ช่วงที่ผ่านมานี้เป็นช่วงกีฬาโอลิมปิก ก็จะเล่าอะไรต่างๆ นานาเกี่ยวกับกีฬากับคนอิตาเลียนก็แล้วกัน

เราอาจจะรู้จักอิตาลีในเรื่องกีฬาฟุตบอล แต่จริงๆ แล้ว กีฬาประเภทอื่นๆ อิตาลีก็ไม่เบา ขั้นที่ว่าติดอยู่ในอันดับ TOP 10 ของประเทศที่ครองเหรียญโอลิมปิก นอกจากนี้ โอลิมปิกฤดูหนาว นักสกีชาวอิตาเลียนก็ทำให้คู่แข่งหนาวเยือกไปกว่าอุณหภูมิบนยอดเขาขณะแข่งได้เช่นกัน

เท่านั้นพอ เพราะไม่รู้จะโหนอะไรโอลิมปิกอีกแล้ว จะสรุปเหรียญรางวัล การแข่งขันก็จบสิ้น ก็ไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไร ในเมื่อที่ไหนๆ ก็มีให้ดู

ถึงเป็นแชมป์โลก แต่กีฬาที่แพร่หลายที่สุดในอิตาลีกลับไม่ใช่ฟุตบอล
กาเบรียล เดตตี (Gabriele Detti) นักกีฬาว่ายน้ำของอิตาลี
ภาพ : www.spyit.it

เรามารู้จักคนอิตาเลียนกับการกีฬากันในเชิงสถิติหน่อยดีกว่า

คุณว่า คนอิตาเลียนโดยทั่วไปเป็นนักกีฬาไหม

จากแหล่งข้อมูลที่อ่านเจอบอกว่า คนอิตาเลียนครึ่งประเทศเล่นกีฬาติดต่อกัน 3 ปีขึ้นไป หรือไม่ก็ออกกำลังกายอย่างอื่น เช่น วิ่ง ขี่จักรยาน ฯลฯ แต่ก็มี 20 เปอร์เซ็นต์ที่ไม่เคยเล่นกีฬาเลยนะ

ผู้เล่นส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น แต่ถ้าดูในตารางสอนของเด็กอิตาเลียนก็จะประหลาดใจ เพราะในหลักสูตรมีวิชาพละศึกษาแค่ 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เท่านั้นเอง แต่ก็หาได้ทำให้วัยรุ่นเลือดร้อนอิตาเลียนย่อท้อไม่ สิ่งที่มีมาทดแทนคือ มีชมรมกีฬามากมายทั่วประเทศให้เด็กอิตาเลียนเข้าร่วมในเวลาว่าง

กีฬาที่แพร่หลายที่สุดในอิตาลีก็คงจะไม่พ้นฟุตบอล แต่ที่เล่นจริงๆ เยอะที่สุดคือว่ายน้ำ (14 เปอร์เซ็นต์) ฟุตบอลยังเป็นอันดับสอง (12 เปอร์เซ็นต์) ตามมาด้วยเข้ายิม (11 เปอร์เซ็นต์) บาสเก็ตบอล (7 เปอร์เซ็นต์) และเทนนิส (6 เปอร์เซ็นต์) ลดหลั่นกันตามลำดับ

ทีมฟุตบอลอิตาลีกับชัยชนะบอลโลกครั้งล่าสุด
ภาพ : www.huffingtonpost.it
ทีมฟุตบอลอิตาลีกับชัยชนะบอลโลกครั้งล่าสุด
ภาพ : www.huffingtonpost.it

ความแพร่หลายหรือความฮิตของกีฬาฟุตบอลนี้ สำหรับคนอิตาเลียนแล้ว มิได้หมายถึงการลงวิ่งไล่เตะลูกกลมๆ ในสนามด้วยตัวเองอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่รวมไปถึง ‘นักกีฬาบนโซฟา’ (gli sportivi sul divano) ด้วย อันเป็นคำเรียกคนอิตาเลียนที่เชียร์เฮๆ กันอยู่หน้าจอทีวี

อันว่ากีฬาฟุตบอลนี้ ก็ใช่ว่าจะมีแต่ทีมชาย ทีมฟุตบอลอิตาเลียนหญิงก็ได้ชื่อว่าบู๊ล้างผลาญอยู่ใช่หยอกอยู่เมื่อไร

