‘Suan Sati’ คือ Yoga Retreat Center ที่ตั้งอยู่บนนาข้าวกว่า 15 ไร่ ณ อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ถึงแม้มีชื่อไทย ๆ ที่สวยงามว่า ‘สวนสติ’ แต่ผู้ก่อตั้งกลับเป็นหนุ่มอเมริกัน หนุ่มคนนั้นคือ วิล ฮาร์ดี (Will Hardy) เขาเข้ามาไทยตั้งแต่ปี 2010 เพื่อเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ หลังจากนั้นเขาเรียนรู้และศึกษาพระพุทธศาสนา ร่ำเรียนการฝึกสมาธิที่ภาคใต้ของประเทศไทย วิลเริ่มเรียนและฝึกสมาธิที่วัดเขาถ้ำ เกาะพะงัน และสวนโมกข์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จนเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

หลังจากนั้นไม่นาน ศาสตร์ของโยคะก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตหลังจากเข้าเรียน Yoga Teacher Training ที่ประเทศกัวเตมาลา ณ ตอนนั้นเขาได้เห็นความเชื่อมโยงของโยคะกับสมาธิ และมีไอเดียอยากจะมีสถานที่ให้คนมาฝึกโยคะ แวดล้อมด้วยธรรมชาติ มีฟาร์มออร์แกนิก ให้คนได้กินอาหารดี ๆ เป็นคอมมูนิตี้ที่ให้คนมาพบปะ แลกเปลี่ยน และสนับสนุนกันในมิติของกาย ใจ และจิตวิญญาณ

วิลเดินทางไปหลายประเทศทั่วโลก แต่เมื่อเขาจะทำฝันให้เป็นจริง เขากลับเลือกจังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย เป็นที่ตั้งของ ‘สวนสติ’ เขารู้สึกถึงพลังของธรรมชาติ ความเป็นบ้าน ความน่ารักและเป็นมิตรของผู้คน เขาตัดสินใจได้ไม่ยากที่จะเลือกที่นี่ และเริ่มทำเซนเตอร์แห่งนี้เมื่อ 7 ปีที่แล้ว โดยครั้งแรกนั้นเริ่มสร้างที่อำเภอแม่โจ้ ด้วยการเรียนรู้ศาสตร์ใหม่อย่างการสร้างบ้านดินจากอาจารย์ชาวไทย

วิลเรียนรู้ทุกอย่างด้วยตัวเอง มีชาวบ้านมาช่วย เพราะเขาอยากสนับสนุนให้ชาวบ้านมีรายได้ พอเขาย้ายสวนสติมาที่อำเภอแม่วาง เขาก็ใช้องค์ความรู้เดิม เพิ่มเติมคือมีเพื่อนมาช่วยอีกแรง

ซึ่งข้อดีก็คือเพื่อน ๆ จากประเทศต่าง ๆ ก็ได้เรียนรู้วิธีการทำบ้านดินจากเขาและชาวบ้านคนไทย เพื่อนำไปพัฒนา ต่อยอด และกลับไปสร้างองค์ความรู้ที่ประเทศของพวกเขาเองได้

ที่วิลย้ายเซนเตอร์จากอำเภอแม่โจ้ไปอำเภอแม่วาง ก็ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาอยากได้พื้นที่ส่วนตัว ไม่ได้อยู่ในเขตชุมชน ซึ่งที่ตรงนี้เป็นทุ่งนาทั้งหมด 15 ไร่ กว้างขวางสุดลูกหูลูกตา แถมแขกได้เห็นวิธีลงแขกเกี่ยวข้าว และได้ทานข้าวที่ปลูกแบบอินทรีย์ของที่นี่ด้วย ซึ่งไอเดียสำคัญของการสร้างสวนสติ คือต้องเป็นมิตรกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากที่สุด บ้านจึงทำจากดิน ใช้พลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ ขุดบ่อน้ำเอง เป็นวิถีชีวิตแบบพึ่งพาตัวเองอย่างยั่งยืน ส่วนอาหารก็ใช้ข้าวและผักบางส่วนที่ปลูกเองและปรุงให้ได้รสธรรมชาติมากที่สุดสำหรับแขกที่เข้ามารีทรีต เพื่อปรับสมดุลกายใจผ่านการฝึก ธรรมชาติ และอาหาร

