3 มีนาคม 2023
5 K

“Bookshop Hero เป็นแคมเปญที่เชิดชูผู้มีผลงานการทำร้านหนังสือได้ยอดเยี่ยม และหลายคนได้รับการเชิดชูนี้ เพราะพวกเขาเปิดร้านท่ามกลางวิกฤตโควิด และได้รับการยอมรับอุ้มชูจากชุมชนจนผ่านมาได้ และกลายเป็นศูนย์กลางของชุมชนนั้นอย่างแท้จริง” 

เราพบประโยคข้างต้นในบทความของ The Booksmith เขียนโดย สิโรตม์ จิระประยูร ขณะกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับร้านหนังสือร้านหนึ่ง เป็นร้านที่อาจไม่ได้มีประวัติยาวนาน เนื่องจากเพิ่งเปิดทำการครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ปี 2022 แต่ทำไมร้านหนังสืออิสระที่มีอายุเพียง 4 – 5 เดือน ถึงได้รับการเชิดชูว่าเป็น Bookshop Hero นั่นคือคำถามที่ชวนให้เรานึกอยากสัมภาษณ์เจ้าของร้านทันที และนำมาเผยแพร่ลงในคอลัมน์นี้ให้ผู้อ่านได้อ่านโดยทั่วกัน

SOUL FRIEND & SPIRITUAL GARDEN ร้านหนังสือหมวดเยียวยา-พัฒนาตนเองด้วยกัลยาณมิตร ณ เขาหลัก
SOUL FRIEND & SPIRITUAL GARDEN ร้านหนังสือหมวดเยียวยา-พัฒนาตนเองด้วยกัลยาณมิตร ณ เขาหลัก

ก่อนไปไกลกว่านี้ เราขอแนะนำให้รู้จัก ‘SOUL FRIEND & SPIRITUAL GARDEN’ ร้านหนังสืออิสระที่จำหน่ายหนังสือหมวด Self-improvement, Mindfulness (การเจริญสติ), Meditation (การภาวนา), Psychedelic (โอสถลวงจิต), Healing, โยคะ ไปจนถึงหนังสือแนะนำการท่องเที่ยวและการเล่นกระดานโต้คลื่นในบริเวณหาดเขาหลัก จังหวัดพังงา 

SOUL FRIEND & SPIRITUAL GARDEN ร้านหนังสือหมวดเยียวยา-พัฒนาตนเองด้วยกัลยาณมิตร ณ เขาหลัก

พูดกันง่าย ๆ นี่คือร้านหนังสือประเภท Self-improvement & Healing และที่นี่ยังเป็นมากกว่าร้านหนังสือด้วย เราเลยชวน ไปป์-ธวิศรุต บุรพัฒน์ และ เฟิน-ชนชญา ไชยอิ่นคำ สองผู้ก่อตั้ง มาบอกเล่าเรื่องราวร้านของพวกเขา เพราะมันเป็นดั่งจิ๊กซอว์หลาย ๆ ชิ้นที่กระจัดกระจาย ก่อนถูกรวบรวมผ่านความคิด แล้วประกอบสร้างเป็นรูปร่างขึ้นมาเป็น SOUL FRIEND & SPIRITUAL GARDEN ในทุกวันนี้

จิ๊กซอว์ตัวแรก คือ การอยากย้ายมาอยู่ต่างจังหวัด

“ช่วงนั้นผมกับเฟินมาเที่ยวภูเก็ต เพราะอยากพักจากงานที่หนักและเครียดมาก มีรุ่นพี่คนหนึ่งชวนไปเขาหลัก ตอนแรกผมไม่สนใจ แต่มันขับรถจากภูเก็ตแค่ชั่วโมงเดียว พวกเราก็เลยตัดสินใจมาที่นี่”

