22 พฤษภาคม 2021
13 K

ณ ชั่วขณะนั้น ฉันหลับตา แต่เปิดผัสสะการได้ยิน ให้เสียงท่วงทำนอง ของฆ้อง, Himalayan Singing Bowls, Crsytal Bowls, Hand Pan และเครื่องดนตรีประกอบอื่นๆ ได้ไหลอาบผ่านเข้าไปภายใน ผ่านใบหู ผ่านผิวหนัง ฉันอนุญาตให้คลื่นและพลังงานของเสียงไหลผ่านเข้าไปในเซลล์ ซึมไปทั่วในแต่ละเซลล์ 

ในเวลานั้น ไม่มีอดีตและอนาคต มีแต่ปัจจุบันที่พาฉันดิ่งลง ดิ่งลง เข้าสู่ภาวะที่ผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ ปล่อยให้คลื่นเสียงได้ทำงานของมัน เพราะเมื่อคลื่นพลังงานเสียงเข้าทำงานลึกในระดับเซลล์ มันช่วยขจัด Blockage พิษในเซลล์ และความเครียดต่างๆได้เป็นอย่างดี 

ณ ชั่วขณะนั้น ถ้าฉันลืมตาขึ้น ฉันจะเห็น Roni Jones Miteff ผู้หญิงตัวเล็กๆ กำลังร่ายเวทมนตร์ ไปกับ Bowls และเครื่องดนตรีต่างๆ ที่ล้อมรอบตัวเธอ เธอรู้ว่าจะสร้างเสียงยังไง แบบไหน โทนไหน ให้เหมาะกับพลังงานของผู้ได้รับการบำบัดภายในห้อง ด้วยการสังเกตปฏิกิริยาและพลังงานโดยรวมของกลุ่ม แล้วพาทุกคนเข้าสู่โลกที่เต็มไปด้วยท่วงทำนองแห่งเสียง

Sound Bath ศาสตร์บำบัดอาการซึมเศร้า ด้วยการนอนอาบเสียงเครื่องดนตรี

“ฉันเข้าสู่โลกของดนตรีตั้งแต่อายุแปดขวบ ตอนนั้นอยู่ดีๆ ก็สนใจออร์แกน เครื่องดนตรีที่ใช้ในโบสถ์ขนาดใหญ่ ซึ่งได้รับฉายาว่าราชาแห่งเครื่องดนตรีตะวันตก เพราะการประดิษฐ์และการเล่นซับซ้อน ต้องใช้ทั้งสองมือและเท้าบรรเลงไปพร้อมๆ กัน โตขึ้นมาอีกหน่อยฉันก็เป็นนักกีฬายิมนาสติก ดังนั้น ถ้าจะบอกว่าพื้นเพของฉันคือดนตรีและการเคลื่อนไหวก็คงไม่ผิดนัก และมันก็ต่อยอดสู่การเป็น Sound Healer และครูโยคะในทุกวันนี้

“พอเข้าสู่ช่วงมหาวิทยาลัย ฉันเลือกเรียนด้านการออกแบบและศิลปะ Theater Design หลังจากนั้นก็ทำงานเป็น Theater Designer เป็นเวลาสิบปี ออกแบบฉาก เวที และเสื้อผ้าของนักแสดง เป็นผลพวงทำให้ฉันเข้าใจการจัดสเปซ จัดวาง Singing Bowls เครื่องดนตรี ให้เกิดการผสมผสานความงามของศิลปะระหว่างบำบัดด้วย แต่สิ่งที่สำคัญไปมากกว่านั้น คือประสบการณ์การทำงานร่วมกับผู้เขียนบท นักแสดง ช่างไม้ และทีมที่ทำงานเบื้องหลังฉาก ฉันเคยต้องออกแบบฉาก เสื้อผ้า ของละครเวทีที่เปลี่ยนไปมาหลายครั้งตามพล็อตเรื่อง เพื่อให้ผู้ชมเข้าใจเรื่องราวและคอนเซปต์ของโชว์ทั้งหมด

