ไม่แน่ใจว่าฮ่องกงในภาพจำของคนอื่นเป็นอย่างไร แต่สำหรับเราฮ่องกงเป็นเมืองที่มีความหลากหลายอย่างยิ่ง ไม่ใช่เพียงเมืองช้อปปิ้งอย่างที่ถูกโปรโมตจนเป็นภาพจำ

ไม่ว่าคุณจะมีรสนิยมอย่างไร ชื่นชอบชื่นชมสิ่งใด คุณสามารถพบสถานที่ที่ทำให้สบายใจในฮ่องกง

ชอบศิลปะก็สามารถเดินเข้ามิวเซียม ชอบถ่ายรูปก็เดินถ่ายได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ ชอบช้อปปิ้งก็มีห้างสรรพสินค้ารองรับ ชอบกินก็มีทั้งร้านอาหารริมทางยันภัตตาคารสุดหรู ชอบกาแฟและขนมก็มีคาเฟ่โคตรเท่ให้เลือก ชอบไหว้เจ้าก็มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เป็นที่พักพิงทางใจ

และเป็นความหลากหลายนั้นเอง ที่ทำให้ฮ่องกงเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ มีชีวิตและชีวา แตกต่างจากบ้านเมืองที่มีความเจริญใกล้เคียงกัน

ในช่วงเวลาที่เทศกาลตรุษจีนกำลังจะเวียนมา เราเลยอยากลองลิสต์ 8 สิ่งน่าทำหลากหลายหมวดหากไปเยือนฮ่องกงในช่วงนั้น (เลข 8 คือเลขนำโชคของชาวฮ่องกง) ซึ่งหากใครได้ไปทำครบทั้ง 8 กิจกรรม สำหรับเรา นี่ถือเป็นเรื่องโชคดีโดยที่ไม่ต้องรอคำอวยพรใดๆ แล้ว

 

เดินดูงานดีไซน์ที่ PMQ และเดินเล่นย่าน Tai Ping Shan

 PMQ บันได

สำหรับคนชอบงานออกแบบคงเคยได้ยินชื่อของ PMQ กันอยู่แล้ว อาคารสีเขียวขาวสุดคลาสสิกแห่งนี้แต่เดิมเป็นแฟลตตำรวจเก่าที่สร้างเมื่อปี 1951 โดยหลังจากที่รัฐสร้างที่พักแห่งใหม่ให้ตำรวจ อาคารแห่งนี้จึงถูกทิ้งร้างจนกระทั่งปี 2010 รัฐบาลฮ่องกงตัดสินใจปรับพื้นที่ให้กลายเป็นแหล่งรวมคนในวงการสร้างสรรค์ได้มาปล่อยของ ทั้งศิลปิน ดีไซเนอร์ โดยห้องพักตำรวจแต่ละห้องถูกปรับเป็นสตูดิโอ แกลเลอรี่ ร้านขายสินค้าของนักออกแบบ ร้านหนังสือ คาเฟ่ ฯลฯ รวมทั้งมีอีเวนต์สนุกๆ เพื่อขับเคลื่อนวงการสร้างสรรค์ในฮ่องกง

Tai Ping Shan Street

Tai Ping Shan Street

ที่สนุกไม่แพ้ตัวอาคาร PMQ คือบริเวณย่านที่อยู่รายล้อม ซึ่งสามารถเดินเล่นได้เพลินๆ เช่น Tai Ping Shan Street ซึ่งเป็นถนนที่เต็มไปด้วยร้านรวงน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่บรรยากาศดีหรือแกลเลอรี่ของศิลปินท้องถิ่นแทรกตัวอยู่

 

ส่อง street art ย่าน Wong Chuk Hang

สตรีทอาร์ต Street Art

ใครชอบงานสตรีทอาร์ตน่าจะเพลิดเพลินกับการเดินในย่าน Sheung Wan และ Sham Shui Po ซึ่งเป็น 2 ย่านที่กำแพงและผนังอาคารมีงานศิลปะปรากฏให้เห็นกระจายอยู่ทั่วพื้นที่

