11 พฤศจิกายน 2017
2 K

ตุ๊บๆๆๆ หัวใจฉันแทบจะหลุดออกมาด้วยความเหนื่อยหอบ

ฉันวิ่งทั้งชุดราตรีรองเท้าส้นสูง ฝ่าฝูงพนักงานที่ดูเหมือนรังมด ณ ชั้นพนักงานด้านล่างโรงแรม เพื่อไปให้ร้องเพลงเซ็ตสุดท้ายกับริค เขากำลังแสดงอยู่ที่บาร์วิสกี้สุดหรูในโรงแรมข้างๆ

หลังจากสรุปข้อตกลงกับทาง Management ว่าเราแสดงแยกกัน เขาให้ฉันร้องเพลง 3 เซ็ตกับมือเปียโนชาวฟิลิปปินส์ที่ห้องอาหาร fine dining ชื่อ ‘บิลอน’ ของโรงแรมหนึ่ง ส่วนริคเป็น Solo Act คือเล่นและร้องคนเดียวที่บาร์วิสกี้โรงแรมติดกัน แต่เซ็ตสุดท้ายของเรา เราขอมาเล่นด้วยกันที่บาร์วิสกี้ เพราะจริงๆ เราคือวงดูโอ้ก็ควรจะได้เล่นด้วยกัน ทางหัวหน้าก็อะลุ่มอล่วยให้เราลองทำดู นี่ผ่านมา 1 อาทิตย์แล้วที่ฉันต้องวิ่งร่าเป็นอีเพิ้ง แต่ก็มาทันเวลาทุกครั้ง

จริงๆ แล้วงานนี้ก็สนุกดีไม่น้อย ทุกค่ำคืนฉันร้องเพลงตรงทางเข้าร้านอาหาร ตรงส่วน Oyster Bar ที่อยู่ติดกับบาร์เครื่องดื่ม เป็นพื้นที่ pre-dinner ของลูกค้าที่มาทานที่นี่ ร้านอาหารแห่งนี้สวยหรูมาก เป็น fine dining อันดับต้นของเอเชีย ทุกอย่างประดับประดาตกแต่งด้วยคริสตัล หรูหราไปหมดตั้งแต่โซฟายันช้อนส้อมวาววับที่วางเป็นระเบียบบนโต๊ะอาหาร

ซอ the sis

แกรนด์เปียโนหลังสีฟ้าสดใสที่ที่ฉันร้องประจำถือว่าจุดเด่นของทางร้านเลยก็ว่าได้ Ron (รอน) มือเปียโนชาวฟิลิปปินส์ที่ฉันร้องด้วยใจดีมาก และค่อนข้างเจนจัด สามารถเล่นได้หลายแนว ถึงแม้ฉันได้รับมอบหมายให้ร้องแจ๊สแต่ฉันก็ร้องเพลงฝรั่งเก่าๆ เพราะๆ ได้เยอะ รอนก็เล่นได้แทบทุกเพลง ด้านการทำงานส่วนใหญ่แล้วเราสองคนไม่ค่อยมีคนดู เพราะเมื่อลูกค้าดื่มเสร็จแก้วนึงที่บาร์ โฮสต์จะพาลูกค้าไปนั่งโต๊ะซึ่งอยู่ลึกด้านใน แต่ลูกค้าสามารถฟังเราจากลำโพงที่มีอยู่ทุกมุมในห้องอาหารได้ พอลูกค้าไปนั่งโต๊ะ ฉันและรอนก็เหมือนเล่นให้หอยนางรมฟังทุกวัน เพราะเจ้าเคาน์เตอร์หอยนางรมดันอยู่ตรงหน้าเราพอดี!

คราวนี้ฉันโชคดีอีกแล้ว ทั้ง GM (General Manager) ของโรงแรม ทั้งผู้จัดการร้านอาหารบิลอนต่างใจดีและชื่นชมฉันกันมาก ถึงแม้สองสามวันแรกเขาจะให้ฉันเข้าไปนั่งในครัวช่วงพักระหว่างเซ็ต 15 นาที (เพราะรอนไม่เคยบ่น) แต่ฉันว่ามันตลกเกินไปฉันเลยขอผู้จัดการมานั่งตรงโซฟา ตัวที่หลบมุมไม่มีใครเห็นด้านนอก ผู้จัดการก็อนุญาต

