หลังจากนกเหล็กแลนดิ้งบนแผ่นดินอังกฤษที่สนามบินฮีทโธรว์ เป็นอันมั่นใจว่าเราอยู่ห่างจากจุดหมายที่กำลังจะไปเยือนเพียงอึดใจ เมื่อเสร็จพิธีรีตองภายในสนามบิน ก็ลากสัมภาระน้อยชิ้นเดินหาบุรุษถือป้ายรอผู้โดยสาร คลาดกันอยู่ครู่ ก็เจอตัว พร้อมขึ้นรถยนต์เดินทางไปยังฟาร์มนอกเมืองทันที

ห่างจากลอนดอนเพียง 90 นาที ก็ถึง ‘Soho Farmhouse’ บ้านพักในฟาร์มขนาด 2,530 ไร่ ณ ออกซ์ฟอร์ดเชอร์ ย่านชนบทของอังกฤษ ซึ่งสภาพอากาศวันนั้นก็สมกับเป็นลอนดอนมาก ฟ้ามืดขมุกขมัว มีสายฝนเม็ดเล็ก ๆ โปรยปรายตลอดวัน โชคดีที่ได้โกโก้ร้อนจากพนักงานต้อนรับที่สุดแสนเป็นกันเอง แถมเธอขอท็อปปิ้งด้วยแอลกอฮอล์จาง ๆ พอให้เลือดสูบฉีดบนใบหน้าและเติมความอบอุ่นให้ร่างกาย

Soho Farmhouse : เปลี่ยนฟาร์มร้างในชนบทอังกฤษเป็นคลับส่วนตัวของสมาชิก Soho House ทั่วโลก

ก่อนทัวร์พื้นที่ทั้งหมด ชวนทำความรู้จัก Soho Farmhouse สักนิด สถานที่แห่งนี้เป็น 1 ใน 38 สาขาทั่วโลกของ Soho House หรือคลับเฮาส์ส่วนตัวที่เป็นพื้นที่สำหรับผู้คนแวดวงสร้างสรรค์ ครีเอทีฟ ภาพยนตร์และดนตรี เปิดให้บริการมานานกว่า 27 ปี ก่อตั้งและบริหารโดย Nick Jones 

Soho Farmhouse : เปลี่ยนฟาร์มร้างในชนบทอังกฤษเป็นคลับส่วนตัวของสมาชิก Soho House ทั่วโลก

ความน่ารักของ Soho House คือ แต่ละสาขาออกแบบแตกต่างกันตามคาแรกเตอร์ของย่านและเมืองนั้น ๆ โดยทุกสาขายึดเหนี่ยวกันอย่างเหนียวแน่นด้วยจิตวิญญาณของ Soho House

ซึ่ง Soho Farmhouse ก็เป็นคลับเฮาส์ที่เปิดบริการเฉพาะสมาชิก Soho House เท่านั้น

Soho Farmhouse : เปลี่ยนฟาร์มร้างในชนบทอังกฤษเป็นคลับส่วนตัวของสมาชิก Soho House ทั่วโลก

เราซดโกโก้ร้อนจนหมดแก้ว อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นท้าฝนลอนดอน เช็กอินเรียบร้อยก็มีรถรางสีเขียว (เป็นเขียวเฉดที่ออกแบบเฉพาะ Soho House เท่านั้น) มาจอดรอรับเพื่อไปส่งยังบ้านพัก 

เดิมทีพื้นที่แห่งนี้เป็นฟาร์มร้าง มีบ้านไร่เก่า ๆ เต็มไปด้วยทุ่งโคลนและโรงเลี้ยงวัวที่ปราศจากวัว แถมการคมนาคมเข้าถึงยาก น้ำไหลบ้างไม่ไหลบ้าง ขนาดสัญญาณโทรศัพท์ยังไร้วี่แววต่อติด 

จนกระทั่งปี 2015 ทีมพัฒนาของ Soho House เข้ามาปรับโฉมพื้นที่ให้โอบรับและใกล้ชิดธรรมชาติ สร้างบรรยากาศฟาร์มที่ได้แรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมการสร้างที่พักอาศัยแบบกระท่อมของผู้คนทางตอนเหนือในนิวยอร์ก ให้ความรู้สึกเหมือนการต้อนรับกลับบ้าน เป็นส่วนตัว เงียบสงบ มีกลิ่นอายรัสติกหน่อย ๆ ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์แอนทีกและวินเทจ ผสานกับข้าวของดีไซน์เก๋ร่วมสมัย

