‘มะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่’

คุ้นๆ กันไหมว่าผลไม้ชื่อยาวนี้ปรากฏในวรรณคดีเรื่อง นางสิบสอง เมื่อนางยักษ์แกล้งป่วยหนัก มีเพียงผลไม้วิเศษนี้เท่านั้นที่จะรักษาอาการได้ พระรถเสน พระเอกของเรื่องที่เป็นลูกเลี้ยงจึงออกไปผจญภัยตามหาถึงเมืองของนางเมรี

ถึงนางยักษ์ในนิทานจะป่วยปลอม แต่มะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่ มีอยู่จริง และมีสรรพคุณเป็นยาจริงๆ

สวนมะนาวโห่ลุงศิริ, อัมพวา

ลุงศิริ เจริญช่าง เคยป่วยหนักเป็นโรคถุงลมโป่งพองจากการสูบบุหรี่ต่อเนื่องถึง 40 ปี กลับอาการดีขึ้นอย่างน่าแปลกใจเพราะกินมะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่ ครอบครัวเจริญช่างจึงตัดสินใจนำผลไม้นี้มาปลูกเป็นสวนบนพื้นที่กว่า 40 ไร่ในตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม

การปลูกสมุนไพรรักษาโรคให้พ่อ กลายเป็นธุรกิจครบวงจรของเกษตรกรยุคใหม่ ที่ทั้งปลูก แปรรูปเป็นสินค้าสารพัดกว่า 30 รายการ ไปจนถึงเปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้ คาเฟ่ และแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของอัมพวาได้อย่างไร ทสม์ เจริญช่าง ลูกชายคนเล็กของครอบครัวพาเราเข้าอาณาจักรผลไม้สีแดงชมพูแล้วเล่าเรื่องราวให้ฟัง

ไม่แฟนตาซีเหมือนในนิทาน เส้นทางการค้นพบและสร้างธุรกิจจากมะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่ เป็นโมเดลจริง จับต้องได้ แต่สนุกและสร้างสรรค์ไม่แพ้กัน

เชิญชมการเปลี่ยนสวนแปลกเป็นสวนสนุก ณ บัดนี้

สวนมะนาวโห่ลุงศิริ, อัมพวา

สวนมะนาวโห่ลุงศิริ, อัมพวา

แปลกแต่ดี

15 ปีก่อน เมื่อไปไหว้พระทำบุญ แล้วพระแนะนำว่าผลมะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่ หรือ ‘หนามแดง’ แก้เจ็บคอได้ ลุงศิริทดลองชิมแล้วอาการไอน้อยลง เสมหะลดลง ลุงและ ป้าสมปอง เจริญช่าง ก็หาพันธุ์ผลไม้นี้มาปลูกบนที่ดินที่มีในจังหวัดสมุทรสงคราม เนื่องจากต้นไม้โตช้า จึงต้องปลูกจำนวนเยอะเพื่อผลผลิตต่อเนื่องให้ลุงกินทุกวัน

1 ปีผ่านไป แทนที่จะต้องผ่าตัด อาการของคุณลุงวัย 60 กลับดีขึ้นมากจนหมอแปลกใจ เมื่อแนะนำให้เพื่อนฝูงลองทาน ปรากฏว่าช่วยบรรเทาโรคเบาหวาน โรคความดัน และสารพันโรคของเพื่อนๆ ด้วย ทั้งคู่จึงหันมาทำสวนมะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่ อย่างจริงจังทั้งในสมุทรสงครามและกาญจนบุรี โดยขายผลไม้และแบ่งต้นให้เพาะพันธุ์ด้วย กลุ่มลูกค้าคือผู้ใหญ่ที่ต้องการรักษาสุขภาพ เห็นว่าพืชชนิดนี้เป็นยา

“ตอนนี้งานวิจัยเกี่ยวกับมะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่ มีเยอะมากในเมืองไทย ในต่างประเทศเช่นที่อินเดียมีงานวิจัยนานแล้วว่าเป็นอายุรเวช มันเป็นพืชที่ปรากฏชื่ออยู่ในพุทธประวัติ เป็นเหมือนยาของพระพุทธเจ้า เขาปลูกและกินเป็นผลไม้ดองเกลือ เหมือนที่เรากินผักดองในชีวิตประจำวัน”

