เอ๊ะโอ… เสาเครื่องกระจายเสียงค่อยๆ โผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน พร้อมกับเสียงป่าวประกาศ 

“ถึงเวลาสนุกแล้วสิๆ” 

ในขณะเดียวกัน พระอาทิตย์หน้าเด็กทารกพร้อมรอยยิ้มและดวงตากลมโตก็กำลังค่อยๆ ลอยขึ้นตัดกับเส้นขอบฟ้าและเนินทุ่งหญ้าเขียว เป็นสัญญาณว่าวันใหม่ในดินแดนของเหล่า ‘เทเลทับบีส์’ (Teletubbies) ทั้ง 4 ทิงกีวิงกี, ดิปซี, ลาล่า และ โพ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

สถาปัตยกรรมโพสต์โมเดิร์นใน Teletubbies รายการเด็กสะท้อนสังคม พื้นที่ปลอดภัยไร้ผู้ใหญ่

ทิวทัศน์ของทุ่งหญ้าเขียวขจี เขื่อนเนินเขาสูงต่ำต่างระดับโอบรอบล้อมบ้านทรงโดมหลังคา ปกคลุมด้วยหญ้าที่ฝังตัวอยู่ในจุดศูนย์กลางของพื้นที่ และกังหันลมวิเศษบนยอดเนิน เป็นเอกลักษณ์ของฉากสุดคลาสสิกของ เทเลทับบีส์ รายการโทรทัศน์สำหรับเด็กก่อนวัยเรียนในยุค 90 ที่บอกเล่า สะท้อนค่านิยมทางสังคม และจิตวิญญาณของยุค หรือที่เรียกกันว่า ไซท์ไกสท์ (Zeitgeist) ได้เป็นอย่างดี

สถาปัตยกรรมโพสต์โมเดิร์นใน Teletubbies รายการเด็กสะท้อนสังคม พื้นที่ปลอดภัยไร้ผู้ใหญ่

เทเลทับบีส์ ตามแบบต้นฉบับออกอากาศในช่วงเช้าทางช่อง BBC II ประเทศอังกฤษ ระหว่าง ค.ศ. 1997 – 2001 สร้างโดย แอนดรูว์ ดาเวนพอร์ท (Andrew Davenport) ผู้เขียนบทกว่า 365 ตอนของรายการ และ แอนน์ วูด (Anne Wood) ผู้อยู่เบื้องหลังคอนเซ็ปต์ของรายการและฉากของเทเลทับบีส์แลนด์ บ้านโดมซึ่งพลางตัวในเนินหญ้าที่ภายในซุกซ่อนไปด้วยเทคโนโลยีสุดไฮเทค 

เนื้อหาของรายการ เทเลทับบีส์ เน้นส่งเสริมการเรียนรู้แบบเนียนๆ โดยให้เด็กสอนกันเอง ช่วงหนึ่งของรายการนั้นจะนำคลิปวิดีโอกิจกรรมของเหล่าเด็กๆ จากที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการรีดนมวัวในฟาร์ม การทำพิซซ่าในร้านอาหาร ไม่ก็ชงช็อกโกแลตร้อนในคาเฟ่ และอื่นๆ มาฉายผ่านจอทีวีบนหน้าท้องเหล่าเทเลทับบีส์ทั้งสี่ 

โดยเมื่อกังหันลมวิเศษเริ่มหมุน เหล่าเทเลทับบีส์จะมารวมตัวกัน เพื่อลุ้นว่าคลิปวิดีโอจะไปโผล่บนหน้าท้องของใคร ในช่วงอื่นๆ ของรายการนั้น เหล่าเทเลทับบี้บ้างก็วิ่งเล่นไปรอบๆ เต้น ร้องเพลง หัวเราะ กลิ้งไปมาบนพื้น เล่นสไลเดอร์ ทำทับบีส์คัสตาร์ด รือขนมปังปิ้ง อยู่ในเทเลทับบีส์แลนด์นั่นเอง 