Soho Farmhouse : เปลี่ยนฟาร์มร้างในชนบทอังกฤษเป็นคลับส่วนตัวของสมาชิก Soho House ทั่วโลก

พื้นที่ในฟาร์มกว้างใหญ่ไพศาล ภายในมีตึกเก่าตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 18 ฟาร์มเฮาส์ขนาด 7 ห้องนอน บ้านคอตเทจ 4 ห้องนอน บ้านไม้สำหรับต้อนรับแขก 1-3 ห้องนอน ซึ่งมีทำเลที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ และหลังฟาร์มเฮาส์ยังมีห้องพักสร้างใหม่อีก 4 ประเภท ตอบโจทย์ทุกกลุ่มของแขกผู้เข้าพัก

พร้อมสรรพด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและกิจกรรมมากมาย ขอไล่เรียงเล่าสู่กันฟังทีละจุด เริ่มกันที่ Boathouse สระน้ำอุ่นในร่มและกลางแจ้ง ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ มีเตียงอาบแดดด้วย บริเวณข้างกันมีสนามเทนนิส ยิมและสตูดิโอออกกำลังกาย ลานขี่ม้า (เรียนได้ทั้งแบบส่วนตัวและแบบกลุ่ม), Teeny Barn and Camp สนามเด็กเล่นสำหรับเด็ก ถัดไปเป็นสถานที่ที่สายสุขภาพถูกใจ นั่นคือ Lazy Lake มีห้องบำบัดด้วยความเย็น ห้องอบไอน้ำ ซาวน่า บ่อออนเซ็น มุมนวดกลางแจ้งพร้อมชมวิวธรรมชาติ

ที่เราชอบมาก คือ Cowshed Spa เพียงเปิดประตูเข้าไปก็อบอวลด้วยกลิ่นหอม มีสารพัดบริการให้เลือกทำตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ครบจบในที่เดียว เดินออกไปก็เฉิดฉายได้เลย เพราะมีตั้งแต่ซาลอน ทรีทเมนต์ความงาม บริการทำเล็บ ยันสปาสุดแสนผ่อนคลาย เทอราปิสนวด ๆ จนนอนเคลิ้ม

Soho Farmhouse : เปลี่ยนฟาร์มร้างในชนบทอังกฤษเป็นคลับส่วนตัวของสมาชิก Soho House ทั่วโลก

รถตุ๊กตุ๊กสีเขียวขับพาทัวร์ฟาร์มจนหนำใจ ก็วนรถมาส่งที่ Farm Cottage บ้านคอตเทจสองชั้นก่ออิฐบรรยากาศอังกฤษยุคเก่า มีให้เลือกพักผ่อน 4 ห้องนอน ด้านล่างเป็นห้องนั่งเล่นและห้องครัว บริเวณบ้านมีสนามหญ้าขนาดใหญ่ คอตเทจหลังนี้เหมาะกับการยกแก๊งเพื่อนมาปาร์ตี้ หรือชวนครอบครัวมาหย่อนกายสุดสัปดาห์ เข้าพักได้ 8 คน (ตามคำแนะนำ) ซึ่งอาจรองรับสมาชิกได้มากกว่านั้นนะ เพราะโซฟาด้านล่างก็หนานุ่มนอนสบายดี ฮ่า ๆ แถมมีเตาผิงไฟฟู่ดับเบิ้ลความอบอุ่นจากฮีทเตอร์ด้วย 

Soho Farmhouse : เปลี่ยนฟาร์มร้างในชนบทอังกฤษเป็นคลับส่วนตัวของสมาชิก Soho House ทั่วโลก

