อะไรบ้างที่สามารถบ่งบอกความเป็นจังหวัดนั้นๆ ได้
สถานที่ท่องเที่ยว
อาหาร
ของที่ระลึก
เราขอเติมตัวเลือก ‘โรงแรม’ อีกสักข้อ
หากใครเคยมาเดินป้วนเปี้ยนใกล้ๆ หอนาฬิกา ตัวเมืองจังหวัดเชียงรายคงเคยผ่านตา ‘โรงแรมสุขนิรันดร์’ มาบ้าง
โรงแรมเก่าแก่ของจังหวัดอายุกว่า 57 ปี ได้ที่เคยต้อนรับแขกคนสำคัญของจังหวัด ไม่ว่าจะเป็น ปลัดกระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัด รัฐมนตรี มาแล้ว จึงไม่แปลกที่โรงแรมแห่งนี้จะเป็นสถานที่ที่ชาวเชียงรายคุ้นเคย และเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดเหนือสุดในสยามนี้ไปแล้ว
หากคุณเดินผ่านหน้าโรงแรมวันนี้ อาจไม่คุ้นชินกับโรงแรมสุขนิรันดร์โฉมใหม่ ที่เพิ่งผ่านการแปลงโฉมมาหมาดๆ
ดูดีขึ้น แต่กลิ่นอายยังคงเดิม
“ตอนที่คนเชียงรายรู้ว่าจะมีการปรับปรุงโรงแรม ครูสมัยประถมของเราคนหนึ่งเดินเข้ามาบอกว่า สวยมาก เขาดีใจแทนคนเชียงรายที่เรายังเก็บตึกเก่าไว้อยู่ และเรายังคงเอกลักษณ์ไว้”
ส้ม-สุธาสินี จิตรสกุล ทายาทรุ่นที่ 4 ของ ‘โรงแรมสุขนิรันดร์’ เล่า
ส้มคือเด็กเชียงรายที่ไปเรียนการบริการไกลถึงสวิตเซอร์แลนด์ หลักสูตรที่เธอเรียนมีชื่อยาวๆ ว่า Master of Business Administration in International Hospitality and Service Industries Management with Leadership
ที่นั้นไม่เพียงแค่การโรงแรมเท่านั้น แต่ส้มได้เรียนแทบทุกมิติของ ‘การบริการ’ เลยก็ว่าได้
แม้ไม่ได้เป็นตั่วซุงของตระกูล แต่การเป็นหลานคนโตก็ทำให้ส้มอดไม่ได้ที่กลับมาช่วยดูแลกิจการโรงแรมของครอบครัว
ท่ามกลางโรงแรมหลายแห่งของตระกูล เธอเลือกที่จะรับช่วงต่อดูแลโรงแรมสุขนิรันดร์ โรงแรมเก่าแก่ของเมืองเชียงรายที่เธอเคยมาวิ่งเล่นกับอากง ประเสริฐ จิตรสกุล ผู้ก่อตั้งโรงแรมแห่งนี้ ตั้งแต่เด็ก
“โรงแรมนี้อยู่กลางเมือง คุณพ่อ (เรืองชัย จิตรสกุล) จะพูดเสมอว่ามันคือพื้นที่สิบดาว ถ้าเรามีของดีๆ แล้วไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติมก็น่าเสียดาย” ส้มเล่า
ไอเดียที่ทายาทโรงแรมเสนอทำให้อากงต้องอึ้ง เมื่อเธอตัดสินใจรีโนเวตโรงแรมรักของอากงจาก 100 ห้อง ให้เหลือเพียง 52 ห้อง
จำนวนห้องที่หายไปเท่ากับจำนวนเงินที่หายไป คือเสียงค้านของคุณปู่นักธุรกิจ แต่หลานสาวยืนยันว่าคุณภาพคือสิ่งที่เธอเลือก เธออยากยกระดับมาตรฐานโรงแรมขึ้นเป็น Luxury Boutique Hotel และบริการแขกทุกคนให้ดีที่สุด
“เราเป็นคนชอบเที่ยวตั้งแต่เด็กแล้ว เวลาเราไปเที่ยวเราก็จะเห็นว่าการบริการเมืองนอกมันดีมาก เราก็จะชอบ เราก็อยากจะกลับมาทำโรงแรมเราให้ดีอย่างนี้”
ด่านแรกผ่านไปแล้ว ส้มบอกว่าวันที่สำคัญที่สุดของเธอไม่ใช่วันที่เธอเดินไปเล่าโครงการนี้ให้อากงหรือพ่อแม่ฟัง แต่คือวันที่เธอต้องเดินไปบอกพนักงานนับ 10 ชีวิต ที่อยู่กับโรงแรมมาอย่างยาวนานว่าโรงแรมต้องปิดลงชั่วคราวเพื่อแผนการในอนาคต
“พนักงานบางคนทำงานมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ของเขา สิ่งที่เกิดขึ้นคือมีคนร้องไห้หลายคน เราก็ถามเขาว่าในเมื่อโรงแรมปิดแต่เราไม่ได้ทิ้งเขา เราก็ให้ย้ายไปทำงานที่โรงแรมอื่น แล้วทำไมเขาถึงร้องไห้ เขาก็บอกว่าเขาผูกพันกับที่นี่ ที่นี่เปิดมา 57 ปี เขาทำงานมาตั้งแต่รุ่นพ่อ ตั้งแต่เรียนจบชีวิตเขาอยู่ที่นี่มาโดยตลอด เขาร้องไห้เพราะเขาผูกพันกับสถานที่”
ผู้บริหารรุ่นใหม่เล่าถึงคนสำคัญของสุขนิรันดร์
ลำดับถัดไปคือการออกแบบจัดการอาคาร การทุบโรงแรมเก่าทำเลดีทิ้งแล้วสร้างใหม่ ง่ายกว่าการรีโนเวตมาก แต่เหตุผลที่ทายาทโรงแรมเก่าแก่เลือกเก็บรักษาสุขนิรันดร์แบบดั้งเดิมไว้คืออะไร
“มันเป็นที่แรกที่อากงเก็บหอมรอมริบเงินมาสร้าง มันมีรากเหง้าของตระกูลอยู่”
ส้มกล่าวอย่างภูมิใจ
ฉะนั้น โจทย์ใหญ่สำหรับสถาปนิกผู้เข้ามาแปลงโฉมสุขนิรันดร์ใหม่ หนึ่งคือ เก็บโครงสร้างไว้ อยากให้โรงแรมเก่าอย่างมีคุณค่า เพียงแต่แต่งหน้าทาปากใหม่ ให้ที่พักสวยงามเหมาะกับกาลเวลา ส่วนประกอบวินเทจอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสีส้มที่พื้น เก้าอี้หวาย โคมไฟหัวเตียง ก็ถูกเก็บรักษาไว้หมด
สองคือ อยากให้ผู้เข้าพักรู้สึกว่ากำลังอยู่ที่ภาคเหนือ
“เราอยากให้แขกรู้สึกว่าเขานอนอยู่ที่เชียงราย การเข้าไปโรงแรมใหญ่ๆ บางทีเราไม่รู้เลยว่าที่นี่คือที่ไหน แต่โรงแรมนี้พยายามจะใส่อะไรหลายๆ อย่างเกี่ยวกับภาคเหนือ เช่น เพลงกล่อมเด็กภาษาเหนือตรงหัวเตียง รูปนาฬิกาในห้องนอน (อีกหนึ่งหอนาฬิกาเอกลักษณ์ของเชียงราย) ถ้าสังเกตดีๆ นาฬิกาจะบ่งบอกเวลาสิบโมงกว่าๆ เหมือนรอยยิ้ม เพราะอยากให้ช่วงเวลาที่อยู่สุขนิรันดร์เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข”
สามคือ ต้องอยู่สบาย อยู่แล้วเหมือนอยู่บ้าน ให้โรงแรมเป็นดั่งบ้านของอากงที่หลานกลับมาอยู่
“ใครมาพักก็อยากให้รู้สึกว่าเขากลับมาพักบ้านต่างจังหวัดของผู้ใหญ่ที่มีความอบอุ่นด้วยการบริการที่ดีที่สุด” ผู้บริหารรุ่นสามกล่าวพร้อมยิ้มน้อยๆ
ผลลัพธ์คืออาคารสีขาวเรียบหรูใจกลางเมืองเชียงรายที่เราแทบจำไม่ได้คือว่าโรงแรมสุขนิรันดร์ที่เคยเห็น หากแต่เพียงเดินเข้ามาสัมผัสก็จะรู้ว่านี่คือสุขนิรันดร์คนเดิม เพิ่มเติมคืองดงามขึ้น
สุขนิรันดร์โฉมใหม่มีห้องสมุด ฟิตเนส แกลเลอรี่ที่เก็บประวัติศาสตร์ของสุขนิรันดร์เก่าไว้ในรูปภาพ
ร้านอาหาร 2 ร้านคือร้านอาหาร ‘ในความทรงจำ’ เน้นอาหารแนว Home Cooking สไตล์ยุโรป สำหรับลูกค้าต่างชาติที่คิดถึงอาหารแบบที่บ้าน ส้มแอบกระซิบว่า Mac&Cheeze และ Muchroom Barley Risotto คือสองเมนูเด็ดสำหรับเธอ
ส่วนใครที่ทานมังสวิรัติก็ไม่ต้องห่วง เพราะที่นี่มีหลายเมนูให้เลือกทานได้อร่อยตามใจชอบ
ที่พิเศษไปกว่านั้นคือที่นี่มีชาหลากหลายชนิดให้เลือกชิม เช่น ชามะลิ ชาแอปเปิ้ล ชาคาราเมล ชาฉุยฟง ฯลฯ ชาแทบทั้งหมดเป็นผลผลิตในท้องที่ และคุณลิ้มลองชาอบถ่านที่อากงอายุ 95 ปี ของส้มชอบดื่มได้อีกด้วย
