2 กันยายน 2024
2 K

กลิ่นเย็น ๆ แบบหินอ่อนเตะจมูกเราเป็นอย่างแรก ตามมาด้วยกลิ่นกาแฟรสขมและควันจาง ๆ ชวนให้นึกถึงภาพกรุงโรมที่มีคนนั่งจิบกาแฟและสูบบุหรี่อยู่ริมทาง 

นับเป็นครั้งแรกที่เราได้รู้ว่า ‘กลิ่น’ ไล่เลียงเรื่องราวได้เป็นฉาก ๆ โดยไม่ต้องมีภาพประกอบและมีพลังอย่างไม่รู้ลืมขนาดนี้

ที่นี่คือ ‘SOULSCAPE’ ร้านที่รวม 4 น้ำหอมแบรนด์ไทยคุณภาพดีที่มีแก่นหลักเดียวกัน คือการส่งกำลังใจและความรู้สึกที่ดีให้กับผู้คน ได้แก่ Sirodom, SYNCS, artepolé และ PYE 

แม้ร้านน้ำหอมแห่งนี้เพิ่งเปิดตัวได้หลักเดือน แต่เหล่าเจ้าของแบรนด์ต่างคร่ำหวอดในวงการเครื่องหอมมานานหลายปี และ SOULSCAPE ยังเป็นร้านที่รวมน้ำหอมรางวัลไว้มากที่สุดในกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้

หากเป็นช่วงก่อนหน้านี้ ภาพจำร้านน้ำหอมสำหรับเราคงจะเป็นความหรูหราจนรู้สึกเกร็งทุกครั้งที่เข้าไปเยือน แต่ SOULSCAPE ทำให้รู้ว่าเราคิดผิด แถมยังลบภาพนั้นออกไปได้อย่างสิ้นเชิง 

“เราอยากเป็นร้านน้ำหอมที่คนเข้ามาแล้วสบายใจ ไม่กดดันว่าคนรักน้ำหอมต้องซื้อน้ำหอมทุกครั้งที่เข้ามา แต่คุณมานั่งเล่น พูดคุยในสิ่งที่เรารักร่วมกันได้ เราอยากเป็นร้านน้ำหอมใจดีที่คนเข้ามาแล้วรู้สึกไม่กดดัน” ป้อ-อรรถพร แสนทวี เล่าถึงความตั้งใจของ SOULSCAPE ที่ให้ความรู้สึกสบายใจและการต้อนรับอย่างอบอุ่น ไม่ว่าคุณจะตั้งใจมาอุดหนุนหรือเพียงแวะมาเยี่ยมเยือนก็ตาม

มากกว่าร้านน้ำหอมคือพื้นที่พักใจ

ป้อและ ดรีม ตัวแทนจาก SOULSCAPE บอกกับเราว่าตลาดน้ำหอมในไทยกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงข้อมูลเรื่องน้ำหอมมากขึ้น แพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่เอื้อให้แบรนด์สื่อสารตัวตนถึงผู้บริโภคโดยตรง ไปจนถึงช่วงโควิด-19 ที่ผู้คนเริ่มหันมาสนใจเรื่องสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ 

ยุคนี้จึงเป็นเหมือนโอกาสการเติบโตของน้ำหอมไทย รวมทั้ง 4 แบรนด์นี้ที่ทยอยก่อตั้งขึ้นมาจากความหลงใหลในน้ำหอม แล้วเริ่มรู้จักกันผ่านแวดวงการทำงาน

ยิ่งพวกเขามีโอกาสได้พูดคุยทำความรู้จักกันมากเท่าไร ก็ยิ่งได้เห็นบางอย่างที่คล้ายคลึงกันมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะจุดมุ่งหมายที่อยากสื่อสารสิ่งดี ๆ ให้ผู้คนมีกำลังใจออกไปใช้ชีวิต

เมื่อทุกคนต่างพบจุดร่วมนี้ บวกกับการเห็นทำเลเหมาะเจาะอย่างตึก Slowcombo ที่เชื่อเรื่องเดียวกัน ทุกอย่างจึงลงล็อกออกมาเป็นร้านน้ำหอมที่ชื่อว่า ‘SOULSCAPE’ ที่เต็มไปด้วยเรื่องความรักและการให้กำลังใจในแง่มุมที่ต่างกันออกไป 

