29 พฤศจิกายน 2017
4 K
The Cloud X TETRA PAK

ถึงแม้ว่ากรุงเทพฯ จะเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องความวุ่นวายและมีอีกหลายด้านของเมืองที่เราอยากเบือนหน้าหนี แต่เมืองเทพสร้างดังที่กล่าวอ้างกันตามชื่อนั้น ยังมีด้านที่สวยงามอีกมากมายที่เราอยากชวนมอง

ถ้าเปรียบกรุงเทพฯ เป็นกล่องเราคงเห็นกันมาครบทั้งสี่ด้านแล้ว แต่วันนี้เราอยากชวนคุณออกนอกบ้านไปดูด้านใหม่ที่คุณไม่เคยเห็นของกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะบนที่ราบหรือขึ้นไปอยู่บนที่สูงก็ทำให้เห็นมุมเมืองที่ต่างกัน บรรยากาศดีๆ แบบนี้ถ้าได้ชวนเพื่อน ครอบครัว หรือคนรัก ออกไปใช้วันเวลาด้วยกันตรงนั้นก็น่าจะเป็นวันพักผ่อนที่มีคุณภาพไม่ใช่น้อย ถ้าตามมาแล้วก็อย่าลืมเลือกด้านที่คุณชอบและบอกต่อคนอื่นๆ ด้วยล่ะ

1. ตื่นเช้ามาวิ่งชมเมืองบนทางลอยฟ้า

สะพานเชื่อมสวน ทางวิ่ง ทางวิ่งลอยฟ้า ทางวิ่งลอยฟ้า สะพานเชื่อมสวน

แม้ว่ากรุงเทพฯ จะไม่มีฤดูหนาวเป็นของตัวเองจริงๆ แต่ช่วงปลายปีแบบนี้ใครที่ตื่นเช้าจะสัมผัสได้ว่าอากาศเย็นเริ่มมาเยือนเราแล้ว กิจกรรมยามเช้าที่เราอยากแนะนำคือการออกไปวิ่งรับลมเย็นให้ชุ่มปอด และถ้าอยากได้บรรยากาศดีๆ ด้วยแล้ว ต้องมาวิ่งทางจักรยานลอยฟ้าที่สามารถทั้งวิ่งและปั่นเชื่อมสวนเบญจกิตติและสวนลุมพินีได้แบบไม่ต้องติดไฟแดง ทำให้ได้วิ่งชมเมืองกันและบ้านเรือนบนถนนวิทยุกันแบบนอนสต็อปเลยทีเดียว

ถ้ามาจากสวนเบญฯ และอยากจะข้ามไปสวนลุมฯ จุดสังเกตคือเมื่อวิ่งพ้นโค้งวงรีของสวนมาแล้วให้วิ่งลัดเลาะรั้วสีส้มออกไปทางโรงงานยาสูบ จะพบกับทางเชื่อมที่พาเราไปถึงสวนลุมพินีได้ แต่ถ้ามาจากสวนลุมพินีต้องออกประตูโรงเรียนลุมพินีแล้ววิ่งย้อนขึ้นไปทางสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยนะ บันไดทางเชื่อมอยู่ตรงหัวมุมถนนวิทยุเลย

เวลาทำการ
สวนลุมพินี เปิดทุกวัน 05.00-21.00 น.
สวนเบญจกิตติ เปิดทุกวัน 05.00-20.00 น.

2. ชมวิว 2 ฝั่งเจ้าพระยาจาก River Vibe ใจกลางตลาดน้อย

River Vibe Restaurant & Bar River Vibe Restaurant & Bar วิวแม่น้ำเจ้าพระยา River Vibe Restaurant & Bar River Vibe Restaurant & Bar

บนชั้นดาดฟ้าของ River View Guest House ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางร้านเซียงกงจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ในตลาดน้อยคือที่ตั้งของ River Vibe Restaurant & Bar ร้านอาหารไทยกึ่งเอาท์ดอร์ที่โดดเด่นทั้งรสชาติอาหารและทำเลที่ตั้งดีงามจนร้านอื่นต้องอิจฉา เพราะจากมุมนี้ทำให้ได้เห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง 2 ด้านแบบ 360 องศา แถมยังมีโซฟาหลากสีที่วางเรียงยาวให้กึ่งนอนกึ่งนั่งและเอกเขนกชมวิวได้แบบสบายๆ

วิวทางด้านขวาของร้านคือวัดสัมพันธวงศ์ วัดปทุมคงคา วัดอรุณ วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร และสะพานพุทธฯ ส่วนด้านซ้ายจะเห็นเขตเจริญกรุงและเขตเจริญนครและ ล้ง1919 สถานที่ท่องเที่ยวริมน้ำแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน ใกล้ๆ กันนี้ยังมีบ้านโซวเฮงไถ่และศาลเจ้าโจวซือกงให้แวะไปต่อในระยะเดินถึงด้วยนะ รับรองว่ามาถึงที่นี่ไม่ได้แค่วิวสวยๆ แต่ยังมีสถานที่ดีๆ ให้ไปต่ออีกเพียบ

