ชาวสยามแสควร์ยึด Gourmet Market ในสยามพารากอนเป็นสรณะ ยามหิวโหยหรือต้องการซื้อของใช้สารพัด ซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่นี้ทำให้อิ่มท้องและคลายเหงามานานหลายปี เมื่อตลาดแห่งความอร่อยปรับโฉมใหม่ในบรรยากาศ Outdoor Market ประสบการณ์จับจ่ายใช้สอยก็สนุกขึ้นอีก โดยเฉพาะวัตถุดิบอาหารที่คัดสรรมาจากทั่วไทยและทั่วโลกอย่างครบครัน ใครอยากทำมื้ออร่อยต้องได้ทำ ใครอยากกินของดีพรีเมี่ยมต้องได้กินที่นี่ 

จากสินค้า 50,000 รายการ ให้จาระไนแทนการเข็นตะกร้าช้อปเองคงไม่เห็นภาพ เราขอคัดเลือกสินค้าอาหารน่าสนใจ 10 อย่างมาเรียกน้ำย่อย ดังนี้ 

1. เนื้อพันธุ์แองกัสจากทัสมาเนีย

คนรักเนื้อเชิญเดินเข้าโซน Butcher ที่มีเนื้อชั้นดีสารพัด ที่นี่มีเคาน์เตอร์ James Madison Premium Butcher Shop ซึ่งให้บริการครบวงจร ทั้งให้คำแนะนำ ตัดแต่งเนื้อ และทำความสะอาดให้เสร็จสรรพ มีเนื้อตั้งแต่ไทยวากิวแบบพรีเมี่ยม ไปจนถึงเนื้อนำเข้าจาก 5 ประเทศ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น อเมริกา และอาร์เจนตินา ทีเด็ดของที่นี่ได้แก่เนื้อลูกวัว ทั้งซี่โครง สันนอก สันใน ล้วนเนื้อนุ่มไม่เหนียว กลิ่นหอม ไม่คาว USDA Angus Prime Beef ก็ฉ่ำละมุน ลายสวย นุ่มเป็นเลิศ เวลาย่างหอมสุดๆ เพราะเลี้ยงด้วยธัญพืช 

แต่ถ้าเลือกตัวท็อปที่อร่อยลิ้นและดีต่อสุขภาพ ต้องแองกัส Bass Strait จากทัสมาเนีย เลี้ยงตามธรรมชาติในพื้นที่อุดมสมบูรณ์ วัวกินแต่หญ้าล้วนๆ ไม่มีสารเร่งใดๆ เจือปน เนื้อหอมนุ่มนี้จึงไขมันน้อย ดีต่อสุขภาพ 

2. ปลาไทยประมงเรือเล็ก

ซีฟู้ดท้องถิ่นจากศิริคุณ แบรนด์ที่รวมอาหารทะเลสดจากชุมชนประมงท้องถิ่น เช่น แหลมสัก เกาะยาวใหญ่ ยาวน้อย เกาะศรีบอยา จังหวัดกระบี่ มาเสิร์ฟสดๆ ทุกวัน ปลาที่ได้หลากหลายเซอร์ไพรส์ตามแต่ชาวประมงจะจับได้ เช่น ปลาเนื้ออ่อน ปลาขนุนใหญ่ ปลาทับทิมทะเล ปลาจาระเม็ดขาว ปลาทรายแดง ฯลฯ นอกจากได้ของสดอร่อย ไม่ได้ผ่านกระบวนการแช่แข็งนานหลายวันแบบประมงเรือใหญ่ ยังได้สนับสนุนผู้ประกอบการและชาวประมงรายเล็กให้มีรายได้ยั่งยืนด้วยนะ 

