เมื่อพูดถึงนักแสดงนำของภาพยนตร์เรื่อง เพื่อน.. ที่ระลึก แล้ว หนึ่งนักแสดงที่เข้าถึงบทยอดเยี่ยมระดับวงการออสการ์ต้องสั่นสะเทือนก็คงหนีไม่พ้นตึก ‘สาธรยูนีค’ ที่เล่นเป็นตึกร้างสร้างไม่เสร็จได้สมบทบาท เนียนจนน่าเชื่อว่าเป็นตึกหลอนจนแยกแทบไม่ออก เกิดเป็นความอยากรู้อยากเห็นชวนตามยิ่งนัก ว่าเจ้าตึกนี้แท้จริงมันเป็นอย่างไร มีความหลอนคล้ายกับบทบาทที่เล่นอยู่หรือไม่

แต่บทจะไปตามโลเคชันหนังเรื่องนี้เข้าจริงๆ ก็มีความกลัวขาสั่นขนาด 8.5 ตามมาตราริกเตอร์ ยังไม่รวมถึงการต้องหาเรื่องเพิ่มข้ออ้างซื้อรองเท้าคู่ใหม่เพื่อต่อกรกับการเดินขึ้นลงล้วนๆ อีก 47 ชั้น มาวันนี้จึงขอปรับทัศนคติ เอ๊ย! มุมมองใหม่ มาเป็นการทำหนังผ่านสายตาของ พี่โอ๋-วีระชัย สุขสมจินต์ Location Manager หรือผู้จัดการจัดหาสถานที่ของหนังเรื่องใหม่ค่าย GDH เพื่อน.. ที่ระลึก ที่มาพร้อมเรื่องราวหลังกล้องเกี่ยวกับดารานำอย่างตึกนี้ ที่สนุกสนานและระทึกใจไม่แพ้ตัวหนังเลยทีเดียว

เพื่อน.. ที่ระลึก เพื่อน.. ที่ระลึก

หน้าที่ของ Location Manager

โดยรวมแล้วหน้าที่ของ Location Manager คือการหาสถานที่ที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุดสำหรับบทภาพยนตร์ ซึ่งก็ต้องตอบโจทย์ภาพความคิดของผู้กำกับและก็ต้องมีความเข้าใจในเรื่องของโปรดักชันรวมถึงระบบการจัดการในกองถ่าย

เราจะได้บทมาอ่านก่อน การอ่านของเราคือให้เข้าใจและให้เห็นภาพอย่างชัดเจนที่สุด เพื่อที่เราจะได้เห็นภาพว่ากลางวัน กลางคืน และโลเคชัน เป็นยังไง และเค้าทำอะไรกัน เราก็จะได้นึกภาพออกว่าระบบการจัดการยังไงคร่าวๆ ไว้ ถ้าผู้กำกับอธิบายให้เราเห็นภาพได้ มี reference ให้เรามันก็จะง่าย แต่ถ้าไม่มีเราก็ต้องเปิดสต็อกรูปของเราว่าประมาณไหนให้เค้าดู ต้องพยายามดึงภาพในสิ่งที่เค้าจินตนาการออกมาให้เคลียร์ที่สุด ถ้ามันชัดเจนแล้วก็จะประหยัดเวลาเราในการวิ่งหาสถานที่ แล้วก็จะได้คุยกับโปรดิวเซอร์เรื่องงบประมาณเงื่อนไขต่างๆ

เพื่อน.. ที่ระลึก เพื่อน.. ที่ระลึก เพื่อน.. ที่ระลึก

ตึก.. ที่ระลึก

ตอนแรกสุดเลยสมัยที่บทยังอยู่ในช่วงพัฒนา พี่สุย (โปรดิวเซอร์) ให้โจทย์เราตอนนั้นคืออยากได้ตึกร้างติดกัน แบบตึกแฝด ก็มีส่องๆ ดูบ้าง จนวันนึงพี่สุยมาบอกว่ามันต้องเป็นที่นี่ เราก็บอกเค้าว่า เฮ้ย มันยากอยู่เหมือนกันนะ เพราะว่าเค้ามีกฎมีระเบียบที่เป็นข่าวดังมาก เค้าจะให้เหรอ แต่พี่สุยก็ดำเนินการคุยให้

