The calm before the storm

ฉันนึกถึงสำนวน ‘ช่วงเวลาสงบก่อนพายุเข้า’ เมื่อพูดถึงการสัมภาษณ์หนุ่มไทยคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตเป็นนักร้องอยู่ที่เกาหลี ด้านนอกห้องสีขาวเงียบกริบจนแทบได้ยินเสียงลมหายใจ แฟนคลับมหาศาลรอคอยการปรากฏตัวของสมาชิกวง GOT7 แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล ในงาน est Cola BamBam One Man Show บรรยากาศตื่นเต้น รอคอย เป็นสุข ท่วมท้นปะปนหน้าเวที กระแสความรักก่อตัวล่วงหน้านานหลายชั่วโมง และจะกระหึ่มกึกก้องกว่านี้อีกหลายเท่าเมื่อซูเปอร์สตาร์ก้าวออกไป

ส่วนฉันอยู่ในห้องรับรองกับคำถามไม่กี่ข้อ เวลาไม่กี่นาทีที่จะได้พูดคุยกับเขาแบบพิเศษ และความตื่นเต้นเหมือนกำลังจะลงมือทำข้อสอบ

เมื่อเด็กหนุ่มผมสีแดงเพลิงเข้ามานั่งแล้วส่งยิ้มให้ ฉันก็เข้าใจ

นั่นไง ตาพายุมาแล้ว

แบมแบม GOT7

เริ่มรู้ว่าชีวิตจริงคืออะไร

กราฟชีวิตของแบมแบมแตกต่างจากคนทั่วไป ขณะที่เด็กๆ คนอื่นเรียนหนังสือชั้นมัธยมต้น กันต์พิมุกต์วัย 13 ปี จากเมืองไทยไปเป็นนักร้องฝึกหัดที่เกาหลี เรียนภาษา เรียนร้อง เรียนเต้น ฝึกวิชาชีวิตนอกห้องเรียน จนได้เปิดตัวเป็น 1 ในสมาชิก 7 คนของวง GOT7 ในปี 2014 การเข้าสู่วัยทำงานตั้งแต่อายุน้อยมีราคาชีวิตที่ต้องจ่าย ประสบการณ์วัยเยาว์ที่หายไปแลกมาด้วยสถานะ ชื่อเสียงเงินทองที่หลายคนใฝ่ฝัน

“ผมมีทั้งเรื่องที่เสียดาย และก็เรื่องที่คิดว่าดีแล้วเหมือนกัน สิ่งที่เสียดายก็คือไม่มีชีวิตวัยเด็ก ผมไม่มีเพื่อนสนิทที่ไทยสักคน เวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่จะคบเพื่อนมัธยมแล้วไปมหา’ลัยด้วยกัน แต่ช่วงนั้นคือผมกำลังเทรนที่เกาหลี แต่มันก็ดีที่เริ่มทำงานตั้งแต่อายุน้อย ถ้าเกิดว่ามาไม่ถูกทางเรายังเปลี่ยนได้ เสียนิดนึง แต่ยังมีเวลาพอที่จะตัดสินใจได้อยู่

“สิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นกับผมหลังจากเดบิวต์คือการทำให้ครอบครัวได้สบายขึ้น ก่อนเดบิวต์บ้านผมหลังเล็กมากครับ หลังคารั่วทุกรอบที่ฝนตก การเปลี่ยนสภาพแวดล้อม เปลี่ยนบ้านให้ได้ เป็นเรื่องที่ดีที่สุด”

ปีนี้แบมแบมอายุครบ 20 ปี กำลังเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เมื่อนับอายุตามหลักสากล ในขณะเดียวกันความนิยมใน GOT7 ก็กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บทเพลงของพวกเขาเริ่มได้รับรางวัลที่ 1 และได้รางวัลปลายปีตามรายการต่างๆ มากขึ้น แถมบอยแบนด์วงนี้เพิ่งจบการทัวร์ 4 ภาคที่นครราชสีมา เชียงใหม่ กรุงเทพฯ และภูเก็ต เป็นวงเกาหลีวงแรกที่เปิดแสดงทั่วประเทศไทย สมาชิกคนไทยเพียงคนเดียวจึงได้กลับมาทำงานที่บ้านเกิดถี่ขึ้น และบางครั้งก็รับงานเดี่ยวเพียงลำพังเหมือนครั้งนี้ นับจากวันแรกที่เดบิวต์จนถึงปัจจุบัน เห็นได้ชัดว่าเด็กหนุ่มเติบโตขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ

“จะว่าเป็นผู้ใหญ่แล้วรึยังผมก็ไม่ชัวร์นะ แต่ที่แน่ๆ คือโตขึ้นกว่าเมื่อก่อน เริ่มรู้ว่าชีวิตจริงคืออะไร ผมว่าผมรู้เร็วกว่าคนอายุเท่าผมหลายคน ส่วนใหญ่คงกำลังเรียนมหา’ลัย ขึ้นปี 2 ยังไม่ได้เข้าสังคมจริงๆ จังๆ ส่วนผมไม่มีสังคมโรงเรียน แต่ได้เจอคนโน้นคนนี้เยอะ เรียนรู้ที่จะเตรียมอนาคตว่าตอนนี้เราอยู่ตรงนี้ แล้วถ้าเราอยากไปอยู่ตรงนั้น เราต้องทำยังไง”

แบมแบม GOT7

แบมแบม GOT7

เรียนรู้นอกตำรา

การร้อง การแร็พ การเต้น ภาษาเกาหลี และภาษาอังกฤษ สิ่งเหล่านี้อาจอยู่ในห้องซ้อมของ JYP แต่ประสบการณ์การทำงานเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสอนได้ ชีวิตใต้แสงไฟเป็นบทเรียนบทแล้วบทเล่าให้กันต์พิมุกต์เติบโตอย่างก้าวกระโดด

“ผมอาจไม่ได้เรียนรู้จากในตำรา แต่ว่าได้เรียนรู้นอกตำราเยอะพอสมควร ทั้งการคบคน การวางตัว ผมอาจจะยังอายุน้อยอยู่ แต่ไม่ได้ใช้ชีวิตแบบคนอายุน้อยสักเท่าไหร่ เริ่มเรียนรู้ว่าในสถานการณ์แบบนี้เราต้องทำตัวยังไง เจอผู้ใหญ่ต้องทำยังไง เวลามีงาน ต้องรับผิดชอบอะไรตรงไหน ต้องระวังอะไร ต้องมีเวลาส่วนตัวเวลาไหนบ้าง แล้วเวลาว่างๆ ควรใช้เวลายังไง

“วงการแบบนี้การแข่งขันสูงครับ การจะเอาตัวรอดมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ตอนเด็กๆ เขาให้ทำอะไรผมก็ทำตามไปหมด เดี๋ยวนี้ถ้าผมคิดอะไรที่แตกต่าง ผมก็จะลองทำในแบบที่เชื่อดู อาจได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง แต่พอเริ่มเรียนรู้ชีวิต ผมก็เริ่มมองเกมออกว่าต้องเล่นเกมตรงนี้ยังไง สมมติมีงานออกรายการเข้ามา คนที่เล่นเกมไม่เป็นจะไม่เตรียมตัว ไม่รู้ว่าเป็นรายการอะไร ต้องเตรียมตัวยังไง ต้องพูดอะไร แล้วก็ไม่รู้ว่าคนดูอยากได้อะไรจากตัวเรา ผมไม่ได้เชี่ยวชาญ 100% นะ แต่เริ่มรู้ว่าหลายๆ คนอยากได้อะไรจากผม อยากได้ยินผมพูดอะไร สงสัยอะไรในตัวผม ดังนั้นผมจะพูดสิ่งที่เขาอยากฟัง มากกว่าพูดแค่สิ่งที่เราอยากจะเล่า”

แล้วสิ่งที่เราเห็นมีความจริงมากน้อยแค่ไหน ฉันนึกสงสัย หากการแสดงออกของไอดอลในหน้าจอหรือบนเวทีคือการเล่นตามบท ในวินาทีที่ความคาดหวังของอากาเซหรือแฟนๆ ประเดประดังเข้ามา ตัวตนของนายกันต์พิมุกต์ลบเลือนไปบ้างรึเปล่า

“ไม่นะ ผมไม่ได้เฟคหรือว่าโกหก ถ้าผมมีเรื่องที่เขาอยากรู้ ผมก็บอก ถ้าผมไม่มีจริงๆ ก็บอกว่าไม่มี มันไม่ได้กดดันอะไร ถ้าคนเริ่มมองออกว่าผมเป็นยังไง เริ่มรู้จักตัวตนที่แท้จริงของผมแล้ว ผมก็ควรที่จะพูดความจริงบ้าง ไม่ใช่พูดอะไรที่เขาอยากฟังแค่อย่างเดียว”