3. Micro Cannery อาหารทะเล Custom Made 

อย่าเพิ่งคิดว่านี่คืออาหารสำเร็จรูปที่ต้องกินตอนสิ้นเดือน ผลงานออกแบบของ 80’ Below ซีฟู้ดบาร์รูปแบบใหม่ที่ปรับคอนเซ็ปต์ The Dock Seafood Bar แบบเดิมให้สนุกยิ่งขึ้น เมื่อเดินมาที่บาร์ เราสามารถเลือกจากทั้งหมด 7 ชนิด ปรุงสุกด้วยวิธีซูวี (Sous Vide) และจับคู่กับซอส 7 รสชาติได้ตามอัธยาศัย เช่น เพสโต้ น้ำมันมะกอก เข้ากระป๋องสดๆ แล้วจะรับประทานได้ทันที หรือซื้อกลับไปเปิดฝากินที่บ้านก็ได้ ควรกินภายใน 7 วันรสชาติจะอร่อยที่สุด คู่แนะนำคือปลาแม็กเคอเรลรวมควัน จับคู่กับซอสมะเขือเทศ ทาบนขนมปัง Sourdough อุ่นๆ จาก Maison Jean Philippe อร่อยจนลืมไม่ลง 

ถ้าอยากได้วัตถุดิบคุณภาพดีอื่นๆ อื่นกลับบ้าน ที่นี่มีไข่ปลาคาเวียร์พรีเมี่ยม และซีฟู้ดสดใหม่นำเข้า ทั้งปลาต่างๆ ออยสเตอร์ ล็อบสเตอร์ ที่ยังมีชีวิตอยู่ในแท็งก์น้ำ แถมยังมีตู้ Dry Aged Seafood พิถีพิถันเหมือนร้านอาหารชั้นดี ช่วยยืดอายุและลดกลิ่นคาวของปลาได้ชะงัด ต่อให้ไม่ชอบปลาดิบก็ขอแนะให้ลอง เพราะเนื้อนุ่ม แถมกลิ่นคาวยังจางลงมาก ได้รสสัมผัสยอดไปเลย 

4. โอมากาเสะซีฟู้ด 

อยากกินซีฟู้ดแต่ขี้เกียจทำเอง นั่งลงที่บาร์ของ 80’below แล้วเอ่ยปากบอกได้ทันที นอกจากอาหารฝรั่งจำพวกสปาเกตตี้หรือกราแต็ง ที่นี่มี Sushi Bar อาหารญี่ปุ่นคอนเซ็ปต์ใหม่ ไม่ยึดสัญชาติ มุ่งเน้นเอาวัตถุดิบทะเลมาพรีเซนต์บนจานด้วยคอนเซ็ปต์ Reimagine seafood แบบไร้พรมแดน 7 คาบสมุทร เชฟจะคัดอาหารทะเลเด็ดตามฤดูกาลมาเสิร์ฟเป็นซาชิมิ 12 คำ เช่น ปลาฮามาจิจากญี่ปุ่นดรายเอจสิบวัน เสิร์ฟพร้อมคาเวียร์ Giavari และซอสยูสุทรัฟเฟิล ซูชิดรายเอจแซลมอน ซูชิกุ้งแดงคาราบิเนรอสจากสเปน ตบท้ายด้วยกรานิต้าไวน์เบาๆ ล้างปาก

5. ข้าวสูตรควบคุมน้ำตาล

เวลาซื้อข้าวออร์แกนิกโดยสีสด สนุกตรงที่ว่านอกจากซื้อเป็นถุงๆ เราสามารถเลือกซื้อข้าวที่เบลนด์เป็นสูตรต่างๆ ตามความต้องการและสุขภาพของเรา เช่น อยากควบคุมน้ำหนัก บำรุงผิวพรรณ ต้องการไฟเบอร์สูงและต้านอนุมูลอิสระ เพียงแจ้งพนักงานก็ให้คำแนะนำได้ 

สมมติอยากลดแป้งและน้ำตาล ก็เลือกข้าวสูตรควบคุมน้ำตาล ซึ่งเบลนด์ข้าวหอมมะลิแดง ข้าวหอมนิล และข้าวหอมมะลิ 105 มาให้แล้วเสร็จสรรพ หุงแล้วจะแข็งกว่าข้าวหอมมะลินิดหน่อย แต่ถ้าอยากฝึกให้เด็กๆ กินข้าวนุ่มที่มีสารอาหารเยอะ เลือกข้าวสูตรเด็กเล็กเพื่อพัฒนาการ เป็นการเบลนด์ข้าวกล้องหอมปทุมเทพและข้าวหอมมะลิ 105 โดยขัดสีจนเนื้อนุ่มทานง่าย

