เมื่อปี 2018 The Cloud มีโอกาสสัมภาษณ์ โป๊ยเซียน-ปราชญา มหาเปารยะ และ กวิน เทียนวุฒิชัย หรือคู่รักศิลปินนาม Sundae Kids เป็นครั้งแรก ในตอนนั้นเราพบเจอและนั่งพูดคุยกันที่กรุงเทพฯ 

ในปี 2024 นี้ Sundae Kids โคจรกลับมาเจอ The Cloud ในฐานะนักวาดประจำงาน Thailand Coffee Fest 2024 : Regeneration แต่เมื่อฉันนัดพูดคุยกับพวกเขาอีกครั้ง คราวนี้ Sundae Kids ต่อสายตรงมาหาเราจากนิวยอร์ก 

ท้องฟ้านอกหน้าต่างห้องของเราและชาว Sundae Kids เป็นฟ้าผืนเดียวกัน แต่ใคร ๆ ก็รู้ว่าทุกอย่างย่อมแตกต่าง 

การออกนอกประเทศไปสู่สถานที่ใหม่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นความตั้งใจ 

และนี่เป็นเพียงหนึ่งในอีกหลายสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการเติบโตของ Sundae Kids ที่ในปีนี้ก้าวสู่ปีที่ 10 แล้ว

ไม่ต่างจากพวกเราที่เติบโตขึ้น มีหลายสิ่งหล่นหาย และหลายอย่างยังคงอยู่

ภายใต้ภาพวาดลายเส้นเรียบง่าย บอกเล่าเรื่องความสัมพันธ์แสนละเอียด มาดูกันว่า Sundae Kids ใน 10 ปีให้หลังเป็นอย่างไร

ใส่ใจลูกค้า ใส่ใจตัวเอง

โป๊ยเซียน : เรารู้สึกว่ากระบวนการทำงานไม่ได้เปลี่ยนแปลงมาก เรายังคงทำงานร่วมกับกวิน สิ่งที่เปลี่ยนคือเราโตขึ้น ได้มีโอกาสรับงานใหญ่ขึ้น และมุมมองต่องานของเราก็เปลี่ยนไป ช่วงแรกเราค่อนข้างใส่ความเป็นตัวเองลงไปในงานเยอะ ทำงานแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก พองานใหญ่ขึ้น เราก็ต้องประนีประนอม เรายังคงอยากทดลอง อยากใช้เทคนิคหรือมีเดียใหม่ ๆ แต่ก็ต้องใส่ความเป็นลูกค้าเข้ามาด้วย

ขณะเดียวกัน เราก็ค่อนข้างเลือกงาน ดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์ก่อน เพื่อดูว่าลูกค้าที่เราจะทำงานด้วยมีสไตล์หรือความคิดไปในทางเดียวกันมั้ย เพราะเราคิดว่า ถ้าตัวเองและลูกค้าไปทางเดียวกัน ก็อาจจะได้ทดลองสิ่งใหม่ ได้ผลลัพธ์ใหม่ แล้วได้เรียนรู้ไปด้วยกัน เป็นการทำงานที่ส่งเสริมกัน

เล่าเรื่องชีวิตที่โตขึ้น จริงขึ้น ซับซ้อนขึ้น

โป๊ยเซียน : งานของเราเล่าเรื่องราวในชีวิตประจำวัน ซึ่งส่วนใหญ่เราจะได้แรงบันดาลใจจากสิ่งที่เจอในชีวิตจริง พอผ่านมา 10 ปี เราก็รู้สึกว่างานของเราเล่าเรื่องที่โตขึ้น ซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งถ้าเรื่องซับซ้อนมาก เราก็จะเอาไปทำเป็นเรื่องยาวหรือ Graphic Novel 

เราคิดว่าทุกคนน่าจะเป็นเหมือนกัน คือตอนช่วงอายุ 20 จะรู้สึกว่าทุกอย่างในชีวิตรวมถึงความรักเป็นสิ่งสดใหม่ ชีวิตดูสดใส ทุกอย่างเป็นเรื่องง่าย คิดอะไรก็ค่อนข้างมองโลกในแง่บวก พอโตขึ้น ผ่านมาแล้ว 10 ปี เราในวัย 30 ต้น ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองมองโลกตามความเป็นจริงมากขึ้น อาจจะเพราะอยู่กับกวิน (หัวเราะ) แล้วก็เราได้เจออะไรหลายอย่าง เช่น การจากลา ทั้งจากเป็นและจากตาย รวมถึงการต้องอยู่ห่างไกลกับเพื่อนและครอบครัว เหมือนโตแล้วรู้สึกเหงามากขึ้น 

ออกจากบ้านเพื่อเติบโต

กวิน : ประมาณช่วงปีที่ 9 ของ Sundae Kids เราถามโป๊ยเซียนว่าลองไปสหรัฐอเมริกาดูมั้ย ซึ่งถ้าดูตามหลักเหตุผลก็ไม่ควรไปหรอก แต่เราอยากลองหาประสบการณ์ใหม่ แล้วก็ไม่ได้ยึดติดกับบ้านในบริบทที่คนเขาชอบพูดกัน เราคิดว่าบ้านเป็นเหมือนแค่ที่อยู่อาศัย ตอนนี้เราอยู่ที่ไหนก็ทำงานได้

โป๊ยเซียน : เราก็ตกลงตามที่กวินชวน เพราะคิดว่า ถ้าไม่ทำตอนนี้ก็คงไม่ได้ทำอีกแล้ว เราอยู่ในวัยก่อร่างสร้างตัว ถ้าอยู่ไทยเราคงไปซื้อเฟอร์นิเจอร์มาแต่งบ้าน คงเลี้ยงหมาแล้ว เราก็คิดว่าลองดูสักครั้ง เลยย้ายมาอยู่นิวยอร์กช่วงปลายปี 2023 ที่ผ่านมา ยังไม่ได้แพลนว่าจะอยู่ที่ไหนกี่เดือน ขึ้นอยู่กับงาน