มาเก๊า คาสิโน

ฉันและริคปรับตัวกับ 1 เดือนของการทำงานที่นี่มาได้อย่างทุลักทุเล เพราะคอนแทร็กต์นี้ไม่สบายอย่างที่คิดไว้ นอกจากไม่ได้ใช้ชีวิตในคาสิโน เราต้องแยกกันทำงาน ส่วนฉันต้องวิ่งหัวซุกหัวซุนให้ทันเวลาทุกคืน ไหนจะต้องกินอาหารจีนในโรงอาหารพนักงานที่รสชาติไม่ถูกปาก แค่นั้นยังไม่พอ ยังมีเรื่องการเดินทางที่เราต้องขึ้นรถบัสรับส่งของพนักงาน ที่มีจุดจอดรับส่งไม่ไกลจากที่พัก และถ้าพลาดรถเวลานั้น ก็ต้องเดินหรือเรียกแท็กซี่ไปโรงแรมเอง

หลังจากที่มาอยู่ที่นี่ได้อาทิตย์หนึ่งฉันก็คุ้นเคยกับถนนและเส้นทาง สภาพแวดล้อมที่มาเก๊านี้ถือว่าปลอดภัยมาก มีตำรวจแทบทุกจุด คนที่นี่ก็ไม่มีใครไม่สนใจกัน ฉันไม่เคยเห็นหนุ่มสาวแซวกันตามถนนเหมือนเมืองไทยสักที…

มาเก๊า

ฉันชอบเดินจนได้ค้นพบถนนสายที่เดินลัดไปโรงแรมได้ ซึ่งต้องเดินผ่านเมืองเก่า เป็นถนนน่ารักมากๆ อารยธรรมโปรตุเกสมีให้เห็นอยู่ทุกตึกรามบ้านช่อง มีร้านอาหารเรียงรายมากมาย ตั้งแต่ค้นพบทางลัดนี้ ฉันเดินไปทำงานแทบทุกวัน ส่วนริคเดินไม่ไหวเพราะเขามีทั้งกีตาร์และคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อื่นๆ มากมายแบกอยู่บนหลัง แต่ขากลับเราก็นั่งรถบัสรับส่งกลับบ้านด้วยกันทุกคืน เราสองคนแวะดื่มตามบาร์เหล้าแถวบ้านกันบ่อยครั้ง หาเวลาพักผ่อนจากงานและคาสิโนอันวุ่นวาย

ช่วงนี้ร้านรวงบนถนนทุกสายดูคึกคักเป็นพิเศษ มีการประดับประดาตกแต่งด้วยสีแดงเต็มไปหมด แล้วฉันก็ถึงบางอ้อ…ใกล้ตรุษจีนแล้วนี่! โชคดีจังที่ได้สัมผัสเทศกาลตุรษจีนที่นี่ เพราะเรามาอยู่ถิ่นคนจีนแท้ ๆ คงได้เห็นสิ่งที่ไม่ได้เห็นที่เมืองไทย ฉันเดินทอดน่องชมร้านรวงเพลิน จนเกือบไปทำงานไม่ทัน

มาเก๊า

มาเก๊า

วันนี้ฉันมาทำงานสายไป 1 นาที รู้สึกผิดมากเมื่อผู้จัดการร้านอาหารเรียกไปพบ แหม อะไรมันจะเคร่งครัดขนาดนี้หนอ ฉันคิดในใจ

ปรากฏไม่ใช่เรื่องที่ฉันมาสาย แต่ผู้จัดการแจ้งฉันว่าเจ้าของโรงแรมทั้งสามแห่งนี้อยากให้ฉันไปร้องเพลงจีนในห้องกินข้าวของครอบครัวที่จะมาทานมื้อเย็นกันที่ห้องสวีตของเจ้าของในวันตรุษจีน ฉันงงงันสุดๆ ทำไมต้องเป็นฉันล่ะ คาสิโนนี้มีนักร้องชาวจีนอยู่หลายสิบคน ก็ให้คนอื่นร้องสิ ฉันไม่เคยร้องเพลงจีน ร้องไม่เป็นด้วย แค่จะสั่งข้าวยังออกเสียงผิดๆ ถูกๆ จะให้ร้องเพลงจีนต่อหน้าคนจีน ต่อหน้าเจ้าของโรงแรมกับครอบครัวเขาเนี่ยนะ คุณบ้าไปแล้ว! ฉันบอกผู้จัดการ

เขาได้แต่ผงกหน้า แล้วบอกฉันว่า “ฉันรู้แต่มันคือคำสั่งจากเบื้องบน เจ้าของบอกว่าต้องเป็นเธอเท่านั้น ไม่ต้องห่วง ฉันจะสอนเธอออกเสียงภาษาจีนเอง เธอจะต้องร้องเพลงของเติ้งลี่จวิน นักร้องที่ดังมากของชาวจีน 2 เพลงนะ เริ่มซ้อมกันพรุ่งนี้ เรามีเวลา 5 วันที่จะฝึก แล้วก็…เกือบลืม เธอต้องไปวัดตัวที่ห้องตัดเย็บวันมะรืน เพราะเธอต้องใส่กี่เพ้า ชุดประจำชาติในวันที่ร้องด้วย”