แบมแบม GOT7 แบมแบม GOT7

ไอคอน vs. คนธรรมดา

การทำงานมาหลายปีทำให้แบมแบมมองเห็นเป้าหมายที่เขาจะเอื้อมคว้า ชายหนุ่มรู้ตัวว่าเขาอยากเดินบนเส้นทางนี้ต่อไป แต่นั่นแหละ ไอดอลหรือดาราก็มีเลือดมีเนื้อเหมือนคนทั่วไป แบมแบมพูดตรงๆ ว่าในบางวันเขาก็อยากเป็นแค่วัยรุ่นคนหนึ่งเหลือเกิน

“บางทีผมก็อยากจบทุกอย่างแล้วกลับไปเป็นคนธรรมดา มีวันที่คิดว่าถ้าเราเป็นคนธรรมดา เราคงไม่ต้องเจอเรื่องแบบนี้ แต่เรื่องความฝันนี่อธิบายยากนะครับ ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือผมอยากเป็นแรงบันดาลใจให้คน หลายคนบอกว่าอยากเป็นเหมือนพี่แบมแบม ผมเลยอยากเป็นไอคอน ไม่ใช่แค่กับเด็กๆ ที่อยากทำงานด้านนี้นะ แต่การทำงานตรงนี้ผมต้องเสียสละหลายอย่าง สละอิสรภาพเพื่อจะทำสิ่งที่ผมชอบ สละวัยเด็ก ดังนั้นผมอยากเป็นแรงบันดาลใจด้านการทำงาน ด้านความอดทน แต่ก็ไม่วางตัวเป็นซูเปอร์สตาร์นะ ผมก็ยังเป็นผม ทำตัวสบายๆ เวลาขึ้นเวทีก็บ้าบอเรื่อยไป กลับบ้านก็เดินตลาดเลียบด่วน (หัวเราะ)”

แววตาของนักร้องมืออาชีพมีความจริงใจและชีวิตชีวา อีกไม่กี่นาทีข้างหน้า แบมแบมแห่ง GOT7 จะออกไปแจกจ่ายความสนุกสนานให้ผู้คนที่รักเขา เด็กหนุ่มผมสีแดงสบตาฉันก่อนเอ่ยชัดเจน

แบมแบม GOT7

“ผมอยากให้คนชอบตัวตนที่แท้จริงของผม ไม่ต้องมองเห็นผมเป็นอะไรเลย เป็นแบมแบมนี่แหละพอแล้วครับ ถ้าเขาไม่ชอบก็ไม่เป็นไร ดีกว่าต้องไปเฟคให้คนมาชอบนะ ผมไม่ชอบอะไรแบบนั้นเลย แล้วผมเป็นคนชิลล์ๆ ไม่ค่อยดราม่ากับอะไรซักเท่าไหร่ ไม่ถนัดแสดงความเศร้า ถ้าใครบอกว่า แบมแบมร้องไห้สิ โห ผมไม่เคยบีบน้ำตาตัวเองได้สักรอบนึง ร้องไม่เป็น มันต้องเศร้าจริงๆ ถึงจะร้อง”

เสียงของแฟนคลับที่รอพบแบมแบมดังแว่วจากนอกห้อง เวลาสนทนาของเราจบลงด้วยรอยยิ้มของกันต์พิมุกต์ เขาลุกขึ้นเตรียมทำหน้าที่โอบกอดความรู้สึกของผู้คนอย่างที่มืออาชีพพึงจะเป็น ฉันเก็บความสงสัยเรื่องเสียน้ำตาของแบมแบมไว้ในใจขณะเดินออกมา ผ่านใบหน้าของผู้คนหลายร้อยที่รอคอยเขาด้วยความหวังและความสุข

ได้เวลาที่พายุจะพัดแล้ว

แบมแบม GOT7

Save

Save

Writer

ภัทรียา พัวพงศกร

ภัทรียา พัวพงศกร

บรรณาธิการ นักเขียน ที่สนใจตึกเก่า เสื้อผ้า งานคราฟต์ กลิ่น และละครเวที พอๆ กับการเดินทาง

Photographer

มณีนุช บุญเรือง

มณีนุช บุญเรือง

ช่างภาพสาวประจำ The Cloud เป็นคนเชียงใหม่ ชอบแดดยามเช้า การเดินทาง และอเมริกาโน่ร้อนไม่น้ำตาล