ทสม์อธิบายคร่าวๆ ว่า ทุกส่วนประกอบของมะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่ ตั้งแต่รากจรดใบมีสรรพคุณบำรุงร่างกาย คนไทยมองว่าเป็นสมุนไพรมีประโยชน์ แต่รสชาติเปรี้ยวฝาดแบบนี้ไม่ใช่ของอร่อย ไม่จำเป็นก็ไม่อยากกิน ตอนแรกสวนมะนาวโห่ลุงศิริจึงมีคนมาเยี่ยมไม่มาก มาซื้อผล ซื้อน้ำ หรือซื้อต้นไม้ไปปลูกครั้งเดียวแล้วไม่กลับมาอีก

จะทำยังไงให้ผลไม้ในวรรณคดีนี้น่าสนใจขึ้น และทำให้คนอยากกลับมาที่สวนบ่อยๆ

สวนมะนาวโห่ลุงศิริ, อัมพวา

สวนมะนาวโห่ลุงศิริ, อัมพวา

หัวการค้า

เคล็ดลับแปลงโฉมสวนมะนาวโห่ลุงศิริแตกต่างจากสวนอื่นๆ คือการคิดแบบพ่อค้า

แต่เดิมครอบครัวของทสม์ไม่ได้อยู่ในวงการเกษตรกรรม พ่อแม่และพี่น้อง 7 คนล้วนทำธุรกิจ เขาซึมซับการทำธุรกิจตั้งแต่เด็กๆ และเรียนปริญญาโทด้านการบริหาร จึงมองเห็นมูลค่าว่าสวนนี้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนได้

“แต่ก่อนเวลาคนนึกถึงสมุทรสงคราม ต้องคิดถึงมะพร้าวอ่อน ลิ้นจี่ ส้มโอขาวใหญ่ ทุกวันนี้ก็เริ่มคิดถึงมะนาวโห่กันบ้างแล้ว” เจ้าของสวนเอ่ยอย่างภูมิใจ

“อาจารย์ที่ปรึกษา ป.โท เราชอบเรื่องท่องเที่ยวชุมชน เราเลยเล่าเรื่องสวนมะนาวโห่ให้ฟังว่ามันพัฒนาเป็นที่เที่ยวได้มั้ย อาจารย์ก็ช่วยแนะนำ ให้เราวางแผนการสร้างที่เที่ยวว่าต้องมีอะไรบ้าง พอไปนำเสนอ เป็นจังหวะที่ยุคทีวีเริ่มเปลี่ยนเป็นดิจิทัล สื่อเพิ่มมากขึ้นทุกช่องทาง และกระแสรักสุขภาพก็มาพอดี เราเลยต่อยอดทำจริงในขณะที่สถานที่พร้อมแล้ว”

ทสม์เท้าความถึงจุดเริ่มต้นการทำแบรนดิ้งเมื่อราว 7 ปีที่แล้ว เขาค่อยๆ สร้างร้านศิริสมปอง ร้านสินค้าหน้าสวนที่ดึงดูดลูกค้าให้ชิมผลิตภัณฑ์แปรรูปต่างๆ แล้วซื้อของฝากหรือของขวัญกลับบ้าน

สวนมะนาวโห่ลุงศิริ, อัมพวา

สวนมะนาวโห่ลุงศิริ, อัมพวา

สวนมะนาวโห่ลุงศิริ, อัมพวา

“ถ้าเป็นที่เที่ยวอย่างเดียว เราไม่ได้เก็บค่าเข้าชม ก็ไม่ได้อะไรจากตรงนั้นเลย ดังนั้น จากที่ขายน้ำคั้นกันบ้านๆ ต้องสร้างผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวจริงจังให้เกิดรายได้ เลยพยายามใส่ลูกเล่นอะไรหลายๆ อย่าง วันนั้นที่พ่อแม่ทำ เขาตีโจทย์ว่ามะนาวโห่คือยา เพราะฉะนั้น ตำแหน่งการตลาดคือผู้ใหญ่วัย 60 – 70 ขึ้นไป แล้วครอบครัวที่มากับเขา รุ่นลูกรุ่นหลานล่ะ

“วัยสัก 30 เป็นวัยที่ชอบช้อปปิ้ง เราก็เลยใส่ไอเดียว่าทำสินค้าคู่ครัวสิ ไปเดินตามท้องตลาด ซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ เห็นทุกชั้นมีน้ำพริก มีแยม เลยทำน้ำพริก ทำแยมออกมา เพราะคิดว่าคนที่ชอบซื้อของก็จะซื้อฝากเพื่อน ฝากพนักงานที่ออฟฟิศ ตอบโจทย์กลุ่มวัยทำงานถึงวัยกลางคน ส่วนวัยรุ่นไม่อินสินค้าแปรรูป ชอบนั่งร้านกาแฟตอนกลางวันรอไปอัมพวาตอนเย็นๆ ก็มีคาเฟ่ให้นั่งถ่ายรูป