ฉันแทบจะเป็นลม…

ไม่นานวันนั้นก็มาถึง ฉันนั่งสั่นหงึกๆ มือเย็นเฉียบในชุดกี่เพ้า หน้าผมพร้อมอยู่ตรงห้องรับรองแขกในห้องสวีตของเจ้าของโรงแรม ทางขึ้นมาบนห้องนี้ลึกลับอย่างกับห้องศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ในเรื่อง Harry Potter ก็ไม่ปาน ฉันมองความสวยงามพิถีพิถันในห้องสวีตแห่งนี้แล้วอดกังวลไม่ได้ว่ากำลังจะร้องเพลงให้กับหนึ่งในบุคคลที่รวยที่สุดในโลกฟังในห้องส่วนตัว ถ้าฉันร้องเพลงจีนแล้วออกเสียงผิดเขาจะตัดนิ้วฉันมั้ย? ฉันคิดไปไกลเพราะคงดูหนังแนวมาเฟียคาสิโนเยอะเกินไป

ว่าแล้วผู้ชายใส่สูทดำดูเหมือนเป็นบอดี้การ์ดก็ออกมาเรียกฉันเข้าไปในห้อง ฉันพนมมือไหว้พระเพื่อขอกำลังใจและให้ฉันจำเนื้อเพลงทั้งหมดที่ซ้อมมาได้

ในห้องกินข้าวซึ่งดูเหมือนเป็นห้องนั่งเล่นเสียมากกว่า มีโต๊ะกินข้าวโต๊ะกลมสวยหรูตั้งตระหง่านอยู่กลางห้อง คุณเจ้าของโรงแรมและครอบครัวทั้งเด็กผู้ใหญ่ นั่งล้อมวงกันประมาณ 8 คนเห็นจะได้ เจ้าของโรงแรมและภรรยาโบกมือทักทายฉันจากโต๊ะกินข้าว พูดภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกันบอกให้ฉันทำตัวตามสบาย และส่งเสียงเชียร์ให้ทุกคนในครอบครัวปรบมือให้กับเอนเตอร์เทนเนอร์กันหน่อย เด็กๆ ส่งเสียงเชียร์ฉัน บรรยากาศเริ่มเป็นกันเองขึ้น คลายความตื่นเต้นไปได้บ้าง

ฉันแนะนำตัว และเริ่มร้องเพลงแรก บรรยากาศในห้องเงียบกริบ มีแค่เสียงร้องของฉันที่ขับกล่อมผู้ฟังตรงหน้า เมื่อเพลงจบ เจ้าของโรงแรมยืนขึ้นปรบมือให้ บางคนเป่าปาก ชื่นชมว่าฉันร้องเพลงจีนได้ดีมาก! (ฉันได้แต่ยิ้มสู้กลอกตาไปมา เพราะ 5 วันที่ผ่านมาฉันไม่เป็นอันทำอะไรเลย ฝึกออกเสียงไม่พอ ยังต้องจำเนื้อเพลงทั้งหมดอีก!)

ฉับตบท้ายด้วยเพลงฝรั่งของสตีวี่ วันเดอร์ I just called to say I love you เพราะมีสายสืบบอกมาว่าเป็นเพลงโปรดของภรรยาเจ้าของโรงแรม และเป็นเพลงใช้เต้นรำวันแต่งงานของทั้งสองคน เขาทั้งคู่เซอร์ไพรส์มาก พลันลุกมาเต้นรำต่อหน้าลูกๆ เด็กๆ เขินอายกันใหญ่ ฉันขับร้องเพลงด้วยความสุขที่เห็นคนฟังมีความสุข

สิ่งที่ได้รับจากการเป็นนักร้องไม่ใช่แค่เงินค่าตอบแทน แต่มันได้รอยยิ้ม ได้เสียงหัวเราะ ได้สร้างความทรงจำดีๆ ให้คนฟัง ไม่ว่าคนฟังนั้นจะเป็นใคร จะมีอำนาจ มีเงินล้นฟ้า หรือเป็นแค่ปุถุชนธรรมดาไม่มีเงินทองมาก ดนตรีเป็นสิ่งเดียวที่ไม่มีชนชั้นขวางกั้น ทุกคนมีความสุขได้ด้วยเสียงเพลง

เจ้าของโรงแรมยิ้มแก้มปริ เขาขอบคุณฉันและเรียกฉันเข้าไปใกล้ เขายื่นรางวัลให้ ฉันยกมือไหว้ตามประเพณีไทย ขอบคุณทุกคนในห้อง ก่อนเดินออกมาจากห้องสวีตเหมือนยกภูเขาออกจากอก แง้มดูจำนวนเงินในซองแดง 4 ซองที่ฉันได้รับ ซองละ 1,000 MOP (= 4,000 บาทไทย × 4) ตาฉันเบิกกว้าง!