และนั่นเองคือช่วงเวลาที่ทั้ง 2 คนตัดสินใจแทบในทันทีว่า พวกเขาอยากย้ายมาอยู่ที่ไหน ไปป์เริ่มสาธยายถึงความสวยงามของสถานที่ที่ทะเลกับภูเขาประจันหน้าเข้าหากัน และการที่เขาหลักนั้นอยู่ในเขตอุทยาน ความเงียบสงบจึงเป็นสิ่งที่เคียงคู่กันมาอย่างน่ารื่นรมย์ใจ เมื่อพูดถึงผู้คน เขายกตัวอย่างว่า เขาหลักมีความคล้ายคลึงกับเบอร์ลินอยู่ไม่น้อย ตรงที่เมืองเติบโตได้ด้วยคนที่อาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนั้น

“เราว่าการเติบโตของวัฒนธรรมเซิร์ฟ ผู้คน และกีฬาต่าง ๆ ของที่นี่น่าสนใจ หลายคนกำลังร่วมกันสร้างเขาหลักให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น ผมเลยสัมผัสได้ถึงความน่ารักของผู้คนที่นี่”

SOUL FRIEND & SPIRITUAL GARDEN ร้านหนังสือหมวดเยียวยา-พัฒนาตนเองด้วยกัลยาณมิตร ณ เขาหลัก
SOUL FRIEND & SPIRITUAL GARDEN ร้านหนังสือหมวดเยียวยา-พัฒนาตนเองด้วยกัลยาณมิตร ณ เขาหลัก

แต่เมื่อพูดถึงแง่มุมของธุรกิจ ไปป์ไม่ปฏิเสธว่า หากยังอยู่กรุงเทพฯ ต้นทุนและกำไรคงทำให้ชีวิตสะดวกสบายกว่าตอนนี้เป็นไหน ๆ รวมถึงสารพัดคำถามจากคนรอบข้างที่ทำเหมือนกับว่า

“พวกเขานั้นไม่ประสีประสากับโลกธุรกิจ ด้วยการเลือกมาตั้งกิจการที่เขาหลัก”

คำตอบของเขานั้นเรียบง่ายและชวนให้เข้าใจได้ในทันที นอกจากสิ่งที่พวกเขาอยากทำดันเหมาะกับเขาหลักเป็นทุนตั้งต้น ทั้งการเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาพื้นที่ ส่งต่อความรู้ให้กับคนในท้องถิ่นรอบ ๆ ที่ขาดแคลนร้านหนังสือ (ร้านหนังสือที่ใกล้กับ SOUL FRIEND ที่สุดมีระยะทางกว่า 30 – 40 กิโลเมตร) 

พวกเขายังมีอีก 1 ทุนตั้งต้น นั่นคือ ‘ตัวเอง’

“รอบนี้เราเอาตัวเองมาเป็นต้นทุนด้วย ที่ผ่านมาเราไม่เคยเอาตัวเองมาเป็นต้นทุนเลย ผมมองว่าต่อให้รายได้น้อย แต่เรามีเวลาเพิ่มมากขึ้น เรามีสุขภาพที่ดีขึ้น นั่นแหละคือกำไร” ไปป์เปรย

จิ๊กซอว์ตัวที่ 2 คือ นั่งสมาธิ

ย้อนกลับไปตอนยังอาศัยอยู่กรุงเทพฯ ไปป์มีอาชีพเป็น Creative Director ของบริษัทสยามพิวรรธน์ เขาต้องดูแลสยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี สยามพารากอน ไอคอนสยาม และสยามพรีเมียมเอาท์เล็ต ซึ่งอยู่แผนก Think Tank วางกลยุทธ์ โดยรับตำแหน่ง Creative ให้กับ CEO ขององค์กร

“ผมชอบออกแบบประสบการณ์ ที่ผ่านมาการออกแบบประสบการณ์ของผมคือ ชวนคนมาเสียเงิน และความสำเร็จของผมคือ การทำยังไงก็ได้ให้คนมาเสียเงินให้เยอะที่สุดโดยไม่รู้จักพอ”