อีกร้านคือ ‘นิรันดร’ ร้านอาหารเหนือรสชาติเจียงฮายแต้ๆ ส้มเน้นว่าที่นี่ตั้งใจบริการอาหารเหนือที่ชาวเชียงรายทานกันในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่แค่เมนูฮิตของนักท่องเที่ยว
น้ำพริกข่า ลาบคั่ว แกงกระด้าง แหนมทอด หมูยอ หมูทอดเชียงราย แกงอ่อม ผักกาดจอ ข้าวกั้นจิ้น คือตัวอย่างของเมนูที่ว่า
ร้านอาหารทั้งสองคุณภาพคับแก้ว การันตีโดย Executive Chef ฝีมือระดับประเทศ ที่รับหน้าที่ดูแลรสชาติและคุณภาพของอาหารทุกจานให้ออกมาดีที่สุด
ในการรีโนเวตครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการแต่งตัวโรงแรมใหม่ด้วยของคุณภาพส่งออกทั้งสิ้นแล้ว ‘การบริการที่ดี’ คืออีกหนึ่งสิ่งที่เธอย้ำชัดตั้งแต่นาทีแรกที่คุยกัน
“มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งให้คำถามก่อนไปเรียนที่สวิตเซอร์แลนด์ว่า ‘การบริการแบบสวิสกับญี่ปุ่นต่างกันยังไง’ พอกลับมาก็รู้ว่าสวิสจะทำทุกอย่างให้เป็นระบบ การคุมคนระดับแมส ระบบเขาดีกว่า ในขณะที่ญี่ปุ่นคนจะบริการดีมากๆ แต่ทำได้ในสเกลน้อย ในเมื่อเรารู้ศาสตร์ทั้งสองอย่าง เราเลยอยากนำมาผสมกัน” ส้มเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการบริการที่ดีมากตั้งแต่ก้าวแรกที่เราก้าวเท้าเข้ามา
ส้มซื้อหนังสือ สิ่งที่ดิสนีย์แลนด์สอนฉัน ซึ่งเล่าเรื่องราวของการบริการแบบญี่ปุ่นมาเพื่อแจกพนักงานทุกคน
“หนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณอยากมอบความสุขให้คนอื่นบ้าง” นี่คือสิ่งที่กล่าวไว้บริเวณหน้าปกซึ่งทำเอาเราอดยิ้มไม่ได้
“เขามีความพยายามในการให้บริการที่เยอะมาก มันไม่ใช่แค่ตามในหนังสือ ตามในระบบ มันมากกว่า คือการเอาใจเขามาใส่ใจเรา ตอนอ่านหนังสือเล่มนี้เราก็ร้องไห้ พอมีโรงแรมเป็นของตัวเองจึงไปสั่งซื้อหนังสือเล่มนี้มาให้ทุกคนอ่าน”
เมื่อเราถามถึงบทที่ชอบ ส้มกล่าวว่าน่าจะเป็นการดีกว่าที่จะให้พนักงานของเธอเล่าถึงส่วนนี้แทน
“มีคนมาถามว่ามีรถไฟไปอีกเมืองมีรอบสุดท้ายกี่โมง ผลคือรถไฟจากสถานีในวันนั้นหมดแล้ว พนักงานจึงแนะนำให้ไปขึ้นอีกสถานีหนึ่ง โดยมีพนักงานนั่งแท็กซี่ไปส่ง”
‘เจน’ หนึ่งในพนักงานของโรงแรม ยกตัวอย่างการบริการขั้นกว่าที่นึกได้
เสน่ห์ของงานบริการสำหรับส้มคืออะไร เราถามหญิงสาวที่มีไฟกับงานบริการมากที่สุดคนหนึ่งที่เราเคยเจอ
“การที่ได้เห็นรอยยิ้มของแขก เราบอกน้องๆ ว่า ไม่อยากให้บริการเขาเหมือนพนักงานที่บริการลูกค้า แต่เหมือนคนที่เราอยากดูแล”
พนักงานสุขนิรันดร์ล้วนมีข้อมูลของสถานที่รอบโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดของร้านสะดวกซื้อ หรือเส้นทางกลับโรงแรมจากจุดท่องเที่ยวต่างๆ จึงบอกทางแขกได้อย่างเจ้าบ้านผู้รู้จริง
จากแต่ก่อนที่คนมาเข้าพักโรงแรมมักเป็นบุคคลสำคัญ สำหรับสุขนิรันดร์โฉมใหม่ เจ้าของโรงแรมอยากให้ใครเข้าพักมากที่สุด ส้มยิ้มน้อยๆ ก่อนตอบว่า
“คนที่มาพักเป็นใครก็ได้ แต่เราจะดูแลเขาดั่งคนสำคัญของเรา”