The Cloud x OKMD
น้อยคนทีเดียวที่จะไม่รู้จักตลาดหนองมน แหล่งตลาดค้าขายสินค้า อาหารทะเลของสด ของแห้ง และอาหารแบบพร้อมรับประทาน ห่อหมก หอยจ๊อ และขนมหวาน ขนมฉาบ น้ำอ้อย น้ำตาลสด และขนมที่ขึ้นชื่ออย่างข้าวหลามและขนมจาก
หนองมนเป็นชุมชนเก่า จึงมีวัด ศาลเจ้า และตลาดอยู่ในพื้นที่ต่อเนื่องกัน เป็นศูนย์กลางของชุมชน โดยมีบ้านเรือนผู้คนอยู่รอบ ๆ ตลาด ก่อนจะมีการขยายพื้นที่ ตัดถนน และการเปลี่ยนแปลงรูปแบบอาคารบ้านเรือน จากห้องแถวไม้ชั้นเดียวประตูบานเฟี้ยม หรือห้องแถวไม้สองชั้นมีระเบียง กลายเป็นตึกรามและอาคารพาณิชย์ ดังนั้นกลุ่มอาคารบ้านเรือนร้านค้าที่อยู่รอบ ๆ บริเวณตลาด จึงจะเรียกพื้นที่นี้ว่า หน้าตลาด หลังตลาด และท้ายตลาด… หรือชุมชนท้ายตลาด
‘ร้านหนังสือท้ายตลาด’ ตั้งอยู่ในชุมชนท้ายตลาด หนองมน แต่มิได้เป็นห้องแถวไม้มาก่อน หากแต่เป็นอาคารพาณิชย์ที่ก่อสร้างใหม่ บนพื้นที่ของผู้มีอันจะกินในชุมชนท้ายตลาดในอดีต ซึ่งการก่อสร้างอาคารหรือการก่อเกิดร้านหนังสือนั้น เรื่องราวออกจะยาวอยู่สักหน่อย แต่พอสรุปได้ว่าเมื่อมีอาคารพาณิชย์แล้ว เรายังคงคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรดี เพื่อให้เป็นสถานที่หรือกิจการที่มีกิจกรรมต่าง ๆ พบปะเพื่อนฝูง ลูกศิษย์ลูกหาหลังสิ้นสุดการทำงานในองค์กร และน่าจะเป็นกิจการที่ก่อให้เกิดรายได้เลี้ยงตัวเอง อย่างน้อยก็เป็นค่าอาคารที่ต้องผ่อนส่งธนาคาร
เราได้ศึกษาค้นคว้าสิ่งที่อยากทำไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีพื้นฐานทางธุรกิจเลยแม้แต่น้อย แต่ที่มีอยู่ไม่น้อยคือ ความเป็นศิลปินและนักวิชาการ สุดท้ายก็มาลงที่ ร้านหนังสือ เพราะมีโอกาสเข้าร่วมอบรม ‘การทำร้านหนังสืออิสระ’ โครงการของ คุณเรืองเดช จันทรคีรี ทั้งได้นำมาสู่การเปิด ‘ร้านหนังสือท้ายตลาด Ceramic Art & Book Shop’ ในช่วงเวลาของงานสัปดาห์ร้านหนังสืออิสระ ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2557
การอบรมครั้งนั้นทำให้ได้รับความรู้อยู่ไม่น้อย แต่ได้นำหลักและวิธีบริหารจัดการร้านหนังสือมาใช้บ้าง โดยพิจารณาเลือกวิธีการที่เหมาะสม กับการบริหารจัดการสไตล์ของเราเอง เริ่มจากวางแผนให้ช่างทำชั้นหนังสือแบบที่จัดวางหนังสือและงานอื่น ๆ ได้ด้วย ร้านโปร่ง ๆ โล่ง ๆ เพื่อจะวางหนังสือแบบวางเรียงโชว์หน้าปกเป็นหลัก
สำหรับการเลือกหนังสือนั้น เราเลือกหนังสือตามแนวที่ชอบ ที่สนใจ ในสายวิชาการที่เกี่ยวข้อง และหรือหนังสือบันเทิงตามแนวทางที่ชอบซื้อ และต้องการอ่านเป็นหลัก ได้แก่ หนังสือแนวศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์โบราณคดี โดยเป็นหนังสือที่ออกแนววิชาการอยู่บ้าง เรื่องราวของการท่องเที่ยว วรรณกรรมไทย วรรณกรรมแปล และหนังสือที่ทางร้านมีอยู่มากแต่คนซื้อน้อย คือหนังสือกวีนิพนธ์ (แต่เจ้าของร้านชอบ)
ระยะหลังมานี้ ได้เพิ่มหนังสือแนวเกษตร เกษตรสังคม สุขภาพอนามัย และอาหารการกิน และที่สำคัญ ร้านหนังสือท้ายตลาด จะสั่งซื้อหนังสือแบบซื้อเงินสดจากสำนักพิมพ์ โดยซื้อปกละ 2 เล่มเป็นหลัก หรือซื้อสดแบบสะดวก ๆ ง่าย ๆ ในกรณีที่ไปพบเจอหนังสือที่ถูกใจ นับว่าไม่ใช่ระบบที่ดี ที่ถูกต้องแต่อย่างใด (หลายคนบอกอย่างนี้) ดังนั้น ร้านหนังสือท้ายตลาดจะเรียกว่าเป็น Independent Bookshop ก็ได้ แต่ถ้าจะเรียกว่าเป็นร้านหนังสือในแนว Individual Bookshop น่าจะเหมาะที่สุด
