ถ้าพูดถึงย่านที่คนญี่ปุ่นอาศัย คำตอบในหัวอย่างแรกที่ปิ๊งขึ้นมาคือย่านสุขุมวิท ทองหล่อ และสีลมรองลงมา ซึ่งย่านที่มีคนญี่ปุ่นอาศัยอยู่มากที่สุดคงเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจากสุขุมวิท ที่เรียกได้ว่าเป็นเจแปนนิสทาวน์ แม้ใครที่ทำงานหรือเคยผ่านแถวนี้มักจะเห็นบรรยากาศความน่ารักของเด็กๆ และกลุ่มแม่บ้านแดนปลาดิบที่ใช้ชีวิตแบบญี่ปุ่นอยู่ที่ใจกลางกรุงเทพฯ
ใครอยากลองออกทำความรู้จักงานอดิเรกของชาวอาทิตย์อุทัย และเปิดใจทำกิจกรรมวัฒนธรรมญี่ปุ่น ขอให้ปักหมุดวันว่างแล้วเปิดอ่านบทความนี้อย่างละเอียด นี่คือคู่มือไซส์มินิที่จะพาทุกคนไปทำความรู้จักเสน่ห์ญี่ปุ่นที่ซ่อนความดีงามไว้ทั่วเมืองหลวง
เรียนรู้ความงามแบบธรรมชาติกับศิลปะการจัดดอกไม้แบบอิเคบานะที่ Voice Hobby Club
ความงามของดอกไม้เสกให้วันธรรมดากลายเป็นวันพิเศษ หรือเพิ่มสีสันพร้อมสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับสิ่งรอบด้าน เมื่อความพิเศษเหล่านี้ผนวกกับศิลปะการจัดดอกไม้แบบญี่ปุ่นอย่าง ‘อิเคบานะ’ (Ikebana) การจัดดอกไม้ที่สะท้อนความจริงของธรรมชาติหลากหลายรูปแบบ คงสร้างความสะดุดตาสะดุดใจให้ผู้พบเห็นมากขึ้นไปอีก
ทดลองจัดดอกไม้แบบญี่ปุ่นได้ที่ Voice Hobby Club คลับย่านสุขุมวิทของคนญี่ปุ่นที่รักการทำกิจกรรม โดยคนไทยก็ร่วมกิจกรรมด้วยกันได้ Noriko Oka-Managing Director เล่าให้ฟังว่า ในทุกๆ คลาสจะมีอาจารย์ 2 คนช่วยสอนนักเรียนตั้งแต่วิธีการเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ เช่น แจกัน เคนซัง (ฐานสำหรับปักดอกไม้) ไปจนถึงหลักการปักดอกไม้เบื้องต้น (Basic Upright Style Moribana) ให้สวยงาม ซึ่งที่นี้จะเริ่มสอนจากคอร์สเบสิก 5 ครั้ง ก่อนต่อยอดไปเป็นคอร์สแอดวานซ์หรือ Basic-Modern ซึ่งสามารถออกแบบการจัดดอกไม้ได้เองตามต้องการ
เสน่ห์ของอิเคบานะไม่ได้มีเพียงการสร้างองค์ประกอบที่สวยงามให้ดอกไม้มากขึ้น แต่ยังช่วยสร้างสมาธิ ปล่อยวางจิตใจให้เย็นสบาย เพราะในทุกๆ ขั้นตอนจะต้องอาศัยจิตใจที่สงบ เพื่อค่อยๆ ดึงให้ความงามของดอกไม้เด่นชัดมากยิ่งขึ้น
ใครที่สนใจกิจกรรมจัดดอกไม้แบบอิเคบานะสามารถทดลองเรียนก่อนได้ในราคา 1,500 บาท
ที่อยู่ | Racquet Club สุขุมวิท 49/9 อาคาร4 ชั้น3 กรุงเทพฯ 10110
เวลาทำการ | วันจันทร์-วันศุกร์ 08.30 – 18.00 น. / วันเสาร์ 09.00 – 13.00 น.
