‘อาคารบ้านช่องไซส์กะทัดรัดสีเหลืองนวลอบอุ่นสบายตา ตั้งสูงตระหง่านสม่ำเสมอกันเป็นจังหวะ ตึกแถวแฝดหลายสิบหลังทอดตัวเรียงรายขนาบข้างทางเท้าริมถนน’
ทัศนียภาพเหล่านี้คอยกระซิบบอกเราอยู่ตลอดว่าคุณได้สู่เข้าเขตเมืองเก่าอย่างเป็นทางการแล้ว นั่งรถผ่านไปผ่านมาก็หลายปี กลับไม่ยักจะจำได้เสียทีว่าตรงไหนเป็นตรงไหน เพราะอะไรๆ ล้วนดูคล้ายกันเสียหมด
ไม่นานมานี้ คราวได้ใช้ถนนกัลยาณไมตรี วิ่งตรงมาจากกระทรวงกลาโหม ตัดเข้าสู่ถนนบำรุงเมือง หางตาพลันเหลียวไปสะดุดกับ The Knight House วีไอพีโฮมสเตย์ของ มน-ชุติมน วิจิตรทฤษฎี ตรงปากซอยแพร่งภูธร เพราะรูปทรงมีเสน่ห์น่ารัก ผิดแผกไปจากแนวอาคารเพื่อนบ้านตรงหัวถนน ชนิดว่าขับเลยไปแล้วต้องวนรถกลับมาดู

พื้นที่สีเขียวด้านหน้าแม้ไซส์จิ๋วพอสำหรับโต๊ะเก้าอี้เพียงชุดเดียว กลับดูหย่อนใจได้อย่างน่าฉงน เพียงสอดส่ายสายตาชมอาณาบริเวณคร่าวๆ กลิ่นอายของบ้านเก่าจากบานเฟี้ยม ลายพื้นกระเบื้อง จนถึงกลอนโบราณ ก็แล่นฉิวตีขึ้นมาในจมูกอย่างจัง ก่อนความหอมนมเนยฉบับโคโลเนียลจากลูกเล่นลูกซนซึ่งสอดแทรกอยู่ตามลายฉลุ จะค่อยกระจายกลิ่นตามมา
เรื่องราวการผัดแป้งแปลงโฉมอาคารสมบัติของ เจ้าจอมมารดาชุ่ม ในรัชกาลที่ 5 เป็นซาลอนแสนครึกครื้นของ แม่ฮวงไน้ (คุณแม่สุดเท่ของมน) เปลี่ยนบรรยากาศแห่งวัยเยาว์ที่เธอหวนคิดถึง เป็นเดอะไนท์เฮ้าส์ แลนด์มาร์กแห่งใหม่ประจำย่านแพร่งภูธรนั้นสนุกใช่หยอก
“เอ้าฮาเฮฮา เฉยช้าอยู่ไย” ขอชวนแบกเป้แพ็กกระเป๋า สาวท้าวก้าวขึ้นเรือน ตามกันมานอนดื่มด่ำเกร็ดประวัติศาสตร์ สัมผัสความสงบแสนทรงเสน่ห์อันลอยคลุ้งอยู่ทั่วเขตเมืองเก่า พร้อมฟังเรื่องราวกันตามอัธยาศัย

ฮวงไน้
“มนเกิดและโตแถวนี้ เรียกว่ารู้จักจนทะลุปรุโปร่งเชียวแหละ”
เจ้าบ้านคนสวยเริ่มเล่าที่มาที่ไป หลังจากนั่งลงต่อบทสนทนากับเราแบบไม่เป็นทางการอย่างออกรสครู่สั้นๆ ก่อนเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ประจำเดอะไนท์คาเฟ่ถูกเสิร์ฟตรงหน้า บนโต๊ะไม้หน้าผนังแห่งประวัติศาสตร์ (ชื่อเล่นที่เราแอบตั้งให้ผืนกำแพงในร้านชั้น 1 ซึ่งมีภาพถ่ายเก่าแขวนไว้อย่างมีระเบียบ)