01 Sirodom – ซึมซับความรักรอบตัว 

Sirodom คือน้ำหอมที่เกิดจากความรักที่ใช้แล้วคุณจะหลงรัก” 

แพร์-สุวัลยา สิโรดม เล่าถึงแนวคิดหลักของแบรนด์ที่หยิบยกความรักรอบตัวมาตีความเป็นเรื่องเล่าละมุนใจ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นหอมหวานของ Love Actually ที่ชวนให้นึกถึงความรักสดใสช่วงวัยหนุ่มสาว จนเหมือนโลกทั้งใบกลายเป็นสีชมพู 

ส่วนคอลเลกชันล่าสุด Boundaryless Love Collection แพร์ได้แรงบันดาลใจจากการเดินทางไปเยือนสถานที่สุดโรแมนติก แล้วดึงเอาความรู้สึก ‘อยากพาคนที่เรารักมาที่นี่บ้าง’ มาตีความเป็น 3 กลิ่นที่บ่งบอกถึงบรรยากาศของเมืองในทวีปยุโรป คือ Ti Amo – Roma (อิตาลี) Pleasir – Paris (ฝรั่งเศส) Adore – London (อังกฤษ) 

โดยเฉพาะกลิ่น Pleasir – Paris (ฝรั่งเศส) ที่ให้ความรู้สึกสดชื่น ผสานความหรูหราเป็นผู้ใหญ่ ชวนให้นึกถึงภาพคู่รักเดินจูงมือกันช้อปปิ้งอยู่บนถนนฌ็องเซลิเซส์ในฝรั่งเศส ทั้งยังเป็นกลิ่นที่คว้ารางวัลชนะเลิศ สาขา Fashionable Fragrance Award จากงาน The Aesthetics of Scent Awards 2024 จาก THAI Perfumers (สมาคมสุคนธกรไทย) อีกด้วย

ส่วนกลิ่นที่เราชอบเป็นพิเศษ คือ Ti Amo – Roma ที่สะท้อนถึงคาแรกเตอร์ของกรุงโรม ทั้งอาคารหินอ่อน กาแฟ และควันเย็น ๆ ไล่เลียงออกมาช้า ๆ กลายเป็นกลิ่นหอมสบายที่มีเสน่ห์

แพร์ว่าเธออยากให้ Sirodom เป็นน้ำหอม Niche เมืองไทยที่คุณภาพทัดเทียมแบรนด์ต่างชาติ แต่ราคาจับต้องได้มากกว่า นอกจากกลิ่นหอมละมุนติดทนนานแล้ว ขวดน้ำหอมจึงใช้วัสดุคุณภาพดี ทั้งแผ่นป้ายทองเหลืองสลักชื่อและฝาที่มีน้ำหนัก ไม่หลุดแตกง่าย 

Sirodom จึงเป็นแบรนด์ที่หรูหราทั้งภายนอกและภายใน ที่สำคัญคือทำให้เราได้สังเกตและสัมผัสถึงความรักอันอ่อนหวานที่อยู่รอบตัว 

02 SYNCS – ขอบคุณและเคารพทุกสิ่งรอบกาย

เมื่อทำความรู้จักรักหลากหลายรูปแบบแล้ว เราอยากชวนมาสัมผัสความรู้สึก ‘ขอบคุณ’ และ ‘เคารพ’ ธรรมชาติรอบข้างไปกับแบรนด์ SYNCS กันบ้าง

เจ้าของแบรนด์นี้คือ ดรีม-ธนวัน ธัมมรัคคิต ผู้คลุกคลีในแวดวงเครื่องหอมและศิลปะมาอย่างยาวนาน ทั้งบทบาทสุคนธบำบัด (Clinical Aromatherapist) ภัณฑารักษ์ (Curator) งานศิลปะที่สหรัฐอเมริกา และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Now Foods Thailand โดยดรีมดูแลฝั่งผลิตภัณฑ์ Aromatherapy ทั้งยังเคยเป็นกรรมการและที่ปรึกษาพิเศษด้านน้ำหอมให้กับองค์กรต่าง ๆ 