ฮ่องกงถือเป็นที่ที่มีซีนทางด้านสตรีทอาร์ตน่าสนใจเมื่อมีกลุ่มที่ชื่อ HKwalls คอยผลักดันและเปิดพื้นที่ให้ศิลปินสตรีทอาร์ตในฮ่องกงได้มีโอกาสแสดงผลงานโดยไม่ผิดกฎหมาย โดยตั้งแต่มี 2014 เป็นต้นมาได้จัดงาน Street Art Festival ตามย่านต่างๆ เริ่มต้นที่ย่าน Sheung Wan และ Stanley Market ปี 2016 ที่ย่าน Sham Shui Po และล่าสุดเมื่อปี 2017 ที่เพิ่งผ่านมาทางกลุ่มเลือกย่าน Wong Chuk Hang ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวอย่างพวกเราถ้าสนใจสามารถเข้าไปดูแผนที่ในเว็บไซต์แล้วเดินตามชมผลงานได้เลย

แผนที่

 

เรียนรู้วัฒนธรรมผ่านอาหารและการกิน

Poon Choi

ฮ่องกงมีอาหารขึ้นชื่อหลายอย่าง แต่ถ้าจะให้แนะนำอาหารที่ทำให้ได้อิ่มท้องและเรียนรู้วัฒนธรรมไปพร้อมกันในช่วงตรุษจีนอยากขอแนะนำ Poon Choi อาหารที่คนฮ่องกงกินเพื่อเป็นสิริมงคล โดยในหม้อขนาดใหญ่ประกอบด้วยวัตถุดิบที่ชื่อพ้องความหมายกับคำที่เป็นมงคล เช่น กุ้ง ที่เสียงพ้องความหมายกับเสียงหัวเราะที่มีความสุข หอยนางรมแห้ง ที่หมายถึงความสิริมงคลที่เกิดขึ้นในชีวิต หรือผักที่ในภาษาจีนกวางตุ้งออกเสียงคล้ายกับคำที่มีความหมายว่า โชคลาภ

อีกกิจกรรมการกินที่เราอยากแนะนำคือการไปหยำฉ่า ซึ่งแม้คำว่า ‘หยำ-ฉ่า’ จะแปลตรงตัวว่า ดื่มชา แต่สำหรับคนจีนการหยำฉ่ากินความหมายกว้างกว่านั้น อย่างที่รู้กันว่าเทศกาลตรุษจีนสำหรับคนจีนคืองานรวมญาติ โดยหนึ่งในสถานที่นัดพบกันพร้อมหน้าคือร้านน้ำชาที่มีเสิร์ฟติ่มซำยามเช้าจนถึงเที่ยง เพราะฉะนั้น ใครอยากสัมผัสบรรยากาศแสนคึกคักแบบ local แท้ๆ แนะนำให้ลองดูสักที

 

ไหว้เจ้าที่ Che Kung Temple

Che Kung Temple Che Kung Temple Che Kung Temple

วัฒธรรมความเชื่อกับชาวฮ่องกงนั้นแยกกันไม่ออก แม้จะได้รับอิทธิพลจากชาติตะวันตกที่เข้ามาปกครองอย่างยาวนานก็ตาม โดยช่วงคืนก่อนเข้าสู่วันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน ศาลเจ้าต่างๆ ทั่วเมืองจะเต็มไปด้วยผู้คนที่แห่ไปไหว้เจ้าเพื่อเป็นสิริมงคลกับตัวเองและครอบครัว ใครนึกภาพไม่ออกให้นึกภาพวัดเล่งเน่ยยี่หรือศาลเจ้าพ่อเสือในไทยและคูณสองเข้าไปน่าจะใกล้เคียง

