28 พฤษภาคม 2019
31 K

Swatch เกิดขึ้นมาจากวิกฤตนาฬิกาครั้งใหญ่ในสวิตเซอร์แลนด์

จากประเทศที่มีสินค้าส่งออกอันดับหนึ่งคือ นาฬิกา

ในวันที่โลกรู้จักนาฬิกาใส่ถ่าน ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป การยึดติดอยู่กับชื่อเสียงของการเป็นชาติที่ผลิตนาฬิกาประกอบคุณภาพดีที่สุดในโลกทำให้ตลาดนาฬิกาสวิสน่าเป็นห่วง

ไม่เพียงกู้สถานการณ์ Swatch ยังฉีกทุกกรอบของนาฬิกา ตั้งแต่ทำไมนาฬิกาต้องเป็นเหล็ก หรือต้องใส่กับสูท ตัวเรือนที่ใช้ชิ้นส่วนน้อยทำให้นาฬิกาสวิสเป็นที่จับต้องได้ รวมทั้งผลิตเพียงพอกับความต้องการของตลาด

Swatch Head Quarter, Switzerland

Swatch ใช้เวลาเพียง 36 ปี เปลี่ยนจากนาฬิกาพลาสติกที่คนสวิสเคยไม่ยอมรับให้กลายเป็นแบรนด์หลักของ The Swatch Group บริษัทนาฬิกาที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นเจ้าของธุรกิจตั้งแต่ชิ้นส่วนกลไกนาฬิกา จนถึงมีแบรนด์ดังระดับโลกในเครือนับสิบแบรนด์

The Cloud ชวน จักรพันธ์ ญาณประสิทธิ์เวทย์ Brand Manager ของ Swatch ประเทศไทย ผู้ได้รับ Swatch เรือนแรกในชีวิตเป็นของฝากจากสวิตเซอร์แลนด์ มานั่งคุยเรื่องเบื้องหลังความเจ๋งของ Swatch

ตั้งแต่นโยบายเปลี่ยนถ่านฟรีตลอดชีพ ซึ่งต้นทุนค่าเปลี่ยนถ่านนาฬิกาของสวิส 3 ครั้ง รวมกันแล้วยังแพงกว่านาฬิกาตอนซื้อมาเสียอีก ทั้งยังให้เราเลือกเปลี่ยนถ่านที่ร้าน Swatch สาขาใดก็ได้ในโลก

สำหรับคนที่ไม่รู้จัก Swatch อาจจะคิดว่านี่คือแบรนด์นาฬิกาพลาสติกสำหรับวัยรุ่น แต่หากลองเดินเข้าไปร้าน Swatch ตอนนี้ คุณจะเจอนาฬิกาอย่างน้อย 500 แบบที่ตอบโจทย์ทุกคน ในทุกวัน และทุกไลฟ์สไตล์ ยิ่งได้ฟังแผนการตลาดที่ใช้ศิลปะและกีฬาในการทำแบรนด์ ก็ไม่แปลกใจว่าทำไม Swatch ดังมากขนาดนี้

ถึงเวลามาฟังเรื่องราวการสร้างแบรนด์ของ Swatch แล้ว ระหว่างบรรทัดถ้าใครจะขอตัวไปเลือกรุ่น ลาย หน้าปัด ตัวเรือน และสายนาฬิกา ก่อนกลับมาอ่านต่อก็ถือว่าไม่ผิดกติกา

เริ่มจับเวลา!