เราเดินสำรวจรอบบ้าน ขึ้นลงชั้นหนึ่ง-ชั้นสอง แต่ที่ตกหลุมรัก คือ ห้องน้ำ, เราเลือกห้องนอนด้านบน อยู่ในสุดของบ้าน มีเตียงขนาดเบิ้ม ปลายเตียงเป็นอ่างอาบน้ำ (แน่นอนว่าไม่ได้แช่) มีห้องน้ำขนาดกะทัดรัด เน้นสิ่งใช้สอยจำเป็น แต่ที่ได้ใจยกให้สบู่ แชมพูและสกินแคร์ประทินผิว เราค่อนของชอบที่เขาเอาผลิตภัณฑ์จาก Cowshed Spa มาให้แขกทดลองใช้ ชนิดที่ว่ามีครบทุกกลิ่น ตั้งแต่เจลอาบน้ำ แชมพู ครีมนวด สครับ ยังไม่พอ มีเจลอาบน้ำผสมสครับในตัวด้วยเลย มีความสุขมาก ยืนหมุนตัวในห้องน้ำพร้อมลองทุกกลิ่นที่มี เดินออกมาหน้ากระจกตัวหอมฉุย ก็มีชุดสกินแคร์จาก Soho Skin ให้บำรุงผิวหน้าเช้า-เย็น จนลืมไปเลยว่าพก ๆ ยัด ๆ อะไรใส่กระเป๋ามาจากบางกอกบ้าง ซึ่งเป็นการเพิ่มประสบการณ์ที่ดีต่อผลิตภัณฑ์และแบรนด์ได้อย่างดีเลย ถ้าใช้แล้วติดใจ ก็มีสโตร์สินค้าให้ซื้อกลับบ้านด้วยนะ เอาซี้!

Soho Farmhouse : เปลี่ยนฟาร์มร้างในชนบทอังกฤษเป็นคลับส่วนตัวของสมาชิก Soho House ทั่วโลก
Soho Farmhouse : เปลี่ยนฟาร์มร้างในชนบทอังกฤษเป็นคลับส่วนตัวของสมาชิก Soho House ทั่วโลก

อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจของ Soho Farmhouse คือ อาหาร เมนูอาหารส่วนใหญ่ปรุงจากผลผลิตและวัตถุดิบจากเกษตรกรท้องถิ่น รวมถึงผลผลิตที่ปลูงเองในฟาร์มขนาด 2 ไร่กว่า ๆ รับรองความสดใหม่และปลอดภัย และหากเป็นสายดื่ม ที่นี่ก็มี Mill Room เสิร์ฟสารพัดเครื่องดื่ม เช่น ไซเดอร์ คราฟต์เบียร์ และเบียร์ที่ผลิตจากท้องถิ่น มีกับแกล้มน่าลิ้มลองอีกเพียบ โซนกรึ่ม ๆ นี้เป็น Pet Friendly ด้วย

Soho Farmhouse : เปลี่ยนฟาร์มร้างในชนบทอังกฤษเป็นคลับส่วนตัวของสมาชิก Soho House ทั่วโลก

เมนูที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง ได้แก่ พิซซ่าเตาถ่าน ปรุงและอบกันตรงนั้นในครัวแบบเปิด ที่สำคัญกลิ่นหอมชวนน้ำลายสอ และสตูว์ เนื้ออบ ซี่โครงย่าง จาก The Little Bell ร้านอาหารประเภท Smoke & Grill ที่เป็นร้านโปรดของคนท้องถิ่น ก็ขยายสาขามาไว้ในฟาร์มแห่งนี้เช่นกัน

เช้าวันรุ่งขึ้น เป็นวันฟ้าเปิด เมฆแจ่มใส มีแดดอ่อน ๆ เราเดินจากคอตเทจไปทานอาหารเช้า ระหว่างทางมีแขกปั่นจักรยานกันสนุกสนาน เป็นจักรยานที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ปรับระดับให้เหมาะกับความสูงของแขกแต่ละคนได้ สองข้างทางมีคอกเลี้ยงสัตว์เป็นระยะ เราเจอทั้งแพะขนฟู แม่ไก่ และหมูตัวอ้วนฉุ ไม่ธรรมดาตรงที่น้อง ๆ สัตว์นานาชนิดมีแฟนคลับของตัวเองด้วย น่ารักมาก

สมาชิกที่ใช้บริการฟาร์มเฮาส์แห่งนี้ มีตั้งแต่คนหนุ่ม-สาว ครอบครัวและเด็ก จนถึงผู้สูงอายุบ้างมาพักผ่อนหย่อนใจ บ้างเปลี่ยนพื้นที่ทำงาน บ้างหาแรงบันดาลใจ บ้างมาให้ธรรมชาติบำบัด

อ้อ ที่นี่ค่อนข้างจริงจังเรื่องการการถ่ายภาพในพื้นที่ของฟาร์ม เพราะต้องการให้ความเป็นส่วนตัวกับสมาชิก และอยากให้ผู้คนจดจ่อและเอนจอยโมเมนต์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า ซึ่งกฎนี้ก็ใช้กับทุกสาขาทั่วโลกนะ แต่มีการจัดพื้นที่สำหรับใช้มือถือให้ และในงานอีเวนต์ที่ Soho House จัดก็ถ่ายภาพได้ปกติ