ด้วยความที่ตึกนี้เป็นตึกร้างที่ยังสร้างไม่เสร็จ มันไม่มีลิฟต์อยู่แล้วแหละ พี่ตั้ม (โปรดิวเซอร์) และฝ่ายจัดการก็ต้องมาคิดกันว่าเราจะทำงานด้วยกันยังไง แค่การที่คนจะเดินขึ้นไปถ่ายชั้นบนมันก็ยากมากอยู่แล้ว พอเรารู้ว่าได้ตึกนี้ มันจะมีวันนึงที่ทีมงานทุกคนไปสำรวจสถานที่ทุกชั้นอย่างละเอียด แต่ละชั้นมีอะไรบ้าง มุมไหนสวย ไล่จากชั้นหนึ่งยันดาดฟ้า แล้วก็ถ่ายรูปทุกชั้นด้วย เพื่อเอามาคิดกันว่าซีนต่างๆ ควรจะเกิดชั้นไหนมุมไหน ตึกนี้ดาดฟ้ามันพีคมากเลยนะ มันได้วิว 360 องศา มีโครงสร้าง มี graffiti คือถ้ามาตึกนี้มันก็ต้องถ่ายดาดฟ้าแหละ เราก็เลยมาสรุปกันที่กระเช้าลิฟต์ที่ใช้กันเวลาทาสีตึก ก็ไปติดต่อเช่ามาเลย เราจะใช้กระเช้านี้สำหรับขนของ ส่วนคนจะให้เดิน กระเช้าก็จะมีกำหนดว่าได้กี่กิโล ดังนั้น ของทุกชิ้น อุปกรณ์ไฟ กล้อง ทุกอย่างจะต้องชั่งน้ำหนักทุกชิ้น จะมีตารางที่เขียนแปะอยู่ข้างเสาหน้าลิฟต์ว่าขาไฟหนักเท่าไหร่ อุปกรณ์นู่นนี่หนักเท่าไหร่ การขึ้นแต่ละครั้งเราก็จะไม่ให้เกินตามที่เค้ากำหนดไว้

จริงๆ กฎระเบียบมีหลายข้อเลยนะที่เราแปะไว้ชั้นล่าง ทุกคนจะต้องอ่านและทำตามกฎในการใช้สถานที่ ถ้าเป็นไปได้เราก็จะให้ขึ้นลงมีบัดดี้ไปด้วย แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครอยากขึ้นลงคนเดียวหรอก ช่วงก่อนที่กองถ่ายจะเข้า เรามีเขียนไว้ทุกชั้นว่ามันคือชั้นที่เท่าไหร่แล้ว แล้วส่วนไหนบ้างที่อันตราย ออกนอกพื้นที่ก็ต้องกั้นเอาไว้ ดังนั้น ชั้นที่เราไม่ได้ถ่ายก็จะถูกกั้นด้วยเชือกหมด เพื่อไม่ให้ออกนอกเส้นทางและป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ แต่ละชั้นก็จะมีข้อความให้กำลังใจด้วย

เพื่อน.. ที่ระลึก เพื่อน.. ที่ระลึก เพื่อน.. ที่ระลึก เพื่อน.. ที่ระลึก

กลางวัน กลางคืน.. ความยากง่ายที่ต่างกัน

คือกลางวันมันก็ใช่ว่าจะสว่างนะ ข้างในมันก็มืด ถ้ามองไม่ดีก็อันตรายเหมือนกัน กลางคืนก็ต้องยิ่งระมัดระวังมากกว่าเดิมเยอะเลย เราเตรียมไฟฉายให้อยู่แล้ว แต่ส่วนมากจะมีของตัวเอง ใช้ไฟฉายโทรศัพท์มือถือ ตั้งแต่ชั้น 1 ถึงชั้น 47 เราติดไฟนีออนเป็นแนวดิ่งตรงช่องกลางของบันได เพราะมันต้องอำนวยความสะดวกในการขนของด้วย ถ่ายหลายชั้นก็ต้องมีการขึ้นลง