เมื่อความถนัดบวกกับความสนใจด้านธรรมชาติและตำนานเทพ จึงเกิดเป็นแบรนด์ SYNCS ขึ้นมาเพื่อขอบคุณสิ่งรอบตัวผ่านน้ำหอม โดยมี พจน์ วิวรรธกะ เป็นผู้ช่วยปลูกและกลั่นน้ำดอกไม้ 

“เราเชื่อว่าเวลาเราจะเคารพใครสักคนหรืออะไรสักอย่าง เราควรเรียนรู้เรื่องของเขา เพราะการเคารพที่ดีที่สุด คือการเรียนรู้บทเรียนนั้นแล้วนำมาใช้กับตัวเอง”

SYNCS จึงสะท้อนถึงคำขอบคุณ ความเคารพอย่างลึกซึ้ง โดยนำวัฒนธรรม ความเชื่อของคนรุ่นเก่า มาปรับให้เข้ากับยุคสมัย และบอกต่อให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ โดยใช้หลักการตามตำรา Metaphysic อย่างการนำน้ำมนต์จากทางเอเชีย มาผสมกับวัฒนธรรม New Age Spiritual Lifestyle ของทางตะวันตก โดยการใช้ Essential Oil และพืชพรรณตามตำนานโบราณมาร่วมกับศาสตร์พลังงาน เพื่อส่งต่อกำลังใจให้ผู้คนผ่านน้ำหอม

อย่างน้ำหอม Fruit of Wisdom ในคอลเลกชัน Deity Grace Collection ที่บ่งบอกว่าความเร็วไม่ใช่คำตอบของทุกสิ่ง แต่เราค่อย ๆ เรียนรู้ไปพร้อมกับรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ คราบน้ำตาระหว่างทางได้ เพื่อให้เข้าใจชีวิตอย่างลึกซึ้งและก้าวผ่านทุกสิ่ง ด้วยความเชื่อว่าปลายทางจะมีสิ่งที่ดีกว่ารออยู่เสมอ โดยแง่คิดเหล่านี้มาจากเรื่องราวของพระพิฆเนศ

“พระแม่อุมาเทวีมีมะม่วงวิเศษลูกหนึ่ง ถ้าเทพองค์ไหนได้กิน จะได้เป็นเทพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาล พระแม่อุมาจึงบอกว่า ลูกคนไหนวิ่งรอบจักรวาลได้ครบ 3 รอบก่อนจะได้ครองมะม่วงวิเศษนี้ พอพูดจบ แทนที่จะออกวิ่งอย่างรวดเร็ว พระพิฆเนศกลับนิ่งเฉย หลับตาสักพัก แล้วลืมตาขึ้นมา ท่านเดินวนพ่อแม่ 3 รอบแล้วบอกว่า ความรู้ ความสำเร็จใด ๆ ที่ลูกได้มา ไม่มีทางเกิดขึ้นได้หากไม่มีพ่อกับแม่ ฉะนั้น ไม่มีจักรวาลใดยิ่งใหญ่ไปกว่าพ่อกับแม่

“เราจึงเอาข้อคิดบางอย่างจากตำนานนี้มาใช้กับตัวเอง คือ Speed is not Always the Answer บางครั้งความเร็วไม่ใช่คำตอบของทุกอย่าง แต่การรู้ซึ้ง ศึกษาอย่างจริงจัง แล้วเดินไปช้า ๆ อย่างมีสติอาจจะดีกว่า กลิ่นจึงออกมาเป็นแบบวิหารอินเดีย ปนกับความสดชื่นของดอกไม้ แต่ปลายทางจะมีกลิ่นมะม่วงซ่อนอยู่ในนั้น เพื่อจะบอกทุกคนว่าไม่ต้องรีบ สุดท้ายจะมีสิ่งที่ดีรอเราอยู่” 

นอกจากตำนานเกี่ยวกับเทพแล้ว อีกคอลเลกชันที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือการนำศาสตร์ Feng Shui ของจีนที่ว่าด้วยเรื่องธาตุทั้ง 5 มาตีความเป็นกลิ่นน้ำหอม ใน Synergy Souls : Feng Shui Collection ซึ่งดรีมทำงานร่วมกับแพทย์แผนจีนและนักโหราศาสตร์จีน ประกอบกับการค้นคว้าอีกมากมาย ทำให้คอลเลกชันนี้เป็นมากกว่าการปรุงน้ำหอม เพราะส่วนผสมทั้งหมดถูกต้องตามตำราการเสริมสิริมงคลในศาสตร์โบราณของจีนอีกด้วย