แต่อย่างที่เขาได้บอกไปในจิ๊กซอว์ตัวแรกว่า มันทั้งหนักและเครียด

SOUL FRIEND & SPIRITUAL GARDEN ร้านหนังสือหมวดเยียวยา-พัฒนาตนเองด้วยกัลยาณมิตร ณ เขาหลัก

ขณะเดียวกันเขายังติดกับดักที่ตัวเขามีส่วนร่วมออกแบบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างการใช้เงินแก้ปัญหาเพื่อหาความสุข การก้าวขาออกมาจากเส้นทางที่มีทุนนิยมเป็นพื้นฐาน เห็นเป็นเรื่องชวนให้ปวดหัวและน่าสับสนไม่ใช่น้อย กระทั่งวันหนึ่งหัวหน้าทีมของเขาชวนไปนั่งสมาธิและฟังเทศน์ที่เขาใหญ่

“ตอนนั่งรถกลับมา ผมถามเขาว่า ที่ไปมาเมื่อกี้คือการพยายามเรียนรู้ที่จะละกิเลสใช่ไหม” 

SOUL FRIEND & SPIRITUAL GARDEN ร้านหนังสือหมวดเยียวยา-พัฒนาตนเองด้วยกัลยาณมิตร ณ เขาหลัก

ซึ่งการนั่งสมาธิในครั้งนั้นได้ฝากบางสิ่งบางอย่างเอาไว้ในใจเขา เป็นสิ่งที่เหมือนจะคิดออก แต่สุดท้ายก็ยังไม่รู้แน่ชัด เพราะเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับงานของเขา หากคิดหรือพยายามจะเข้าใจการลดทอนและปล่อยวาง ตัวเขาจะทำงานนี้ไม่ได้ ถ้าว่ากันง่าย ๆ จากเดิมที่เขาออกแบบประสบการณ์ด้วยแนวคิดให้คนจ่ายมาก ซื้อมาก ไม่รู้จักพอ มันถูกเปลี่ยนเป็นจะทำอย่างไรให้ละมันได้ ซื้อน้อย และรู้จักพอ

จิ๊กซอว์ตัวที่ 3 คือ สไตล์ที่แล้วแต่คนจะชอบ

เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ไปป์ถูกชวนไปนั่งสมาธิในรูปแบบของเวิร์กช็อป

แต่ครั้งนี้กลับสร้างความประหลาดใจในการค้นพบ สิ่งนั้นคือความมากวิธีและหลากสายทางในการนั่งสมาธิที่ทำความเข้าใจและเรียนรู้ได้หลายแบบตามแต่คนต้องการ ทำเอาเขาต้องกลับมาเริ่มศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับแก่นของพุทธศาสนา ซึ่งแท้จริงแล้วมันไม่เคยเปลี่ยนแปลง

“ธรรมะไม่เคยเปลี่ยน แค่ถูกตีความจากหลายผู้กำกับ มีคนบอกผมว่า ถ้าชอบดูหนังแอคชัน ไม่ได้แปลว่าจะดูหนังแอคชันได้ทุกเรื่อง ผมอาจชอบสไตล์ผู้กำกับคนนี้ แต่อาจไม่ชอบอีกแนวหนึ่งก็ได้”

SOUL FRIEND & SPIRITUAL GARDEN ร้านหนังสือหมวดเยียวยา-พัฒนาตนเองด้วยกัลยาณมิตร ณ เขาหลัก
SOUL FRIEND & SPIRITUAL GARDEN ร้านหนังสือหมวดเยียวยา-พัฒนาตนเองด้วยกัลยาณมิตร ณ เขาหลัก