ถ้าอยากเลือกข้าวมากกว่าที่จัดสูตรมาให้แล้ว ก็จิ้มเลือกได้ตามปรารถนา ที่นี่มีข้าวมาจากทั้งภาคเหนือ ภาคอีสานและภาคใต้ ทั้งยังเลือกระดับการขัดสีได้เลย เพราะมีเครื่องสีข้าวและขัดข้าวไว้บริการ ปรับระดับการขัดได้ 7 ระดับ อยากได้ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ หรือขัดสีจนขาว ก็สั่งได้ดังใจ 

6. ผักสลัดออร์แกนิก

เข้าโซน Gourmet Natural แล้วสบายอกสบายใจ ว่าเจอของปลอดภัยต่อร่างกายและสิ่งแวดล้อม เพราะข้าวของในนี้เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติล้วนๆ ส่วนที่แนะนำให้ซื้อคือผักสดจากฟาร์มไทยต่างๆ มีผักหลากหลายตามฤดูกาล ชนิดผักจะแตกต่างกันไปแต่ละวัน บางวันเป็นผักแปลกตาอย่างวาซาบิ แต่พวกผักสลัดนี่มีมาเสมอ ซื้อไปทำสลัดหรือเคียงจานสุขภาพได้ตลอด แถมผักบางชนิดอย่างเคลยังมาเป็นต้นไม้ในกระถาง ยกไปปลูกไปเด็ดที่บ้านได้เลย

โซนนี้ยังมีของสนุกอื่นๆ อย่างเครื่องขัดข้าวอัติโนมัติของศาลานา ที่ให้เลือกซื้อข้าวออร์แกนิกถุงเล็กไปลองได้ เครื่องปรุงเครื่องเทศ ขนมของกินสำเร็จรูป ของใช้ออร์แกนิก สารพัดผลิตภัณฑ์แบรนด์ Patom และ Refill Station พร้อมสรรพ พูดง่ายๆ ว่าสายกรีนมามุมนี้ มีเสียเงินแน่นอน 

7. ก้อนเห็ด DIY

ถ้าของสดยังไม่สาแก่ใจคนรักวัตถุดิบสดใหม่ ไปต่ออีกขั้นด้วยการปลูกเห็ดเองที่บ้าน ที่นี่มีก้อนเห็ดนางฟ้า เห็ดนางรม เห็ดขอนขาว และเห็ดลมปลอดสารพิษวางขาย ก้อนหนึ่งมีอายุราว 4 เดือน เพียงนำไปไว้ในที่ชื้น ห่มผ้าเปียกและปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ขาย เห็ดจะออกช่อดอกเรื่อยๆ ให้เราเก็บกิน ขอเพียงมีพื้นที่เหมาะสมกับความอดทนตั้งใจปลูก ก้อนเห็ดนับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า มั่นใจได้ว่าวัตถุดิบที่ทำเองปลอดภัย และภูมิใจว่าคนเมืองก็มีวิถีเกษตรได้เหมือนกันนะ 

8. แตงโมไทย

แตงโม แตงโม แตงโม 

ไม่ได้ร้องเพลงแตงโมจินตหรา แค่บรรยายแตงโมหลากหลายรูปทรงที่อยู่ตรงหน้า ช่วงหน้าร้อนนี้ แตงโมณิชชาโกลด์จากชลบุรีกลิ้งตัวมาเสิร์ฟความหวานฉ่ำ มีทั้งแตงโมแดงกลมธรรมดา แตงโมสีเหลือง แตงโมเหลืองนอกแดงใน ไปจนถึงแตงโมรูปหัวใจ รูปทรงสี่เหลี่ยม และที่พีกมากคือทรงก้อนทองกิมตุ้งแบบจีน สื่อความหมายผลไม้มงคลแบบรูปธรรมมากๆ 

สังเกตได้ว่าแตงโมไม่ค่อยมีเมล็ด เนื้อละเอียด ทานง่าย เพราะเขาคัดผลไม้ท้องถิ่นสวยสดงดงามมาให้แล้ว โดยหมุนเวียนสับเปลี่ยนตามฤดูกาล เดือนอื่นๆ จะมีไฮไลต์เด็ดอะไร ลองไปชิมและเลือกกันดู