“หลักการคือเราทาสีบ้านหรือเปลี่ยนบ้านใหม่ไม่ได้ทุกวัน แต่เราปรับพลังงานฮวงจุ้ยได้ด้วยกลิ่นได้ตามตำราแพทย์จีน ฮวงจุ้ยจีน และตำราฝั่งตะวันตกที่ดรีมเรียนมาก็มี Feng Shui Aromatherapy เช่น วันนี้ตอนเช้าต้องใช้ธาตุนี้ เสริมทิศนี้ เพราะคุณเปลี่ยนมุมนี้ไม่ได้ แต่เอาน้ำหอมไปใช้แทน“

“เราจะดูดวงให้ก่อน เพื่อให้รู้ว่าควรใช้ธาตุอะไรเสริม แต่ถ้าอยากใช้กลิ่นนี้เพราะชอบเฉย ๆ ก็ได้เหมือนกัน”

ดรีมเล่าว่าเบื้องหลังของการทำน้ำหอมนั้นเหมือนงานฝีมือที่ใส่ใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การรอช่วงเวลาที่เหมาะสม เช่น ใช้น้ำมนต์จากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในช่วงพระจันทร์เต็มดวงของเดือนกันยายน (Harvest Moon) ที่เป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวเพื่อขอพรเรื่องความมั่งคั่ง การตีความและปรุงแต่ละกลิ่นออกมาให้ตรงใจ ไปจนถึงการเลือกใช้วัสดุรีไซเคิลมาทำบรรจุภัณฑ์น้ำหอม 

03 artepolé – มองหาความสุขและโอบกอดความไม่สมบูรณ์แบบ

เมื่อรู้จักรักและขอบคุณสิ่งที่อยู่รอบตัวแล้ว ถึงเวลาเดินทางสู่ภายในเพื่อโอบกอดและปลอบโยนหัวใจไปกับ artepolé ที่ ป้อ-อรรถพร แสนทวี และ อาร์ท-ทักษิณ พันแสน ตั้งใจใช้น้ำหอมสื่อถึงความงามของความไม่สมบูรณ์แบบและการมองหาความสุขในทุกช่วงเวลาของชีวิต 

ความไม่สมบูรณ์แบบสะท้อนผ่าน Doodle Art ซึ่งแทรกอยู่บนขวดน้ำหอม โดยเฉพาะคอลเลกชัน Love Yourself ที่ฮิตติดตลาดจากกลิ่นและคอนเซปต์เข้าใจง่าย

นอกจากนี้ artepolé นับเป็นอีกแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องการกวาดรางวัลมามากมาย เช่น รางวัลชนะเลิศระดับประเทศ สาขา Thai Enhancement Award ในงาน The Aesthetics of Scent Awards 2022 และ Top 5 of Emerging Brand Award 2024 ในงานประกวดน้ำหอม The Inaugural Asia Perfume Foundation Awards 2024 จากน้ำหอมคอลเลกชันที่พาไปสำรวจสถานที่ในจินตนาการ เช่น Secret Valley, No One Knows กลิ่นที่ชวนให้นึกถึงการตื่นมาเจอแดดเช้ากระทบไอหมอกในบ้านไม้บนภูเขาสูง เมื่อกลิ่นหมอกจางลง ก็ตามมาด้วยกลิ่นพืชพรรณอันแสนสดชื่นเหมือนสวนหลังบ้านที่มีส้มโอไทย ทุ่งหญ้า และป่าไม้ ปิดท้ายด้วยกลิ่นหอมหวาน ชวนให้นึกถึงการจิบกาแฟคาราเมลลาเต้พลางมองทิวทัศน์เหล่านี้