เปรียบได้กับหนังสือ ถึงแม้เราจะได้ยินมานักต่อนักว่า อย่าตัดสินหนังสือแค่ปก ถึงอย่างนั้นสิ่งที่ทำให้เราเลือกหยิบหนังสือเล่มหนึ่งมาไว้ในมือก็คือปกที่ไม่ต่างอะไรจากหน้าด่านแรกที่เข้าปะทะกับสายตา และงานของเขาในตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากการออกแบบปกหนังสือด้วยความแยบยลและพูดออกมาด้วยความคมคาย เพื่อให้ผู้คนสนใจเรื่องเกี่ยวกับจิตและการดูแลตัวเองในแบบฉบับที่แต่ละคนถนัด โดยมีแกนเรื่องเดียวกันคือ Mindfulness (การเจริญสติ)

ฉัน-หนังสือ

หนังสือในร้าน SOUL FRIEND & SPIRITUAL GARDEN เกี่ยวกับ Mindfulness (การเจริญสติ), Meditation (การภาวนา), Psychedelic (โอสถลวงจิต), Self-improvement, Self-care อาจมีหนังสือหมวดธรรมชาติที่แนะนำการท่องเที่ยวแบบ Slow Travel ในอุทยาน รวมถึงหนังสือเกี่ยวกับการเล่นกระดานโต้คลื่น เพราะที่ที่พวกเขาอยู่เรียกว่า ‘เขาหลักเซิร์ฟทาวน์’

SOUL FRIEND & SPIRITUAL GARDEN ร้านหนังสือหมวดเยียวยา-พัฒนาตนเองด้วยกัลยาณมิตร ณ เขาหลัก

ซึ่งหนังสือทุกเล่มในร้าน ไปป์กับเฟินเป็นคนเลือกเองกับมือจากสำนักพิมพ์ที่ตนเองชื่นชอบ ขณะเดียวกันสำนักพิมพ์ก็ออกปากชื่นชมในฝีมือการเลือกหนังสือมาขายของพวกเขา เลยไม่แปลกใจเท่าไหร่นักว่า ทำไมร้านนี้จึงเต็มไปด้วยหนังสือเฉพาะทางที่แสดงออกให้เห็นถึงความสนใจที่พวกเขามีต่อหมวดหมู่ข้างต้น เรียกได้ว่าสุดโต่งชนิดที่ Booksmith ถึงกับออกปากชมว่า เจ๋งว่ะ!

SOUL FRIEND & SPIRITUAL GARDEN ร้านหนังสือหมวดเยียวยา-พัฒนาตนเองด้วยกัลยาณมิตร ณ เขาหลัก
SOUL FRIEND & SPIRITUAL GARDEN ร้านหนังสือหมวดเยียวยา-พัฒนาตนเองด้วยกัลยาณมิตร ณ เขาหลัก

อย่างหนึ่งที่เป็นปัจจัยในการเลือกหนังสือนั้นมีสาเหตุมาจากการอยากเป็นกระบอกเสียงให้ความรู้เรื่อง Psychedelic ในยุคที่กัญชาถูกกฎหมาย แต่สังคมกลับไม่เคยได้รับความรู้อันถูกต้องมาก่อน

“ยุคนี้เขาเรียกว่า Psychedelic Renaissance (ยุคฟื้นฟู) เพราะหลายประเทศเริ่มปลดล็อกและเข้าใจประโยชน์ของมัน ผมคิดว่าวิธีการเคลื่อนไหวเรื่องนี้ได้ดีที่สุดไม่ใช่การที่ผมออกมาป่าวประกาศกับทุกคนว่า เฮ้ย มันไม่ใช่อย่างนั้นนะ มันเหมือนเรื่องกัญชากับบ้านเรา จุดสำคัญคือ ถ้าประเทศเราให้ความรู้กับประชาชนตั้งแต่แรก ประชาชนจะตัดสินใจได้เองว่าเขาจะใช้หรือไม่ใช้ สิ่งที่เราอยากทำคือ การเอาความรู้เหล่านี้มาแบ่งปันให้คนได้เปิดโลกกว้างขึ้น เพราะบ้านเราไม่เคยมีร้านหนังสือประเภทนี้มาก่อน”