Swatch X You คอลเลกชันที่คุณออกแบบนาฬิกาเรือนโปรดได้เองตามต้องการ

1 Swatch เกิดขึ้นมากอบกู้สถานการณ์นาฬิกาสวิส

ชื่อเสียงที่มีมายาวนานของนาฬิกาสวิสถึงดินแดนผลิตนาฬิกาทำมือที่ไร้ผู้ใดเทียมทัด ทำให้นาฬิกาแบรนด์เก่าแบรนด์แก่ต่างติดอยู่กับความสำเร็จและความภาคภูมิใจที่เป็นชาติผู้ผลิตนาฬิกาประกอบมือมีคุณภาพที่สุดในโลก จนเมื่อโลกรู้จักกับควอตซ์ แร่ธาตุที่ใช้สัญญาณกะพริบบอกเวลาแทนกลไกจากเฟืองที่ขยับ

การมาของเทคโนโลยีควอตซ์จากเอเชียและสหรัฐอเมริกา ทำให้เกิด Quartz Crisis ที่ทำให้นาฬิกามีราคาถูกลงเพราะกลไกที่ทำให้การบอกเวลาเที่ยงตรงและแม่นยำกว่าเฟืองไขลาน ก่อนพัฒนาเป็นนาฬิการะบบไฟฟ้าใช้พลังงานจากถ่านซึ่งทำให้ต้นทุนนาฬิกาถูกลง และในวันที่โลกกำลังตื่นเต้นกับสิ่งนี้ กลับส่งผลกระทบครั้งใหญ่กับตลาดนาฬิกาสวิส ไม่เพียงส่วนแบ่งตลาดที่ลดลงไปกว่าครึ่ง ยังส่งผลโดยตรงกับระบบเศรษฐกิจของประเทศไปจนถึงการจ้างงานถือเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญ

2 Swatch เกิดจากแนวคิดรวมกันเราอยู่ของที่ปรึกษาธุรกิจผู้ทำเรื่องควบรวมกิจการ

Swatch ถือกำเนิดขึ้นมาในปี 1983 จากแนวคิดของ Nicolas George Hayek เมื่อครั้งยังเป็นที่ปรึกษาธุรกิจซึ่งมองเห็นโอกาสในการควบรวมธุรกิจนาฬิกาเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้วันนี้กลุ่มบริษัท Swatch ไม่ได้มีแค่นาฬิกา แต่ประกอบด้วยธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำที่ผลิตชิ้นส่วนกลไกส่งให้แบรนด์อื่นๆ ในตลาดด้วย ทั้งมีแบรนด์นาฬิกาดังในเครือนับสิบ ตั้งแต่ Breguet แบรนด์นาฬิกาเก่าแก่แบรนด์แรกๆ ของโลก ไปจนถึงแบรนด์หรูระดับโลก เช่น OMEGA, LONGINES สิ่งที่ Swatch ทำสร้างจุดเปลี่ยนให้ตลาดนาฬิกาสวิสกลับมาสดใสอีกครั้ง

Swatch Flymagic ที่พลิกโฉมวงการนาฬิกา กับเทคโนโลยี Nivachron

3 ชื่อของ Swatch มาจาก Second Watch

นอกจากนัยของการเป็น Swiss Watch ชื่อของ Swatch มาจากโจทย์เริ่มต้นของแบรนด์ ที่อยากเป็น Second Watch ของทุกคน ที่จะหยิบมาใช้ในวันสบายๆ ไม่ต้องการพิธีรีตรองใดๆ ซึ่งจะมีสักกี่แบรนด์ในโลกที่ประกาศเจตนารมณ์ชัดเจนว่าขอเป็นลำดับที่สองชัดเจนขนาดนี้

Swatch SISTEM51

4 Swatch ทำทุกอย่างที่คนไม่คิดว่านาฬิกาจะทำ

คนยุคก่อนจะมองว่านาฬิกาคือเครื่องประดับที่ใส่กับสูทหรือชุดทางการเท่านั้น Swatch ตั้งใจเป็นนาฬิกาที่คนคาดไม่ถึง เริ่มตั้งแต่การเป็นนาฬิกาพลาสติกเพื่อลบภาพจำว่านาฬิกาต้องเป็นเรือนเหล็กหรือไขลานได้เท่านั้น หรือการเป็นแบรนด์ที่ขายนาฬิกาหลายร้อยแบบตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัว โดยคอลเลกชันแรกๆ ของ Swatch เป็นนาฬิกาหน้าปัดสีขาว สายสีดำ แสนเรียบง่ายทั้งๆ ที่จิตวิญญาณของแบรนด์คือนาฬิกาที่เต็มไปด้วยสีสัน