โดยหนึ่งในศาลเจ้าที่เป็นที่นิยมคือศาลเจ้าอายุกว่า 300 ปี อย่าง Che Kung Temple ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ยอดฮิตของชาวไทย ช่วงตรุษจีนศาลเจ้าแห่งนี้จะถูกประดับประดาไปด้วยกังหันหลากสี โดยคนนิยมไปหมุนกังหันสีทองพร้อมขอพร

ไม่เฉพาะคนทั่วไปที่หวังเปลี่ยนชีวิตเท่านั้นที่เดินทางไปศาลเจ้าแห่งนี้เพราะหากไล่รายชื่อดูเราจะเห็นว่ามีทั้งคนมีชื่อเสียง ผู้มีอำนาจ ผู้ว่าการรัฐ ซึ่งตอกย้ำถึงวัฒนธรรมความเชื่อของชาวฮ่องกงต่อศาลเจ้าที่ว่าไว้เป็นอย่างดี

 

นั่งรถรางถ่ายรูปเล่น

รถราง รถราง รถราง

หนึ่งในกิจกรรมที่ใช้เงินน้อยแต่เพลิดเพลินไม่น้อยคือการขึ้นรถรางแล้วถ่ายรูปเล่น โดยเฉพาะยามค่ำคืนที่แสงไฟทั่วเมืองทำงานแทนแสงจากดวงอาทิตย์

ทุกวันนี้เหลือเพียงฮ่องกงที่ยังคงอนุรักษ์รถรางสองชั้นเอาไว้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยว ทำให้ทางเลือกในการเดินทางในย่านธุรกิจฝั่งเกาะฮ่องกงมีทางเลือกหลากหลาย ทั้งรถประจำทาง รถไฟใต้ดิน และรถราง ซึ่งแม้รถรางจะเป็นระบบขนส่งสาธารณะบนบกที่เก่าแก่แต่สภาพของรถรางกลับใหม่เอี่ยมสวนทางกับอายุการใช้งาน

ราคาค่าเดินทางก็สุดถูก เพียง 2.30 ดอลลาร์ฮ่องกงตลอดสาย ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือมันค่อนข้างช้า อย่างที่รู้กัน รถรางเคลื่อนตัวด้วยความเร็วจำกัดอยู่แล้ว อีกทั้งยังมีป้ายค่อนข้างถี่ ระยะทาง 13 กิโลเมตร จากถนน Johnston ไปถึงย่าน Causeway Bay มีถึง 120 สถานี แต่ด้วยความช้าของมันก็ทำให้เหมาะกับคนที่ต้องการนั่งรถเล่น ถ่ายรูปเพลินๆ

 

อัพเดตเทรนด์สนีกเกอร์

NIKE

ฮ่องกงเป็นเมืองช้อปปิ้งสนุก มีหลายอย่างน่าซื้อหา แต่ถ้าจะให้แนะนำสักอย่างที่เป็นจุดเด่นของเมืองเมืองนี้ เราอยากเฉพาะเจาะจงลงไปที่รองเท้าผ้าใบ

ในเอเชีย ฮ่องกงถือเป็นที่ที่วัฒนธรรมสตรีทแฟชั่นแข็งแรงเป็นอันดับต้นๆ หลายคนอาจไม่รู้ว่า Hypebeast สื่อที่ทรงอิทธิพลในโลกสตรีทแฟชั่นที่สุดในโลกสื่อหนึ่งก่อตั้งโดยหนุ่มฮ่องกงที่ชื่อ Kevin Ma นอกจากนั้นยังมีแบรนด์ท้องถิ่นที่ขยับกลายเป็นแบรนด์ที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่าง CLOT ของพระเอก Edison Chen และ Kevin Poon

