อพบกับสินค้าดีไซน์เหล่านี้
แต่พระเอกคนสำคัญของร้านนี้กลับไม่ใช่สินค้าหรือกาแฟ แต่เป็น Copper สุนัข French Bulldog ของอัลเบอร์โต้ที่นั่งเฝ้าประจำอยู่หน้าประตูทุกวัน ถึงหน้าตาจะไม่รับแขกเท่าไรแต่จริงๆ แล้วค็อปเปอร์เป็นมิตรกับทุกคนมากนะ
ที่ตั้ง: 89 Largo Maia de Magalhães, Taipa
เวลาทำการ: 12.30 – 19.30 น. (ปิดวันอังคาร)
ติดต่อ: +853 2857 6914 / +853 6290 5138
6. Pin-to Livros&Musica ร้านหนังสือที่เป็นมิตรกับคนรักแมว
กำกับโดย TRAV
Pin-to Livros & Musica คือร้านหนังสือในมาเก๊าที่เราอยากแนะนำให้หนอนหนังสือแวะมา โดยเฉพาะคนรักแมวที่อยากทำความรู้จักกับแมวท้องถิ่นดูบ้าง แมวที่นี่เขายินดีต้อนรับนักอ่านกันอยู่แล้ว แม้ว่าที่นี่จะขายหนังสือภาษาจีนเป็นส่วนใหญ่เพราะกลุ่มเป้าหมายหลักคือคนท้องถิ่นมากกว่านักท่องเที่ยว แต่ก็ยังมีหนังสือภาพ หนังสือภาษาอังกฤษ และโฟโต้บุ๊ก ที่เราสามารถเข้าถึงได้ อีกทั้งยังมีมุมขายซีดีเพลงอินดี้ดีๆ ที่บางทีก็เลือกมาเปิดเพื่อสร้างบรรยากาศในร้าน และมีสินค้าดีไซน์จากศิลปินในละแวกมาเก๊า-ฮ่องกงมาวางขายด้วยนะ
ที่อยู่: 47 Victory Street
เวลาทำการ: 12.00 – 21.00 น.
ติดต่อ: +853 2833 0909
7. Macau Art Garden พื้นที่ที่พาศิลปะมาพบปะผู้คน
กำกับโดย Kittikun Seniwong Na Ayutthaya
ถ้าได้เดินตามตึกเก่าในมาเก๊าจะพบว่าที่นี่มีแกลเลอรี่เล็กๆ ปะปนอยู่แทบจะทุกย่าน Macau Art Garden ก็เป็นอาคารอีกหนึ่งหลังที่ถูกเปลี่ยนพื้นที่ทุกชั้นให้เป็นพื้นที่ศิลปะ ใช้จัดแสดงนิทรรศการ เป็นสถานที่พบปะของศิลปิน และยังเปิดให้คนทั่วไปเข้าไปใช้พื้นที่ร่วมกันได้อีกด้วย ตั้งแต่ชั้นหนึ่งถึงห้าจะถูกแบ่งเป็นห้องจัดแสดงนิทรรศการและจัดแสดงผลงานของศิลปินท้องถิ่นและศิลปินนานาชาติ ส่วนชั้นล่างเป็นร้านกาแฟบรรยากาศสบายๆ พร้อมมุมหนังสือศิลปะที่มักจะมีเด็กจากโรงเรียนข้างๆ มานั่งอ่านหนังสือทุกเย็น มีพื้นที่ขนาดเล็กที่ขายงานศิลปะและสินค้าสร้างสรรค์อื่นๆ เป็นพื้นที่ที่พางานศิลปะมาพบปะกับมาเก๊าทุกเพศทุกวัย
ที่อยุ่: 265 Avenida do Dr. Rodrigo Rodrigues
เวลาทำการ: 11.00 – 19.00 น. (ปิดวันจันทร์และวันหยุดราชการ)
ติดต่อ: +853 2852 0034
8. Chakra Space อาหารมังสวิรัตจานพิเศษที่ไม่รู้หน้าตาอาหารก่อนได้กิน
กำกับโดย Pair Chatporn
Chakra Space คือร้านอาหารมังสวิรัติที่คอนเซปต์จัดจ้านเกินรสชาติอาหารไปมาก ที่นี่เป็นร้าน 2 ชั้นขนาดเล็กที่ค่อนข้างลึกลับ เพราะอยู่ในซอยเล็กที่ติดกับย่านที่พักอาศัยจนหาแทบไม่เจอ และขนาดร้านกะทัดรัดจนจุคนได้ประมาณ 20 คนเท่านั้น ยิ่งช่วงมื้อเที่ยงมีลูกค้าเข้ามาจนร้านแน่นตลอด
Sio Meng เจ้าของร้านที่มาพร้อมกับรอยสักที่มีเรื่องราวบอกว่า ความตั้งใจแรกของเขาคืออยากให้การกินอาหารเพื่อสุขภาพเป็นเทรนด์ใหม่ในมาเก๊า จึงเพิ่มความสนุกในการสั่งอาหารด้วยการเปลี่ยนเมนูทุกวัน ถ้าอยากลุ้นว่าวันนี้จะได้กินอะไรต้องสั่ง ‘Meal of the day’ จะได้เป็นเซ็ตอาหาร ข้าว + กับ 3 อย่าง + เครื่องดื่ม 1 ชนิด แต่ลูกค้าจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเมนูวันนั้นเขาจะทำอะไรให้กิน สำหรับคนที่ไม่อยากกินมื้อหนักที่นี่ก็มีเค้ก กาแฟและชาอีกหลายเมนูให้ลองชิม