เจ้าของร้านทำงานด้านเซรามิกอยู่ด้วย จึงมีผลงานศิลปะเซรามิกมาประดับและจัดวางตามชั้น ตามผนัง เพื่อเพิ่มเติมรูปทรงอิสระความเป็นสีสัน ความมันวาว หรือพื้นผิวที่ขรุขระ ให้ชั้นหนังสือ ดูแปลกแตกต่างไปจากสี่เหลี่ยมของรูปเล่มหนังสือได้บ้าง นอกเหนือจากการช่วยเติมเต็มพื้นที่ว่างของชั้นวาง เพราะเรามีหนังสือไม่มากเหมือนร้านหนังสือทั่วไป
ในช่วงปีที่ 2 ทางร้านได้เปิดพื้นที่จัดกิจกรรมของกลุ่มเครือข่ายกลุ่มเกษตรเติมสุข ทำให้มีกิจกรรม เกิดความร่วมมือ การอมรม การให้ความรู้ในเรื่องราวต่าง ๆ เช่น การทำปุ๋ยหมัก การเพาะถั่วงอก การทำอาหาร และรวมถึงการจัดตลาดอินทรีย์เล็ก ๆ หน้าร้านหนังสือ นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรม เล่นดนตรีเล็ก ๆ และเสวนาเล็ก ๆ เป็นระยะ ๆ ในเรื่องศิลปะ วัฒนธรรม เรื่องการปั่นจักรยาน หรือการแบ่งปันพื้นที่ ให้กับร้านค้าผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ และรวมถึงกิจกรรมล่าสุด คือการเข้าร่วมกิจกรรมแกลเลอรี่ไนต์ กับมหาวิทยาลัยบูรพาและองค์กรชุมชน
เวลาที่เปลี่ยนไป ทำให้ทุกสรรพสิ่งย่อมมีความเปลี่ยนแปลง รวมถึงร้านหนังสือท้ายตลาด ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงหลายครั้งหลายหนเช่นกัน แต่ก็อย่างว่า สถานการณ์หนังสือและร้านหนังสือในปัจจุบันมีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากเหลือเกิน และหนักหนาอยู่
ไม่เพียงแต่สถานการณ์โรคระบาดโควิด แต่มันคือความเปลี่ยนแปลงของสื่อเทคโนโลยีและวิธีการรับรู้สื่อ ข้อมูลข่าวสารและความบันเทิงที่เปลี่ยนรูปแปลงร่างไปด้วย การต้องการความสะดวกสบาย และความรวดเร็วในวิถีปัจจุบัน แม้ว่าเสน่ห์และคุณค่าของหนังสือจะมีอยู่มากมายเหลือเกิน แต่เราคงมิอาจต้านทานกระแสที่เชี่ยวกรากนี้ได้
ประกอบกับข้อจำกัดของที่ร้านหนังสือท้ายตลาด โดยเฉพาะการทำร้านหนังสือที่ไม่ได้ทำเป็นอาชีพโดยตรง ทั้งยังคงมีงานอื่นที่ต้องทำและรับผิดชอบอยู่อีกมาก ทำให้ร้านนี้มีรูปแบบแนวทางเป็นของตัวเอง และคงไม่สามารถเป็นต้นแบบ หรือแนวทางธุรกิจร้านหนังสือตามมาตรฐานทั่วไปได้อย่างเหมาะสม ถูกต้อง (แต่ว่าไปแล้ว ร้านหนังสือท้ายตลาดนี้ก็ไม่สามารถทำเป็นอาชีพได้จริง ๆ)
หากแต่ร้านหนังสือท้ายตลาดเป็นส่วนหนึ่งของความสุข และหลายคนก็บอกเราว่า ถ้าเป็นความสุขก็ทำไป เราจึงประคับประคองและยังคงร้านหนังสือท้ายตลาดต่อเนื่องมาจนถึงย่างเข้าปีที่ 8 โดยปรับการบริหารจัดการเวลาให้เหมาะสม โดยเปิดบริการเฉพาะในวันเสาร์-อาทิตย์ ในเวลา 10.00 – 16.00 น. แต่ถ้าทางร้านหาแนวทางการบริหารจัดการใหม่ ๆ ที่ดีกว่า หรือมีกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ ก็จะได้แจ้งให้ทราบทางเพจ ร้านหนังสือท้ายตลาด
จนกว่าเมื่อวันหนึ่งมาถึง วันที่ไม่มีความสุขในการทำร้านหนังสือ หรือร้านหนังสือเป็นภาระเกินศักยภาพของตัวเราแล้ว ก็จะเรียนให้ทราบต่อไป
ร้านหนังสือท้ายตลาด
ที่ตั้ง : 270/ 14 ถนนสันติเกษม (หน้าปากซอย 6) ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี (แผนที่)
โทรศัพท์ : 08 1715 5886
Facebook : ร้านหนังสือท้ายตลาด
วัน-เวลาทำการ : วันเสาร์-อาทิตย์ 10.00 – 16.00 น.