โดย Swatch รุ่นแรกเป็นนาฬิกาแผงวงจรที่มีชิ้นส่วนเพียง 51 ชิ้น ยึดด้วยสกรูตัวเดียว ประกอบด้วยเครื่องจักรซึ่งรองรับการผลิตจำนวนมหาศาล จากเดิมที่ผลิตนาฬิกาส่งออกได้เพียงหลักหมื่นต่อปี กลายเป็นผลิตได้นับล้านเรือน

Swatch SISTEM51

5 ลายเซ็นที่ซ่อนอยู่ในข้อต่อเชื่อมสายนาฬิกา

เอกลักษณ์ความเป็น Swatch อยู่ที่ข้อต่อเชื่อมสายนาฬิกาที่ไม่เหมือนกับแบรนด์ไหน รวมถึงหน้าปัดนาฬิกาที่มีให้เลือกหลายร้อยแบบ

Swatch Transformation

6 แบรนด์ผู้ทำ Collaboration กับงานศิลปะก่อนกาล

มากกว่าการเป็นนาฬิกาพลาสติก Swatch จับกลุ่มผู้รักงานศิลปะด้วยการออกคอลเลกชันร่วมกับศิลปินตั้งแต่ปี 1985 ซึ่งคนแรกคือ Kiki Picasso ศิลปินและกราฟิกดีไซเนอร์ชาวฝรั่งเศส กับงานแนวอาวองการ์ด Swatch ไม่เพียงแจ้งเกิดให้แก่ศิลปินรุ่นใหม่ ยังทำให้คนรักศิลปะทั่วโลกได้เก็บสะสมงานที่ตัวเองชอบมาตลอด 30 กว่าปีที่ผ่านมา และไม่ใช่แค่ศิลปินวาดภาพ แต่รวมถึงศิลปินทุกแขนง ประติมากร ศิลปินทำสื่อร่วมสมัย คนทำภาพยนตร์ ช่างภาพ เป็นต้น

งานของ Keith Haring ศิลปินกราฟิตี้ชาวอเมริกันก็ทำงานร่วมกับ Swatch ตั้งแต่ปี 1986 และปีที่แล้วมี Swatch Damien Hirst รุ่นมิกกี้เมาส์ ที่เกิดจากการใช้ภาพเรขาคณิตมาเรียงต่อกันซึ่งเป็นลายเซ็นของศิลปิน ก็ขายหมดทั่วโลกภายในเวลาสั้นๆ

 
Swatch Pigcasso
Swatch Damien Hirst รุ่นมิกกี้เมาส์
Swatch Biennale Art Venice 2019

7 แบรนด์นาฬิกาที่สร้าง Talking Piece เก่ง

โจทย์ของการออกแบบนาฬิกาทุกรุ่น คือ Talking Piece มีเรื่องราวให้พูดถึง เช่น นาฬิการุ่นที่หน้าปัดวิ้งๆ เพราะใช้วัสดุ Solar Spectrum บนหน้าปัด หรือเล่นใหญ่ด้วยการ Swatch เรือนใหญ่ที่สุดในโลกหลังเปิดตัวแบรนด์ได้เพียง 1 ปี เป็นนาฬิกาขนาดยาว 162 เมตร และมีน้ำหนัก 13 ตัน แขวนอยู่บนที่อาคารสำนักงานใหญ่ของธนาคาร Commerzbank ที่แฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ก่อนย้ายไปแขวนบนตึกที่สูงที่สุดของญี่ปุ่น ณ เวลานั้น ในปีต่อมา

8 ทำ Art Marketing แบบเล่นใหญ่ เทกโอเวอร์เมืองมาดริด ประเทศสเปน เพื่อทำ Swatch City