ที่อยู่: Calcada da Barra
เวลาทำการ: 12.30 – 18.00 น. และ 19.00 – 22.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)
ติดต่อ: +853 6677 8669
เว็บไซต์ : www.facebook.com/octaspace1/
9. Cinematheque-Passion โรงหนังแห่งใหม่ที่ซ่อนตัวอยู่ใกล้ข้าง Love Street
กำกับโดย Tin Guyson
Love Street คือสถานที่ถ่ายภาพเวดดิ้งที่คู่รักนิยมมากที่สุดในมาเก๊า แต่น้อยคนนักที่จะสังเกตเห็นว่าตึกสีชมพูเหลืองเล็กๆ ตรงนี้คือ Cinematheque-Passion โรงหนังท้องถิ่นแห่งใหม่ล่าสุดในมาเก๊าที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา อาคารมัลติฟังก์ชัน 3 ชั้นหลังนี้เป็นสถานที่ที่รวมทุกอย่างเกี่ยวกับภาพยนตร์ มีการฉายภาพยนตร์จากทั้งในและต่างประเทศ จัดเก็บวิดีโอในท้องถิ่น รวมทั้งวารสารภาพยนตร์ และบริการหนังสือเกี่ยวกับภาพยนตร์ด้วยนะ
พอเจ้าหน้าที่รู้ว่าเรามาจากประเทศไทยก็รีบบอกทันทีว่าภาพยนตร์เรื่อง ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ ของเต๋อ นวพล ดังสุดๆ ในมาเก๊า ขายตั๋ว Sold Out กันทุกรอบเลย แถมให้โบรชัวร์เรามาเป็นที่ระลึกซะด้วย
ที่อยู่: Travessa da Paixão No. 13
ติดต่อ: +853 2852 2585
เวลาทำการ: Ticket Office 11.00 – 23.30 น. / Film Information Room 10.00 – 20.00 น. (ปิดวันจันทร์)
เว็บไซต์: www.cinematheque-passion.mo
10. ชิมชาที่ชงด้วยใจที่ Tealosophy Tea Bar
กำกับโดย Ratchanon Oncharoen
Tealosophy Tea Bar ร้านชาแห่งเดียวในมาเก๊าที่ใช้ใบชาคุณภาพสูงและเครื่องชาชั้นดี ทำให้เราได้ดื่มด่ำกับรสชาติดั้งเดิมของชาญี่ปุ่นจากชาใบชาแท้ๆ ที่นำเข้าจากเกียวโตและจีน แถมยังมีขนมหวานเล็กๆ ที่กินคู่กับชาอย่างเยลลี่และพุดดิ้งที่ทำในปริมาณจำกัดในแต่ละวัน แค่ได้เข้าดูความพิถีพิถันในการชงชาของ Justin เจ้าของซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่หลงใหลในการชงชามากถึงขั้นไปร่ำเรียนวิชาที่ญี่ปุ่นก็ตื่นเต้นแล้วล่ะ เพราะเขาเป็น Tea Master เพียงไม่กี่คนในมาเก๊าที่ได้ใบรับรองการชงชา
แอบบอกว่าแก้วชาที่นี่มีกิมมิกเล็กๆ ที่น่ารัก ข้างแก้วสีขาวจะมีกลอนรักภาษาจีนที่แปลแล้วหวานเลี่ยนจนชวนเขินอยู่ไม่น้อย ถ้าไปชิมชาที่นี่อย่าลืมถามความหมายข้างแก้วชาจากที่ร้านด้วยนะ
ที่อยู่: Edificio Sam Long, 地下 B 舖, 3 Rotunda de Carlos da Maia
เวลาทำการ: 11.00 – 23.00 น.
ติดต่อ: +853 2821 1271
เว็บไซต์: www.facebook.com/pg/tealosophyteabar
10 สถานที่ Hidden Place ที่เราเลือกมาอาจจะหายากไปบ้าง เพราะบางร้านก็เล็กและลึกลับมากจนเราเดินหาอยู่หลายรอบเหมือนกัน แต่รับรองว่าถ้าไปถึงแล้วจะได้ทำความรู้จักกับมาเก๊าในมุมใหม่ที่ต่างไปจากทุกภาพที่เคยเห็นอย่างแน่นอน
ถ้าไปถึงมาเก๊าแล้วไม่ลองไปเดินหลงหรืองงไปกับซอกซอยเล็กๆ ดูบ้าง ก็คงเหมือนยังไม่ได้มาสัมผัสกับบ้านเมืองมาเก๊าจริงๆ
ถ้าไป Experience Macao กันแล้วแล้วอย่าลืมกลับมาเล่าให้เราฟังบ้างนะ : )