สวนมะนาวโห่ลุงศิริ, อัมพวา

สวนมะนาวโห่ลุงศิริ, อัมพวา

สวนมะนาวโห่ลุงศิริ, อัมพวา

สวนมะนาวโห่ลุงศิริ, อัมพวา

“พ่อ แม่ พี่ น้อง ขายได้หมดแล้ว แล้ววัยเด็กล่ะขายอะไร ก็แปรรูปเป็นเยลลี่ เป็นไอศครีม ก็ขายได้ เราเรียนรู้จากปัญหา ถ้ามันกินยาก มันไม่อร่อย ทำให้มันอร่อยสิ ให้เขาอยากกิน ใส่ให้ครบ เติมจุดที่บกพร่อง พูดง่ายๆ ภาษาชาวบ้านคือได้ตังค์จากเขาทุกคน มันไม่ง่ายเลยที่จะทำให้คนเข้ามาและซื้อของเรา ในเมื่อลูกค้ามาหน้าบ้านแล้ว เราต้องตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย”

ทสม์เปลี่ยนภาพลักษณ์สมุนไพรโบราณเป็นเบอร์รี่ชนิดหนึ่งที่พลิกแพลงทำอาหารได้สารพัด จากน้ำผลไม้หรือผลไม้แช่อิ่มง่ายๆ ทุกวันนี้เขามีนักวิทยาศาสตร์อาหารมาช่วยออกแบบของอร่อยซับซ้อน ทั้งแยม น้ำพริก น้ำไซเดอร์ ชา ผลไม้กวน ผลไม้ลอยแก้ว ผลไม้สามรส เยลลี่ และไอศครีมเชอร์เบต ผลไม้ในนิทานจึงดึงดูดผู้คนหลากหลายขึ้นทุกที ตั้งแต่ผู้ใหญ่ที่เข้ามาซื้อสุขภาพ จนถึงลูกค้าตัวน้อยจากชลบุรีที่ให้คุณตาพามาซื้อเยลลี่สีแดง 20 กว่าถ้วยทุกเดือน

สร้างสวนสนุก

เป้าหมายของสวนมะนาวโห่ลุงศิริคือการทำให้ลูกค้ากลับมาเยี่ยมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดังนั้น ที่นี่จึงต้องเปลี่ยนแปลงขยับขยายตลอด ทุก 2 – 3 เดือนจะมีสินค้ามะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่ ใหม่ๆ มาวางขายเสมอ ทั้งในร้านศิริสมปองและคาเฟ่ริมน้ำแม่กลองที่หมุนเวียนเมนูตามฤดูกาล เช่น เอาผลสุกไปปั่นเป็นซอสผัดเปรี้ยวหวาน เอาผลดิบต้มกับปลาทูเป็นปลาทูต้มมะนาวโห่ ขายความเป็นสมุทรสงคราม

ทสม์ใส่ใจตกแต่งสวนและจัดมุมถ่ายรูปใหม่ตลอด จะเข้ามาช่วงต้นปีเพื่อชมสวนดอกไม้สีขาว หรือชมผลเล็กๆ ที่ดกเต็มต้นตลอดกลางปีถึงปลายปี ก็มีกิจกรรมให้ทำเสมอ ตั้งแต่เรียนรู้การเกษตร ย้อมผ้ามัดย้อมสีชมพูด้วยน้ำมะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่ แถมทุกวันอาทิตย์ก็จัดเรือนำเที่ยวฟรีเพื่อพานักท่องเที่ยวไปกินอาหารหรือช้อปปิ้งที่ตลาดบางนกแขวก ตลาดเก่าอายุกว่า 100 ปีที่อยู่ใกล้ๆ

สวนมะนาวโห่ลุงศิริ, อัมพวา

สวนมะนาวโห่ลุงศิริ, อัมพวา สวนมะนาวโห่ลุงศิริ, อัมพวา

นอกจากผู้เยี่ยมชมขาจร กลุ่มเป้าหมายในวันธรรมดาของสวนนี้คือเด็กนักเรียนนักศึกษา ตลอดจนกลุ่มผู้สนใจธุรกิจและแนวคิดการทำเกษตรที่ต้องการเวิร์กช็อป หรือพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้