หลังรวบช้อนเป็นอันจบมื้ออาหาร เราเดินชม Soho Farmhouse ต่ออีกหน่อย แวบคุยกับสตาฟหน้าตายิ้มแย้ม ถึงทราบว่าที่นี่มี The Electric Barn โรงภาพยนตร์ขนาด 45 ที่นั่ง และบางครั้งก็มีกิจกรรมเสวนา เวิร์กชอป ปาร์ตี้ และคอนเสิร์ต เกิดขึ้นในฟาร์มขนาด 100 เอเคอร์แห่งนี้ด้วย

ข่าวดี ประเทศไทยกำลังจะมี Soho House Bangkok เกิดขึ้นในปี 2023 ณ ย่านสุขุมวิท เรามีโอกาสนั่งคุยสบาย ๆ กับ Nick Jones ถึงการเกิดขึ้นของ ‘บ้านโซโฮ’ แห่งแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

เราเปิดบทสนทนาด้วยการถามเขาว่า “เหตุใดคุณถึงเลือกกรุงเทพฯ เป็นหมุดหมาย”

“กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่น่ามหัศจรรย์มาก และเป็นที่นิยมมากในกลุ่มสมาชิกของเรา มีกลุ่มคนเจ๋ง ๆ อาศัยอยู่เยอะ บรรยากาศบ้านเมืองและตึกรามบ้านช่องก็ดูดี ถือเป็นเมืองแห่งความหวังที่สร้างมาเพื่อโซโฮ และผมหวังว่า ผมจะกระตุ้นให้คนมากมายแห่แหนมาที่ประเทศไทยได้” นิคเฉลยเหตุผล

บ้านโซโฮ มีทำเลที่ตั้งอยู่ที่ โรงแรมยูจีเนีย (ปัจจุบันปิดถาวร) โดยนิคและทีมงานปรับโฉมพื้นที่ให้อยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Home Away from Home’ ที่คงจิตวิญญาณของ Soho House ไว้ทุกอณู การออกแบบก็ได้แรงบันดาลใจจากงานฝีมือของคนไทย เช่น ผ้าไหม แกะสลักไม้ เครื่องปั้นดินเผา

“ผมไม่ต้องการโลเคชันที่เป็นออฟฟิศเสมอไป ผมเลยชอบตึกตรงนั้นมาก อยู่ตรงหัวมุมแสนน่ารัก มีชุมชน มีโรงเรียน มีคนอาศัยอยู่ตรงนั้นจริง ๆ และเราหวังว่าคนกรุงเทพฯ จะชอบที่นั่นด้วย

“ผมอยากเห็น Soho House Bangkok เป็นคอมมูนิตี้ที่พัฒนาความสามารถทางอาชีพและการเข้าสังคมของผู้คน ตลอด 27 ปีของ Soho House ผมเห็นคนหลากหลายอาชีพนัดพบกัน จัดตั้งธุรกิจกันในบาร์หรือห้องวาดภาพของเรา และสมาชิกบางคนกลายเป็นเพื่อนสนิท เป็นคนรัก แม้แต่แต่งงานสร้างครอบครัวด้วยกันก็มี นั่นคือสิ่งที่ผมหวังและอยากให้มันเกิดขึ้นกับสมาชิกของเราที่นี่ครับ”

นิคบอกเล่าความตั้งใจและสิ่งที่สมาชิกจะได้รับจากคลับเฮาส์ส่วนตัวแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ซึ่งการส่งเสริมและสนับสนุนอาชีพของสมาชิกในคลับก็เป็นจุดเด่นที่เราชอบ เพราะตอนแวบชม Soho House แต่ละสาขาในลอนดอน ก็เจอผู้ประกอบรุ่นใหม่มาเปิด Pop-Up Store กันหลายเจ้า บางเจ้าจัดวางสินค้าในห้องรับแขก บางเจ้าจัดวางอยู่ในคาเฟ่ มีสินค้าหลากหลาย หยิบ จับ ซื้อ และคุยกับเจ้าของกิจการตรงนั้นได้เลย แถมเป็นการช่วยเหลือ อุดหนุน สร้างเครือข่ายซึ่งกันและกันของสมาชิกในคลับด้วย