ที่อยู่ : 768 ซอยภาณุรังษี ถนนทรงวาด ตลาดน้อย สัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100
เวลาทำการ : 07.30 – 23.00 น.
ติดต่อ : 02-234-2078

3. เดินขึ้นบันไดเวียนมาชมวิวข้างบนโลหะปราสาท

โลหะปราสาท วิวกรุงเทพฯ ภูเขาทอง วิวกรุงเทพฯ วิวกรุงเทพฯ

อีกหนึ่งจุดชมวิวมุมสูงที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของกรุงเทพฯ ได้อย่างกว้างไกล แถมยังได้ชมสถาปัตกรรมไทยคือโลหะปราสาทซึ่งตั้งอยู่ในวัดราชนัดดารามวรวิหาร ที่นี่คือเป็นโลหะปราสาทแห่งแรกของไทย และเป็นโลหะปราสาทองค์เดียวของโลกที่ยังอนุรักษ์ไว้ ซึ่งจุดชมวิวที่ดีที่สุดอยู่บนยอดปราสาทชั้น 7 เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ กลางปราสาทจะเป็นช่องกลวงจะมีบันไดเวียน 67 ขั้นให้เราเดินขึ้นไปดูทิวทัศน์ข้างบนได้ บนยอดสูงสุดของโลหะปราสาทจะมองเห็นสะพานพระราม 8 ไกลๆ ยอดภูเขาทอง ศาลาวัดสระเกศ และศาลาว่าการกรุงเทพฯ

ก่อนขึ้นไปชมวิวอย่าลืมแวะชมนิทรรศการโลหะปราสาทที่ชั้นชั้น 1 ด้วยนะจะได้รู้สึกอินกับการชมวิวมากขึ้นเป็นพิเศษ

ที่อยู่ : 2 ถนนมหาไชย แขวงวัดบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
เวลาทำการ : 09.00 – 20.00 น.
ติดต่อ : 02-224-8807

4. เดินทอดน่องและหามุมพักผ่อนในอุทยานจุฬาฯ 100 ปี

อุทยานจุฬาฯ 100 ปี อุทยานจุฬาฯ 100 ปี อุทยานจุฬาฯ 100 ปี อุทยานจุฬาฯ 100 ปี อุทยานจุฬาฯ 100 ปี

ถ้าอยากออกนอกบ้านมากลางเมืองแต่ไม่อยากเข้าห้างจะไปไหนดี ลองแวะมาเดินทอดน่องและหามุมพักผ่อนในอุทยานจุฬาฯ 100 ปีอาจจะมีคำตอบ ที่นี่คือสวนสาธารณะกลางเมืองที่เกิดขึ้นเพื่อฉลองวาระครบหนึ่งศตวรรษของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อเดินเข้ามาในสวนจะได้พบกับต้นไม้น้อยใหญ่หลากหลายพันธุ์ จุดชมวิวสำคัญของที่นี่คืออาคารเอนกประสงค์หลังใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ส่วนเนินดินด้านบนสุดซึ่งเรียกว่า Green Roof หรือหลังคาดินที่เขียวชอุ่มด้วยวัชพืช ทำให้มองเห็นวิวบ้านเรือนและตึกสูงใหญ่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากสวนนัก แนะนำว่าให้มาในช่วงเช้าและช่วงเย็นอากาศน่าจะเหมาะกับการเดินเล่นเป็นที่สุด

ที่อยู่ : 332/6 ซอยจุฬาฯ 7 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
เวลาทำการ : 06.00 – 18.00 น.  

5. กินอาหารไทยและดูไฟวัดอรุณที่ Supanniga Eating Room x Roots Coffee

Supanniga Eating Room x Roots Coffee Supanniga Eating Room x Roots Coffee Supanniga Eating Room x Roots Coffee วัดอรุณ วิววัดอรุณ

อีกสถานที่ริมน้ำที่เราอยากพาไปทำความรู้จักคือ Supanniga Eating Room x Roots Coffee หรือห้องอาหารสุพรรณิการ์ สาขาท่าเตียน ร้านอาหารไทย 2 ชั้นที่มีฉากหลังเป็นแลนด์มาร์กของเจ้าพระยาอย่างวัดอรุณฯ ใครที่ชอบอาหารไทยแบบดั้งเดิมรับรองว่าจะต้องตกหลุมรักร้านนี้อย่างแน่นอน เพราะนอกจากอาหารหลายอย่างจะหาทานยากแล้วยังเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพและพิถีพิถันในกระบวนการเพื่อให้รสชาติถูกปากคนไทย

พนักงานที่ร้านบอกว่าหากอยากเห็นวิวที่ดีที่สุดของที่นี่ต้องมาก่อนเวลา 19.00 น. เพราะเป็นเวลาที่วัดอรุณฯ เปิดไฟบริเวณพระปรางค์ แต่ถ้าหากอยากเห็นวัดอรุณที่ระบายฉากหลังเป็น Vanilla sky ให้เผื่อเวลามาเร็วขึ้นสัก 1 ชั่วโมงเพราะช่วงฤดูหนาวพระอาทิตย์จะตกเร็วขึ้น ถ้ามาช้าเกรงว่าจะพลาดโอกาสมองท้องฟ้าสวยๆ ไปได้นะ