ซอ the sis

ใจอยากรีบวิ่งกลับบ้านไปหาริคให้เร็วที่สุด ช่างเป็นประสบการณ์ตรุษจีนที่ดีเสียจริง

หยำปุย! Cheers! ชนแก้ว! ฉันและริคฉลองจบสัญญาปิดงาน 3 เดือนกันที่ห้องอาหารบิลอนที่ฉันร้องเพลง จากคำเชิญของผู้จัดการร้านที่ให้มาทานอาหารที่นี่ฟรี แถมเขายังใจดีให้ฉันพาริคมาด้วย เพื่อเป็นการขอบคุณฉันทำงานได้ดีใน 3 เดือนที่ผ่านมา

นอกจากฉลองการสิ้นสุดสัญญาในมาเก๊าแล้ว เรายังฉลองสัญญาใหม่กันด้วย! 3 เดือนที่ผ่านมานี้ลิสต์เพลงของเราสองคนลงตัวขึ้นมาก ถึงแม้จะได้เล่นด้วยกันแค่เซ็ตเดียว แต่มันก็ทำให้เราเก็บเพลงใหม่ๆ เพิ่มมาได้อีกเยอะทีเดียว ตอนนี้เราพร้อมแล้ว ที่จะร้องด้วยกันแบบเต็มๆ โชว์

ฉันและริคยิ้มและหัวเราะให้กับสัญญาแรกของเราในฐานะ Rick & Zoe Duo วันแรกที่มาถึงมาเก๊า ที่ฉันร้องไห้ไม่ยอมลงจากรถเมื่อถึงบ้านใหม่ เราหัวเราะให้กับอุปสรรคที่เราเจอในช่วงเวลาที่ผ่านมา ตอนนั้นมันดูเหมือนยาก แต่เราก็ผ่านมาได้จริงๆ ด้วย

คาสิโน

ส่วนที่เหลือถือว่าสนุกไม่น้อย มาเก๊าเป็นเมืองที่น่าอยู่ อาหารอร่อย ฉันกินทาร์ตไข่โปรตุเกสแทบทุกวัน เราได้เพื่อนใหม่มากมายทั้งพนักงานที่โรงแรม และลูกค้าที่มาฟังทั้งจากฝั่งริคและฉัน ฉันได้เจอคนไทยไม่กี่คน มีน้องผู้หญิงเล่นขิมที่ร้านอาหารไทยในคาสิโน น้องเขาจำฉันได้ว่าฉันเคยออกเทปวงเดอะซิส เขามีซีดีฉันทุกชุด ฉันปลื้มปริ่มมาก อีกคนคือพี่ผู้หญิงวัยกลางคนที่มาตั้งรกรากอยู่มาเก๊ากับสามีชาวอังกฤษชื่อพี่เจอร์รี่ เราเจอกันคืนวันหนึ่งที่พี่เขามาทานอาหารที่ร้านที่ฉันร้อง พี่เจอร์รี่ตกใจเมื่อรู้ว่านักร้องเป็นคนไทย เราคุยกันถูกคอ นับแต่นั้นมาแกเลยเป็นลูกค้าประจำของฉัน

ทุกประสบการณ์ในมาเก๊ามีคุณค่ากับฉันมากๆ ประสบการณ์ไม่คาดคิดจากคราวนี้ กลายมาเป็นภูมิคุ้มกันในการทำงานต่อไปในอนาคตข้างหน้า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราต้องอดทนและเข้มแข็ง ฉันหวังว่าสัญญาที่สองที่กำลังจะเกิดขึ้นเดือนหน้าจะเป็นสัญญาที่ปลอดอุปสรรค! ฉันนั่งมองวิวนอกหน้าต่างร้านอาหาร อดคิดไม่ได้ว่าชีวิตในทะเลทรายจะเป็นอย่างไร การผจญภัยจะเริ่มขึ้นอีกแล้วที่ประเทศบาห์เรน…Bahrain Here I Come!

Writer & Photographer

Avatar

รสริน พลับทอง สติกนีย์

ร้องเพลงเป็นอาชีพตั้งแต่อายุ 5 ขวบ จนได้ออกอัลบั้มพร้อมพี่สาวอีก 2 คนชื่อวง The Sis ปัจจุบันร้องเพลงกับสามีชาวอเมริกัน ในชื่อ 'Rick & Zoe' Duo ทั้งบนบกและมหาสมุทร เดินทางร้องเพลงบนเรือมาแล้วกว่า 50 ประเทศ ขณะนี้ยังคงร้องเพลงอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา