เมื่อเกือบสิบปีก่อน ผมเป็นเพียงเด็กหนุ่มวัยต้น 30 ในโลกใหม่ในแอฟริกาตะวันออกที่อ่อนต่อโลก มีแต่ความมุทะลุ กระหายกับการผจญภัยแบบบ้าๆ มีแต่ความปรารถนาที่จะค้นหาเรื่องไม่เป็นเรื่อง มีแต่ความกระเหี้ยนกระหือรือที่จะเอาชนะ นั่นคือตัวตนที่ไร้เดียงสา แม้เพียรจะแสวงหาความจริงของชีวิต และเพรียกหาความฝันที่วันนี้เมื่อสิบปีผ่านไปก็พบว่าไม่มีวันเป็นจริง
ในคราบของเด็กหนุ่มคนนั้น เป็นครั้งแรกที่ผมได้รู้จักกับ งานศิลปะ Tingatinga ที่เป็นตัวแทนของแอฟริกาตะวันออก เป็นประตูเปิดโลกทำให้ได้เข้าใจและรู้จักแอฟริกาในการรับรู้ใหม่ เป็นหน้าต่างที่ช่วยให้มองเห็นความงามและเสน่ห์ของความเรียบง่าย และความสูงส่งของการไม่รู้ไม่เห็นโลกภายนอก
งานศิลปะ Tingatinga ที่ผมรู้จักในวันนั้นเมื่อสิบปีก่อน และผลงานศิลปะในแนว Tingatinga ราว 100 ชิ้นที่ส่วนหนึ่งนำมาแปะไว้และอีกส่วนหนึ่งกองระเกะระกะไว้ที่บ้านที่กรุงเทพฯ ในวันนี้ ชวนให้นึกย้อนถึงเรื่องราวที่ผ่านมา เรื่องราวที่ทำให้ผมได้รู้จักแอฟริกาตะวันออกอย่างที่เป็นผ่านงานศิลปะในรูปแบบนี้
ภาพเขียนสัตว์และชีวิตท้องถิ่นของชาวบ้านในแอฟริกาแบบง่ายๆ ด้วยสีน้ำมันที่หาได้จากร้านขายวัสดุก่อสร้างทั่วเมืองบนแผ่นไม้สี่เหลี่ยมจัตุรัสเก่า ภาพวาดที่ชวนให้ชาวต่างชาตินำไปทำเป็นตัวการ์ตูนแอนิเมชันสำหรับเด็กในชื่อ Tinga Tinga Tales ที่ฉายผ่านสถานีโทรทัศน์ BBC ของอังกฤษ
ภาพวาดคล้ายเด็กเขียนจากศิลปินผู้ที่ไม่เคยเข้าโรงเรียนศิลปะ หรือมีทักษะการวาดภาพตามทฤษฎีองค์ประกอบศิลป์ใดๆ เหล่านี้กลับทำให้ผมในวันนั้นที่ยังอ่อนหัดและอ่อนเยาว์เกิดความรู้สึกหัวใจฟูฟ่องไปด้วยความหวังและความปรารถนาในผืนดินแห่งใหม่ที่ผมเพิ่งรู้จักและกำลังตื่นตาตื่นใจ
1
หมุนเวลากลับไปใน ค.ศ. 2012 หน้าที่การงานทำให้ผมได้เดินทางมายังเมืองดาร์ เอส ซาลาม (Dar es Salaam) อดีตเมืองหลวงของแทนซาเนีย และเมืองท่าแห่งใหญ่ของแอฟริกาฝั่งตะวันออกในประเทศแทนซาเนีย ย่าน Oyster Bay ซึ่งเป็นเขตที่เต็มไปด้วยสถานทูต ห้างสรรพสินค้าสมัยใหม่ บ้านพักของคนชาวต่างชาติและคนมีสตางค์ การเดินทางมาทำงานต่างเมืองเช่นนั้น คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่มาพัก ขลุกตัวอยู่ในย่านแบบนี้ จะเดินทางหรือติดต่อผู้คนและทางการก็เป็นไปได้สะดวก แถมปลอดภัยและมีชีวิตสะดวกสบายอย่างที่เป็น