Swatch เป็นแบรนด์นาฬิกาที่พูดเรื่องศิลปะและกีฬาเยอะมาก โดยเฉพาะในตลาดยุโรป เช่นปีที่ผ่านมามีโปรเจกต์ชื่อ Swatch City ที่เทกโอเวอร์ย่านหนึ่งในเมืองมาดริด ประเทศสเปน ทาสีตึกทั้งย่านเนรมิตให้กลายเป็นพื้นที่จัดงานสร้างสรรค์ตลอดเดือนมีทั้งเวิร์กช็อปและเสวนา คอนเสิร์ต พื้นที่แสดงงานของศิลปินรุ่นใหม่ของเมือง

9 มี The Swatch Art Peace Hotel ที่เซี่ยงไฮ้ให้ศิลปินพักฟรี

เช่าเมืองมาดริดยังทำมาแล้วนับประสาอะไรกับซื้อโรงแรมที่เซี่ยงไฮ้แล้วตั้งชื่อว่า The Swatch Art Peace Hotel เปิดให้บริการสาธารณชนครั้งแรกปี 2011 แบ่งพื้นที่จำนวน 2 ชั้นของโรงแรมทำเป็นที่พักฟรีแก่ศิลปินแลกกับทำงานผลงานศิลปะ มีศิลปินกว่า 150 คนจาก 39 ประเทศแวะเวียนมาพัก ก่อนจัดแสดงงานร่วมกันในปี 2014

10 ทำ Sport Marketing โดยสนับสนุนการแข่งขันของกีฬาที่ไม่มียูนิฟอร์ม

สำหรับการสนับสนุนเรื่องกีฬา Swatch ในทางหนึ่งถือเป็นมิติใหม่ของนาฬิกาพลาสติกที่นาฬิกาเหล็กสู้ไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องความสู้ทนในทุกสภาพอากาศและสถานการณ์ เช่น กีฬาสโนว์บอร์ด วอลเลย์บอลชายหาด ล่าสุด Swatch เป็นพาร์ตเนอร์สนับสนุนการแข่งขันบังคับโดรน รวมถึงกีฬาเซิร์ฟบอร์ดในอเมริกา

“Swatch เป็นแบรนด์ที่สนับสนุนเรื่องตัวตนผู้สวมใส่เสมอมา เรื่องกีฬาก็เล่นกันจะเห็นว่า Swatch จะสนับสนุนการแข่งขันของกีฬาที่ไม่มียูนิฟอร์ม” ตัวแทนแบรนด์จากประเทศไทยเล่าเหตุผลสนับสนุน

11 แบรนด์นาฬิกาที่มีทีมสร้างสรรค์เป็นใหญ่

ที่มาของคอนเซปต์และงานออกแบบสนุกๆ มาจาก creative center ซึ่งมีออฟฟิศอยู่ที่เมืองซูริก ที่เดียวกับ Swatch Museum และภายในปีนี้ทั้งหมดก็จะย้ายมาอยู่สำนักงานใหญ่ที่บีล เมืองเล็กๆ ในรัฐเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ล่าสุดกับ BIG BOLD นาฬิกา 6 ดีไซน์ที่แฝงกลิ่นอายสตรีทแวร์

12 นโยบายเปลี่ยนถ่านนาฬิกาจากสวิสฟรีตลอดชีพ และจะเลือกเปลี่ยนที่ร้าน Swatch สาขาไหนในโลกก็ได้

เป็นนโยบายที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่กี่ปีมานี้ จากโจทย์ที่อยากให้ลูกค้าแวะเวียนกลับมาที่ร้าน

“ตอนมาก็ตั้งใจแค่เอาถ่านมาเปลี่ยน เมื่อเห็นนาฬิกานับร้อยแบบที่เรียงรายในร้าน เป็นใครก็ยากจะห้ามใจไม่ให้รับนาฬิกาเรือนอื่นกลับบ้านไปด้วยกัน” ตัวแทนจาก Swatch ประเทศไทยเล่า ก่อนจะเสริมว่านโยบายนี้นำมาซึ่งต้นทุนมหาศาลมากเพราะเป็นถ่านแท้จากสวิตเซอร์แลนด์ หากเป็น 3 – 4 ครั้งก็มีมูลค่าเกินกว่าราคานาฬิกาตอนที่ซื้อมาอีก