“จึงเป็นวิธีการคิดที่ฉันนำมาใช้จนถึงปัจจุบัน การเข้าใจอารมณ์ของผู้ชมในโรงละครกับการดำเนินเรื่อง และต้องเปลี่ยนฉากไปมา จะทำอย่างไรให้ผู้รับฟังเข้าถึงสารที่เราจะสื่อได้มากที่สุด เหมือนเปลี่ยนประสบการณ์ออกแบบเวทีมาสู่ชีวิตจริง เป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อเอาเข้ามาใช้ในโลกของ Sound Healing เพื่อให้เข้าใจความรู้สึกของผู้ถูกบำบัด และตอบโจทย์สิ่งที่พวกเขาต้องการได้มากที่สุด 

“ตอนช่วงอายุสิบเจ็ด ฉันก็ได้เข้าสู่อีกโลกหนึ่ง นั่นคือศาสนาพุทธแบบทิเบต ฉันได้เริ่มปฏิบัติวิธีพุทธมาตั้งแต่นั้น และมันก็ให้ผลลัพธ์ทรงพลัง ฉันเข้าใจแก่นของมันอย่างมากตอนอายุยี่สิบห้า หลังจากนั้นก็เริ่มเดินทางมาเอเชียเพื่อศึกษาพุทธศาสนา เรียนโยคะ เมื่อฉันได้เงินจากการทำงาน ฉันก็จะเดินทางไปกลับระหว่างยุโรปและเอเชีย จนพออายุยี่สิบเก้า ฉันเริ่มเข้าไปพำนักที่วัดทิเบตในลอนดอนเป็นเวลาหนึ่งปี ในช่วงเวลานั้น ฉันฝึกสมาธิ ฝึกโยคะ ได้เห็นการใช้ฆ้อง เครื่องดนตรีขันทิเบตในพิธีกรรมต่างๆ”

Sound Bath ศาสตร์บำบัดอาการซึมเศร้า ด้วยการนอนอาบเสียงเครื่องดนตรี

และแล้วชีวิต Roni ก็ถึงจุดหักเหอีกครั้ง เมื่อวันหนึ่งเธอเลือกเดินออกมาจากลอนดอนและไม่ได้กลับไปอีกเลย ณ ตอนนั้นเธออายุ 30 ปี มีตัวเลือกระหว่างเดินทางไปเนปาลและได้ทุนเรียนการเขียนภาพทังก้า (ภาพวาดพระพุทธเจ้าหรือเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า) เป็นเวลา 5 ปี หรือมาที่เมืองไทยแล้วเริ่มสอนโยคะ เธอบอกว่ามันน่าสนใจทั้งคู่ 

แต่สุดท้ายเธอเลือกเกาะพะงัน ประเทศไทย เพราะอยากจะเริ่มอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวร่างกาย มากกว่าการนั่งวาดรูป ซึ่งเธอเคยทำในสายงานศิลปะมาเป็นเวลากว่า 10 ปี

ชีวิตที่เกาะทำให้เธอได้เริ่มต้นเส้นทางสายโยคะและคลื่นเสียงบำบัด เธอเริ่มศึกษาและทำความเข้าใจ ซึ่งก็ไม่ยากนักสำหรับคนที่มีพื้นฐานด้านดนตรีมาตั้งแต่เด็ก

“การทำคลื่นเสียงบำบัดไม่ใช่การสร้างเสียงดนตรีให้ออกมาไพเราะและน่าประทับใจเหมือนเวลาเราเล่นเครื่องดนตรีอื่นๆ แต่มันคือการทำงานกับระบบประสาทในร่างกาย ถ้าเราหดหู่ เก็บกด ซึมเศร้า ความถี่ของคลื่นเสียงก็ควรอยู่ในระดับสูง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัว สร้างพลังงานของความสดชื่น ในขณะเดียวกัน ถ้าเราวิตกกังวลมากหรือไม่มีความสงบ ความถี่ที่ต่ำก็จะทำให้สงบลงและอยู่ในภาวะผ่อนคลายลงได้ 