ที่ Oyster Bay ใจกลางเมือง Dar es Salaam แห่งนี้เองถือเป็นจุดเริ่มของ งานศิลปะ Tingatinga ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นศิลปะแขนงหนึ่งของศิลปะสมัยใหม่ที่มีจุดเริ่มต้นในแอฟริกา และที่นี่เป็นที่ที่ทำให้ผมได้รู้จักกับ งานศิลปะTingatinga ผู้ริเริ่มวาดรูปในแนวนี้คือ Edward Saidi Tingatinga คนบ้านนอกจากเผ่า Makua จากจังหวัดทางใต้สุดของแทนซาเนียติดกับประเทศโมซัมบิก
ไม่แตกต่างจากคนอื่นในวัยหนุ่ม เขาเข้ามาหางานทำในเมือง Dar es Salaam เพื่อหางานรับจ้างตั้งแต่เป็นคนขายของ คนสวน รับรายได้รายวันไม่มาก จนกระทั่งโชคชะตาทำให้เขาได้งานเป็นผู้ช่วยในห้องแล็บของโรงพยาบาลในเมือง Dar es Salaam ผ่านการแนะนำของสมาชิกกลุ่มดนตรีพื้นถิ่นของเผ่าของเขา ที่เขาเป็นนักระนาดไม้ท้องถิ่นมือฉมัง
เมื่อการงานเข้าที่เข้าทางแล้ว E.S. Tingatinga ก็เริ่มเขียนรูปสัตว์ตัวเดียวบนแผ่นไม้อัดขนาดราว 60 x 60 เซนติเมตร ที่เป็นของเขาที่ใช้เป็นแผ่นฝ้าเพดาน ว่ากันว่าภาพสัตว์คล้ายเด็กเขียนแบบนี้ได้รับอิทธิพลมาจากภาพวาดบนกำแพงของชาว Makua ที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของประเทศแทนซาเนียและทางเหนือของประเทศโมซัมบิก แล้วเขาก็ให้ภรรยานำไปเร่ขายให้ชาวต่างชาติริมถนนในย่าน Oyster Bay
แม้ตัวเขาเองก็อาจไม่เชื่อว่าภาพวาดของตัวเองจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ว่ากันว่าภาพที่ E.S. Tingatinga นำมาเร่ขายนี้เป็นที่นิยมในหมู่ชาวเดนมาร์ก ฟินแลนด์ นอร์เวย์ และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมาทำงานสถานทูตหรือในองค์กรทั้งของรัฐและเอกชนที่ให้ความช่วยเหลือ งานลักษณะนี้คงถูกจริต เพราะเป็นงานเรียบง่าย แสดงถึงเอกลักษณ์ความเป็นแอฟริกา ทำให้เห็นเรื่องราวของชนบท ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาโหยหาและต้องการเก็บไว้เป็นที่ระลึกว่าได้เคยมาทำงานในแอฟริกาแล้ว ทูตสวิตฯ ในแทนซาเนียในตอนนั้น ชอบภาพของ E.S. Tingatinga มาก เลยซื้อมาประดับสถานทูตไว้เป็นร้อยภาพ ซึ่งต่อมาได้เป็นงานศิลปะและทรัพย์สินอันมีค่าของรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ ในภายหลังได้ย้ายภาพเหล่านั้นไปเป็นสมบัติของชาติและนำไปเก็บไว้อย่างดี
เมื่อขายดีเช่นนี้ E.S. Tingatinga จึงเริ่มชักชวนญาติๆ และคนจากบ้านเดียวกันมาวาดภาพ คล้ายเป็นโรงงานผลิตภาพวาดเพื่อนำไปขาย และมีการทำซ้ำภาพที่ขายดีซ้ำๆ กันหลายภาพ แล้วก็เซ็นชื่อ E.S. Tingatinga แบบเดียวกันหมด เคยมีแกลเลอลิสต์ชาวสวิตฯ ถึงกับพยายามศึกษาและแกะลายเซ็นที่ปรากฏในภาพเหล่านั้นว่า แบบไหนถึงจะเป็นภาพวาดที่ลงชื่อด้วยตัว E.S. Tingatinga ของจริงกันแน่