สำหรับบริการอื่นๆ เช่น ขัดหน้าปัด เปลี่ยนสาย ก็สามารถทำได้เลยที่ Dr.Swatch ในร้าน Swatch ทุกสาขาในโลก ในราคาไม่แพง

13 Swatch กับ Smart Watch ในอนาคต  

แฟนคลับจะรู้ว่า Swatch เคยทำนาฬิกาดิจิทัลมาแล้วหลายรุ่น แต่เพราะเชื่อมั่นในจิตวิญญาณของนาฬิกาที่เดินด้วยเข็มเป็นเหตุผลว่าทำไม Swatch ไม่ทำ Smart Watch

Swatch Skin Irony

14 Swatch มีนาฬิกาสำหรับทุกคน ทุกความสนใจ

มีแบรนด์นาฬิกาสำหรับพัฒนาการเด็กชื่อ Flik Flak ที่ไม่เพียงสอนเด็กๆ เรื่องบอกเวลา วัสดุที่ใช้ยังคำนึงถึงความปลอดภัยเด็กๆ เป็นหลัก มีนาฬิกาหรูรุ่น Flymagic ที่พลิกโฉมวงการนาฬิกา ด้วยเทคโนโลยี Nivachron ทั้งแม่นยำและไม่มีผลต่อสนามแม่เหล็ก ใช้วัสดุเกรดเดียวกับนาฬิกาประกอบที่มีราคาหลักล้าน สิ่งที่ท้าทายคือยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่แน่ใจว่าชิ้นส่วนพลาสติกในเครื่องวงจรจะทำลายกรอบความเป็นนาฬิกาคล้ายใส่ข้อเทียม แต่ในความเป็นจริงเป็นนวัตกรรมใหม่มากในโลก

มีนาฬิกาวัยรุ่นที่เหมาะกับสายสตรีท อย่างรุ่นใหม่ล่าสุด Big Bold หน้าปัด 47 มม. ตัวเรือนใหญ่แทนความขบถเล็กๆ หรือรุ่น Skin Irony ที่ตัวเรือนบางเรียบเหมาะกับสไตล์มินิมอลในราคาไม่แพง

15 นาฬิกา Swatch กับทิศทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ปีหน้าเราจะได้เห็นนาฬิกาใหม่ๆ จาก Swatch โดยใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  รวมถึงการใช้พลังของนาฬิกาที่มีความยั่งยืน  และการลดการใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์ รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ที่ยังเปิดเผยตอนนี้ไม่ได้แต่คนรัก Swatch ที่รักโลกรู้แล้วจะต้องรักแน่นอน

Line : @swatch_th
Facebook : swatchthailand
Instagram : swatch_th

Writer

นภษร ศรีวิลาศ

นภษร ศรีวิลาศ

บรรณาธิการธุรกิจ The Cloud 4.0 แม่บ้านและฝ่ายจัดซื้อจัดหานิตยสารประจำร้านก้อนหินกระดาษกรรไกร ผู้ใช้เวลาก่อนร้านเปิดไปลงเรียนตัดเสื้อ สานฝันแฟชั่นดีไซเนอร์ในวัย 33 ปัจจุบันเป็นแม่ค้าที่ทำเพจน้องนอนในห้องลองเสื้อบังหน้า ซึ่งอนาคตอยากเป็นแม่ค่ะ

Photographer

Avatar

ธีรพันธ์ ลีลาวรรณสุข

ช่างภาพ นักออกแบบกราฟิก นัก(หัด)เขียน โปรดิวเซอร์และผู้ดำเนินรายการพอดแคสต์ และอื่นๆอีกมากมายแล้วแต่ว่าไปเจออะไรน่าทำ IG : cteerapan