“มะนาวโห่เป็นพืชที่ปลูกง่ายแต่อยู่กับมันยาก ถ้าคิดจะปลูกเพื่อขายผลผลิตมันขายไม่ได้ ตามบ้านเขาก็ปลูกกัน แต่กินสดๆ ไป 5 เม็ดก็ไม่เอาแล้วเพราะไม่อร่อย ถูกต้องมั้ย คุณต้องสร้างเรื่องราวให้มัน การปลูกเป็นต้นน้ำ กลางน้ำ เราก็แปรรูปให้กินง่าย แต่กลืนแล้วเป็นยา ปลายน้ำเราก็จัดจำหน่าย ทั้งทำสถานที่ท่องเที่ยว และทำช่องทางอินเทอร์เน็ตให้พร้อม คนที่อยู่ไกลๆ เคยกินอร่อยก็สั่งซื้อได้ตลอด ช่วงวันศุกร์เราเตรียมโฆษณาบนเฟซบุ๊ก วันเสาร์เราก็โปรโมตเจาะสมุทรสงคราม ให้คนที่มาเที่ยวตลาดน้ำอัมพวาแวะมา”

ผู้ประกอบการรุ่นใหม่แย้มโครงการในอนาคตว่าอยากร่วมมือกับพี่สาว ต่อยอดผลไม้นี้เป็นไวน์เพื่อสุขภาพ เครื่องสำอาง ไปจนถึงสปามาส์กหน้า ทำให้ทุกองค์ประกอบของต้นมะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่ ได้นำมาใช้อย่างคุ้มค่าและไม่มีส่วนไหนต้องทิ้งเลย

ธุรกิจครอบครัว

กว่าจะสร้างธุรกิจสำหรับคนมากมาย ด่านแรกที่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ต้องเจอคือพ่อแม่ตัวเอง

ก่อนจะจูงใจคนนอก ลูกชายคนเล็กใช้เวลานานในการเกลี้ยกล่อมคนในบ้าน

“ตอนแรกพ่อแม่ไม่สนใจเรื่องการท่องเที่ยว เพราะทุกอย่างต้องลงทุน ต้องปรับเปลี่ยน เราพยายามปรับแต่งสวนใหม่ให้คนมาเห็น เขาก็ไม่ยอมรับ ไม่เข้าใจว่าทำทำไม ไม่ได้ประโยชน์ แค่มาดูก็จบ ไม่เห็นต้องมาแต่งมุมต้นไม้ใบไม้ ไม่เห็นต้องถ่ายรูป พ่อแม่เคยขายแบบนี้ ทำแบบนี้ก็ได้ตังค์อยู่แล้ว จะเปลี่ยนทำไม

“เหมือนทุกๆ บ้านแหละ ช่วงรอยต่อมีความขัดแย้ง ถ้าเราแข็งในวันที่เขาขวางก็จะทำไม่ได้ บางอย่างถ้าเขาเบรก ปากเราอาจจะบอกว่าเบรก แล้วเราแอบทำทีหลังได้ ถูกมั้ย” ทสม์กล่าวพร้อมรอยยิ้มมุมปาก

“ต้องค่อยๆ กลืน ให้เขายอมรับไปเรื่อยๆ พิสูจน์ให้เขาเห็นว่าแนวคิดเด็กวัยรุ่นมันเป็นไปได้ ช่วงเวลาเปลี่ยนนั่นแหละที่ต้องอดทน ไม่ยอมทิ้ง เพราะไม่ใช่ว่ามันราบรื่นไปหมด เราไม่ต้องร้องไห้นะ มันก็มีบ้าง แต่พอธุรกิจค่อยๆ โตขึ้น เขาก็เริ่มเห็นการตอบรับและถอยให้เรา จนตอนนี้อยากทำอะไรก็ให้ทำ โชคดีที่เรามีพี่สาวเป็นโค้ชด้วย อะไรที่ไม่ดี เดินผิด เราก็ตัดทิ้งไปเลย”

สวนมะนาวโห่ลุงศิริ, อัมพวา

สวนมะนาวโห่ลุงศิริ, อัมพวา

“เราเป็นลูกคนเล็ก กว่าเราจะกลับมาอยู่บ้านพ่อแม่ก็จะ 70 แล้ว เรามีเวลาอยู่กับเขาน้อยกว่าทุกคน ก็เลยเอาเวลาที่น้อยนี้มาทำให้เขาสบายใจ เขาเห็นว่าเราทำได้แล้วก็หมดห่วง ยิ่งเป็นธุรกิจที่อยู่หน้าบ้าน เขาลงมาได้คุยกับลูกค้าก็มีความสุข เพราะผู้ใหญ่ส่วนใหญ่อยู่บ้านแล้วเขาเหงา”

