อบอุ่นและปลอดภัย – นี่คือ 2 คำที่ป๊อปอัปขึ้นมาในหัวทันที เมื่อเราเห็น ‘The Dearly Koh Tao Hostel’ บนเว็บไซต์จับจองที่พักออนไลน์ระหว่างค้นหาที่พักบนเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี
สถานที่ที่ว่าเป็นโฮสเทลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเทียบเท่าโรงแรมหรู ขณะเดียวกันก็คงกลิ่นอายของโฮสเทลไว้อย่างเต็มเปี่ยม แต่สิ่งที่เตะตาจนเราอยากทำความรู้จัก คือ The Dearly Koh Tao Hostel ผลิตพลังงานไฟฟ้าและน้ำประปาใช้เอง ซึ่งทราบกันดีว่า น้ำ และ ไฟฟ้า บนเกาะนั้นมีค่ามาก

ก่อนบินกลับกรุงเทพฯ เรามีโอกาสสนทนากับ ไอซ์-อภิชญา วงศ์สุวรรณ นักเดินทางแบ็กแพ็กเกอร์จากเมืองกรุงที่ตกหลุมรักเกาะเต่าจนตัดสินใจก่อร่างสร้างโฮสเทลในแบบฉบับของเธอ โดยตั้งใจเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ออกแบบมาเพื่อการประหยัดพลังงาน ให้ความสำคัญกับแสงธรรมชาติ การระบายอากาศ ทิศทางลม แถมที่นี่ยังมีโรงเรียนสอนดำน้ำที่เปิดสอนหลักสูตรที่ได้รับการรับรองจาก PADI และยังเป็นหนึ่งในที่พักไม่กี่แห่งบนเกาะเต่าที่ได้รับใบอนุญาตโรงแรมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
เจ้าบ้านชวนเรานั่งสนทนากันบริเวณโต๊ะด้านหน้าโฮสเทล ซึ่งเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ จะนั่งทานอาหาร อ่านหนังสือ จิบกาแฟ พบปะ พูดคุย หรือสร้างสรรค์กิจกรรมนอกเหนือจากนี้ก็ทำได้


“ตอนจะมาเที่ยวเกาะเต่า เราพยายามหาโฮสเทลคล้าย ๆ กับที่เราเคยไปพักมา แต่ที่นี่ยังไม่มี มันเลยเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่เราปักธงในใจว่า ถ้าทำโฮสเทลแบบที่ว่าบนเกาะเต่า คงน่าสนใจดี”
เราถามเธอต่อว่า ‘โฮสเทลแบบที่เคยไปพักมา’ บรรยากาศหรือไวบ์เป็นแบบไหน
“เป็นพื้นที่ที่สร้างคอมมูนิตี้ อย่างเราเป็นแบ็กแพ็กเกอร์ เดินทางคนเดียวบางทีก็เหงา อยากเจอเพื่อนใหม่ ๆ และต้องเป็นโฮสเทลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวก สะอาด และสะดวกสบายเหมือนโรงแรม”
เมื่อ 5 ปีที่แล้ว โฮสเทลแบบที่ว่าก็เกิดขึ้นบนเกาะเต่า บริเวณโฉลกบ้านเก่า ในชื่อ The Dearly Koh Tao Hostel – ที่พักลูกผสมระหว่างโรงแรมกับโฮสเทลที่มีไวบ์ใกล้เคียงกับที่เธอเคยไปพัก
“สถานการณ์ตอนนั้นมะรุมมะตุ้มมากเลย” เธอเปรยพร้อมเสียงหัวเราะ
“เราไม่เคยเรียนด้านโรงแรม ไม่มีประสบการณ์การทำโรงแรม พอเริ่มทำโปรเจกต์นี้ก็ยังแบ็กแพ็กเที่ยวอยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้ เวลาพักที่ไหนก็ตาม เราจะเห็นในมุมที่เราเป็นลูกค้า พอจะทำโฮสเทล เวลาพักที่ไหนก็ตาม เราจะขอคุยกับผู้จัดการหรือพนักงาน เพราะอยากรู้ว่าเขาทำงานกันยังไง
“ส่วนใหญ่เราให้เขาเล่าระบบการทำงานให้ฟัง หรือถามเขาว่าเขามองเห็นสิ่งใดเป็นปัญหามากที่สุดในการทำงาน แล้วในตำแหน่งของเขาจะแก้ปัญหาอย่างไร เพื่อเอามาประยุกต์กับโฮสเทลของเรา พอเราเปิดที่พักได้ราว 2 – 3 ปี ก็ไปเรียนต่อที่ EHL (Ecole hôtelière de Lausanne) โรงเรียนด้านการบริหารโรงแรมของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จากบริหารแบบงู ๆ ปลา ๆ เราก็รู้ว่าควรจะทำอะไร และตลอด 5 ปีของการทำที่นี่ก็เกิดการเรียนรู้ระหว่างทางตลอด”

ความโชคดีคือครอบครัวของเธอประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และเคยมาเยือนเกาะเต่าเพื่อทำโปรเจกต์ให้กับลูกค้า ถึงโปรเจกต์ยังไม่เกิด แต่ครอบครัวเธอก็ได้ที่ทางมาสะสมไว้ จนกระทั่งพื้นที่นั้นมีโอกาสเฉิดฉาย เดิมทีเกือบจะกลายเป็นหอพักของครูสอนดำน้ำ แต่ลูกสาวของบ้านก็ขอปรับแผนเร่งด่วนให้กลายเป็นที่พัก โครงสร้างจึงเป็นรูปแบบของอะพาร์ตเมนต์ แต่ภายในซัพพอร์ตการเป็นโฮสเทล
“ถ้าเราไม่เป็นแบ็กแพ็กเกอร์ ป่านนี้คงกลายเป็นอะพาร์ตเมนต์ไปแล้ว” เธอพูดติดตลก
“การสร้างที่นี่ เราพยายามดำเนินการอย่างยั่งยืน เราไม่คิดว่ามันเป็นกิมมิก แต่มันเป็นสิ่งที่เราควรทำ เพราะบนเกาะเรื่องน้ำ-ไฟลำบากมาก ตึกของเราเลยออกแบบมาให้มีพื้นที่เก็บน้ำ โดยน้ำมาจากน้ำฝนและน้ำบาดาล ซึ่งเรามีเครื่องกรองน้ำให้สะอาดจนดื่มได้ ส่วนน้ำเสียจากการใช้งานเราก็จัดการอย่างถูกวิธี น้ำที่เหลือจากการอาบน้ำเราก็เอามารดน้ำต้นไม้ น้ำทั้งหมดจะหมุนเวียนอยู่ในโฮสเทลของเรา
“ช่วงก่อสร้างต้องใช้เครื่องปั่นไฟตลอด 24 ชั่วโมง พอสร้างเสร็จ สิ่งแรกที่เราลงทุนคือโซลาร์เซลล์ เพราะเกาะเต่าแดดร้อนทุกวัน พอได้พลังงานจากแสงอาทิตย์ก็เอามาเก็บในแบตเตอรี่ แต่ก็ยังไม่พอใช้ทั้งโฮสเทล จนมีรายได้เพิ่มขึ้นก็ลงทุนกับโซลาร์เซลล์อีก บนดาดฟ้าเลยมีแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 460 ตารางเมตร เพื่อผลิตพลังงานสะอาดไว้ใช้ในโฮสเทล ตอนนี้น้ำ-ไฟเราผลิตได้เองและเพียงพอต่อการใช้งาน”


นอกจากผลิตพลังงานสะอาดใช้เอง สถาปนิกยังออกแบบอาคารโดยคำนึงถึงสายลม-แสงแดด ตอนกลางวันแขกแทบไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศ เพราะลมพัดผ่านตลอด (บริเวณล็อบบี้ก็ไม่มีแอร์นะ) แสงก็เพียงพอจนไม่ต้องเปิดไฟตอนกลางวัน และความโชคดีลำดับที่ 2 แขกที่มาพัก The Dearly Koh Tao Hostel ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตและทำกิจกรรมตอนกลางวัน ทำให้ลดพลังงานไปได้เยอะ
ส่วนห้องพัก แบ่งเป็นหมวดใหญ่ 2 หมวด หมวดแรก ‘Shared Rooms’ มีให้เลือกแบบดอร์ม (หญิงหรือรวม) 4 เตียง 6 เตียง 8 เตียง และ 9 เตียง หมวดสอง ‘Private Rooms’ สำหรับ 2 คน และ 3 คน