น่าเสียดาย ที่ E.S. Tingatinga ผู้นี้ได้โลดแล่นในวงการศิลป์ได้เพียงไม่นาน จนในเย็นวันหนึ่งใน ค.ศ. 1972 เขาก็ถูกตำรวจยิงและตายระหว่างทางไปโรงพยาบาล ผลการสอบสวนว่าเป็นความเข้าใจผิดว่าเขาและเพื่อนที่เขายืมรถโฟล์กมาขับเล่นเป็นโจรคนร้ายที่กำลังพยายามหนีตำรวจ
ชีวิตของ E.S. Tingatinga ในแวดวงศิลปะเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ เพียงไม่ถึง 4 ปี ตั้งแต่ที่เขาเริ่มขายภาพวาดของเขาครั้งแรกใน ค.ศ. 1968 จนกระทั่งถึง ค.ศ. 1972 ที่เขาเสียชีวิต แต่สิ่งที่เขาเริ่มไว้ก็ยังยืนยาวมาจนถึงทุกวันนี้
2
งานศิลปะแบบ Tingatinga เป็นหนึ่งในของที่ระลึกที่เห็นได้ทุกที่ในแอฟริกาตะวันออก โดยเฉพาะในแทนซาเนียและเคนยา ในเมือง Dar es Salaam มีสหกรณ์ Tingatinga เป็นจุดท่องเที่ยวที่ชาวต่างชาติไม่เคยพลาด ภาพวาดแบบ Tingatinga ยังมีอยู่ แต่ก็ได้เปลี่ยนรูปแบบและสไตล์ไปจากในยุคเริ่มแรก จากเดินที่วาดบนแผ่นไม้ ก็เปลี่ยนมาวาดบนผืนผ้าแคนวาส เพราะหาได้ง่ายและสะดวกกับชาวต่างชาติที่จะม้วนและขนขึ้นเครื่องบินกลับไปเป็นที่ระลึก
ในวันนั้น ผมก็ไม่แตกต่างจากชาวต่างชาติคนอื่นที่หาซื้อภาพ Tingatinga กลับไปเป็นที่ระลึกเหมือนกับคนอื่นๆ แต่ก็ด้วยความบังเอิญหรือความโชคดี เพราะกระตือรือร้นบนความหวังว่าจะได้เห็นและครอบครองภาพ Tingatinga ในยุคเริ่มแรก
ในเวลาว่างหลังจากทำงานเสร็จแล้ว ผมกับเพื่อนที่สถานทูตซึ่งเดินทางไปทำงานด้วยกันที่เมือง Dar es Salaam ชวนกันไปดูแกลเลอรี่ท้องถิ่น ร้านขายงานศิลปะท้องถิ่นที่มีเจ้าของเป็นคนแทนซาเนียเชื้อสายอินเดีย ได้ข้อมูลว่าในสมัยก่อนแกลเลอรี่แห่งนี้มีชื่อเสียงมาก และเป็นที่ที่ศิลปินท้องถิ่นนำผลงานมาฝากขายเป็นประจำ แต่ในวันนั้นเมื่อสิบปีก่อนที่ผมแวะเข้าไปเยี่ยมเยียน กลับเห็นเจ้าของร้านในวัยชรานั่งกันอยู่เหงาๆ ในร้านที่ไม่เหลือคราบของความรุ่งเรืองในอดีต
ผมและเพื่อนไปถึงด้วยความผิดหวัง ในความผิดหวังเต็มไปด้วยความสงสัย ผมคุยกับเจ้าของร้านที่เป็นสุภาพสตรีในวัยสูงอายุที่กำลังนั่งหงอยถึงภาพ Tingatinga ที่ผมกำลังตามหา เธอพยักหน้าเหมือนจะเข้าใจ หยุดพักคิดสักครู่ ก่อนค่อยๆ ลุกออกจากโต๊ะทำงานที่นั่งประจำ เปิดประตูเข้าไปในห้องเก็บของหลังร้าน แล้วชี้มือไปมุมห้องเก็บของมืดๆ
