ประเทศไทยมีธุรกิจร้านอาหารมากกว่า 330,000 ราย
หากเป็นมือใหม่ การเปิดร้านอาหารสักร้านหนึ่งก็คงถือไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าไรนัก ส่วนการทำให้อยู่รอดได้ในระยะยาว โดยเฉพาะในยุคโควิด-19 เช่นนี้ ก็นับว่ายากขึ้นไปอีกขั้น
คงจะดีถ้ามีเพื่อนคู่คิดสักคนมาช่วยให้คำแนะนำด้วยใจไมตรี
นั่นคือโอกาสและความตั้งใจของ แพทตี้-ภัทรศยา อาจสาคร และ มิ้งค์-ศุภิสรา ธารธนาภรณ์ สองคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบเรื่องอาหารเป็นชีวิตจิตใจ
ทั้งสองเป็นเจ้าของเพจ Fond of Good Food ที่ก่อตั้งสมัยยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเมื่อราว 5 ปีก่อน ในสมัยที่การเป็น Food Blogger ยังไม่เฟื่องฟูเท่าทุกวันนี้ เพราะพวกเธอชอบออกตระเวนไปรับประทานอาหารต่าง ๆ และบันทึกเก็บไว้ในเพจจนเป็นเหมือนไดอารี่
ทำไปทำมา ปรากฏว่าไปได้ดี ไดอารี่เล่มนี้บันทึกเมนูของร้านอาหารต่าง ๆ ทั่วไทยมามากกว่า 1,000 แห่ง ทำให้ทั้งสองมีข้อมูลเกี่ยวกับอาหารและร้านประเภทต่าง ๆ เป็นคลังชั้นดีไปโดยบริยาย
เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อทั้งวงการร้านอาหาร นอกจากการใช้พื้นที่เพจเพื่อช่วยโปรโมตแล้ว แพตตี้และมิ้งค์ยังจับมือกับ Food Blogger อีก 12 เพจเพื่อระดมทุน นำเงินไปสั่งซื้ออาหารจากธุรกิจรายย่อยที่ได้รับผลกระทบ เพื่อนำไปบริจาคให้บุคลากรทางการแพทย์
เมื่อสัมผัสถึงความเดือดเนื้อร้อนใจของเจ้าของกิจการ พวกเขาจึงผันตัว จาก Food Blogger เป็นที่ปรึกษาให้กับร้านอาหาร ในชื่อ The Moon Group นอกเหนือจากงานประจำที่พวกเขาทำอยู่
แม้ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น แต่ทั้งสองมีแผนว่าโปรเจกต์ต่อยอดนี้มีโอกาสเติบโตได้อีก เพื่อช่วยสนับสนุนธุรกิจร้านอาหารรายย่อยให้เติบโตได้อย่างงดงาม
Fond of Good Food
การบริหารร้านอาหารมีสารพัดปัญหาให้ต้องเจอประจำวัน
ช่วงสถานการณ์โรคระบาด ปัญหาที่โดดเด่นขึ้นมาเป็นพิเศษคงหนีไม่พ้นการปรับตัว ปรับเปลี่ยนจากการขายทางออฟไลน์เป็นออนไลน์ ส่งเดลิเวอรี่ให้ถึงที่ และการโปรโมตให้เป็นที่รับรู้ นอกจากตลาดจะมีร้านที่เปิดมาดั้งเดิมแล้ว ยังเกิดรายใหม่เกิดขึ้นมาเยอะมาก เพื่อหารายได้เสริมในช่วงสภาวะที่ไม่แน่นอน ถึงแม้ร้านเหล่านี้จะมีของดีน่าสนใจ แต่ในยุคที่ตัวเลือกมากมาย ถ้าคนค้นไม่เจอก็อาจไม่ไปถึงฝั่งฝัน
“เราเห็นความยากลำบากในการปรับตัว เห็นคนตกงานเยอะมาก เลยอยากช่วยแก้ปัญหาผ่านสิ่งที่เราทำได้ พอแต่ละร้านอาหารมีลักษณะแตกต่างกันมาก เราก็ต้องมานั่งคุยกันทีละเคสเลยว่าปัญหาคืออะไร จุดเด่นของร้านคืออะไร แล้วดูว่าพวกเราทำอะไรได้บ้าง” แพทตี้เล่าการทำงาน