“สมัยโน้นนนนน” เจ้าตัวลากเสียงยาวจนเราเชื่อว่านานจริง
“อาม่าท่านขายก๋วยเตี๋ยว แต่ไม่ใช่ตรงนี้นะ เป็นตึกอีกห้องของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ซึ่งอยู่ถัดไปไม่ไกล พอกิจการตกทอดมาสู่รุ่นคุณแม่ของมนท่านเลือกไม่สืบทอดต่อ”
เจ้าตัวเล่าเรื่องฉะฉานราวกับเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน พอเรื่องดำเนินมาถึงรุ่นของแม่ฮวงไน้ (ไม่ใช่ชื่อร้านขายขนมหม้อแกงแถวเพชรบุรีนะ) เราจับสายตาเธอได้ว่ามีประกายขึ้นมาทันควัน เหมือนกำลังพูดถึงนักร้องสักคนผู้เป็นแรงบันดาลใจด้านการร้องเพลงให้เธอมาตลอดชีวิต
สาวเจ้าถิ่นขยายความต่อพลางชี้ไม้ชี้มือออกท่าทาง พอคุณแม่เรียนพื้นฐานการตัดผมจากไทยได้นิดหน่อย ก็ตัดสินใจบินไปตายดาบหน้าเอายังแดนผู้ดี สะสมประสบการณ์ใส่กระเป๋าด้วยการฝึกทำงานตามร้าน อาศัยครูพักลักจำจนชำนาญ

“คุณแม่ไปประกวดทำผมทรงเจ้าหญิงไดอาน่าชนะได้อันดับหนึ่งเชียวนะ”
เราละสายตาจากหน้ากระดาษซึ่งเต็มไปด้วยชุดคำถาม แล้วขมวดคิ้วแสดงความสงสัยให้คู่สนทนารู้
“ใช่ ชนะคนอังกฤษแท้ๆ เลย ไม่มีสเปรย์ไม่มีอะไรทั้งนั้น มีไดร์เป่าผมอันเดียว”
ภาพหลักฐานซึ่งเป็นประจักษ์พยานชิ้นสำคัญ ยืนยันความสตรองของคุณฮวงไน้ที่เราจิตนาการจากคำบอกเล่าของมนว่าอยู่ในดีกรีไม่ผิดเพี้ยน เธอเดินทางกลับไทยพร้อมชื่อภาษาปะกิดสุดเก๋จากเพื่อนฝรั่งว่า ‘Knight’ แล้วเปิดร้านทำผมตรงตึกห้องเดิมของอาม่า ไม่นานก็ได้พบกับโจรขโมยหัวใจในคราบลูกค้าหนุ่ม จีบกันด้วยเทคนิคพิเศษฉบับช่างทำผม คือแกล้งดัดผมให้หยิกเพื่อจะได้กลับมาแก้และเจอกันอีก ค่อยๆ เลื่อนสถานะจนมีมนขึ้นมา
“นี่มันละครโทรทัศน์ชัดๆ” เราคิดในหัวขณะเผลอยิ้มเขินใส่นักร้องสาวตรงข้าม
กิจการดำเนินไปได้ไม่นาน เธอก็ขยับขยายย้ายมายังตึกตั้งเดอะไนท์เฮ้าส์ปัจจุบัน แม้แปลงร่างเป็นโรงแรมสุดเท่แล้ว แต่เก้าอี้ทำผมตัวเก่ายังตั้งเด่นหราอยู่หน้าร้านเหมือนเดิม คราวนี้มันไม่ได้มีหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ช่างทำผมเหมือนก่อน ผันมารับจ๊อบเป็นพนักงานต้อนรับ คอยบอกเล่าเรื่องราวในอดีตทั้งหมดให้แขกไปใครมาโดยไม่ต้องเอื้อนเอ่ยคำใดแม้คำเดียว

เปิดโฉนด
อายุอานามของช่างทำผมเก๋าประสบการณ์ล่วงผ่าน เปิดโอกาสให้เธอได้พบกับวัยแห่งการพักผ่อน มนเสนอไอเดียเปลี่ยนร้านซาลอนที่เธอเคยวิ่งซนไปมาอย่างสนุกสนานด้วยความผูกพันมาแต่เล็ก เป็นแลนด์มาร์กใหม่ใจกลางกรุง
ไฟเขียว!
ปกติพอไฟจราจรผัดจากสีเหลืองสู่สีเขียว ก็ต้องรีบกดคันเร่งให้รถโจนทะยานไปด้านหน้าให้ไว้ที่สุด แต่เมื่อนักร้องสาวได้ไฟเขียวจากครอบครัว เธอกลับพิถีพิถันค่อยๆ เฟ้นหาอาคิเต็กในดวงใจ ก่อนพบ อิงอร ประจันนวล แห่ง IDEALIST STUDIO นักออกแบบเนื้อคู่เพียงมองตาก็รู้กัน มาช่วยรังสรรค์เดอะไนท์เฮ้าส์ทั้งหมด
“เราไม่ได้รีโนเวตแต่ทุบแล้วสร้างใหม่เลย โครงสร้างเดิมเป็นไม้ขัดทั้งหมด ไม่มีตะปู ไม่มีเสาเข็ม แล้วตึกตั้งอยู่ริมถนน เลยกังวลเรื่องความแข็งแรง เพราะทำที่พักให้คนอื่นมานอน ต้องชัวร์ว่าปลอดภัย”

แม้ตั้งอยู่หัวถนนสายแรกของประเทศกลางย่านเมืองเก่า แต่การดัดแปลงแก้ไขล้วนเป็นไปตามต้องการ เพราะเป็นทรัพย์สินของเอกชน
คราวทำเอกสารเพื่อแจ้งเรื่องการเปลี่ยนแปลงแก่ราชการ มนบังเอิญได้เห็นโฉนดที่ดินแล้วพบว่าเจ้าของคนแรก สองสามบรรทัดก่อนหน้าชื่อ ‘ฮวงไน้’ คือเจ้าจอมมารดาชุ่มในรัชกาลที่ 5 สตรีสูงศักดิ์ผู้ขึ้นชื่อว่าแต่งกายอย่างฝรั่งได้เหมือนเปี๊ยบ จนหลายคนออกปากว่า ‘แต่งแหม่มขึ้น’ ทั้งยังพูดภาษาอังกฤษคล่องปร๋อ ถือว่าก้าวหน้ากว่าผู้หญิงคนใดๆ ในสยามขณะนั้น จึงเป็นที่โปรดปรานของพระปิยมหาราช (พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) สุดๆ ถึงขนาดโปรดฯ ให้ตามเสด็จประพาสชวาถึง 2 ครั้ง
ถ้าพูดตามประสาชาวบ้าน เจ้าจอมมารดาท่านนี้นับว่าเป็นตัวอย่างของหญิงเก่งหัวก้าวหน้าแห่งยุคสมัยคนหนึ่ง

ตึกหญิงไทยแต่งแหม่ม
พอทาง IDEALIST STUDIO รู้ว่ามีเรื่องราวประวัติศาสตร์เข้ามาแต้มเติมสีสันให้งานนี้ด้วยก็ใจฟูสุดๆ พร้อมกระตือรือล้นทำรีเสิร์ชอย่างหนัก จนได้คอนเซปต์การออกแบบแสนน่ารักออกมา
“มนให้อิสระทีมออกแบบทุกอย่างเลยเพราะตกหลุมรักผลงานเขามาตลอด บรีฟอย่างเดียวคือขอให้คนขับรถผ่านแล้วต้องหันมอง
“เขาตีความออกมาเป็น ‘ตึกหญิงไทยแต่งแหม่ม’ เป็นสัญลักษณ์แห่งความก้าวหน้าของเพศหญิง เพราะที่ดินนี้มีผู้หญิงสามรุ่นเป็นเจ้าของ แล้วแต่ละคนแสบทรวงทั้งนั้น เป็นไปได้อย่างไรที่เจ้าจอมมารดาชุ่มพูดภาษาอังกฤษได้เมื่อร้อยกว่าปีก่อน เป็นไปได้อย่างไรที่คุณแม่เด็ดเดี่ยว กล้าบินไปหัดทำผมถึงอังกฤษคนเดียว ส่วนเราก็แหวกขนบออกมาร้องเพลงหากิน”
เพียงฟังไอเดีย เจ้าบ้านก็ยกนิ้วโป้งกดไลก์ ไม่คิดขัดคอแม้แต่นิดเดียว เปิดให้นักออกแบบสาดความคิดสร้างสรรค์ใส่อาคารเต็มแม็กซ์ ผสมผสานตัวตนลงไปได้อย่างมีอิสระ จนออกมาเป็นตึกหลังคาจั่วลายฉลุอย่างเรือนขนมปังขิงของไทย เปรียบเป็นคนก็คงคล้ายสาวชาววังสมัย ร.5 ขณะเดียวกันก็แฝงกลิ่นอายของบ้านช่องแบบโคโลเนียลฝรั่งตามสีสันลวดลาย ราวกับว่าจับสตรีผู้นั้นมาแต่งองค์ทรงเครื่องเป็นแหม่ม
The Knight House
The Knight House ตั้งตระหง่านอยู่กลางเขตเมืองเก่าด้วยความเคารพวิถีดั้งเดิม
กลิ่นอายแห่งวันวานสอดแทรกกระจายตัวอยู่ระหว่างแถวอิฐ ซึ่งเร้นกายอยู่บนผนังเพื่อนบ้านตรงสวนขนาดมินิด้านหน้า แขกเหรื่อได้เห็นเป็นพึงใจ ไม่กี่ก้าวจากทางเท้าก็ถึงภายในชั้น 1 ที่ตั้งของเดอะไนท์คาเฟ่ กลยุทธ์การเอาตัวรอดจากไวรัสตัวร้ายของนักร้องสาว เจ้าตัวยอมรับว่าใส่ใจลงไปมากไม่แพ้โรงแรมเชียวแหละ
“เมื่อแขกมาถึง จะมีเจ้าหน้าที่นำแท็บเล็ตมาให้เพื่อใช้เป็นกุญแจเข้า-ออก พร้อมให้เลือกอาหารเช้าได้ตามอัธยาศัย จะเลือกอาหารไทยโลคอลชนิดข้าวเหนียวหมูปิ้ง ไก่ย่าง ไข่กระทะ โจ๊ก ข้าวต้ม เพื่อสัมผัสความเป็นไทย หรือเซ็ตมาตรฐานโรงแรมอย่างขนมปัง ครัวซองต์ รับประกันว่าจัดชุดใหญ่ไฟกะพริบให้แน่นอน เติมพลังรับวันใหม่อย่างจุกๆ”