9. สตรอว์เบอร์รี่ Amaou จากญี่ปุ่น

ของเมืองไทยก็ดี ของเมืองนอกก็มีพร้อม ถัดจากผลไม้ไทยใน Farm Fresh Market กลิ่นหอมอ่อนๆ และสีแดงฉ่ำของสตอรว์เบอร์รี่ลูกโตจากญี่ปุ่น ทำให้ใครต่อใครต้องเหลียวมองแล้วกลืนน้ำลาย

ฤดูกาลสตรอว์เบอร์รี่นี้มีผลไม้สีแดงมาจากหลายเมืองในญี่ปุ่นและเกาหลี แต่กระบะที่ยั่วยวนใจที่สุดเป็นของ Amaou ซึ่งจะมีมาเรื่อยๆ ถึงเดือนเมษายน หลังจากนั้นผลไม้นำเข้าจะผัดเปลี่ยนตามฤดูกาล

ผลไม้ของที่นี่นำเข้าจาก 23 ประเทศทั่วโลก แค่เดินดูก็ตื่นตาตื่นใจกับผลไม้ทั้งที่เราคุ้นเคยและแปลกตา ความหลากหลายของสารอาหารและสีสันที่นี่จึงมีไม่รู้เบื่อ 

10. ชีสนมวัว แพะ และควาย

ปิดท้ายด้วยชีส ที่นี่มีชีสนมจากสัตว์หลากหลายสายพันธุ์ ทั้งวัว แกะ แพะ ควาย รวมทั้งหมด 259 รายการ จาก 7 ประเทศยุโรป การเลือกชีสชนิดเดียวเป็นเรื่องยากยิ่ง จึงขอคัดตัวเด็ดมาดังนี้

ชีสนมวัว Truffle Gouda นำเข้าจากฝรั่งเศส กลิ่นไม่แรงมาก รสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นทรัฟเฟิลเข้ากัน เป็นเนยแข็งยอดฮิตของที่นี่ แต่ถ้าจะเอาของดีหายาก หยิบ Le Gruyère ของ Kaltbach จากสวิตเซอร์แลนด์ ชีสตัวเดียวที่นี่ซึ่งบ่มในถ้ำธรรมชาติ (Cave-Aged) ที่มีแร่ธาตุมากมาย มิติรสชาติจึงลึกล้ำน่าสนใจ 

ถ้าชอบชีสนมแกะ เลือก Manchego จากสเปน ของดีจากลามันชาเนื้อแน่นอร่อย กินคู่กับไวน์จากสเปนจะสุขีมาก หรือไวน์ที่มีรสผลไม้ก็เข้ากันดี

สุดท้ายต้องลองชีสสดนมควายมอสซาเรลล่า ของดีท้องถิ่นอิตาลี ยี่ห้อนำเข้าคือ La Marchesa รสชาติมันกว่านมวัวเพราะนมควายเข้มข้นกว่ามาก กลิ่นก็ต่างด้วย กินกับสลัดร็อกเก็ตใส่มะเขือเทศราชินี โรยหน้าพิซซ่า หรือเอาไปทาขนมปังแล้วทอดก็อร่อย

นอกจากช้อปและชิมวัตถุดิบดีๆ จากท้องถิ่นและทั่วโลกได้ที่นี่ Gourmet Market Paragon ยังมีโซนสนุกอีกมาก ทั้งซุปบาร์ที่ขายทั้งซุปร้อนๆ และอาหารชุดรับประทานได้ทันที ตลาดญี่ปุ่น Taka Marche ที่รวมวัตถุดิบจากตลาดปลาซึกิจิ โซนสินค้าอุปโภคบริโภคที่รวมขนมและเครื่องปรุงเครื่องเทศจากนานาประเทศ และ Beauty Parlour ที่รวมผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามสารพัด เห็นความตั้งใจช่างคิดเลยว่าซูเปอร์มาร์เก็ตโฉมใหม่ในสยามพารากอน ออกแบบมาอย่างครบครันให้เราได้ช้อปปิ้งสินค้าได้ครอบคลุมและเพลิดเพลินสุดๆ