Calmtainment

สำหรับพื้นที่ภายในร้าน ชั้นล่างเป็นร้านหนังสือกึ่งคาเฟ่ มีเฟินเป็นคนดูแลเมนู ตัวที่เราอยากแนะนำคือ Cacao (คาเคาเกรดพิธีกรรม) จากเกษตรกรไทยทั่วประเทศ มัทฉะญี่ปุ่น Ceremonial Grade (มัทฉะเกรดพิธีกรรม) ยังมีกาแฟดริปที่เป็น Single Origin (เมล็ดกาแฟที่มาจากแหล่งเดียวกันทั้งหมด) เพื่อให้ทุกคนได้สนุกกับรสของธรรมชาติที่สุด ซึ่งล้อไปกับ Mindfulness, Meditation และแนวคิดธรรมะของทางร้าน

ยังมีส่วนที่เรียกว่า Listening Café ล้อเลียนมาจาก Listening Bar

“ผมรู้สึกว่าทำไมเพลงดี ๆ หรือวงดนตรีดี ๆ เจอได้แค่ที่ร้านกลางคืน ผมอยากให้มนุษย์กลางวันมานั่งฟังเพลงดี ๆ บ้าง เลยทำเหมือนบาร์ มีดีเจ (ตัวเขา) มีแผ่นเสียง ตั้งค่า Sound System ดี ๆ บรรยากาศเหมือนนั่งฟังเพลงในบาร์ แต่เป็นตอนกลางวัน เพราะมีหลายคนที่อยากฟังเพลง แต่ไป Listening Bar ที่เป็นร้านกลางคืนไม่ได้ เช่น มีลูกหรือติดภารกิจ” ไปป์เล่าที่มาที่ไปของ Listening Café

ร้านหนังสืออิสระ ณ เขาหลัก ที่อยากมอบความรู้ผ่านหนังสือ ความผ่อนคลายผ่านเสียง และปลอบประโลมจิตใจด้วยกัลยาณมิตร
ร้านหนังสืออิสระ ณ เขาหลัก ที่อยากมอบความรู้ผ่านหนังสือ ความผ่อนคลายผ่านเสียง และปลอบประโลมจิตใจด้วยกัลยาณมิตร

ส่วนชั้นบนเป็นพื้นที่สำหรับ Sound Meditation มีการนั่งสมาธิ, Sound Healing (ศาสตร์ของคลื่นเสียงที่ช่วยคลายเครียด), Sound Bath (การอาบคลื่นเสียง) และในอนาคตจะมีโยคะ พวกเขาตั้งใจให้ตรงนี้เป็นพื้นที่สำหรับความหลากหลายโดยใช้เสียงเป็นตัวนำพาให้ทุก ๆ คนได้รู้สึกผ่อนคลาย

“จากเดิมที่เราพาคนมาเมา ก็อยากพาคนมา Calm (ผ่อนคลาย) ก่อน อย่างล่าสุดเรามีอีเวนต์ที่เหมือนปาร์ตี้ ชวน พี่ตุล อพาร์ตเมนต์คุณป้า มาอ่านกวีเรื่องการหายใจ ผมก็สอนเรื่องการนั่งสมาธิ ความสนุกไม่จำเป็นต้องเป็น High Energy เสมอไป ผมเรียกมันว่า Calmtainment

“ศาสตร์ของเสียงมันทรงพลังและวิทยาศาสตร์มาก ผมรู้สึกว่า Sound มันต้องใช้จินตนาการเติมเข้าไป เพราะเรามองไม่เห็น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากข้างใน” หนุ่มเจ้าของร้านอธิบายให้เราฟัง

ร้านหนังสืออิสระ ณ เขาหลัก ที่อยากมอบความรู้ผ่านหนังสือ ความผ่อนคลายผ่านเสียง และปลอบประโลมจิตใจด้วยกัลยาณมิตร
ร้านหนังสืออิสระ ณ เขาหลัก ที่อยากมอบความรู้ผ่านหนังสือ ความผ่อนคลายผ่านเสียง และปลอบประโลมจิตใจด้วยกัลยาณมิตร