และหากใครกำลังเหนื่อยล้า เราอยากแนะนำกลิ่น Yellow House, On The Rockey Island ที่ต้องการปลอบโยนผู้คนที่ทุ่มเททำงานหนัก เพราะให้ความรู้สึกเหมือนได้เดินทางไปพักผ่อนบนเกาะอันห่างไกล และโทนกลิ่นช่วงท้ายที่ทั้งสงบ เย็นใจ พร้อมตื่นมาทำงานในวันจันทร์อย่างมีพลัง

“เราเชื่อมโยงกับเรื่องราวและความทรงจำ เพื่อให้คนใช้น้ำหอมรู้สึกว่ามีจุดประสงค์ในการใช้หลายแบบ” ป้ออธิบายแนวคิดของเขา ก่อนจะเกริ่นถึงโปรเจกต์ที่รวมกันทำกับ PYE กับน้ำหอม Kawaguchirun และร่วมกันคว้ารางวัลระดับโลกอย่าง Honorable Mention Award ในงานประกวดน้ำหอม Art and Olfaction Awards 2024

Kawaguchirun เป็นกลิ่นของสถานที่ในความทรงจำอย่าง Kawaguchiko ประเทศญี่ปุ่น โดยแรงบันดาลใจมาจากการวิ่งรับแสงอาทิตย์ยามเช้า ชมวิวทะเลสาบ Kawaguchiko ที่เบื้องหน้าเป็นสวนดอกไม้หลากสีสัน ฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิ จึงออกมาเป็นกลิ่นโทนผลไม้สดชื่นกระปรี้กระเปร่าเหมือนตอนออกวิ่งในช่วงแรก ตามมาด้วยกลิ่นดอกไม้นานาพรรณ แทนความรื่นรมย์กับวิวสองข้างทาง แล้วปิดท้ายด้วยกลิ่นหอมเย็นผ่อนคลาย ชวนให้นึกถึงไอหิมะบนยอดภูเขาไฟฟูจิ

04 PYE – ค้นหาตัวตนและทำตามความฝัน

PYE คือแบรนด์น้ำหอมจากสองผู้ก่อตั้งอย่าง ตุ้ย-นิธิ นิลฉวี และ ซอส-พิริยะ ปิ่นทอง ที่มีพื้นเพด้านวิศวกรรมเคมี แต่หลงใหลในเรื่องน้ำหอม 

แนวคิดหลักของ PYE คือการสื่อสารถึงความทรงจำทั้งดีและร้ายที่ค่อย ๆ หลอมรวมออกมาเป็นตัวตนของเราซึ่งควรค่ากับความรัก

นอกจาก Kawaguchirun แล้ว PYE ยังมีอีกหลายกลิ่นที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น Sip & Tell ที่คว้ารางวัล Top 6 ในสาขา Artisan Award จากงาน The Aesthetics of Scent Awards 2024 และกลิ่น 52 Hz ซึ่งได้รางวัล Top 5 Finalist, The Aesthetics of Scent Awards 2023 จากเรื่องราวของวาฬที่โดดเดี่ยวที่สุดในโลก เพราะวาฬตัวนี้ที่สื่อสารด้วยคลื่นความถี่ 52 Hz ต่างจากวาฬตัวอื่น ๆ ที่ใช้คลื่นความถี่ต่ํากว่า 52 Hz

แม้จะเป็นวาฬผู้เดียวดายเพราะสื่อสารกับใครไม่รู้เรื่อง แต่ท้ายที่สุดวาฬตัวนั้นก็ยอมรับในสิ่งที่เป็นและเรียนรู้ที่จะอยู่อย่างโดดเดี่ยว ทว่าสง่างามและเป็นสุข กลิ่นที่ออกมาจึงให้ความรู้สึกเย็นนิ่ง ๆ เหมือนท้องทะเลลึกอันแสนเงียบเหงา ตามด้วยกลิ่นไม้อ่อน ๆ เหมือนซากเรือผุพังที่อยู่เคียงคู่กับเจ้าวาฬ แต่เป็นกลิ่นที่ชวนให้รู้สึกมั่นคงและสงบใจในเวลาเดียวกัน

“PYE คือแบรนด์ที่พยายามเล่าเรื่องการค้นหาตัวเอง แล้วนำประสบการณ์ในชีวิตและความทรงจำต่าง ๆ มาพัฒนาตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นความทรงจำที่ดีหรือไม่ก็ตาม เพื่อให้กำลังใจทุกคนว่า It’s Gonna be OK”