ที่อยู่ : 392/25-26 ถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
เวลาทำการ : 11.30 – 22.30 น.
ติดต่อ : 02-015-4224

6. หนีรถติดบนถนนวิทยุมากินมื้อค่ำบนชั้น 25 ที่ Char Bangkok

Char Bangkok Char Bangkok Char Bangkok Char Bangkok Char Bangkok

ท่ามกลางความแอแอัดบนถนนวิทยุยามเย็น บนชั้น 25 ของ Indigo Hotel คือ Char Bangkok สเต็กเฮาส์แห่งแรกของไทยที่การันตีคุณภาพจากสาขาแรกที่เซี่ยงไฮ้ นอกจากบรรยากาศเรียบหรูที่ชวนให้หลีกหนีความวุ่นวาย และบรรดาเมนูเนื้อที่เชฟพิถีพิถัน ทั้งประยุกต์และคัดสรรวัตถุดิบไทยมาสร้างสรรค์กันแล้ว วิวของที่นี่ยังน่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กัน เนื่องจากฝั่งตรงข้ามของโรงแรมคือบ้านพักของเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาและมีพื้นที่กว้างมากจนทำให้ตึกน้อยใหญ่ในละแวกนี้ไม่บดบังทัศนียภาพที่มองออกมาจาก Char Bangkok ทำให้บรรยากาศของที่นี่ควรค่ากับมื้อค่ำสุดพิเศษและคนพิเศษอย่างแน่นอน

โดยเฉพาะเทศกาลปีใหม่ที่ทางร้านแอบบอกมาว่าต้องจองโต๊ะล่วงหน้ากันตั้งแต่ตอนนี้แล้วนะ เพระในวันนั้นวิวจากห้องอาหารของ Char Bangkok จะมองเห็นพลุสวยๆ จากเซ็นทรัลเวิร์ลได้อย่างจุใจเลยทีเดียว ส่วน Char Bar บนชั้น 26 ก็วิวเลอค่าน่าตามไปดูไม่แพ้กัน ถ้ามาตั้งแต่ช่วงเย็นเราจะได้เห็นท้องฟ้าค่อยๆ เปลี่ยนเฉดสีไปพร้อมกับดวงอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้าไปกับมุมตึก ดูจบแล้วค่อยลงไปดินเนอร์ชั้น 25 ได้ชมวิวอย่างคุ้มค่าแน่นอน

ที่อยู่ : Hotel Indigo Bangkok 81 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
เวลาทำการ :   Char Restuarant ชั้น 25 18.00 – 00.00 น.
Char Bar ชั้น 26 17.00 – 02.00 น.
ติดต่อ : 02-207-4999

ทั้งหมดนี้คือ 6 ด้านใหม่ๆ ที่คุ้นหูคุ้นชื่อกันมานาน แต่อาจยังไม่เคยสัมผัสด้านดีงามของสถานที่เหล่านี้มาก่อน หากวันหยุดนี้ว่างก็ลองถอยห่างจากห้าง เดินห่างจากรถไฟฟ้า หรือแวะลงเรือที่ท่าน้ำอื่นๆ บ้าง เผื่อจะเจอมุมที่ชอบด้านที่ใช่ในแบบของเราเอง

อย่าลืมชวนคนรอบข้างออกมาค้นหาด้านที่ใช่และหาประสบการณ์ใหม่ในกรุงเทพฯ ด้วยกันนะ และถ้าเจอแล้วก็อย่าลืม Show your best side ที่คุณค้นพบให้ชาว The Cloud ไปตามรอยกันบ้างล่ะ 🙂

คุณอาจไม่เคยรู้ว่าในชีวิตประจำวันมี Tetra Pak อยู่รอบตัวมาตลอด ลองหันกล่องเครื่องดื่มที่อยู่ใกล้ตัวขึ้นมาดู แล้วคุณจะเห็นว่าโลโก้ของเราอยู่ตรงนั้น เพราะเราคือผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มแบบครบวงจร ถ้าต้องการสร้างสรรค์บรรจุภัณฑ์ใหม่หรือให้คำปรึกษาธุรกิจก็คิดถึงเราได้นะ #ShowYourBestSide อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ 

Writer

Avatar

ธนาวดี แทนเพชร

ครีเอทีฟประจำ The Cloud ชอบใช้หลายทักษะในเวลาเดียวกัน จึงพ่วงตำแหน่งนักเขียนมาด้วยเป็นบางครั้ง ออกกองตามฤดูกาล จัดทริปและเดินทางเป็นงานอดิเรก

Photographer

Avatar

ณัฎฐาจิตรา ชินารมย์รัตน์

ช่างภาพที่ชอบการแต่งตัว อยู่กับเสียงเพลงและหลงรักในความทรงจำ