โทร | 021197251
Facebook | voicehobbyclubth
แวะพักผ่อน แช่ออนเซ็นสไตล์ญี่ปุ่นแบบส่วนตัวสุดๆ ที่ KaShiKiRi Onsen
การแช่ออนเซ็นร่วมกับคนแปลกหน้าอาจสร้างความเขินอายที่ทำให้หลายคนพลาดโอกาสในการลองอีกหนึ่งกิจกรรมสุดคลาสสิกตามแบบฉบับของชาวญี่ปุ่น ปัญหานี้จะหมดไปที่คาชิคิริออนเซ็น ออนเซ็นส่วนตัวแห่งแรกของประเทศไทย
เชอรี่-ธิดารัตน์ รุ่งอัมพรกุล ตัวแทนผู้บริหารของทางออนเซ็นเล่าให้เราฟังว่า คาชิคิริมีความหมายถึงความเป็นส่วนตัวและความพิเศษ ดังนั้น การผสมผสานระหว่างออนเซ็นแบบวัฒนธรรมญี่ปุ่นกับความเป็นส่วนตัวแบบไทยจึงกลายเป็นจุดเด่นอันดับแรกของที่นี่
ออนเซ็นใจกลางกรุงเทพนี้คงเอกลักษณ์แบบญี่ปุ่นเอาไว้ได้อย่างดี ผ่านการเลือกใช้น้ำแร่ส่งตรงจากเมืองออนเซ็นชื่อดังของญี่ปุ่น ทั้งคุโรคาวะและเบปปุ ที่จะผลัดเปลี่ยนกันไปในแต่ละเดือน นอกจากนี้ น้ำทั้งหมดในแต่ละวันยังถูกนำมาไหลเป็นลำธารและจัดเป็นบริเวณแช่เท้าเล็กๆ ก่อนจะเตรียมนำออกไปใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน
“เราต้องไปศึกษาที่ญี่ปุ่นตลอดว่าน้ำแร่แบบไหนที่อินเทรนด์หรือมีคุณสมบัติหลากหลาย เพราะคนที่มาก็อยากจะแก้ปัญหาที่แตกต่างกันออกไป”
เชอรี่เสริมว่า นอกจากการแช่ออนเซ็นแล้ว คาชิคิริยังมีบริการนวดคลายกล้ามเนื้อทั้งแบบไทย ตะวันตก และแบบชิอัทสึ หรือการกดจุดคลายเส้นแบบญี่ปุ่น ที่จะยิ่งได้ผลดีหลังจากแช่ออนเซ็นและยังคงความเป็นส่วนตัวได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย
ที่อยู่ | 84 ซอยสุขุมวิท 49 (สามารถเข้าได้ทั้งทาง KaShiKiRi และ MAYU)
เวลาทำการ | วันจันทร์-อาทิตย์ 10.00 – 22.30 น. (วันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 10.00 – 13.00 น. ลด 20%)
โทร | 0812684624, 022587902
Facebook | Kashikiri onsen and spa – Kashikiri49
เว็บไซต์ | www.kashikirionsenandspa.com
เลือกเสื้อคลุมกิโมโนในแบบที่ใช่ที่ร้าน Juicy Kimono Vintage
ปัญหาแต่งตัวแล้วดูซ้ำกับชาวบ้าน หรือหาเสื้อผ้าในโอกาสพิเศษไม่ได้จะหมดไป เมื่อไปถึง Juicy Kimono Vintage ร้านขายชุดยูกาตะและชุดกิโมโนมือสองที่คัดเลือกคุณภาพมาอย่างดี มีเนื้อผ้าหลากหลาย อาทิ ผ้าไหม ผ้าฝ้าย และผ้าไหมญี่ปุ่น
ใครกำลังมองหากิโมโนแบบครบชุดก็รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะนอกจากชุดแล้ว ที่นี่ยังมีโบและโอบิลายสวยความหมายดีไว้ตกแต่งเพิ่มสีสันให้มากขึ้น หรือจะใส่ให้เต็มยศสมกับเป็นชุดประจำชาติของญี่ปุ่นก็ยังได้ นอกจากนี้ ทางร้านยังมีสินค้ามือสองอีกหลากหลาย เช่น ตุ๊กตา เกี๊ยะ และของใช้แบบญี่ปุ่น โดยสินค้าจะเข้าร้านทุกๆ 2 สัปดาห์