กองแผ่นไม้ซ้อนกัน ฝุ่นคลั่ก ผมถลาตัวไปที่กองแผ่นไม้นั้น เพราะรู้ว่าเธอน่าจะหมายถึงภาพเขียน Tingatinga ที่ผมกำลังตามหาอยู่ ตอนนั้นฝุ่นคลุ้งไปทั่ว ผมค่อยๆ ใช้มือพลิกแผ่นไม้นั้นไปทีละแผ่น เห็นได้ชัดและรู้ทันทีว่านี่คืองาน Tingatinga ในยุคแรก เวลาเหมือนหยุดชะงักไว้ตรงนั้น ชัยชนะได้มาเยี่ยมเยือนจิตใตเด็กหนุ่มคนนั้นแล้ว
ชัยชนะแลกมาด้วยเงินเก็บเท่าทั้งหมดที่ผมมี ผมบอกสุภาพสตรีเจ้าของร้านในวัยชราว่าผมขอซื้องานเหล่านี้ทั้งหมดที่มีอยู่เกือบ 30 ภาพ ผมพยายามถามถึงที่มาที่ไปของแผ่นภาพเหล่านี้ แต่คำตอบที่ได้ก็มีเพียงแต่ว่า มันอยู่ตรงนี้นานแล้ว นานจนเธอไม่คิดที่จะนำออกมาขายให้ใคร
เย็นวันนั้น ผมชวนเพื่อนไปฉลองชัยชนะกันที่ชายหาดใกล้ๆ ย่าน Oyster Bay จุดเริ่มต้นที่ E.S. Tingatinga นำงานศิลปะมาขายเป็นครั้งแรก เราย้อนนึกพูดคุยกับเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปที่แกลเลอรี่ขายรูปเมื่อบ่าย ผมบอกเพื่อนถึงความดีใจและความตื่นเต้นลิงโลดที่ผมรู้สึกในแวบนั้น เธอเล่าย้อนถึงความตื่นเต้นกระดี๊กระด๊าที่เธอเห็นผมแสดงออก บทสนทนาของเราถูกปลดปล่อยออกมา ควบคู่ไปกับไก่ย่างบนชายหาดแกล้มกับเบียร์เย็นๆ และน้ำมะพร้าวจืดๆ ที่ชาวบ้านเร่ขายไปบนชายหาดภาพเบื้องหน้า พระอาทิตย์กำลังคล้อยลับขอบฟ้าตกลงไปในทะเล เหมือนจะนำมาซึ่งคำตอบว่า ในช่วงเวลาที่ผมเหลืออยู่ในแอฟริกา ผมควรจะทำอะไรต่อไปเพื่อให้มีประโยชน์ต่อสังคมไทยที่ผมคิดคำนึง
3
เมื่อกลับไปที่กรุงไนโรบี ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานทูตไทยที่ผมทำงานอยู่ในขณะนั้น ผมนำภาพที่ซื้อมาจากแทนซาเนียแกะออกมาจากกล่อง แล้ววางเรียงรายไปรอบๆ บ้าน เพ่งพินิจพิจารณาด้วยความชื่นชม สลับกับนึกกังวลถึงสตางค์ที่เป็นเงินเก็บของตัวเองที่จะต้องหมดไป ในขณะเดียวกัน ผมก็ไล่ซื้อหนังสือเกี่ยวกับ Tingatinga ค้นข้อมูลที่มีอยู่ทุกชิ้นในอินเทอร์เน็ต และเขียนอีเมลหานักสะสมและผู้มีความรู้เกี่ยวกับ Tingatinga ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในยุโรป
ผมจำได้ว่า ได้ติดต่อทางอีเมลกับชายสูงอายุชาวเยอรมันที่เล่าให้ฟังว่า เขาเป็นกัปตันเรือสินค้าทำให้ได้เดินทางไป Dar es Salaam อย่างสม่ำเสมอ ในวัยใกล้ 80 ปี เขามีรูปภาพ Tingatinga จำนวนมหาศาลอยู่และส่งภาพมาให้ผมดูเป็นระยะ
ที่สนุกคือได้ฟังเขาเล่าเรื่องที่ฟังต่อมาจากนักสะสมชาวเดนมาร์ก ซึ่งเข้าไปทำงานองค์กร NGO ใน Dar es Salaam ว่า จริงแล้วๆ สาเหตุที่เขาถูกตำรวจยิงตายไม่ใช่เพราะว่าตำรวจยิงผิดคนตามข่าวหรอก แต่ก็เพราะความหึงหวงที่ภรรยาของตำรวจไปสนิทสนมพูดคุยกับ E.S. Tingatinga ที่บ้านอยู่ติดกันต่างหาก