นักร้องสาวเจ้าถิ่นเล่าเรื่องราวอย่างคล่องแคล่ว สเต็ปบายสเต็ปจนเรานึกภาพในหัวตามได้ไม่ยาก อดอิจฉาว่าที่ผู้พักของเดอะไนท์เฮ้าส์ไม่ได้ ถ้าโดนเอาอกเอาใจอย่างนี้เข้าจริงจะแฮปปี้ขนาดไหน
มนเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวก ครบครันตามมาตรฐานทุกประการ เพราะวางตัวเป็นวีไอพีโฮมสเตย์ เพิ่มความพิเศษใส่ไข่ด้วยจำนวนห้องพักเพียง 2 ห้อง ซึ่งตั้งอยู่คนละชั้นแยกกันต่างหาก ถูกใจคนรักความไพรเวตสุดๆ
แขกคนไหนเป็นสายชอบเดินเท้าสำรวจย่าน เดอะไนท์เฮ้าส์ยินดีพร้อมให้คำแนะนำ หรืออยากเติมเต็มประสบการณ์ด้วยยวดยานประจำถิ่นอย่างสามล้อตุ๊กตุ๊ก ก็ประสานงานหาไกด์ท้องถิ่นให้ได้สมใจหมาย ยามบ่ายหนีร้อน มาพักกาย เติมพลังด้วย Afternoon Tea เดอะไนท์คาเฟ่ก็ยินดีให้บริการถึงห้องพัก
เจ้าบ้านนำเสน่ห์ของย่านมาปรุงเป็นมนตร์วิเศษแล้วร่ายใส่ไว้ทั่วอาณาบริเวณโรงแรม ได้ฟีลโฮมสเตย์เต็มๆ แต่ก็ไม่ทิ้งความสบายไว้ข้างหลัง รับรองว่าถ้าใครสมัครมาเป็นลูกค้าต้องได้สัมผัสความอบอุ่น นอนสูดวิถีชีวิตดั้งเดิมของแพร่งภูธรจนฉ่ำปอดแน่นอน
“เราเอาชื่อภาษาอังกฤษของแม่มาตั้งเป็น The Knight House เพื่อแสดงความเคารพและความผูกพันธ์ พอจะตั้งชื่อห้องพักทั้งสอง ก็เลยเล่นภาษากับคำว่า ‘ฮวงไน้’ ในภาษาจีนแต้จิ๋วซึ่งแปลว่าดอกบัว”

คู่สนทนายังไม่ทันได้จบประโยค เราก็เสียมารยาทแทงกลางปล้อง ขอให้เธอนำชมห้องไปเล่าไปเพื่ออรรถรสที่ดีกว่า (อดรนทนรอไม่ไหวจริงๆ นี่นา)
ห้องสัตตบุษย์

ห้องบัวขาวตั้งอยู่บนชั้น 2 แม้ไม่ได้วิวเมืองจากมุมสูง แต่หมัดเด็ดคือความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับชุมชนโดยแท้ แถมมีระเบียงจิ๋วอยู่ท้ายห้อง เหมาะจะนั่งชิลล์ดื่มกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์ยามเช้า หรือจะเอนหลังจิบน้ำชายามบ่ายเคล้าทิวแถวหลังคาบ้านเก่าก็ตามสะดวก

ถ้าเลือกห้องนี้จะได้นอนดื่มด่ำทำความรู้จักแพร่งภูธรจริงๆ ปล่อยให้ตึกรามบ้านช่องโดยรอบโอบกอดรัดกาย ภายใต้กอบัวสีขาวสะอาดตา รับประกันว่าหลับปุ๋ยฝันดีแน่นอน
ห้องบัวหลวง