ก่อนจะขึ้นตึกทีมงานทุกคนก็ต้องแลกบัตรทุกครั้ง ลงมาจากตึกก็ต้องมาเซ็นรับ เพราะต้องเช็กว่าขึ้นไปกี่คนแล้ว ตอนลงมานี่ครบมั้ย ที่นี่เค้าไม่ให้คนนอกเข้า ทางเข้า-ออกก็มีอยู่ทางเดียว ดังนั้น ถ้าไม่ครบเราก็ต้องรอให้คนสุดท้ายลงมา เผื่อเอาไว้ ถ้าลงมาช้าผิดปกติก็ต้องเช็กว่าหลงตรงไหนหรือเปล่า หรือว่าเหลือใครเก็บของมั้ย เพราะถ้าเราออกนั่นคือเราต้องล็อกประตูเลย แต่โชคดียังไม่มีใครหลงหรือต้องติดอยู่ข้างใน  

เพื่อน.. ที่ระลึก เพื่อน.. ที่ระลึก

ห้องน้ำ.. ที่ระทึก

ฝ่ายจัดการเค้าเป็นคนจัดเตรียม ตอนนั้นคิดกันหลายวิธีมากว่าส้วมเนี่ยควรจะเอายังไง คือยังไงก็ไม่มีทางที่คนจะเดินลงมาเข้าห้องน้ำแน่นอน เราก็ต้องเอาห้องน้ำขึ้นไป มีแบ่งแบบ ‘หนัก’ และ ‘เบา’ ตั้งอยู่ในกระโจม จะมีฝ่ายที่ดูแลห้องน้ำโดยเฉพาะและทำการขนน้ำขึ้นกระเช้า เอาไว้ใช้สำหรับกดน้ำ วิธีการสำหรับกรณีงานเบา จะใช้พวก Polymer ที่จะจับตัวเป็นก้อนเจลเวลาเจอน้ำ ส่วนนี้จะอยู่ในถุงดำใหญ่อีกทีนึงเพื่อง่ายต่อการขนย้าย ส่วนกิจกรรมงานหนักเนี่ยต้องใช้ทรายกลบก่อน แล้วมัดถุงดำซึ่งก็ต้องไปทิ้งในถุงดำอีกถุงนึง ผู้ทำ ‘ธุระ’ ก็ต้องถือมาทิ้งเอง ส่วนผู้ดูแลจะรวบยอดแล้วขนลงไปทิ้งข้างนอกอีกที แต่จริงๆ ข้างล่างเราก็มีจัดการไว้ให้ เราก็ไปดีลกับ hostel ละแวกใกล้ๆ ให้ทีมงานเราไปใช้ได้ ดังนั้น ใครมาตอนเช้า กินข้าวเสร็จก็ให้เข้ากันให้เสร็จเรียบร้อยก่อนที่จะขึ้น

เพื่อน.. ที่ระลึก เพื่อน.. ที่ระลึก

ภาพจำ.. มือเกี่ยวก้อย

มันคือชั้นสุดท้ายก่อนที่จะขึ้นไปดาดฟ้า จะเป็นชั้นที่ 47 ด้วยมุมภาพเราว่ามันน่าจะเป็นมุมที่สวยที่สุดแหละ และมันเป็นช็อตที่สำคัญอยู่เหมือนกัน ก็ต้องหามุมที่มันเล่าเรื่องและสวยที่สุดอยู่เหมือนกัน ทาง Production Designer ก็จะเป็นคนช่วยพี่จิม (ผู้กำกับ) นำเสนอมุมต่างๆ และพี่จิมก็จะเป็นคนเลือก

เรื่องเล่า.. จากเพื่อนบ้าน

ตรงหน้าตึกก็จะมีตึกแถวประมาณสิบกว่าห้อง เราก็ไปแจ้งเค้าทุกห้องว่าจะต้องมีการขึ้นสแลน เพราะต่อให้เราใช้พื้นที่ของตัวตึกแต่มันก็เป็นด้านหลังบ้านเขาที่เอาไว้ใช้ถ่ายเทอากาศ เราไปคุยกับเค้ามันก็มีแหละเรื่องเล่าต่างๆ แต่เอาจริงๆ เค้าไม่ได้ขึ้นไปข้างบนก็ไม่รู้หรอกว่ามันมีอะไรบ้าง ตึกมันเก่าแล้วฝ้าเพดานมันก็หลุดร่วง มันเป็นปกติที่จะมีเสียงดังตึงตังบ้าง บางทีเค้ามาติดป้ายโฆษณาที่ตึก ก็ต้องมีเสียงตอกเสียงเจาะ บางทีก็คิดไปได้ไกลนะ