“ทั้งหมดนี้มีผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ เพราะเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ของร่างกายเราประกอบไปด้วยน้ำ และน้ำเป็นตัวนำเสียงที่ดีมาก คลื่นเสียงและความถี่ต่างๆ เมื่อผ่านเข้าในร่างกายจะเกิดการปะทะและสั่นสะเทือน เหมือนเวลาที่เราโยนหินลงในน้ำ มันจะกระเพื่อมแบบนั้น”

การสั่นสะเทือนมีอยู่ในวัตถุและสิ่งมีชีวิตทุกชนิด มีผลกับระบบประสาท คลื่นสมอง และเซลล์ในร่างกาย ทำให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลายในระดับลึก เมื่อนั้นคลื่นสมองจะปรับสู่คลื่นความถี่ต่ำ ซึ่งเป็นระดับเดียวกับเวลาเราทำสมาธิขั้นลึก ร่างกายจะเข้าสู่สมดุล ช่วยลดความเครียด วิตกกังวล สมองทำงานดีขึ้น เข้าใจสภาพอารมณ์ตัวเองได้มากขึ้น ระบบหายใจ การเต้นของหัวใจ อยู่ในอัตราสม่ำเสมอ ความดันโลหิตที่ต่ำหรือสูงไปเกิดภาวะสมดุลมากขึ้น ร่างกายจะเกิดการซ่อมแซมและเยียวยาตัวเองได้ดีขึ้น นอนหลับได้ดีและลึกขึ้น 

นอกจากนี้ การบำบัดด้วยเสียงยังกระตุ้นการทำงานของสมอง 2 ซีกให้สอดคล้องกัน ปมด้านอารมณ์และจิตใจที่ฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกคลายออกมาง่ายขึ้น ในขณะเดียวกัน ความคิดสร้างสรรค์และปัญญาญาณก็ถูกกระตุ้นให้เกิดขึ้นได้เช่นกัน ในด้านจิตใจ บางคนมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น เห็นทิศทางและจุดหมายในการใช้ชีวิต สำหรับผู้หญิง บางคนก็จะรู้สึกเชื่อมโยงกับมดลูกของตัวเอง อารมณ์ ความเครียดที่กักเก็บในมดลูกก็ค่อยๆ คลายลง

Sound Bath ศาสตร์บำบัดอาการซึมเศร้า ด้วยการนอนอาบเสียงเครื่องดนตรี

“Sound Bath หรือการอาบคลื่นเสียง เป็นศาสตร์ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นสัญลักษณ์ที่ว่าเสียงแสดงถึงความสำคัญทางจิตวิญญาณ ซึ่งจำเป็นต่อความสัมพันธ์ของมนุษย์กับธรรมชาติ และความเชื่อมโยงกับตัวตนภายใน เป็นภาษาที่ศักดิ์สิทธิ์ และในพิธีกรรมที่บรรเลงภาษาเสียงนี้ ทำให้เกิดบทสนทนาที่สวยงามระหว่าง ผู้ให้ + เสียง + ผู้รับ”

ตอนเดินเข้ามาในห้อง ฉันเห็นขัน (Bowl) เต็มไปหมด แตกต่างกันทั้งขนาด ทั้งวัสดุ Roni เล่าให้ฟังว่าถ้าเป็นขันทองเหลือง (Himalayan Singing Bowl) จะให้พลังการเยียวยามากที่สุด ส่วนฆ้องจะให้ความรู้สึกผ่อนคลาย และขนาดก็มีผลมาก เพราะจะให้เสียงและคลื่นที่แตกต่างกัน สำหรับขันใบใหญ่ จะให้เสียงที่ทุ้มต่ำ คลื่นความถี่ที่ต่ำ ทำให้รู้สึกสงบผ่อนคลาย แต่ถ้าขันใบเล็ก เสียงจะสูง คลื่นความถี่สูง จะทำให้แอคทีฟ มีพลัง อาจกระตุ้นให้บางคนขยับตัวขยุกขยิกได้ 