“ทางร้านเน้นเลือกชุดที่ใส่ได้ในชีวิตประจำวัน เราเอามาให้ลูกค้ามิกซ์แอนด์แมตช์ได้จริงๆ ในชีวิตประจำวันที่ไทยได้ เช่น ใส่ไปทะเล หรือบางคนที่ทำงานก็เลือกใส่ตัวสั้นเป็นเสื้อคลุมก็ได้”
พนิดา นาคา เจ้าของร้านเล่าจุดเด่นที่ทำให้ร้านไม่เหมือนใคร ถ้าอยากลองหาไอเทมเด็ดมาแมตช์กับเสื้อผ้าตัวโปรด พุ่งตัวไปร้านนี้ได้เลย
ที่อยู่ | The Camp Vintage Flea Market
เวลาทำการ | วันศุกร์-วันอาทิตย์ 18.00 น. เป็นต้นไป
ติดต่อ | 0966845568
Facebook | Juicykimono
ช้อปปิ้งเครื่องครัวและงานเซรามิกส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่นที่ Minohan
เครื่องครัวและจานชามกุ๊กกิ๊กเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เมื่อทานอาหารแบบญี่ปุ่น เราไปเยี่ยมแหล่งขายส่งจานเซรามิกและเครื่องครัวทุกชนิดที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ อย่างร้าน ‘Minohana’ ซึ่งเป็นศูนย์รวมสารพัดของใช้มือหนึ่ง หลากหลายรูปแบบในร้านอาหารญี่ปุ่นเอาไว้ในที่เดียว
“บริษัทของเรามีต้นกำเนิดมาจากเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องมิโนยากิหรือเครื่องปั้นดินเผา นอกจากนี้ เรายังทำงานร่วมกับโรงงานที่ญี่ปุ่นอีกหลายแห่งซึ่งโดดเด่นเรื่องงานปั้น เช่น เมืองอาริตะ เพราะฉะนั้น เราเลยมีสินค้าที่หลายๆ ร้านอาจจะไม่มี”
เอิง-อภิญญา กิจเกิดแสง Sales Assistant เล่าให้เราฟังถึงจุดเด่นของ Minohana ที่ทำให้ทางร้านกลายเป็นที่รู้จักในหมู่ผู้สนใจทำร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นและคนรักถ้วยชาม
สินค้าที่โดดเด่นที่นี่หนีไม่พ้นงานเซรามิกต่างๆ ที่ถูกออกแบบมาอย่างประณีต งดงาม อย่างจานลายคลื่น The Great Wave of Kanagawa จานเซ็ต Kinpaku สีทอง หรือที่ใส่สาเกลาย Hake รวมทั้งของแปลกๆ อย่างถังไม้สำหรับใส่ข้าวสวยสไตล์โอซาก้าและโตเกียว ก็มีให้เลือกครบทุกรูปแบบ
หากการเดินเลือกซื้อสินค้าในร้านยังไม่จุใจ ทางร้านก็มีบริการสั่งสินค้าจากแคตตาล็อกที่จุสินค้ากว่าพันชิ้น พร้อมส่งตรงจากญี่ปุ่นมาตามต้องการก็ยังได้
ที่อยู่ | IWATO (Thailand) Co., Ltd. 591 อาคารยูบีซี 2 ห้อง1204B ซอยสุขุมวิท 33 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพ 10110
โทร | 02-662-1700
www.Iwato.co.th
Facebook | Iwato Minohan
ตัดผมแบบนิปปอนบอย-นิปปินเกิร์ล ที่ Rikyu by Boy Tokyo ร้านตัดผมสุดฮิตจากโตเกียว
‘เอาออกนิดเดียว’ น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ที่หลายคนต้องเจอเมื่อก้าวขาเข้าไปในร้านตัดผม แล้วก้าวขาออกมาพร้อมความว้าวุ่นที่ไม่อาจคาดเดาได้ แต่เราเชื่อว่าปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นที่ร้านตัดผมสไตล์ญี่ปุ่นสุดมินิมอลแห่งนี้อย่างแน่นอน