ข้อดีอีกอย่างของการสร้างธุรกิจจากสวนสมุนไพรของพ่อแม่ คือมีกลุ่มผู้ใหญ่ที่รักอาหารสุขภาพสนับสนุนเต็มที่ แม้ราคาสินค้าบางอย่างสูงกว่าของเมืองนอก แต่ผู้ใหญ่หลายคนก็อยากสนับสนุนสินค้าคนไทยรุ่นใหม่ แถมบางคนยังพาลูกหลานมาพูดคุย ให้ทสม์ช่วยสอนเรื่องงานให้ ดูแลกันหลายรูปแบบเหมือนครอบครัว อาณาจักรหนามแดงนี้จึงขยายตัวอย่างอบอุ่นและเต็มไปด้วยกำลังใจ

ใส่ใจ จึงเติบโต

แม้จะมีสวนหลายสวนที่ปลูกผลไม้ชนิดเดียวกัน แต่สวนมะนาวโห่ลุงศิริโดดเด่นด้วยโมเดลที่ไม่เหมือนใคร เพราะเจ้าของไม่ยอมหยุดนิ่งอยู่กับที่

“พี่ที่รู้จักคนหนึ่งเคยบอกเราว่าอยู่ที่นี่เราเป็นเจ้าของ แต่อยากให้คิดว่าเราเป็นลูกค้า แล้วเราจะมองในจุดที่เจ้าของมองไม่เห็น ต้องตรวจสอบผลตอบรับและหาทางแก้โจทย์ด้วยประสบการณ์ทุกวัน ตั้งแต่กระจกมีคราบฝุ่นไหม ตู้เย็นมีคราบดำมั้ย หรือรีวิวในอินเทอร์เน็ตบอกว่าริมน้ำสวยนะคะ แต่ขอเพิ่มห่วงยางหน่อยได้มั้ย เผื่อเด็กตกน้ำ เราก็เพิ่มเข้ามา ลูกค้าอยากได้ทางลาดและห้องน้ำผู้สูงอายุ เราก็เพิ่มเข้ามา พอคนกลุ่มนี้รู้ว่าเรารองรับเขา เขาก็มีความสุขและอยากมาอีก”

สวนมะนาวโห่ลุงศิริ, อัมพวา

สวนมะนาวโห่ลุงศิริ, อัมพวา

ทสม์ตบท้ายพร้อมนำเยลลี่ผลไม้ที่ตกแต่งอย่างสวยเก๋มาให้ชิม รสชาติเปรี้ยวฝาดของผลสดกลายเป็นอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ

ไม่ใช่แค่น้ำตาลหรอกที่ทำให้มะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่ กลมกล่อม วัตถุดิบที่ปรุงแต่งสวนผลไม้รักษาอาการป่วยของลุงศิริคนเดียว กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวของผู้คนมากมาย คือความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง ไฟสร้างสรรค์ที่ลุกโชน และความประณีตใส่ใจของคนลงมือ

สวนมะนาวโห่ลุงศิริ, อัมพวา

The Rules

  • การเก็บสถิติช่วยในการผลิตสินค้า ต้องรู้ว่าเราต้องการของเท่าไหร่ และสังเกตธรรมชาติ เช่น ปีนี้ผลออกน้อย เมื่อรู้ว่าต้นไม้ไม่ชอบอากาศเย็นและหยุดออกลูกช่วงปลายปี ก็ตัดแต่งต้นตอนปลายปี ให้ออกดอกเยอะขึ้น ผลผลิตจะได้เยอะขึ้น
  • วางแผน Things to do ว่าต้องทำอะไร พอทำไปแล้วได้มานั่งฆ่าทิ้งจะรู้สึกมีกำลังใจว่างานสำเร็จ
  • หมั่นหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ด้วยการสังเกตสินค้าในตลาด และเรียนรู้การใช้เครื่องจักรการเกษตรเพื่ออำนวยความสะดวก

 

สวนมะนาวโห่ลุงศิริ

ที่ตั้ง : 29/8 ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม
เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 08.30 – 17.30 น. (คาเฟ่เปิดเฉพาะวันศุกร์-อาทิตย์)
โทร : 080-566-5124
www.สวนมะนาวโห่ลุงศิริ.com
Facebook: มะม่วงหาวมะนาวโห่ สวนมะนาวโห่ลุงศิริ 

Writer

ภัทรียา พัวพงศกร

ภัทรียา พัวพงศกร

บรรณาธิการ นักเขียน ที่สนใจตึกเก่า เสื้อผ้า งานคราฟต์ กลิ่น และละครเวที พอๆ กับการเดินทาง

Photographer

Avatar

ธีรพันธ์ ลีลาวรรณสุข

ช่างภาพ นักออกแบบกราฟิก นัก(หัด)เขียน โปรดิวเซอร์และผู้ดำเนินรายการพอดแคสต์ และอื่นๆอีกมากมายแล้วแต่ว่าไปเจออะไรน่าทำ IG : cteerapan