ภาพ Tingatinga ได้เพิ่มเข้ามาในกองสะสมของผมอีกหลายครั้งในต่างกรรม ต่างวาระกัน เหมือนเมื่อได้รู้จักคุ้นเคยหรือดื่มด่ำกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้ว เราก็มีจะมีดวงตาเห็นสิ่งนั้น ได้พบเจอสิ่งแบบนั้นอยู่เรื่อยๆ
อาทิ เมื่อจนใกล้จะต้องกลับประเทศไทยเพราะครบวาระการประจำการที่สถานทูตแล้ว ผมได้มีโอกาสพบกับคนงานที่เคยทำงานในแกลเลอรี่ชื่อดังที่เพิ่งปิดไปเพราะเจ้าของเสียชีวิต เขาพยายามติดต่อมาเพื่อหวังว่าจะหางานศิลปะมาขายแลกกับค่านายหน้าเล็กๆ น้อยๆ พอนำไปประทังชีวิตเขาและครอบครัวมากกว่า ผมถามไปอย่างลอยๆ ว่า เขาพอจะมีงาน Tingatinga ไหม เพราะผมทราบว่าดี ในสมัยก่อนกรุงไนโรบีก็เป็นตลาดงานศิลปะ Tingatinga เช่นกัน
กรุงไนโรบีเป็นเมืองใหญ่ มีทั้งชาวต่างประเทศย้ายมาอยู่มาทำงานและเป็นแหล่งท่องเที่ยวซาฟารีที่มีชื่อเสียงแล้วเขาก็พาเพื่อนมาพบ พร้อมกับของหนักห่อใหญ่ ทันทีที่เขาค่อยเปิดห่อนั้นออก ก็เป็นไปตามคาดว่าสิ่งของที่อยู่ในนั้นคือสิ่งที่ผมเพียรหา ผมบอกเขาทันทีว่าผมอยากได้งานศิลปะ Tingatinga ทั้งหมดที่เขามี
ผมขอแลกงาน Tingatinga ทั้งหมดกับรถยนต์มือสองจากญี่ปุ่นที่ผมใช้อยู่และกำลังจะขาย เพราะใกล้กลับประเทศไทยแล้ว โดยช่วยเขาจ่ายเงินค่าโอนและค่าภาษีด้วย รถยนต์เก่าพอจะเป็นทรัพย์สินชิ้นสุดท้ายๆ ที่ผมจะแปรเปลี่ยนเป็นเงินได้ ผมยังหวังว่ารถยนต์ที่เขาได้รับไปก็อาจจะสร้างอาชีพอื่นๆ ต่อไปให้เขาได้ด้วย เขาตอบตกลงโดยไม่รีรอ
หลังจากนั้น ผมก็ได้งานศิลปะ Tingatinga เพิ่มเติมมาในคอลเลกชันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หนึ่งในคนสำคัญคือ ใหม่-สุดคนึง นิเวศรัตน์ ที่กลับจากเคนยาหลังจากผม 3 ปี ก็ได้รับการติดต่อคนขายภาพคนเดิม และซื้อภาพที่ยังเหลืออยู่มาฝาก ใหม่คือเพื่อนคนเดียวกับที่ไปเหมางานศิลปะ Tingatinga มาด้วยกันตั้งแต่ในครั้งแรกที่แทนซาเนีย
เมื่อไม่กี่ปีมานี้ ในราว ค.ศ. 2017 ผมได้กลับมาที่แอฟริกาอีกครั้ง โดยมาประจำการที่สถานทูตไทยในโมซัมบิก ก็ได้พบเจอกับภาพ Tingatinga อีกครั้งเมื่อคราวไปเที่ยวทัศนาจรที่ประเทศเอสวาตินี (ชื่อเดิมของประเทศสวาซิแลนด์) และเห็นภาพ Tingatinga ของศิลปินในรุ่นที่ 2 ซึ่งน่าจะทำขึ้นในช่วงทศวรรษ 1980 วางขายอยู่ในร้านขายของที่ระลึก ผมก็วายเหมาทุกภาพเท่าที่มีขายอยู่มาเหมือนเดิม คนขายบอกว่าเป็นคอลเลกชันของคนเยอรมันที่เคยอยู่ที่นี่ และย้ายกลับไปเยอรมนียามชรา