“เราเน้นงานประณีต ตัดผมอย่างต่ำใช้เวลา 1 ชั่วโมง อยากรู้ว่าขนาดไหนคงต้องมาลอง” เปรียว-ปิยธิดา วิรุณบุตร Hair Stylist ประจำร้าน Rikyu Boy ร้านตัดผมสัญชาติญี่ปุ่นเกริ่นกับเรา
คำว่า Rikyu มีความหมายคือบ้านพักตากอากาศ ซึ่งนอกจากจะหมายถึงการโยกย้ายจากญี่ปุ่นมาพักผ่อนในประเทศไทยแล้ว ตัวอาคารของร้านยังถูกดัดแปลงมาจากบ้านเก่าอายุกว่าร้อยปี ที่ถูกแปลงโฉมเป็นสีขาวสะอาดและจัดสรรปันส่วนให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
พนักงานทุกคนในร้านได้รับการฝึกฝนกันยาวนานถึง 3 ปี เพื่อให้มีฝีมือเทียบเท่ากับพนักงานที่ Boy Tokyo ร้านสาขาใหญ่ นอกจากความประณีตในการตัดผม และความเป๊ะแบบขอทรงไหนได้ทรงนั้นแล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นของร้านคือเทคนิคการออกแบบทรงผม
“เรามีวิธีการอธิบายให้ลูกค้าฟังด้วยการวาดภาพ สำหรับทรงผมยากๆ ที่ลูกค้าอาจไม่เข้าใจ ซึ่งช่างผมทุกคนจะถูกฝึกมาให้วาดรูปต้นแบบก่อนเสมอ”
เปรียวเสริมให้ฟัง และคงไม่ต้องสงสัยเลยว่า เพราะความญี่ปุ่นสุดๆ ไปเลยนี่แหละที่ทำให้ Rikyu Boy มีลูกค้าแวะเวียนมาใช้บริการกันถึงขนาดต้องโทรจองคิวนัดกันล่วงหน้าทุกครั้งก่อนใช้บริการ
ที่อยู่ | ซอยสุขุมวิท 24 ติดกับร้านท่าฉลอง
เวลาทำการ | 0 9.30 – 19.00 น.
โทร | 021155778
Facebook | Rikyu by Boy Tokyo
ทานอาหารญี่ปุ่นสไตล์ครอบครัวที่ฮานาย่า ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งแรกของประเทศ
รสชาติอาหารเหมือนได้กินข้าวที่บ้าน คือจุดเด่นที่ โยชิโอะ วาตานูกิ เจ้าของร้านอาหารฮานาย่า ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งแรกของประเทศไทยบอกเรา
ร้านอาหารขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ในย่านสี่พระยาแห่งนี้เปิดมานานกว่า 70 ปี พร้อมกับสูตรอาหารที่ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นจนถึงมือของโยชิโอะ ทายาทคนปัจจุบัน ที่เขาเองก็ได้มีโอกาสกลับไปเรียนทำอาหารจากประเทศญี่ปุ่น ก่อนจะกลับมาใช้ชีวิตที่เมืองไทยเพื่อต่อยอดและพัฒนาเมนูต่างๆ ภายในร้าน
จุดเด่นของร้านจึงหนีไม่พ้นวัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งโตเกียว โอซาก้า และฟูกุโอกะ ที่นำมาผสมผสานกับวัตถุดิบไทยและรสชาติซึ่งดัดแปลงให้ถูกลิ้นคนทาน ทั้งชุดอาหารประจำวัน เมนูต้นตำรับตั้งแต่สมัยเปิดร้าน ชิราชิ (ข้าวหน้าปลาดิบไทย) เทมปูระที่นุ่มกรอบ และสลัดมันฝรั่งบดละเอียดรสชาติกลมกล่อม
“ผมอยากให้คนคิดว่าที่นี่มีอาหารที่กินทุกวันก็ไม่เบื่อ คนเราต้องกินข้าวทุกมื้อ ผมเลยอยากให้รู้สึกถึงฝีมือแบบบ้านๆ เพราะอาหารพิเศษหรืออาหารฟิวชั่นเราอาจจะกินไม่ได้ทุกวัน” โยชิโอะกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