สถาปัตยกรรมโพสต์โมเดิร์นใน Teletubbies รายการเด็กสะท้อนสังคม พื้นที่ปลอดภัยไร้ผู้ใหญ่
สถาปัตยกรรมโพสต์โมเดิร์นใน Teletubbies รายการเด็กสะท้อนสังคม พื้นที่ปลอดภัยไร้ผู้ใหญ่

 เทเลทับบีส์แลนด์

เทเลทับบีส์แลนด์เป็นฉากถ่ายทอดขอบเขตของดินแดนอันบริสุทธิ์ที่มีแต่ความสนุกสนาน ซึ่งทุกๆ วันนั้นเป็นฤดูร้อน อากาศดี มีพระอาทิตย์ยิ้มแย้มและสดใส เทเลทับบีส์ จาก ค.ศ. 1997 – 2001 ไม่ได้ถ่ายทำในสตูดิโอ แต่เป็นการถ่ายทำกลางแจ้ง โดยทีมงานต้องขุดหลุม ปรับพื้นที่ ก่อสร้าง เซ็ตฉากเนินเขาและบ้านโดมบนพื้นที่ของฟาร์มทุ่งนาในเมือง Wimpstone มณฑล Warwickshire ประเทศอังกฤษ 

แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายสำหรับแฟนๆ ที่อยากจะไปวิ่งเล่นในดินแดนแห่งนี้สักครั้ง เพราะด้วยกระแสตอบรับที่ดีมากๆ ทำให้มีผู้คนจำนวนมากมายแอบแวะเวียนไปยังเทเลทับบีส์แลนด์ ณ ฟาร์มชนบทแห่งนี้ ที่ซึ่งไม่เคยต้องการจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว จนทำให้เจ้าของที่และคนในท้องถิ่นรู้สึกอึดอัดกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นและการบุกรุกพื้นที่ปศุสัตว์ของตัวเอง

12 ปีหลังจากหลังนั้น ใน ค.ศ 2013 เจ้าของที่ได้ตัดสินใจปล่อยน้ำให้ท่วมดินแดนแห่งนี้ และเปลี่ยนให้กลายบ่อเพาะเลี้ยงปลาและขายพืชน้ำแทน

สถาปัตยกรรมโพสต์โมเดิร์นใน Teletubbies รายการเด็กสะท้อนสังคม พื้นที่ปลอดภัยไร้ผู้ใหญ่

เทเลทับบีส์ เป็นรายการที่สามารถจับกลิ่นอาย สาระสำคัญของสมัยนิยม และปฏิกิริยาของผู้คนรวมถึงเด็กๆ ในช่วงปลายยุค 90 ได้เป็นอย่างดี สภาพสังคมและสภาพแวดล้อมที่ถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี เครื่องจักร หุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติที่กำลังพัฒนา และค่อยๆ เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของพวกเรามากขึ้นเรื่อยๆ หลายคนอาจคิดว่าเทเลทับบีส์เป็นสิ่งมีชีวิตต่างดาวเข้ามาอาศัยบนโลก แต่แท้ที่จริงแล้ว แรงบันดาลใจของตัวละครและองค์ประกอบนั้น เริ่มต้นมาจากความสำเร็จในการเดินทางไปดวงจันทร์ใน ค.ศ. 1969 จนถึงความเทอะทะและท่าทางการเดินแปลกๆ ของมนุษย์ในชุดนักบินอวกาศ ที่ทำให้รู้สึกเหมือนเด็กทารกสวมผ้าอ้อม 

ทิงกีวิงกี, ดิปซี, ลาล่า และ โพ เป็นเด็กทารก 3 ขวบในชุดนักบินอวกาศที่มีเสารับสัญญาณบนหัวและจอทีวีบนหน้าท้อง

ทับบีส์ทรอนิกส์ซูเปอร์โดม

สถาปัตยกรรมโพสต์โมเดิร์นใน Teletubbies รายการเด็กสะท้อนสังคม พื้นที่ปลอดภัยไร้ผู้ใหญ่