ปัญหาเหล่านี้ แม้ว่าแพตตี้และมิ้งค์ไม่ได้ทำร้านอาหารด้วยตัวเอง แต่ด้วยงานประจำของทั้งคู่ที่ต้องคิดกลยุทธ์ทางธุรกิจ และ งานเสริมที่ทำให้พบเห็นร้านอาหารมามากมาย พวกเขามีองค์ความรู้พอที่จะช่วยแนะนำให้ร้านอาหารปรับตัวขายในช่องทางใหม่และเป็นที่รู้จัก
เช่น พวกเขาแนะนำให้เจ้าของร้านขายขนมมออนไลน์ที่เพิ่งเปิดใหม่ช่วงโควิด สร้างเมนูใหม่และแพ็กเกจพิเศษขึ้นมาให้เหมาะกับช่วงเวลา เช่น กล่องขนมรูปหมวกรับปริญญาในช่วงรับปริญญา และขยายช่องทางการขายออนไลน์ไปในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เมื่อทำไปได้สักพัก พบว่ายอดขายเพิ่มขึ้นจริง แต่ไม่ค่อยมีคนกลับมาซื้อซ้ำ จึงคิดการทำบัตรสะสมแต้มขึ้นมาและได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี
หรืออีกเคส ร้านอาหารตามสั่งที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะมีแต่หน้าร้าน แพทตี้และมิ้งค์จึงเข้าไปช่วยเพิ่มช่องทางการสื่อสาร ขายผ่านโซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชันเดลิเวอรี่ต่าง ๆ พยายามหาจุดขายที่โดดเด่นของร้านขึ้นมาเป็นไฮไลต์ พร้อมทั้งแนะนำความรู้พื้นฐานด้านการตลาดและแบรนด์ดิ้ง
ช่วงปีที่ผ่านมา ทั้งสองจัดเซสชันพูดคุยซึ่งส่วนใหญ่เป็น SME รวมแล้วกว่า 100 รายแบบฟรี ๆ
ส่วนในอนาคตนี้ ทั้งสองมองว่าอาจต่อยอดเป็นธุรกิจที่จริงจังขึ้น
“ตอนนี้เรายังทำเป็นงานเสริมอยู่ แต่มองว่ามีโอกาสเป็นที่ปรึกษาที่ช่วยเหลือร้านอาหารได้อย่างครบวงจรมากขึ้น เช่น ให้คำแนะนำด้านการบริหารจัดการเทคโนโลยี หรือให้ทุนกับร้านอาหารเพื่อตั้งตัว
“จริง ๆ ในตลาดนี้มีธุรกิจแบบนี้อยู่เยอะ แต่เราตั้งใจว่าเราจะสนับสนุนร้านอาหารเล็ก ๆ เป็นหลัก เพื่อให้พวกเขาโตได้อย่างยั่งยืน เราอาจถนัดด้านการตลาด การโปรโมตออนไลน์เป็นหลัก ถ้ามีผู้เล่นอื่นที่ถนัดในด้านต่าง ๆ เข้ามาช่วยรายย่อยมากขึ้น น่าจะทำให้ทั้งวงการเติบโตไปข้างหน้าได้อย่างดีเลย”
เมื่อทั้งสองได้คุยกับผู้ประกอบการร้านอาหารมาเยอะ ในยุคที่ร้านอาหารและคาเฟ่เกิดขึ้นใหม่ไม่เว้นวัน เราอยากรู้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่บอกได้ว่าคนคนหนึ่งควรทำร้านอาหารเองต่อไป
“คงต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าจริง ๆ เราทำร้านอาหารไปเพื่ออะไร บางคนทำเพื่อสร้างรายได้ บางคนทำเพราะว่าชอบอาหาร ก็ถามต่อไปว่าเห็นภาพตัวเองทำสิ่งนี้ไปอีก 3 หรือ 5 หรือ 10 ปีหรือเปล่า ถ้าเราอยู่กับมันได้ มีทั้งความหลงใหลและความอดทนที่จะทำอย่างต่อเนื่อง นั่นก็น่าจะเป็นสัญญาที่ดีนะ เวลาคนมาทานอาหารที่ร้านเรา เขาก็จะสัมผัสสิ่งนั้นได้ด้วยเหมือนกัน”
ใครมีพลังแบบนั้น กำลังหาทางไปต่อให้ธุรกิจอันเป็นที่รักอยู่ ลองทักทายไปคุยกับ Fond of Good Food ดูได้นะ