ด้วยเหตุนี้ ฮานาย่าจึงไม่ได้เป็นแค่ร้านอาหารที่ถูกส่งต่อธุรกิจกันมาจากรุ่นสู่รุ่น แต่ฮานาย่ายังเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่ลูกค้าต่างก็แนะนำลูกๆ หลานๆ ให้มาทานจากรุ่นสู่รุ่นด้วยเช่นกัน
ที่อยู่ | 683 ถนนสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ
ติดต่อ | 022333080, 022348095
เวลาทำการ | จันทร์-ศุกร์ 11.20 – 14.00 น. และ 17.30 – 22.00 น. (ร้านปิดทุกอาทิตย์ที่ 2 และ 4 ของเดือน)
Facebook | Hanaya 1976
แวะซื้อของสดนำเข้าจากแดนอาทิตย์อุทัยที่ Thonglor Nihon Ichiba (ตลาดญี่ปุ่นทองหล่อ)
ของสดขึ้นชื่อที่คัดสรรมาอย่างดีจากประเทศญี่ปุ่นส่งตรงมาที่ตลาดสดเปิดใหม่ใจกลางเมืองย่านทองหล่อ คงเป็นสวรรค์ไม่ใช่น้อยสำหรับผู้หลงรักทำอาหาร เพราะนี่คือแหล่งรวมของดีไม่ว่าจะเป็นเนื้อวากิวขึ้นชื่อจากเมืองนาโกย่า ปลาสดใหม่เนื้อแน่นจากตลาดสึคิจิ หรือจะเป็นผักผลไม้หวานฉ่ำจากร้านในโอตะ
Thonglor Nihon Ichiba หรือตลาดญี่ปุ่นทองหล่อ คือแหล่งเลือกซื้อของสดเปิดใหม่ในโครงการนิฮอนมุระ โดย Jalux บริษัทในเครือ Japan Airlines ที่โดดเด่นเรื่องความรวดเร็วและสดใหม่ ที่นี่ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบแต่ละชิ้น ซึ่งสามารถรับประกันคุณภาพคงที่ราวกับได้บินไปกินเองถึงแหล่งขึ้นชื่อของวัตถุดิบชนิดนั้นๆ โดยทางร้านจะนำเข้าสินค้าสัปดาห์ละ 3 วัน
เมื่อเดินเข้าไปเราจะพบกับบรรยากาศความสดของสินค้า มีให้เลือกด้วยกันถึง 3 โซน คือโซนเนื้อ โซนผัก และโซนอาหารทะเล โดยไฮไลต์ของแต่ละโซนก็มีดีไม่แพ้กัน อย่างโซนเนื้อ เราขอแนะนำ Top Round เนื้อส่วนมันน้อย ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบจากผู้ที่แวะเวียนมาและขายดีเป็นอันดับต้นๆ และสามารถเลือกซื้อได้ทั้งเนื้อแล่และเนื้อชิ้นใหญ่
หลังจากเดินเข้ามาอีกนิดเราจะพบกับโซนผักผลไม้ ซึ่งเป็นอีกโซนที่โดดเด่นด้วยผักและผลไม้รูปร่างประหลาดที่ไม่สามารถพบได้ที่ไหนอีกแล้วในกรุงเทพฯ เช่น ฟักทองอะมะคุริจากเมืองอิชิกาวะ และโซนสุดท้ายอย่างโซนปลาและอาหารทะเล เป็นโซนที่พลาดไม่ได้ เพราะบางวันทางร้านก็จะรับปลาชนิดพิเศษซึ่งอาจไม่เป็นที่คุ้นเคยนักในตลาดบ้านเราเข้ามาขายด้วย
“เนื้อจะมีสินค้าตลอด แต่ปลาเราจะเปลี่ยนแปลงตามเวลาและฤดูกาล เพราะในแต่ละช่วงปลาก็จะไม่เหมือนกัน” คุณภาสธร ศักดิ์เดชยนต์ Maketing & Sales Director ตลาดญี่ปุ่นทองหล่อ เล่าถึงความพิเศษของโซนนี้ให้ฟัง มาแล้วรับรองว่ามีของติดไม้ติดมือไปทำอาหารอร่อยๆ เป็นมื้อพิเศษแน่นอน
ที่อยู่ | 87 ซ.อรรคพัฒน์ (ทองหล่อ 13) ถ.สุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
เวลาทำการ | 09.00 – 12.00 น. (สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร) / 12.00 – 16.00 น. (สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารและลูกค้าทั่วไป) หยุดทุกวันอังคาร