ส่วนโปรแกรมของที่นี่ก็น่าสนใจมาก วิลบอกว่ามีทั้ง Yoga Teacher Training ของคนที่อยากมาเรียนเพื่อเป็นครูโยคะ เปิดสอน 2 ครั้งต่อปี อีกส่วนหนึ่งเป็นโยคะรีทรีต จัด 2 ช่วง คือเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน โดยเปิดให้แขกเข้าพักขั้นต่ำ 3 คืน ต้องเข้าร่วมคลาสโยคะ และมีอาหารสุขภาพ 3 มื้อให้ หลังจากนั้นเป็นโปรแกรมโยคะรีทรีตสำหรับหน้าหนาว 5 คืน 6 วัน เหมาะสำหรับคนที่อยากลงลึกและอยู่กับตัวเอง และมีการฝึกโยคะที่ยาวนานมากขึ้น ซึ่งวิลก็เป็นครูโยคะที่สอนเป็นหลัก ในศาสตร์ที่ไม่ได้เน้นแต่ร่างกาย แต่รวมไปถึงการพัฒนาจิตใจและจิตวิญญาณ ผสมสมาธิและดนตรีเข้าไปด้วย

สำหรับวิลแล้ว การสร้างสวนสติมีจุดเริ่มต้นมาจากตัวเขา เพราะศาสตร์ของโยคะและสมาธิมาช่วยสร้างสมดุลกับทุกมิติในชีวิต ทำให้เขาเข้าใจตัวเองมากขึ้น เรียนรู้โลกภายใน และเท่าทันอารมณ์ของตัวเอง เมื่ออารมณ์กำลังจะควบคุมเขา เขาก็กลับไปที่การฝึกฝนและการนั่งสมาธิได้ตลอดเวลา 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของใจ เมื่อหัวใจเปิดและเต็มไปด้วยความรักและความเมตตา ทำให้เขาอยากสร้างคอมมูนิตี้ให้คนมาสัมผัสประสบการณ์แบบนี้ ที่นี่ไม่ใช่แค่สถานที่ที่สอนท่าโยคะ แต่เป็นพื้นที่ให้ผู้คนได้ผ่อนคลาย พัก อยู่กับสติและธรรมชาติ ซึ่งวิลมองว่าโลกภายนอกช่างวุ่นวาย สวนสติเลยอยากเป็นเสมือนโอเอซิส ให้ทุกคนสโลว์ดาวน์กลับเข้าไปภายในกายและภายในใจของตนเอง 

ซึ่งบางคนอาจเริ่มหาคำตอบว่าฉันคือใครและต้องการอะไรในชีวิต

ที่นี่ยังเสิร์ฟอาหารสุขภาพที่เอื้อกับการฝึกและดีต่อร่างกาย ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ที่จะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้แขกนำไปปรับใช้และดูแลตัวเองในชีวิตประจำวัน และคนที่ได้ประโยชน์ไม่ใช่เพียงแค่ลูกค้าที่เข้ามาพักและฝึกฝน แต่วิลอยากให้ชาวบ้านได้ประโยชน์จากสถานที่แห่งนี้ มีงาน มีรายได้ ซึ่งหลายคนทำงานด้วยกันมานานจนกลายเป็นครอบครัว เช่น แม่ครัวที่คนชมกันว่าทำอาหารอร่อยมาก 

นี่เป็นแนวคิดของการทำคอมมูนิตี้แบบยั่งยืนที่พึ่งพาตัวเองและสร้างประโยชน์กับทุกฝ่าย

ทั้งยังสอดคล้องและเชื่อมโยงกับธรรมชาติได้อย่างสวยงามและลงตัว

ภาพ : Suan Sati