สภาพแวดล้อมภายนอกของเทเลทับบีส์แลนด์ล้อมรอบไปด้วยทุ่งหญ้าเขียวขจี ต้นไม้ ทุ่งดอกไม้หลากสีสัน กระต่ายอีสเตอร์วิ่งไปมา แม้กระทั่งบ้านทรงโดมก็ยังมีหลังคาปูหญ้า เหมือนตัวบ้านนั้นฝังอยู่ในพื้นดิน และกำลังพรางตัวให้เข้าภูมิทัศน์รอบๆ เป็นรูปแบบของสถาปัตยกรรมที่อ่อนน้อม ไม่ต้องการเป็นจุดดึงสายตาหรือสร้างจุดเด่นใดๆ 

ตัวบ้านประกอบด้วยประตูทางเข้าทางออก ติดตั้งอยู่ด้านหน้าและด้านหลัง หน้าต่าง 4 บานรอบตัวโดม ด้านบนโดมมีรูเชื่อมต่อกับสไลเดอร์สีชมพู ที่เทเลทับบี้ทั้งสี่ใช้ขึ้นลงในช่วงเปิดและปิดรายการ ประตูและหน้าต่างออกแบบจากรูปทรงครึ่งวงกลม เจาะช่องแพตเทิร์นรูปดอกไม้ช่วยการสร้าง ‘Ornament’ หรือ อลงกรณ์เครื่องประดับตกแต่งที่มีฟังก์ชันและความหมายให้กับตัวบ้าน 

ในนัยยะหนึ่ งรูปทรงกลีบดอกไม้ทำหน้าที่เป็นช่องให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามา อีกนัยยะช่วยสร้างบุคลิกและความสนุกให้กับบ้าน พร้อมสร้างความสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างสิ่งปลูกสร้างกับธรรมชาติภายนอก

สถาปัตยกรรมโพสต์โมเดิร์นใน Teletubbies รายการเด็กสะท้อนสังคม พื้นที่ปลอดภัยไร้ผู้ใหญ่
สถาปัตยกรรมโพสต์โมเดิร์นใน Teletubbies รายการเด็กสะท้อนสังคม พื้นที่ปลอดภัยไร้ผู้ใหญ่

‘ทับบีส์ทรอนิกส์ซูเปอร์โดม’ คือชื่อที่ทางรายการตั้งให้กับบ้านหลังนี้ ซึ่งมีสถาปัตยกรรมภายในแตกต่างกับบรรยากาศภายนอกเสียเหลือเกิน 

เมื่อผ่านประตูอัตโนมัติเข้าด้านใน เราจะพบกับกลิ่นอายสถาปัตยกรรมยุคโพสต์โมเดิร์น (Post- modern) ว่าด้วยการปลดแอกจากความซ้ำซากทางรูปทรง และความจืดชืดของสถาปัตยกรรมจากยุคโมเดิร์นที่เน้นประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก ในหลายๆ ครั้ง สถาปัตยกรรมโพสต์โมเดิร์นมักถูกมองว่าเป็นการออกแบบที่เอ่อล้น การใช้สัญลักษณ์ของรูปทรงฟุ่มเฟือย ในทางกลับกัน แก่นแท้ของสถาปัตยกรรมยุคโพสโมเดิร์นคือการสร้างประสบการณ์เชิงพื้นที่ให้กับผู้ใช้งาน

ในบริบทของฉากภายในของบ้านโดมหลังนี้ ถ่ายทอดสภาพแวดล้อมของบ้านที่ผสมผสานรูปแบบพื้นที่ของยานอวกาศเข้ากับเครื่องเล่นเด็ก หลายองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมยังคงทำหน้าที่ของมัน เพียงแต่ถูกปรับแต่งรูปร่าง เพื่อสร้างธีมของความสนุกสนานมากขึ้น 

ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างของโดม รางสายไฟ แผงควบคุม ท่อน้ำ หลอดไฟ และไฟทางเดิน ซึ่งช่วยสร้างลายเส้นและแพตเทิร์นให้กับผนังโดยรอบของบ้าน เครื่องเล่นสไลเดอร์ถูกนำมาใช้แทนบันได เชื่อมพื้นชั้นล่างกับบนหลังคาโดม รถเข็นเด็กปรับเปลี่ยนให้เป็นเตียงนอน เครื่องเล่นสปริงเด้งดึ๋งก็นำมาใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์โต๊ะและเก้าอี้รับประทานอาหาร 

เยี่ยมบ้าน Teletubbies สถาปัตยกรรมโพสต์ยุคโมเดิร์นของรายการเด็กยุค 90 ที่สะท้อนค่านิยมทางสังคมและจิตวิญญาณแห่งยุค

ไม่เพียงเท่านั้น อิทธิพลของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอันเป็นผลพวงมาจากยุคโมเดิร์น ทั้งตู้เย็น เตาแก๊ส เครื่องปิ้งขนมปัง โทรทัศน์ เครื่องดูดฝุ่น วิทยุ และระบบอัตโนมัติ ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตสมัยใหม่ จนกลายเป็นสิ่งที่ทุกๆ คนคุ้นเคย 

ในโลกของเทเลทับบี้ เครื่องจักรและอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านก็เป็นส่วนสำคัญของฉากที่เข้ามาสร้างความตลกขบขัน และยังช่วยขับเคลื่อนเนื้อหาของรายการ เหล่านี้ถูกออกแบบเสมือนว่ามีชีวิตผ่านการเคลื่อนไหวและเสียงเอฟเฟกต์ของเครื่องยนต์

เสาลำโพงกระจายเสียงผุดขึ้นทั่วเทเลทับบีส์แลนด์ เพื่อแจ้งเตือนเหตุการณ์สำคัญต่างๆ แผงควบคุมที่ทำงานด้วยเสียง เป็นเครื่องผลิตฟองน้ำที่เหล่าทับบี้ใช้เพื่อทำความสะอาดตัวเอง เครื่องปิ้งขนมปังและเครื่องทำคัสตาร์ดทับบี้ที่สร้างความเลอะเทอะภายในบ้านเสมอ 

ตอนไหนที่อุปกรณ์เหล่านี้เกิดเสียขึ้นมา จะก่อความวุ่นวายอย่างมากให้กับ นูนู้ (Noo-noo) เครื่องดูดฝุ่นสีฟ้าที่ทำงานด้วยระบบอัตโนมัติและมีดวงตาขยับไปมาได้ คอยตามเก็บกวาดเศษอาหารและสิ่งสกปรก ถือเป็นผู้รักษาความสะอาดเพียงผู้เดียวในซูเปอร์โดมแห่งนี้ โดยเสียงขณะดูดกลืนทำความสะอาดนั้น ก็ไม่ต่างกับเสียงบ่นพึมพำของพวกผู้ใหญ่เลย

ซูเปอร์โดมใน ค.ศ. 2005

เยี่ยมบ้าน Teletubbies สถาปัตยกรรมโพสต์ยุคโมเดิร์นของรายการเด็กยุค 90 ที่สะท้อนค่านิยมทางสังคมและจิตวิญญาณแห่งยุค
เยี่ยมบ้าน Teletubbies สถาปัตยกรรมโพสต์ยุคโมเดิร์นของรายการเด็กยุค 90 ที่สะท้อนค่านิยมทางสังคมและจิตวิญญาณแห่งยุค