โทร | 020592616
Facebook | JapanFreshWholesaleMarket
ออกแรงเคลื่อนไหวร่างกายกับศิลปะการต่อสู้แบบโบราณที่ Mugairyu Bangkok Keikokai
“ต้องมีสติอยู่กับตัวเอง อยู่กับปัจจุบัน”
อาจารย์เอกผู้เป็นทั้งเบื้องหน้าอย่างอาจารย์สอนศิลปะการต่อสู้ฟันดาบแบบโบราณของญี่ปุ่น มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี และเบื้องหลังผู้ก่อตั้งกลุ่มฝึก มุไกริว กรุงเทพ กำลังพูดถึงหัวใจของการเรียนรู้ทุกๆ ครั้ง
กลุ่มฝึก มุไกริว กรุงเทพ เปิดทำการฝึกวิชาดาบญี่ปุ่น มุไกริว อิไอเฮียวโด เป็นสำนักที่สอนศิลปะการต่อสู้ที่ผสมผสานความเป็นเซนแบบเคลื่อนไหวลงไปในท่าต่างๆ ด้วยลักษณะเด่นคือ เทคนิคที่กระชับ และการเคลื่อนไหวที่ตรงไปตรงมา ทำให้มุไกริวกลายเป็นสำนักที่มีเคล็ดลับวิชาน่าสนใจและไม่เหมือนใคร
การเรียนการสอนของกลุ่มฝึกที่นี่มีการฝึกฝน 3 ทักษะหลัก ได้แก่ อิไอโด เคนจุสสุ และชิซัน โดยเริ่มต้นจากการยืดหยุ่นร่างกายก่อนในทุกๆ ครั้ง แล้วต่อด้วยท่าพื้นฐานที่เรียกว่า ‘อิไอโด้ (Iaihyodo)’ หรือศิลปะที่ควบคุมการชักดาบออกจากฝักพร้อมกับการโจมตี และควบคุมคู่ต่อสู้ในเวลาเดียวกัน
ถึงแม้วิชาดาบต้องอาศัยความว่องไวของร่างกายเป็นส่วนหนึ่ง แต่เสน่ห์ต่างๆ มักซ่อนอยู่ในรายละเอียดของการเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นการวางมือเพื่อจับด้ามดาบ การก้าวเท้า ไปจนถึงระยะของดาบเมื่อถือขึ้นเตรียมฟัน ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยฝึกสมาธิ การอยู่กับตัวเอง เพื่อการขัดเกลาจิตใจและตัวตนข้างใน หากใครที่กำลังมองหาที่ฝึกและสนใจเสน่ห์ของศิลปะการต่อสู้แบบโบราณของญี่ปุ่นอยู่ กลุ่มมุไกริวยินดีสอนอย่างเต็มที่
ที่อยู่ | สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดี (ใช้ห้องเทควันโด)
เวลาทำการ | ทุกวันอาทิตย์ เวลา 15.00 – 17.00 น.
Facebook | Bangkokmugairyu
เว็บไซต์ | thaimugairyu.com
เสริมสร้างร่างกายพร้อมฝึกสมาธิผ่านการยิงธนูกับชมรม Siam Kyudo Kai
การเล่นกีฬาคู่กับการฝึกสมาธิคืออีกหนึ่งเอกลักษณ์สำคัญตามวิถีการเล่นคิวโด หรือการยิงธนูแบบญี่ปุ่น
เราตาม ก่อ-ก่อสกุล บุณยวรรธนะ ประธานชมรมสยามคิวโดไคไปที่สนามฝึกซ้อมยิงธนู หัวหมาก ก่อต้อนรับเราพร้อมกับสมาชิกชมรมในชุด Keiko-gi เครื่องแบบเฉพาะสำหรับการเล่นคิวโด
“การสอนที่นี่ค่อนข้างชัดเจน คือจะเริ่มฝึกด้วย 8 ท่าแรกที่ที่เรียกว่า Shaho-Hassetsu ซึ่งเป็นท่าหลักของการฝึกคิวโด เอาเข้าจริง 8 ท่าก็ไม่ง่ายเท่าไหร่แล้ว”
ก่อเริ่มเล่าให้เราฟังถึงความท้าทายของกีฬาคิวโดที่มีมากกว่าการใช้แรงในการถือคันธนูขนาดใหญ่ เพราะนักกีฬาคิวโดยังต้องเก็บรายละเอียดลึกซึ้งทั้งวิธีการก้าวขาไปจนถึงลำดับของลูกธนูที่ใช้ยิง ซึ่งอาจต้องใช้เวลาถึง 6 เดือนกว่าจะได้เริ่มยิงธนูอย่างจริงจัง