“การเป็นสมาชิกของคลับ จำเป็นต้องทำงานในแวดวงครีเอทีฟไหม” – คำถามที่เราสงสัย

“ไม่จำเป็นครับ” เขาเน้นเสียง “ตอนผมเริ่มทำที่ประเทศอังกฤษ กลุ่มคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ไม่ได้เป็นกลุ่มใหญ่ ตอนนี้โลกมันครีเอทีฟกว่าตอนทำ Soho House เมื่อ 27 ปีที่แล้วมาก ๆ นั่นหมายความว่า ผมไม่ได้จำกัดคนที่มาเป็นสมาชิกด้วยอาชีพที่ทำ ถ้าคุณทำงานด้านการเงิน ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่สร้างสรรค์ มันอาจหมายความว่าคุณทำงานเพื่อเลี้ยงปากท้อง หรือไม่ก็ชอบทำอาชีพนั้นจริง ๆ แต่คุณอาจมีจิตวิญญาณของความคิดสร้างสรรค์ก็ได้ รักเสียงดนตรี ละครเวที การทำอาหาร หรือศิลปะ

“ดังนั้น Soho House เลยเป็นทางเลือกใหม่ที่ยืดหยุ่นได้และตอบโจทย์คนรักงาน” 

“27 ปีของการทำธุรกิจ Soho House เติบโตขึ้นอย่างไร” – เราชวนนิคทบทวนธุรกิจ

“ผมยังนั่งอยู่ตรงนี้ และประหลาดใจมากว่าทำไมยังเวิร์กอยู่ แล้วคนก็ดูชอบมันด้วย ตอนที่ผมก่อตั้ง Soho House ขึ้นมา ผมคิดว่าผมน่าจะเป็นสมาชิกคนเดียวที่หลงเหลืออยู่

“แต่ ณ วันนี้ ผมได้รับการต้อนรับจากหลายเมืองที่น่าอัศจรรย์ทั่วโลก นั่นทำให้ผมมีความสุขนะ ผมคิดว่า Soho House เปลี่ยนไปตรงที่มีความเป็นสากลมากขึ้น และสมาชิกของเราก็น่าสนใจมากขึ้นด้วย ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี แต่หัวใจหลักก็ยังคงเดิม คือ การส่งเสริมอาชีพและการเข้าสังคม

“เพราะผมชอบการที่ห้องที่เต็มไปด้วยผู้คนที่มาสร้างช่วงเวลาดี ๆ ด้วยกัน หัวเราะกัน ยิงมุกตลกกัน กินอาหารอร่อย ๆ เครื่องดื่มดี ๆ และนั่นก็มักเป็นตอนที่ผมยืนอยู่ในห้อง มองเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ผมรับรู้ตัวเองว่าผมกำลังรู้สึกแบบเดียวกันกับพวกเขา มันคือความสุขและความสนุกอันเปี่ยมล้น”

เรามั่นใจว่า Soho House Bangkok จะไม่เพียงแต่สร้างบรรยากาศอันเป็นมิตรหรือมีดีไซน์เพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่สถานที่แห่งนี้จะเป็นพื้นที่ที่สมาชิกเข้ามาใช้เวลาคุณภาพในคอมมูนิตี้อันแสนอบอุ่นได้บ่อยตามความต้องการ ที่สำคัญ สมาชิกจะได้เจอผู้คนมากหน้าหลายตาที่ไม่เหมือนกับคุณ แต่แน่นอนว่าผู้คนเหล่านั้นเต็มเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณแห่งความคิดสร้างสรรค์อย่างแน่นอน

ติดตามการเกิดขึ้นของ Soho House Bangkok ในปี 2023 เร็ว ๆ นี้

Writer

สุทธิดา อุ่นจิต

สุทธิดา อุ่นจิต

กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ สู่ ลาดพร้าว - สุขุมวิท , พูดภาษาพม่าได้นิดหน่อย เป็นนักสะสมกระเป๋าผ้า ชอบหวานน้อยแต่มักได้หวานมาก

Photographers

Avatar

ปฏิพล รัชตอาภา

ช่างภาพอิสระที่สนใจอาหาร วัฒนธรรมและศิลปะร่วมสมัย มีความฝันว่าอยากทำงานศิลปะเล็กๆ ไปเรื่อยๆ

สุทธิดา อุ่นจิต

สุทธิดา อุ่นจิต

กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ สู่ ลาดพร้าว - สุขุมวิท , พูดภาษาพม่าได้นิดหน่อย เป็นนักสะสมกระเป๋าผ้า ชอบหวานน้อยแต่มักได้หวานมาก