สำหรับใครที่สนใจอยากเดินอัพเดตเทรนด์วงการสตรีทแฟชั่น มี 2 ย่านที่น่าสนใจ ย่านแรกคือ Fa Yuen Street หรืออีกชื่อคือ Sneaker Street จะมีถนนสักกี่สายบนโลกที่มีร้านรองเท้าเรียงรายติดๆ กันคล้ายร้านทองบนถนนเยาวราช ถนนสายรองเท้าผ้าใบความยาวราว 150 เมตร มีร้านรองเท้าผ้าใบราว 50 ร้าน เรียกว่ามีรองเท้าหลากหลายรุ่นให้เดินเลือกกันจนตาลาย อีกย่านคือ Causeway Bay ซึ่งมีร้านที่น่าสนใจหลายๆ ร้านตั้งอยู่ ไม่ว่าจะเป็น NIKE LAB ซึ่งเป็นร้านระดับเอ็กซ์คลูซีพที่มีสินค้าลิมิเต็ดของแบรนด์ไนกี้ให้เลือกซื้อ นอกจากนั้นยังมีมัลติแบรนด์ชื่อดังอย่าง I.T ด้วย

 

สัมผัสความสงบบนเกาะ Lamma

ชายหาด สตรีทอาร์ท เกาะ Lamma

ใครๆ ก็จดจำฮ่องกงว่าเป็นเมืองสุดโหวกเหวก ผู้คนเสียงดัง จึงไม่แปลกที่เหล่าแบ็กแพ็กเกอร์จำนวนไม่น้อยจะหลงใหลเกาะ Lamma เพราะเกาะเล็กๆ ที่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีจากท่าเรือเซ็นทรัลนั้นเงียบสงบ ไม่มีแม้กระทั่งรถยนต์ การเดินทางภายในเกาะใช้จักรยานและการเดินเท้าล้วนๆ แต่ถนนหนทางก็สะดวกสบายดีไม่ได้ลำบากอะไร

สิ่งที่ขึ้นชื่อของเกาะแห่งนี้คืออาหารทะเล (ก็แน่อยู่แล้ว ตั้งอยู่กลางทะเลขนาดนั้น) เมื่อก้าวเท้าจากเรือขึ้นฝั่งเราจะเห็นร้านอาหารเรียงรายต้อนรับ แต่สิ่งที่น่าสนใจไม่ได้มีแค่นั้น เพราะเมื่อเดินลึกเข้าไปเราจะพบร้านรวงน่ารัก คาเฟ่น่านั่ง และมีชายหาด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศจากฮ่องกงที่เราคุ้นชิน

 

รอดู International Chinese New Year Night Parade

ดอกไม้ไฟ เชิดมังกร พาเหรด พาเหรด

แต่ละปีหนึ่งสิ่งที่นักท่องเที่ยวและคนฮ่องกงรอคอยคือการได้ชมขบวนพาเหรดใน งาน International Chinese New Year Night Parade ซึ่งเป็นหนึ่งในงานพาเหรดบนท้องถนนที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งปีนี้จะจัดในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ในธีม ‘Best Fortune. World Party.’ โดยขบวนพาเหรดสุดอลังการจะเคลื่อนไปบนถนน Canton Road, Haiphong Road และ Nathan Road ในย่าน Tsim Tha Tsui

นอกจากนั้นในค่ำคืนวันที่ 17 บริเวณอ่าววิกตอเรียยังมีการแสดงพลุดอกไม้ไฟฉลองวันขึ้นปีใหม่จีนอีกด้วย ใครที่ไปฮ่องกงช่วงนั้นแนะนำว่าไม่ควรพลาดอย่างยิ่งเพราะแต่ละปีจะมีเพียงครั้งเดียว

 

รายละเอียดเพิ่มเติม

Writer & Photographer

Avatar

The Cloud

นิตยสารออนไลน์ที่เล่า 3 เรื่องหลักอย่าง Local, Creative Culture และ Better Living ส่งเนื้อหารายวัน แต่เสิร์ฟความประณีตแบบนิตยสารรายเดือน