แต่จริงๆ แล้ว จากสถิติ ผู้หญิงจะชอบยิมนาสติกมากกว่า รวมไปถึงการเต้นรำด้วย แต่น่าจะหมายถึงการติดตามดู เพราะในรายการความนิยมเล่นด้านบนก็ไม่มียิมนาสติกนะ

ถึงจะบอกว่าเล่นกีฬากันครึ่งประเทศ แต่ก็ใช่ว่าอีกครึ่งประเทศจะอยู่นิ่งๆ เพราะก็อาจจะเป็นกองเชียร์อยู่ก็ได้ ทั้งทางโทรทัศน์ สนามกีฬา แล้วก็ตามหน้าหนังสือพิมพ์

หนังสือพิมพ์กีฬาในอิตาลีมี 3 ฉบับคือ 

  1.  La Gazzetta dello Sport
  2.  Corriere dello Sport
  3.  Tuttosport

เล่มที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์คือเล่มแรก La Gazzetta dello Sport เพราะพิมพ์ด้วยกระดาษสีชมพูทั้งเล่ม

หนังสือพิมพ์ La Gazzetta dello Sport ฉบับตีพิมพ์ในกระดาษสีชมพูเป็นครั้งแรก
ภาพ : it.wikipedia.org/wiki/La_Gazzetta_dello_Sport#/media/File:Gazzetta_Sport_2-1-1899.jpg
หนังสือพิมพ์ La Gazzetta dello Sport ฉบับตีพิมพ์ในกระดาษสีชมพูเป็นครั้งแรก
ภาพ : it.wikipedia.org/wiki/La_Gazzetta_dello_Sport#/media/File:Gazzetta_Sport_2-1-1899.jpg 

สีชมพูของกระดาษหนังสือพิมพ์นี้เกี่ยวพันกันอย่างลึกซึ้งกับการแข่งขันจักรยานรายการใหญ่ของอิตาลีที่ชื่อ Giro d’Italia ซึ่งหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ก่อตั้งและจัดทุกปีนับตั้งแต่ ค.ศ. 1909 เป็นต้นมา โดยรางวัลของการแข่งขันนี้ คือเสื้อรางวัลที่เป็นสีชมพู เรียกเป็นภาษาอิตาเลียนว่า Maglia rosa (มาล-เยีย-รอ-ซา)

การแข่งขันจักรยาน Giro d’Italia นั้นอาจจะไม่ดังเท่า Tour de France แต่ความหินนั้นไม่เป็นรองใคร เนื่องจากภูมิประเทศของอิตาลีนั้นอาจเรียกได้ว่า เป็นภูเขาทั้งประเทศ เส้นทางของจักรยานคือการขึ้นลงภูเขาที่ทั้งชันทั้งแคบตลอดระยะเวลาของการแข่ง

เส้นทางการแข่งขันจักรยานจีโร ดิตาเลีย ค.ศ. 2021
ภาพ : www.repubblica.it
เส้นทางการแข่งขันจักรยานจีโร ดิตาเลีย ค.ศ. 2021
ภาพ : www.repubblica.it

แต่ความหลงใหลในความเร็วของคนอิตาเลียนก็ไม่ได้มีแค่นั้น แน่นอน ทุกคนรู้จักการแข่งขันรถฟอร์มูลาวันเป็นอย่างดี และแฟร์รารีของอิตาลีก็เป็นดาวเด่นที่ทุกคนจับตามอง

การแข่งขันที่ไม่ค่อยเป็นข่าวในไทยเท่าใดนักคือสกี อิตาลีมีนักสกีที่เก่งๆ หลายคน ตอนที่ไปเรียนเมื่อ ค.ศ. 1992 นั้น อัลแบร์โต ตอมบา (Alberto Tomba) ซึ่งเป็นชาวโบโลญญาเพิ่งชนะมา ไปไหนมาไหนเห็นแต่รูปพี่เขาเต็มไปหมด

การแข่งขันฟุตบอลในอิตาลีนั้น รายการสำคัญที่สุดคือ การชิงชัยในสาย A (Serie A) รางวัลคือ Scudetto ที่แปลว่า ตราอาร์มเล็กๆ 