ห้องบัวหลวงสีชมพูอ่อนอยู่บนชั้น 3 ของอาคาร ถัดขึ้นมาเพียงชั้นเดียวแต่วิวที่ได้นั้นโรแมนติกกว่าหลายเท่า พอตกกลางคืนยิ่งไม่ต้องพูดถึง นอนชมเมืองจากเตียงกลางกอบัวหลวงจนผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัวเชียวแหละ กลเม็ดเด็ดพรายของห้องนี้คือระยะฝ้าซึ่งสูงขึ้น แม้เพียงนิดเดียวแต่สร้างความโอ่อ่าโปร่งโล่งขึ้นถนัดตา
ห้องพักฝาแฝดทั้งสองตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์นำเข้าจากเมืองนอกเหมือนกัน ดูหรูหราขึ้นมาจากบ้านเก่าถนัดตา สมกับเป็นวีไอพีโฮมสเตย์ประจำถิ่นนี้อันดับหนึ่งในใจเรา ขณะเดียวกันก็ได้กลิ่นอายน้ำอบน้ำปรุงอย่างไทยจากโคมไฟ กลอนตู้เสื้อผ้า และพัดลมเพดานสุดคลาสสิค คอยย้ำเตือนว่านี่คือที่ไหน
เดอะไนท์เฮ้าส์มัดใจเราด้วยเครื่องใช้ในห้องน้ำกลิ่นดอกบัวเจือจางอ่อนๆ สูตรลับเฉพาะของที่นี่เท่านั้น พอลองใช้ตามคำท้าของมนแล้ว เรายอมรับทันทีว่าสมราคาคุยอย่างที่เจ้าตัวโม้เอาไว้หนักหนาตั้งแต่นั่งคุยกันข้างล่างจริงๆ ลบภาพจำผลิตภัณฑ์เครื่องหอมกลิ่นดอกบัวเข้มข้นผสมกลิ่นเขียวไปได้เลย
ความน่ารักอีกจุดคืออ่างล้างหน้าทรงแปลกตาของทั้งสองห้อง ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่านี่คืออดีตซาลอนชื่อดังจริงๆ
“ไม่แน่นะคะ อ่างนี้อาจจะเคยสระผมท่านบรรหารมาแล้วก็ได้”
ไกด์ชั่วคราวของเราหยอกเอินทีเล่นทีจริง แต่เรียกเสียงหัวเราะจากเราและช่างภาพได้ไม่น้อย ไม่นานเธอก็เดินฉับไปหยิบเซ็ตสิ่งอำนวยความสะดวกเฉพาะกิจ มีหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ สเปรย์แอลกอฮอล์ และรองเท้าสำหรับเปลี่ยน มาอวด ก่อนเฉลยว่าตั้งใจบริการทั้งหมดนี้ไว้ให้ผู้เข้าพักฟรีๆ จนกว่าโควิดตัวการจะโบกมือลามนุษย์ไป
เราเดินคุยกันลงบันไดจากชั้น 3 สู่ชั้นแรกหลังจากชมห้องจนอิ่มหนำ นั่งลงพักจิบกาแฟบนเก้าอี้ตัวเดิมที่นั่งคุยกับเธอครู่หนึ่งพอคลายร้อน มนก็ชวนเราข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้าม เพื่อชี้ให้ดูว่ามีดอกบัวปูนปั้นอยู่บนหลังคาอีกหนึ่งจุด

“นี่คือสัญลักษณ์ว่าเราเทิดทูนคุณแม่ไว้สูงสุด”
เธอพูดขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยแทรกเสียงรถราซึ่งวิ่งขวักไขว่ไปมาไม่ขาด ดวงตาทั้งคู่เบิกโพลงส่งแววแห่งความภูมิใจออกมาอย่างชัดเจน
เราก้าวถอยหลังมานิดจนเห็น The Knight House ทั้งหลังถูกพันธนาการด้วยบรรยากาศอันมีมนต์ขลังของย่าน หยุดนิ่งมองอยู่ครู่ใหญ่เพื่อประทับรอยภาพลงบนหัวใจเราให้ได้นานที่สุดโดยปราศจากบทสนทนา
กิริยาการท่วงท่าของอาคารซึ่งปรากฏตรงหน้าเราตอนนี้ช่างสวยงามสะกดใจเสียเหลือเกิน

The Knight House Bangkok
ที่ตั้ง : 21 ถนนบำรุงเมือง แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 (แผนที่)
Facebook : The Knight House Bangkok
Instagram : theknighthouse_bangkok
โทรศัพท์ : 09 5569 4194