อย่างไรก็ตาม การสอนของที่นี่ถือได้ว่าแทบจะถอดแบบมาจากญี่ปุ่นเกือบทั้งหมด เพราะตลอดระยะเวลาเกือบ 9 ปีที่ผ่านมา มักมีชาวญี่ปุ่นที่เชี่ยวชาญเข้ามาแลกเปลี่ยนความรู้ และก่อเองยังมีโอกาสได้ไปสอบวัดระดับถึงประเทศญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน
มากไปกว่าความท้าทายจากการฝึกฝนแล้ว การเสริมสร้างร่างกายก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญ เพราะการจัดระเบียบร่างกายถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับการเล่นคิวโด แต่ก่อยังย้ำเสมอว่าสมาธิก็เป็นหัวใจที่สำคัญยิ่งกว่าเป้าหมายด้านหน้าเสียอีก
สำหรับใครที่อยากลองก็สามารถติดต่อไปทางชมรมได้โดยตรง ขอเพียงแค่มีความตั้งใจในการฝึกฝน และมีอายุมากกว่า 12 ปี เพราะทางชมรมเปิดสอนให้ฟรีตั้งแต่พื้นฐานเบื้องต้นพร้อมกับอุปกรณ์ให้ทดลองเรียนด้วย
ที่อยู่ | สนามยิงธนูการกีฬาแห่งประเทศไทย สนามกีฬาหัวหมาก
เวลาทำการ | ทุกวันอาทิตย์ 09.00 – 13.00 น.
Facebook | Siam Kyudo Kai
เว็บไซต์ | www.siamkyudokai.com
นัดเพื่อนไปสังสรรค์ที่ร้านคาราโอเกะสไตล์ญี่ปุ่นที่ Woodball
ลองร้องคาราโอเกะเพลงไทยเพลงฝรั่งมามากแล้ว ลองมาสัมผัสคาราโอเกะแบบญี่ปุ่นกันมั้ย ร้านคาราโอเกะ Woodball ในย่านพร้อมพงษ์ น่าจะทำให้การแฮงเอาต์ของทุกคนเต็มไปด้วยสีสันจนลืมเวลาไปเลย
บรรยากาศร้านที่โอบล้อมด้วยแสงไฟนีออนสีน้ำเงินแซมม่วงและเพลงที่คลอเบาๆ ไปจนถึงการตกแต่งเคาน์เตอร์ที่มีทั้งเหล้า วิสกี้ และวอดก้า ที่มีกลิ่นอายแบบบาร์ญี่ปุ่น ทำให้อินได้อย่างง่ายดาย ซิกเนเจอร์ของที่นี่คือความเป็นคาราโอเกะกึ่งบาร์ที่มีทั้งหมด 2 ชั้น
ใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัว อยากสนุกกับแก๊งเพื่อนสนิทพื้นที่ชั้นสองก็ร้องเพลงดังๆ ได้โดยไม่ต้องอายใคร ส่วนชั้นล่างเป็นบาร์ เหมาะสำหรับใครที่อยากร้องเพลงฉายเดี่ยวหรือพบปะเพื่อนใหม่ที่มาดื่มก็สนุกได้ไม่แพ้กัน
ความพิเศษของที่นี่คือเครื่องคาราโอเกะนำเข้าจากญี่ปุ่นที่บรรจุเพลงนับไม่ถ้วนทั้งภาษาญี่ปุ่น จีน เกาหลี และอังกฤษ อาทิ อิโตะ มิกาซึกิ แถมอัพเดตเทรนด์เพลงเรื่อยๆ ทุกเดือน เรียกได้ว่ากดเลือกเพลงอะไรก็ได้ดั่งใจ
ส่วนที่พลาดไม่ได้สำหรับความสนุกอีกหนึ่งรูปแบบ คือการสั่นริงเกอเบล เอกลักษณ์ความสนุกอีกอย่างหนึ่งของร้าน Woodball ซึ่งเป็นสัญญาณว่ามีลูกค้าคนใดคนหนึ่งในร้านอยากเลี้ยงเครื่องดื่มให้กับสตาฟฟ์ในร้านทุกคน ซึ่งบางคนก็ใจป้ำเลี้ยงลูกค้าภายในร้านด้วยเช่นกัน ใครที่กำลังหาร้านที่สนุกแถมเป็นกันเอง ปักหมุดมาร้านนี้ได้เลยรับรองไม่ผิดหวังจนอยากมาซ้ำอีกสักรอบ