เทเลทับบีส์ ต้นฉบับออนแอร์ตอนสุดท้ายใน ค.ศ. 2001 ต่อมาใน ค.ศ. 2015 มีการสร้างเวอร์ชันรีบูต โดยนำเรื่องราวของบทต้นฉบับกลับมาทำใหม่ และเนื่องด้วยสัญญาเช่าการถ่ายทำในฉากกลางแจ้งได้สิ้นสุดลง ทางทีมงานจึงต้องสร้างโมเดลจำลองขนาดใหญ่ (ขนาด 1 : 20) ของเทเลทับบีส์แลนด์ ส่วนตัวนักแสดงก็ต้องเปลี่ยนจากแสดงในสถานที่จริง เป็นฉากพื้นหลังบลูสกรีนเพื่อนำมาตัดต่อ CGI ในภายหลัง 

รูปลักษณ์ภายนอกของโมเดลจำลองนั้นไม่ได้เปลี่ยนไปจากฉากต้นฉบับมากเท่าไหร่ นอกจากใช้เทคนิคทำให้ตัวบ้านโดมกลมกลืนไปกับเนินเขามากขึ้น

ส่วนฉากภายในของซูเปอร์โดมถ่ายทำในสตูดิโอ การตกแต่งสถาปัตยกรรมภายในมีการปรับเปลี่ยนไปไม่น้อย ที่เห็นได้ชัดคือ การเปลี่ยนโทนสีของฉากในหลายๆ จุด เช่น โครงสร้างของโดม หน้าต่าง และประตู ที่ทาสีเหลือง พื้นบ้านปูด้วยพรมสีเขียวเหมือนทุ่งหญ้าด้านนอก เตียงและเฟอร์นิเจอร์เน้นการใช้สีส้ม นูนู้ เครื่องดูดฝุ่นก็พ่นสีใหม่จากสีฟ้าเป็นสีส้ม อุปกรณ์เครื่องใช้อื่นๆ เน้นไปทางโทนสีชมพู 

นอกจากนั้น ทางรายการยังเพิ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างโทรศัพท์เทเลทับบีส์แบบหน้าจอสัมผัสเข้าไปในฉากใหม่ เมื่อมองภาพรวมแล้ว โฉมใหม่ของฉากนี้ให้ความรู้สึกเหมือนว่าบ้านโดมแห่งนี้ได้กลายเป็นห้องของเล่นขนาดใหญ่ไปแล้ว

เยี่ยมบ้าน Teletubbies สถาปัตยกรรมโพสต์ยุคโมเดิร์นของรายการเด็กยุค 90 ที่สะท้อนค่านิยมทางสังคมและจิตวิญญาณแห่งยุค

“หมดเวลาสนุกแล้วสิ หมดเวลาสนุกแล้วสิ”

อย่างไรก็ตาม เทเลทับบีส์ ยังครองตำแหน่งรายการอมตะในความทรงจำอันเลือนรางจากวัยเด็ก ในฐานะเขตปลอดภัยที่ไม่มีผู้ใหญ่ เป็นลานละเล่นในทุ่งหญ้าสีเขียวอันกว้างใหญ่ไกลสุดลูกหูลูกตา 

ขณะที่เรารับชมรายการผ่านจอทีวี เหล่าเทเลทับบีส์ก็มองดูชีวิตของเด็กๆ ผ่านจอทีวีบนหน้าท้อง รายการทีวีสุดคลาสสิก จับสาระสำคัญของกระแสสังคมเกี่ยวกับเทคโนโลยี ชุด และยานอวกาศ และปรับเปลี่ยนเป็นฉากสร้างความตลกขบขัน การเปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้า หุ่นยนต์ และเครื่องจักร ให้กลายเป็นเหมือนเพื่อนหนึ่งคนสำหรับเด็กๆ

เยี่ยมบ้าน Teletubbies สถาปัตยกรรมโพสต์ยุคโมเดิร์นของรายการเด็กยุค 90 ที่สะท้อนค่านิยมทางสังคมและจิตวิญญาณแห่งยุค