ถึงเป็นแชมป์โลก แต่กีฬาที่แพร่หลายที่สุดในอิตาลีกลับไม่ใช่ฟุตบอล
ภาพ : it.wikipedia.org

ส่วนทีมชาติอิตาลีนั้น (โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟุตบอล) มีชื่อเรียกเล่นๆ ว่า อัซซูรี อันมาจากคำว่า Azzurri ที่แปลว่าสีน้ำเงินอมฟ้า อันเป็นสีเสื้อทีมชาติของอิตาลี

หากถามว่าทำไมทีมชาติอิตาลีใส่เสื้อสีนี้ คำตอบแบบสั้นๆ คือ เป็นสีประจำราชวงศ์ซาวอย ซึ่งเป็นประมุขของประเทศ ส่วนคำตอบแบบยาวกว่านี้ (อีกนิดหนึ่ง) ตามดูได้ที่ช่อง YouTube ของฉันเอง 

ส่วนประสบการณ์ส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับกีฬาอิตาเลียนนั้น นอกจากเคยเป็นล่ามให้ โรแบร์โต้ บัจโจ (Roberto Baggio) ในรายการ เจาะใจ เมื่อ พ.ศ. 2539 แล้ว ก็แทบจะเรียกได้ว่าไม่มีอะไร อ้อ มีหนหนึ่งเกือบตายอยู่กลางโรม 555 นึกออกแล้ว

ตอนนั้นกลับไปอิตาลี ไปเป็นล่ามในคณะละครของคณะฯ ที่ตัวเองทำงานนี่ล่ะ อากาศเย็นกว่าที่คิด เริ่มหนาวหู ก็แวะดูตามร้านว่ามีหมวกอะไรที่สวยและถูกพอจะประทังไปได้บ้าง ก็ให้ถูกชะตากับหมวกไหมพรมใบหนึ่ง สีฟ้าขาว มีเขียนคำว่า Lazio ซึ่งเป็นชื่อแคว้นอันเป็นที่ตั้งของโรม รู้แหละว่าเป็นชื่อทีมฟุตบอลด้วย แต่ก็เป็นทีมอยู่ในแถวนี้นี่ น่าจะปลอดภัยกว่าใส่หมวกทีมอื่นน่า

ว่าแล้วก็เดินดำเนินนาด ค่อยเยื้องยาตรยกย่างไปกลางโรม ผู้คนก็พากันมอง ไม่เท่านั้น ตำรวจก็มองแล้วก็คุยๆ หยอกๆ ว่าระวังนะ จนกระทั่งเดินเข้าไปในร้านหนึ่งนั่นละ เจ้าของเป็นหญิงวัยรุ่น เฮ้วๆ ลุยๆ เธอก็ทักด้วยประโยคอันสุนทรว่า

“อยากตายใช่มั้ย”

หา…

เธอเห็นเหวอจริงเธอก็ถามว่า หมวกเนี่ย เชียร์ทีมนี้เหรอ ก็บอกเธอว่า เปล่า เห็นสีมันสวยดี เธอตอบว่า

“ถอดเถอะ เมื่อไม่กี่วันก่อน แฟนบอลทีมนี้กับทีมโรมาเพิ่งฆ่ากันตาย เขากำลังกลัวว่าจะมีการเอาคืนกัน”

ไม่บอกให้ถอด ก็ต้องถอดล่ะ

และนั่นละ คือประสบการณ์ตรงประสบการณ์เดียวที่มีกับกีฬาฟุตบอล… ในอิตาลี

ข้อมูลอ้างอิง
Giulia De Savorgnani, Italia per stranieri, Alma Edizioni 2016

Writer

Avatar

สรรควัฒน์ ประดิษฐพงษ์

‘ครูก้า’ ของลูกศิษย์และลูกเพจ ผู้เชื่อ (ไปเอง) ว่าตัวเองเป็นครูสอนภาษาอิตาเลียนมือวางอันดับหนึ่งของเอเชียอาคเนย์ หัวหน้าทัวร์ผู้ดุร้าย นักแปลผู้ใจเย็น ผู้เชิดหุ่นกระบอกมือสมัครเล่น และนักเขียนมือสมัครเล่นเข้าไปยิ่งกว่า