สิ่งที่เราชอบมาก คือ ‘Hide & Seek’ เป็นอาคารที่ซ่อนตัวอยู่ในป่า มีห้องให้เลือกทั้งแบบดอร์มและแบบส่วนตัว เหมาะกับก๊วนเพื่อนและกลุ่มครอบครัว แถมมีห้องส่วนตัวสำหรับพักคนเดียวด้วย ห้องขนาดกะทัดรัด มีระเบียงเล็ก ๆ ให้สูดอากาศ (ไม่มีห้องน้ำในตัวนะ แต่มีห้องน้ำรวมแยกชาย-หญิง)
สำหรับนักเดินทางที่ชอบพบปะเพื่อนใหม่ ที่นี่มีห้องนั่งเล่นกว้างขวาง ให้นั่ง-นอนเหยียดอย่างสบายใจ มีบอร์ดเกม ทีวี และคอมพิวเตอร์ ให้ใช้งาน ส่วนชั้นดาดฟ้า หากโอกาสดีก็จะมีครูโยคะมาสอนโยคะกันที่นี่ บางทีก็แปลงร่างเป็นสถานที่จัดอีเวนต์ตามวาระเหมาะสม และมีสระว่ายน้ำที่เดินทะลุได้จากชั้น 2 ของอาคารหลัก ที่นี่ยังมีโรงเรียนสอนดำน้ำมาตรฐาน PADI โดยผู้สอนเป็นคนไทยทั้งหมด


ไม่ต้องกังวลว่าจะเหงา เพราะที่นี่มีกิจกรรมให้ทำเพียบ อย่าง ‘Beach Crawl’ เสมือนทัวร์ขนาดย่อมที่ไอซ์ชวนแขกไปฮอปปิ้งตามเกาะต่าง ๆ บนเกาะเต่า โดยมีโฮสต์จากโฮสเทลเดินทางไปด้วยเพื่อให้เกร็ดความรู้สนุก ๆ เหตุผลอีกอย่างที่เกิดกิจกรรมนี้ขึ้นมา เพราะเธออยากให้แขกได้เห็นเกาะเต่าในหลากหลายมุมมอง มีบริการรับ-ส่งตามเกาะ แล้วแจ้งเวลาให้ไปรับได้ด้วย เพราะอย่างที่รู้กันว่าค่าบริการแท็กซี่บนเกาะราคาค่อนข้างสูง เธอเลยอยากอำนวยความสะดวกแขกให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อีกอย่างไอซ์เคยเป็นนักท่องเที่ยวมาก่อน เธอเข้าใจหัวอกนักเดินทางด้วยกันดี บางคราวที่โฮสเทลก็จัดปาร์ตี้บาร์บีคิว ชวนกันไปดำน้ำ ดูพระอาทิตย์ตกดิน หรือเดินป่า-ปีนเขา รับรองว่าคุณจะมีเพื่อนใหม่จากหลายประเทศทั่วโลก

ไอซ์บอกว่าเสน่ห์ของเกาะเต่า คือที่นี่เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่ทุกคนรู้จักกันเกือบหมด และแม้จะเล็ก แต่มีกิจกรรมให้ทำมากมาย ไม่มีทางเบื่อแน่นอน มีแต่อยากจะกลับมาครั้งแล้วครั้งเล่า (เราก็ด้วย)
การเดินทางตลอด 5 ปีของ The Dearly Koh Tao Hostel ทำให้ไอซ์เปลี่ยนสัมพันธ์ระหว่างเจ้าบ้านกับแขกจนกลายเป็น ‘เพื่อน’ และสิ่งที่ทำให้เธอมีความสุขมาก คือลูกค้าเก่ากลับมาพักซ้ำ
“ลูกค้าบางคนเคยมาตอนเขาเป็นเด็ก กลับมาอีกครั้งก็พาแฟนมาให้เราเจอด้วย บางคนจะแต่งงานแล้วก็มี มันน่ารักตรงนี้” เธอหัวเราะ “ในความตั้งใจของเรา เราอยากให้แขกมาพักแล้วเขาได้รับความทรงจำดี ๆ กลับไป ถ้าเขาแบ็กแพ็กมาเที่ยวคนเดียว เราก็อยากให้เขามีเฟรนด์ชิปดี ๆ กลับไปด้วย”
ความตั้งใจของเธอเรียบง่าย และเป็นสิ่งเดียวกันกับที่เธอเคยได้รับจากการพักโฮสเทล
เราหวังว่าคุณจะรับรู้ความรู้สึกนั้นได้เช่นกัน
3 Things
you should do
at The Dearly Koh Tao Hostel

01
เดินป่า สำรวจเกาะเต่าด้วยการเดินเท้า สิ้นสุดที่หาดเทียน

02
ดำน้ำ สำรวจโลกใต้ทะเล และตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมทางทะเล

03
ทัวร์เกาะ หรือเข้าร่วม Beach Crawl กับโฮสเทล สำรวจเกาะเต่าในหลากหลายมิติ