สมดุลของสมัยนิยม

ฉากจากต้นฉบับใน ค.ศ. 1997 และฉบับรีเมกใน ค.ศ. 2015 สื่อสารผ่านสถาปัตยกรรมโพสต์โมเดิร์น การใช้สีและเครื่องประดับตกแต่งที่มีฟังก์ชัน ไม่ใช่เป็นเพียงเครื่องประดับตกแต่ง ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมพร้อมทั้งถ่ายทอดบรรยากาศของความสุขสนุกสนาน ซึ่งถ้าเลือกใช้สถาปัตยกรรมแบบมินิมอลหรือโมเดิร์น ก็อาจสื่อออกมาไม่ได้ดีเท่านี้

ข้อถกเถียงที่น่าสนใจเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมร่วมสมัยในยุคปัจจุบันคือ สถาปนิกหลายๆ คนคุ้นชินกับการออกแบบด้วยรูปทรงที่เรียบง่าย วัสดุดิบ สีขาว ความงามบริสุทธิ์ จนการใช้สีสันหลากหลาย สิ่งประดับตกแต่ง และสัญลักษณ์ กลายเป็นเครื่องมือที่ไม่นิยมใช้ในงานออกแบบอีกต่อไป เหมือนกับว่าวันหนึ่งบ้านแต่ละหลังก็เลิกติดวอลเปเปอร์ เพราะเราต้องการความงามแบบมินิมอล หรืออาจเป็นเพราะสถาปนิกไม่อยากสร้างงานสถาปัตยกรรมที่ล้นจนเกินงาม

เยี่ยมบ้าน Teletubbies สถาปัตยกรรมโพสต์ยุคโมเดิร์นของรายการเด็กยุค 90 ที่สะท้อนค่านิยมทางสังคมและจิตวิญญาณแห่งยุค

แต่คิดดูดีๆ แล้ว การทำแบบนี้ก็ไม่ต่างจากการโยนเครื่องมือในการออกแบบหนึ่งชิ้นทิ้งไปหรือไม่ การเลือกที่ไม่ใช้สีสันหรือเครื่องประดับตกแต่งจนเคยชิน มันทำให้เราขาดทักษะในการใช้เครื่องมือ และทำให้เรากลายเป็นคนไม่รู้หนังสือ ที่อ่านความหมายของสัญลักษณ์ตามอาคารสถาปัตยกรรมไม่ได้ไปแล้วหรือเปล่า

ไม่แน่ว่า ไซท์ไกสท์ (Zeitgeist) ของสถาปัตยกรรมร่วมสมัยในยุคนี้ อาจจะหมายถึงการออกไปตามหาสมดุลระหว่างการออกแบบสถาปัตยกรรมที่มีทั้งฟังก์ชันและจิตวิญญาณ โดยสามารถถ่ายทอดประสบการณ์เชิงพื้นที่ ขณะเดียวกันก็ยังตอบสนองการใช้งานของผู้ใช้อาคาร 

ซึ่ง ณ ตอนนี้ เราจะขอละไว้ให้นักประวัติศาสตร์ในอนาคต มองย้อนกลับมาแล้วตีความถึงสมัยนิยมของสถาปัตยกรรมของยุคนี้กันต่อไป

ข้อมูลอ้างอิง

Teletubbies, 1997-2001 Ragdoll Productions Anne Wood & Andrew Davenport (Creator), 2015 – Present Darrall Macqueen Production, BBC Television Network 

www.bbc.com/historyofthebbc/anniversaries/march/teletubbies-begins

www.theguardian.com/tv-and-radio/2013/jun/03/how-we-made-teletubbies

us.teletubbies.com/about-teletubbies/www.architecturaldigest.com/story/house-teletubbies-decor-set
endboard.blogspot.com/2018/09/teletubbies-archive.html/britishcinematographer.co.uk/new-teletubbies-gets-a-high-tech-cinematographic-approach/

Writer

Avatar

วีรสุ แซ่แต้

เนิร์ดสถาปนิกสัญชาติไทยที่จบการศึกษาและทำงานอยู่ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ หลงใหลในสถาปัตยกรรมและแสวงหาความหมายของสถาปัตยกรรมที่มีจิตวิญญาณ