หนังสือแนะนำ
1
รหัสคดีโนเบล
บรรณาธิการ : เรืองเดช จันทรคีรี
ผู้แปล : ร. จันเสน
สำนักพิมพ์ : มวจ
ราคา : 395 บาท
ระบบเรื่องสั้นสอบสวนและอาชญนิยาย ของ 13 นักเขียนรางวัลระดับโลก พิมพ์ฉลองวาระ 120 ปีรางวัลโนเบล สาขาวรรณกรรม (ค.ศ. 1901 – 2021)
2
แปลกพิกล คนรักหนังสือ Seven kinds of people you find in bookshop
ผู้เขียน : Shaun Bythell
ผู้แปล : ลลิตา ผลผลา
สำนักพิมพ์ : BIBLIO
ราคา : 215 บาท
Shaun Bythell ผู้มีสายตาแห่งนักสังเกต เขารวบรวมนักอ่านทุกคนมาไว้ในหนังสือเล่มนี้ จากสายตาของคนขายหนังสือที่รักหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ นี่เป็นหนังสือที่จะให้มุมมองอันสนุกสนาน และบางทีก็ชวนสงสัยต่อผู้คนในร้านหนังสือ
3
Meet Locals in India
ผู้เขียน : รงรอง หัสรังค์
สำนักพิมพ์ : I draw & travel
ราคา : 450 บาท
เป็นบันทึกการเดินทางด้วยตัวอักษรและภาพวาดของ รงรอง หัสรังค์ เธอว่าหลงรักอินเดียตั้งแต่แรกเห็น เหมือนกับความรู้สึกดีที่เกิดขึ้นกับใครสักคนที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน สิ่งที่คิด สิ่งที่เห็น และสิ่งที่ได้ยินจากการเดินทาง ถูกนำมาถ่ายทอดเป็นเรื่องราวและภาพวาดประกอบ
4
แมววัด
นักเขียน : ยูโตะ ฟุคะยะ
สำนักพิมพ์ : ผีเสื้อ
ราคา : 239 บาท
ยูโตะ ฟุคะยะ สมุดบันทึกของเด็กที่เขียนบอกเล่าเรื่องราวของแมววัดแต่ละตัว ถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึกและเหตุการณ์ต่าง ๆ แฝงไปด้วยความคิด ความเชื่อ ความดีงาม และคุณธรรม
5
ชุมชนนิเวศวิถี
ผู้เขียน : คาเลน ที. ลิตฟิน
ผู้แปล : ดิสทัต โรจนาลักษณ์
สำนักพิมพ์ : วินนี่ บุ๊คส์
ราคา : 399 บาทชุมชนนิเวศวิถี อาจไม่ใช่คำตอบเดียวต่อปัญหามนุษยชาติ แต่เป็นหนึ่งในหลายคำตอบ เราไม่สามารถไปตั้งชุมชนนิเวศวิถีใหม่ได้ทุกคน หากแต่นำบทเรียนมาปรับใช้ ด้วยหลักการพื้นฐานแห่งการแบ่งปันทรัพยากร ความคิด ความฝัน ทักษะความชำนาญ เรื่องราว ความยินดี และความเศร้าโศก
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาร้านหนังสือเป็นแหล่งความรู้สร้างสรรค์ โดยความร่วมมือของ The Cloud และ OKMD