เพื่อน.. ที่ระลึก

ผู้กำกับ.. นักแสดง

เราทำงานกับพี่จิมเรื่องแรกคือ ลัดดาแลนด์ แต่ตอนนั้นแค่ทำหน้าที่หาโลเคชัน เป็นผู้ช่วยออกกองนิดหน่อย แต่เรื่องนี้ก็เจอพี่จิมเต็มๆ เค้าเป็นคนที่มีความตั้งใจมากๆ ภาพในหัวของเค้าตอนบรีฟเราก็ค่อนข้างที่จะชัด มันง่ายสำหรับเราในการที่เราจะหาสถานที่โดยที่เราไม่ต้องหว่านให้เสียเวลา ยิ่งเวลากำกับเค้าจะตั้งใจมาก

น้องลิลลี่น่ารักมาก เค้าเป็นเด็กอายุ 15 ที่พอไม่ได้อยู่ระหว่างการแสดงแล้วเนี่ยก็เด็กขี้เล่นเลย ปกติเวลาออกกองเราชอบถ่ายรูป พอลิลลี่เห็นเรายกกล้องจะถ่าย น้องก็จะเปลี่ยนหน้าไปเรื่อยๆ ทำหน้าตลกๆ ใสๆ ทะเล้นๆ ส่วนพี่บีตอนแรกเราจะติดภาพมาจากตอน The Face แต่พอมาทำงานภาพยนตร์เค้าก็จะตั้งใจมาก อยู่กับบททำสมาธิ พอเข้าบทก็เต็มที่และจริงจังกับมันเสมอ

เพื่อน.. ที่ระลึก เพื่อน.. ที่ระลึก

ความทรงจำ.. ที่ระลึก

เสียดายที่เราขึ้นตึกนี้น้อยไป เราอยากถ่ายรูปตึกนี้เยอะๆ น้อยครั้งที่จะมีโอกาสได้ขึ้นตึกในกรณีพิเศษ แล้วพอเข้าได้เราก็อยากถ่ายเก็บไว้ วิวมันสวย จริงๆ ทุกครั้งที่เราขึ้นตึกเราก็เก็บจนละเอียดแล้วนะ แต่นั่นคือทำงาน อยากจะเก็บภาพบรรยากาศสนุกๆ ให้เยอะกว่านี้

เราว่าตั้งแต่ชั้น 37 ขึ้นไปเนี่ย มันก็จะเริ่มเป็นชั้นโล่งๆ ดูไม่น่าใช่ห้องพักแล้ว อันเดิมเค้าน่าจะทำเป็น club house หรือห้อง suite มันจะเป็นพื้นที่โล่งๆ บางชั้นก็จะเพดานสูง ระเบียงกว้างๆ โครงสร้างตึกเค้าแข็งแรงมากนะ ถ้าเสร็จจริงนี่น่าจะสวยมากเลยแหละ

สัญญานะ ว่าจะไปดู เพื่อน.. ที่ระลึก กัน

หนังผีเรื่องนี้มันไม่เหมือนเรื่องอื่นๆ มันจะหลอนด้วยภาพและเนื้อเรื่องโดยไม่ได้เน้นที่การเห็นผี ด้วยโลเคชันหลักที่เป็นตึกร้างเนี่ยเราก็ว่าน่าสนใจมากๆ แล้ว ทีมงานทุกคนตั้งใจเต็มที่ให้งานออกมาดี เราเชื่อว่ามันจะเป็นหนังผีแบบใหม่แต่รับประกันความหลอนแน่นอน

เพื่อน.. ที่ระลึก

เพื่อน.. ที่ระลึก ฉายแล้ววันนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

#เพื่อนที่ระลึก #ThePromise

ขอขอบคุณ: วีระชัย สุขสมจินต์ และ GDH

Writer & Photographer

Avatar

ศิขรินทร์ ลางคุลเสน

นักเพ้อฝันมืออาชีพ งานประจำคือทาสแมว ส่วนยามว่างก็จัดทำกิจกรรมด้านภาพยนตร์กับเพื่อนๆ ในนาม "YOUNG จะทำ”