การย้ายประเทศทำให้เราได้เปิดโลก ได้รู้จัก เข้าใจความคิดและวัฒนธรรมการทำงานที่ต่างไป อย่างบางประเทศจะให้เราลองใช้ลายเส้นแบบอื่น ขณะที่ในเมืองไทย ลูกค้าอาจจะอยากได้ลายเส้นหรือคาแรกเตอร์ที่เป็น Trademark ของเรามากกว่า

การออกนอกประเทศยังสร้างแรงบันดาลใจ เพราะตอนอยู่เมืองไทยเราไม่ได้รู้สึกอยากออกไปไหนเท่าไหร่ ก็จะนั่งทำงานที่ห้องอย่างเดียว เหมือนชีวิตเป็นรูทีน แต่พอย้ายมา เรารู้สึกว่าทุกอย่างน่าตื่นเต้นไปหมด แดดออกแค่นี้แต่มีคนมาปิกนิกเยอะจัง ซึ่งมันก็ช่วยให้เรามีแรงบันดาลใจมากขึ้น แล้วก็คิดว่า ถ้าเรามีโอกาสใช้ชีวิตในหลาย ๆ ที่ ได้รู้สึกตื่นเต้นแบบนี้อีกหลายครั้งก็คงดี

พอใจกับชีวิต

โป๊ยเซียน : เราพอใจกับตัวเองในตอนนี้ แล้วก็คิดว่าเซอร์ไพรส์ด้วย ถ้าเกิดตัวเราเมื่อ 10 ปีที่แล้วมองมาอาจไม่คิดว่าตอนนี้จะมาอยู่ที่นิวยอร์ก มาไกลได้ขนาดนี้ เหมือนเราประสบความสำเร็จมากกว่าที่คิด

ปกติเราไม่ได้มองอะไรไกลมาก ถ้าพูดถึงอนาคต ตอนนี้ก็อยากพยายามหางานในต่างประเทศมากขึ้น อยากทำอะไรใหม่ ๆ ที่ยังไม่ได้ทำ ซึ่งก็น่าจะเริ่มจากนิวยอร์กนี่แหละ อุตส่าห์เอาตัวมาถึงที่นี่แล้ว

กวิน : เราเองพอใจกับชีวิตตอนนี้ในหลายส่วน แต่ก็มีบางส่วนที่ทำไม่ได้ตามเป้าที่วางไว้ ทั้ง 2 อย่างนี้ซ้อนทับกันอยู่ สำหรับเรื่องอนาคต เราก็อยากลองไปทำงานต่างประเทศมากขึ้นเหมือนกัน แล้วก็ชวนโป๊ยเซียนออกกำลังกายมากขึ้น

โป๊ยเซียน : เฮ้ย (ลากเสียงยาวแล้วหัวเราะ)

3 ผลงานสะท้อนการเติบโตของ Sundae Kids 

01 ผลงานในนิทรรศการที่ญี่ปุ่น

กวิน : ชิ้นแรกเราเลือกงานที่ไปจัดนิทรรศการที่ญี่ปุ่น งานนี้เป็นการเล่าว่าเราทำงานอะไรตลอดเวลาที่ผ่านมา เป็นผลงานหลากหลายรูปแบบที่เราเคยทำและนำไปจัดแสดงตามที่ต่าง ๆ เหมือนเป็น Archive ของเรา

02 ไดอารีจาก New York 

โป๊ยเซียน : งานชิ้นนี้เป็นโปรเจกต์ส่วนตัวที่เราเริ่มทำตั้งแต่ย้ายมาที่นิวยอร์ก โดยทำเป็นเหมือนไดอารีรายเดือน ในแต่ละเดือนเราจะคัดภาพมา 9 ภาพแล้วเอามาวาด มาแชร์ใน Instagram ให้ทุกคนได้เห็นว่าเดือนนี้เป็นยังไง เราไปเจอ ไปทำอะไรมาบ้าง นี่เป็นคอนเทนต์แบบใหม่ที่เราเพิ่งคิดจะทำตอนย้ายมาที่นี่ อย่างที่เราเล่าว่าเราเจอเรื่องใหม่ ๆ ตลอด ตื่นเต้นกับทุกอย่าง รู้สึกว่าสนุกจังไปหมด เลยอยากเอามาแชร์กับทุกคน เราคิดว่าคอนเทนต์แบบนี้น่าจะทำให้คนดูใกล้ชิดกับเรามากขึ้นด้วย เพราะปกติเราไม่ค่อยแชร์เรื่องส่วนตัว

03 ผลงานสำหรับ Thailand Coffee Fest 2024 : Regeneration 

กวิน : เราได้บรีฟว่าคอนเซปต์งาน Thailand Coffee Fest ปีนี้เล่าเรื่อง Regeneration เลยคิดถึงการแสดง Process ของทุกคนที่ทำเรื่องกาแฟ และปกติแล้วงานที่ Sundae Kids ทำจะเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคู่รัก ในส่วนของแก้วกาแฟ เราเลยเลือกคู่รักมาสะท้อนความเป็น Regeneration ทำเป็นผู้ชายนั่งโอบผู้หญิง สะท้อนความเอาใจใส่และความอบอุ่น ขณะที่ผู้หญิงเองก็กำลังกอดต้นกาแฟอยู่ ส่วน Dripper เราทำเป็นภาพคนหลากหลายอาชีพที่เกี่ยวกับกาแฟ สะท้อนว่าทุกคนเชื่อมโยงกัน

ภาพ : Sundae Kids