หากมองว่าคล้ายกับการปฏิบัติธรรมคงไม่ผิดนัก ไปป์ก็ไม่ได้ปฏิเสธในเรื่องนี้ เขาเพียงแค่อยากเพิ่มทางเลือกที่ไม่ใช่แค่การนุ่งขาวห่มขาวแล้วนั่งสมาธิ เป็นวิธีอีกแบบตามแต่คนชอบ ท้ายที่สุดก็นำไปสู่ปลายทางเดียวกัน นั่นคือ ‘ความสงบ’ ผ่านการใช้เสียง ซึ่งเขามองว่าเป็นวิธีที่ทรงพลังเช่นกัน

SOUL FRIEND & SPIRITUAL GARDEN

‘Community’ คือคำนิยามของไปป์และเฟินที่มีต่อร้านของตัวเอง

Soul Friend ในภาษาไทย คือ กัลยาณมิตร พวกเขาคือผู้ออกแบบประสบการณ์ ผู้สอน และผู้แลกเปลี่ยน ไม่ได้ตั้งตนเป็นอาจารย์หรือมาสเตอร์ แต่พวกเขาเป็น กัลยาณมิตร การเรียนรู้หรือแลกเปลี่ยนกับพวกเขาก็เป็นไปในรูปแบบเพื่อนสอนเพื่อน เพราะแต่ละคนต่างเป็นกัลยาณมิตรซึ่งกันและกัน

Spiritual Garden คือเป้าหมายสูงสุดของพวกเขาที่อยากทำให้ร้านกลายเป็นพื้นที่ที่มีฟังก์ชันคล้ายกับวัด ร่มเย็นและเป็นสุข แต่ไร้ซึ่งศาสนามาจำกัดความ ผู้คนเข้ามาพื้นที่นี้ได้อย่างอิสระและได้รับอะไรบางอย่างกลับไปเสมอ ไม่ว่าจะเป็นแรงบันดาลใจ หรือเจ้าของร้าน 2 คนที่ตั้งใจรับฟังเรื่องราวในวันแย่ ๆ อย่างเห็นอกเห็นใจ และพวกเขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ร้านนี้จะช่วยปลอบประโลมผู้คนได้

ร้านหนังสืออิสระ ณ เขาหลัก ที่อยากมอบความรู้ผ่านหนังสือ ความผ่อนคลายผ่านเสียง และปลอบประโลมจิตใจด้วยกัลยาณมิตร

ท้ายที่สุด Bookshop Hero เป็นคำชมที่พวกเขาไม่ปฏิเสธ เพียงแต่พวกเขายังคงยืนยันว่า ร้านนี้คือ ‘เพื่อนที่มาแลกเปลี่ยนกัน’ ไม่ว่าจะเป็นนักอ่านรุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ พวกเขาเชื่อว่า ทุก ๆ คนมีความเป็นฮีโร่ในตัวเอง และในทุกการพบเจอในฐานะร้านหนังสือ มันคือสิ่งที่มีค่าต่อพวกเขาที่สุดแล้ว

“สำหรับผม หนังสือคือครู ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ ผมรู้สึกว่านี่แหละคือการส่งต่อปัญญาที่ดีที่สุด แล้วมันก็ไปต่อได้เรื่อย ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีประโยชน์และเราอยู่กับมันได้ทุกวัน” ไปป์จบบทสนทนา

ร้านหนังสืออิสระ ณ เขาหลัก ที่อยากมอบความรู้ผ่านหนังสือ ความผ่อนคลายผ่านเสียง และปลอบประโลมจิตใจด้วยกัลยาณมิตร

Book Recommend

01

How to Change Your Mind – Michael Pollan, แนะนำโดย เฟิน

ร้านหนังสืออิสระ ณ เขาหลัก ที่อยากมอบความรู้ผ่านหนังสือ ความผ่อนคลายผ่านเสียง และปลอบประโลมจิตใจด้วยกัลยาณมิตร

“หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มโปรดเกี่ยวกับ Psychedelic ของเฟินเลย เขียนโดย Michael Pollan เป็นนักเขียนชาวอเมริกัน และเป็นศาสตราจารย์สาขาวารสารศาสตร์ที่ UC Berkeley (University of California, Berkeley) เรื่องราวจะเล่าถึง Psychedelic (โอสถลวงจิต) ในแง่มุมทางการแพทย์ เปิดมุมมองใหม่เพื่อให้คนเข้าใจว่า ไม่ใช่ Psychedelic Drugs ทุกตัวที่อันตรายนะ หนังสือมีพูดถึงหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า Psychedelic สามารถช่วยรักษาผู้ป่วยโรคซึมเศร้า (Depression) ผู้ป่วยติดสารเสพติด หรือติดแอลกอฮอล์ (Addiction) และช่วยบรรเทาความทรมานของผู้ป่วยระยะสุดท้ายได้ ตัวนักเขียนมีเล่าถึงประวัติศาสตร์ของ Psychedelic แต่ละตัวว่า ค้นพบที่ไหน ใครเป็นผู้เริ่มใช้ ตอนนี้หลายประเทศก็เริ่มมีการเอามาใช้รักษาผู้ป่วยจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคซึมเศร้า หรือ PTSD (Post-traumatic Stress Disorder / โรคเครียดภายหลังเผชิญเหตุการณ์สะเทือนขวัญ) ตอนนี้ตัวหนังสือได้ถูกสร้างเป็นซีรีส์สารคดีใน Netflix ชื่อ How To Change Your Mind มี 4 Episodes เนื้อหาย่อยง่าย และยังสนุกด้วยค่ะ” 

02

Fear – Thich Nhat Hanh, แนะนำโดย ไปป์

ร้านหนังสืออิสระ ณ เขาหลัก ที่อยากมอบความรู้ผ่านหนังสือ ความผ่อนคลายผ่านเสียง และปลอบประโลมจิตใจด้วยกัลยาณมิตร

“ผู้เขียนคือพระอาจารย์ Thich Nhat Hanh เล่มนี้มีแปลภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ผมว่าความกลัวมันทรงพลังนะ ผมเองก็มี จะเปิดร้านก็กลัว จะตาย ไม่ตาย มนุษย์เต็มไปด้วยความกลัว เป็นกรงขังที่ใหญ่ พระอาจารย์อธิบายให้เราเข้าใจภาวะนี้ จริง ๆ แล้วการที่เราเข้าใจและเผชิญหน้ากับมันได้ มันทำให้เราเดินต่ออย่างราบรื่น ส่วนภาษาเขียนค่อนข้างอ่านง่าย เลยทำให้เราเข้าใจเนื้อหาง่ายขึ้นด้วย”

SOUL FRIEND & SPIRITUAL GARDEN
  • 97 ถนนเพชรเกษม เขาหลัก ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา (แผนที่)
  • เปิดบริการทุกวัน (ยกเว้นวันอังคาร) เวลา 10.00 – 17.00 น. วันศุกร์-วันเสาร์ เวลา 10.00 – 18.00 น.
  • 06 4323 6415
  • Soul Friend & Spiritual Garden
  • soulfriendandspiritualgarden

Writer

Avatar

พัทธนันท์ สวนมะลิ

เด็กกรุงเทพฯ ผู้เป็น Sneakerhead และ Cinephile ที่หอบเสื่อผืนหมอนใบมาเรียนเชียงใหม่ แล้วสุดท้ายก็กลับไปตายรังที่กรุงเทพฯ

Photographer

Avatar

ปฐมพร รุยันต์

ช่างภาพอิสระชาวตะกั่วป่า หลงรักการโต้คลื่นและการท่องเที่ยวไม่น้อยไปกว่าการถ่ายภาพ