มานั่งนึกดู ก็ทำให้นึกได้ว่า โอกาสได้ทำให้ต้องมาได้พบภาพ Tingatinga ในที่แปลกๆ แบบนี้หลายครั้ง
4
ภาพวาดแบบ Tingatinga อาจจะไม่ต่างอะไรกับพระเครื่อง อาจเป็นการยากที่จะบอกว่าภาพไหนคือ ‘ของแท้’ ภาพไหนคือ ‘ของปลอม’
น่าสนใจว่า แนวคิด ‘ของแท้’ หรือที่ฝรั่งเรียกว่า Authenticity อาจจะเป็นแนวคิดของตะวันตก งานศิลปะในเอเชียหรือแอฟริกามีลักษณะเป็น ‘หัตถกรรม’ หรืองานคราฟต์ที่ทำซ้ำเหมือนๆ กัน มากกว่า ‘งานศิลปะ’ ที่ทำขึ้นและมีขึ้นเพียงชิ้นเดียว ซึ่งไม่ต่างอะไรกับงานในแบบ Tingatinga ที่มีคนช่วยกันวาดในครัวเรือน อะไรขายดีก็ทำขายเพิ่ม แล้วก็ลงลายเซ็นแบบเดียวกัน
หลังจาก E.S. Tingatinga เสียชีวิตใน ค.ศ. 1972 คนที่เคยช่วยเขาวาดภาพขายก็ยังวาดภาพต่อ โดยในช่วงแรกๆ ก็ยังอาจจะลงชื่อลายเซ็นบนภาพว่า E.S. Tingatinga เพราะรู้ว่าขายได้ดี แต่ต่อมาคนเหล่านี้ก็ได้กลายเป็นศิลปินที่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง คนเหล่านี้มีอาทิ Simon George Mpata ซึ่งต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่ประเทศเคนยาในกรุงไนโรบี และเป็นคนที่นักสะสมชาวญี่ปุ่นชอบมาก จนมีเศรษฐีคนหนึ่งที่สะสมงานของเขามาลงทุนทำธุรกิจโรงแรมในอุทยานแห่งชาติ Masai Mara แล้วตั้งชื่อที่พักว่า Mpata Safari Club ตามศิลปินคนโปรด
งานของ Tingatinga มีการพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ลูกศิษย์รุ่นแรกตามมาด้วยศิลปินรุ่นสอง เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงสไตล์และแนวทางการวาดรูป โดยแทนที่จะเป็นรูปสัตว์เดี่ยวๆ ในหนึ่งภาพก็มีหลากหลายขึ้น แต่ยังวาดอยู่บนแผ่นไม้ใส่กรอบทาสีเหมือนเดิม ว่ากันว่าเป็นเพราะตลาดหรือผู้ซื้อต้องการเห็นภาพสัตว์ที่หลากหลายในหนึ่งภาพมากกว่ามีสัตว์เพียงตัวเดียว จนกระทั่งมาถึงรุ่นปัจจุบันที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงเทคนิคการวาดไปอย่างสิ้นเชิง แม้จะใช้สีน้ำมันเหมือนเดิม แต่วาดบนผืนผ้าใบที่ม้วนและนำขึ้นเครื่องบินกลับได้โดยง่าย และภาพที่วาดก็หลากหลายขึ้น มีทั้งเป็นช่องๆ คล้ายการ์ตูนช่อง หรือเป็นภาพตลาดและวิถีชีวิตของผู้คนในเมือง Dar es Salaam