พลังของการรวมตัวกัน

เมื่อเดินวนรอบเคาน์เตอร์ทรงโค้งรูปตัว S ดมกลิ่นน้ำหอมพร้อมฟังเรื่องราวของแต่ละแบรนด์จนครบ เรารู้สึกคล้ายช่วงเวลาที่ต้องเดินออกจากโรงหนัง เพราะอยากต่อเวลาอ้อยอิ่งอยู่ตรงนั้นอีกพักใหญ่ 

“บางคนอยู่ในร้านเป็นชั่วโมงเลย”

ดรีมเล่าถึงผลตอบรับที่ผ่านมา ส่วนป้อเล่าติดตลกว่า นี่เป็นเหตุผลที่ต้องวางโซฟาตัวใหญ่ไว้ในร้าน เพราะหากเดินมาลองน้ำหอมในร้านเล็ก ๆ คงใช้เวลาไม่นานนัก แต่เมื่อมีเรื่องราวมาแลกเปลี่ยนกัน หลายคนจึงอยากใช้เวลากับพื้นที่แห่งนี้นานยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคนที่ตั้งใจแวะเวียนมาอุดหนุน หรือเดินผ่านไปมาแล้วสะดุดตากับร้านแสนอันแสนอบอุ่น

“คนที่เข้ามาส่วนใหญ่จะได้คุยกับพวกเรา เขาจะรู้เรื่องราวของกลิ่นและสิ่งที่เราจะสื่อมากขึ้น ดังนั้น ทุกครั้งที่ใช้ เขาจะนึกถึงสิ่งนี้ เหมือนตั้งปณิธานเลยว่าฉันใช้ขวดนี้เพื่อให้มีกำลังใจเรื่องนี้ หรือฉันจะไปทำสิ่งที่ดีกว่าเพื่อตัวเองและคนอื่น ๆ” ดรีมอธิบาย 

ข้อดีของการรวมตัวกันของทั้ง 4 แบรนด์จึงมีมากกว่าการดึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามาทำความรู้จักแต่ละแบรนด์อย่างลึกซึ้ง แต่ยังช่วยให้สื่อสารเรื่องเดียวกันอย่างมีพลังและแตกต่างมากขึ้น ท่ามกลางตลาดน้ำหอมที่มีแบรนด์ใหม่ ๆ ผุดขึ้นมามากมาย 

เพราะตัวตนของ SOULSCAPE นั้นชัดเจนว่าเป็นมากกว่าร้านน้ำหอม แต่ยังเป็นเหมือนพื้นที่ที่คอยส่งกำลังใจและเชื่อมโยงมนุษย์เข้าด้วยกัน โดยมีน้ำหอมเป็นสื่อกลาง 

และถ้าคุณมีโอกาสแวะเวียนมาเยือนพื้นที่แห่งนี้ ขอให้มั่นใจได้เลยว่าหากไม่ได้น้ำหอมกลับไป ก็จะได้ความสบายใจกลับมาอย่างแน่นอน

Lessons Learned

  • การรวมตัวกับกลุ่มคนที่เชื่อเรื่องเดียวกัน นอกจากจะเปิดโอกาสให้ได้เจอลูกค้ากลุ่มใหม่แล้ว ยังช่วยสื่อสารแก่นหลักให้ชัดเจนและมีพลังมากยิ่งขึ้น
  • หากมองลึกไปถึง ‘คุณค่า’ ของสินค้า อาจทำให้พบวิธีนำเสนอสิ่งเดิมในมุมมองใหม่
  • เมื่อค้นพบว่ารักสิ่งใด ใจมักจะพาไปรู้จักและเข้าใจสิ่งนั้นอย่างลึกซึ้ง

Writer

ธัญญารัตน์ โคตรวันทา

ธัญญารัตน์ โคตรวันทา

มนุษย์อยู่ไม่ติดบ้าน มีงานอดิเรกคือการเดิน

Photographer

ดวงสุดา กิตติวัฒนานนท์

ดวงสุดา กิตติวัฒนานนท์

ช่างภาพ และ baker ฝึกหัด