ตอนที่นอนฟัง ฉันแนะนำให้หาผ้าปิดตา แล้วพาร่างกายจมดิ่งไปในท่วงทำนองเสียงอันศักดิ์สิทธิ์ ปล่อยความคิดหนักๆ ในหัวให้หลุดลอยไป ถ้ามี Vision หรืออะไรที่เกิดขึ้นก็ให้มองมันอย่างมีสติ บางครั้งพลังของเสียงอาจไปกระตุ้นเรื่องราวในอดีตให้ผุดขึ้นมาได้ แต่ก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะอนุญาตให้ตัวเองปลดปล่อยสิ่งที่กักเก็บไว้ในระดับลึกหรือในระดับจิตใต้สำนึกให้คลายออกมา

การบำบัดนี้ทำได้ทั้งแบบ Private หรือเป็นกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มขนาดเล็กไปจนถึงใหญ่มากๆ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง ซึ่งถ้าใครสนใจสามารถติดต่อ Roni ได้โดยตรง เพราะเธอมีหลากหลายรูปแบบของคลื่นเสียงบำบัดดังนี้ 

Sound Bath ศาสตร์บำบัดอาการซึมเศร้า ด้วยการนอนอาบเสียงเครื่องดนตรี
Sound Bath ศาสตร์บำบัดอาการซึมเศร้า ด้วยการนอนอาบเสียงเครื่องดนตรี

Chrysalis Sound Journey 

อาบคลื่นเสียงแบบดักแด้ที่สตูดิโอของ Roni จะมีผ้าห้อยลงมาจากเพดาน ให้ผู้รับการบำบัดเข้าไปนั่งอยู่ภายในลอยตัวอยู่ในอากาศ ให้ความรู้สึกเหมือนดักแด้ที่กำลังเกิดใหม่ กลายเป็นผีเสื้อแสนสวย

New Moon Crystal Bowl Meditation

ทำสมาธิกับคลื่นเสียงในวันจันทร์ดับ (เป็นปรากฏการณ์ที่ดวงจันทร์โคจรมาอยู่ในทิศทางเดียวกับดวงอาทิตย์เมื่อมองจากโลก ดวงจันทร์จึงหันด้านมืดเข้าหาโลก ทำให้ไม่เห็นดวงจันทร์ มักเกิดในวันแรม 14 ค่ำ หรือแรม 15 ค่ำ )

Sacred Sound Bath (Elemental or Shamanic)

การบำบัดขั้นลึกที่ผสมผสานหลากหลายพลังงาน ทั้งเสียง เครื่องดนตรี ออกมาในรูปแบบที่สื่อถึงธาตุต่างๆ อย่างดินน้ำ ไฟ และลม

Elemental Yin Yoga & Sacred Sound

คลาสหยินโยคะ ให้ผู้ฝึกไหลไปตามคลื่นเสียง เพื่อให้เข้าถึงการขยับของร่างกาย ลมหายใจ เพื่อก่อให้เกิดสมาธิ

Full Moon Sacred Sound Ceremony

วันจันทร์เพ็ญอันทรงพลัง Roni ก็มี Session ให้เชื่อมโยงกับตัวเอง เสียง และดวงจันทร์ ด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ เธอยังมีคลาสสอนผู้ที่สนใจอยากเรียนการทำคลื่นเสียงบำบัดอีกด้วย และข่าวดีคือ Roni ขึ้นมาทำ Session ที่กรุงเทพฯ​ อยู่บ่อยๆ ชาว กทม. คงหาตัวเธอได้ไม่ยาก

ติดตามผลงานของเธอได้ที่นี่

Facebook : Pure Nature Yoga Therapy & Sound

เว็บไซต์ : purenatureyoga.com

Writer

Avatar

นวลวรรณ สุพฤฒิพานิชย์

เกิดและเติบโตในเมือง จนวันหนึ่งรู้สึกว่า Disconnect กับธรรมชาติ เลยเลือกมาใช้ชีวิตบนเกาะกับสายน้ำและภูเขาแทน