ปัจจุบัน ศิลปิน Tingatinga มีจำนวนหลายร้อยคน และกลายเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมสำคัญที่ผลิตของที่ระลึกขายให้กับนักท่องเที่ยว มีการรวมตัวกันจัดตั้งเป็นสหกรณ์ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง Dar es Salaam ให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมได้ และศิลปินก็ตั้งโต๊ะวาดภาพอยู่ที่นั่น นักท่องเที่ยวสามารถซื้อแผ่นไม้และให้เขียนชื่อตัวเองหรือคนอื่นเพื่อนำไปฝากเป็นที่ระลึกก็ได้
ภาพเขียนในแบบ Tingatinga จึงเป็นตัวแทนของความเป็นแอฟริกาตะวันออก โดยเฉพาะประเทศในประเทศที่พูดสวาฮิลีเช่น เคนยา แทนซาเนีย และตอนเหนือของโมซัมบิก
5
หลายคนถามว่า ทำไมผมถึงอินและบ้าซื้องานศิลปะแบบ Tingatinga มากมายขนาดนี้
แม้อาจตอบไม่ได้ในทันที แต่…
ถ้าจะให้ตอบแบบเร็วๆ ผมรู้ว่าตัวเองชอบงานแบบ Tingatinga มาก อาจพูดได้ว่าเป็นภาพที่มองแล้วใช่เลย มองแล้วเห็นแต่ความงดงามแบบนั้นก็ได้ เพื่อนและพี่ๆ หลายคนชอบแซวว่า หรือเพราะยังมีความเป็นเด็กอยู่ เพราะภาพ Tingatinga เหมือนเด็กวาด เต็มไปด้วยความไร้เดียงสา หรือที่ฝรั่งเรียกว่าเป็น Naïve Art ที่คนวาดไม่ได้ผ่านโรงเรียนศิลปะ เป็นศิลปินคนนอกในวงนอกตัวจริง เขาไม่รู้เทคนิคการใช้สี ไม่รู้จักแสงเงา องค์ประกอบภาพ สัดส่วนหรือเปอร์สเปกทีฟ
ถ้าจะให้ตอบแบบพินิจพิเคราะห์ความตั้งใจของตัวเองให้ดีๆ แล้ว ก็อาจตอบได้ว่า คงเป็นความตั้งใจอยากจะให้คนไทยได้รู้จักแอฟริกามากกว่าที่เป็นอยู่ และภาพ Tingatinga เหล่านี้ ก็น่าจะช่วยเล่าเรื่องให้พวกเราได้รู้จักแอฟริกามากกว่านี้ได้
ถ้าจะให้ตอบแบบสนุกๆ ผมอาจเหมือนคนบ้า เหมือนคนอยากเอาชนะ ผมพอรู้ว่าในตอนนั้น คนญี่ปุ่นและคนเกาหลีต่างก็เข้ามากว้านซื้อภาพ Tingatinga ในยุคแรกๆ แบบนี้ไปเป็นจำนวนมาก ผมไม่อยากให้มันตกไปอยู่ในมือของคนอื่นโดยเฉพาะว่าเมื่อมีโอกาสที่จะเป็นเจ้าของภาพที่อยู่ตรงหน้าทั้งหมดนี้แล้ว
แล้วถ้าถามว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ล่ะ ผมจะบ้าซื้อบ้าสะสมภาพแบบนี้อีกไหม สำหรับอีกคำถามนี้ ผมคงต้องขอเวลาคิดอีกนาน เพราะยังลังเลไม่น้อยกว่าอาจจะไม่กลับไปทำเยี่ยงนั้นอีกแล้ว
เพราะเรื่องบางเรื่อง เป็นเรื่องที่เราอาจบ้าดีเดือดทำได้แค่ในช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตเท่านั้น
ข้อมูลเพิ่มเติม
The Authenticity of Today’s Tingatinga Art โดย Kiagho B. Kilonzo
ผมได้นำภาพ Tingatinga และศิลปินแอฟริกาที่สะสมไว้บางส่วนจัดแสดงที่บ้าน และยินดีเปิดให้เข้ามาชมด้วยความเต็มใจ เพราะอยากจะให้ได้รู้จักแอฟริกาตามความตั้งใจที่มีอยู่ตั้งแต่แรก หากสนใจติดต่อมาที่ Line ID : tihtra ได้ด้วยความยินดี